Rose 7

965 Words
Rose 7 เช้าวันหยุดหลังจากดื่มมาอย่างหนักหน่วงในค่ำคืนที่ผ่านมา ฉันรู้สึกตัวตื่นอีกทีก็เกือบเที่ยงวันแล้ว พร้อมกับอาการแฮงก์ ถึงแม้จะไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นให้ตัวเองแล้วแต่ก็ยังรู้สึกไม่สบายตัวอยู่เหมือนเดิม ถึงได้ขุดตัวเองให้ลุกไปต้มซุปสาหร่ายร้อน ๆ มาซดแก้แฮงก์ ตามด้วยยาอีกเม็ด ไหนจะอาการน้ำมูกที่ไหลไม่หยุดตั้งแต่ตื่นนอนนั่นอีก โทรศัพท์ที่อยู่บนเตียงนอนส่งเสียงเตือนถี่ ๆ แต่พอเห็นเบอร์โทรศัพท์แล้วก็ไม่นึกอยากรับสายเลยสักนิด จึงปล่อยให้สายเรียกเข้านั้นตัดไปเอง หลังจากที่กินข้าวเสร็จฉันก็ออกมานอนเล่นที่โซฟา ก่อนหลับเหมือนจะสะลึมสะลือเข้าไปตอบข้อความของเพื่อน ๆ ในกลุ่มด้วยมั้งนะ จำได้ว่าส่งแชตแยกไปงอแงกับยัยพิมพ์ใจด้วยว่าตัวเองมึนหัวมาก แต่ไม่ได้อยู่รอใครตอบกลับข้อความหรอก เพราะชิงหลับไปก่อน ช่วงบ่ายแก่ ๆ ของวันฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา ดูเหมือนอาการแฮงก์จะดีขึ้น แต่ว่ายังไม่มีกะจิตกะใจขยับไปทำอะไรเลยสักอย่าง เลยต้องนอนเป็นปลาเค็มอยู่บนโซฟาตลอดทั้งวัน “ต้องซักผ้าแล้วมั้ง” บ่นกับตัวเองเมื่อนอนเปื่อยไม่ทำอะไรเลยมาทั้งวัน พอคิดได้แบบนั้นก็เดินไปแยกเสื้อผ้าแล้วนำมาเข้าเครื่องซักผ้าทิ้งไว้ ระหว่างนี้ก็ขยับตัวไปทำความสะอาดห้องพลาง ๆ ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องน้ำ ปิดท้ายด้วยห้องนอน สายตาเหลือบไปเห็นดอกไม้ที่ซื้อมาปักแจกันในห้องเริ่มเหี่ยว ก็เลยเอาออกไปทิ้ง กะว่าพรุ่งนี้ก่อนกลับบ้านจะแวะซื้อดอกไม้หอม ๆ สักกำมาปักแทน พื้นที่ในคอนโดฯ ของฉันนั้นถือว่ากำลังพอดี ไม่กว้างแต่ก็ไม่คับแคบจนเกินไป อยู่สองคนได้สบายเลยล่ะแต่ก็อยู่คนเดียวนะคะฉันน่ะ นอกห้องมีระเบียงให้แสงส่องเข้ามาทักทายยามเช้า ทุกโซนแยกออกเป็นสัดส่วนชัดเจน มีห้องน้ำภายในห้องนอนและมุมที่ทำเป็นโซนห้องแต่งตัวด้วย ส่วนห้องนั่งเล่นก็จะมีห้องน้ำแยกอีกหนึ่งห้อง ระหว่างที่ทำความสะอาดตู้เย็นอยู่นั้น ก็ไม่ลืมย้ำเตือนกับตัวเองอีกครั้งว่าพรุ่งนี้หลังเลิกงานจะต้องไปซื้อของเข้ามาใส่ตู้เย็นบ้างแล้ว เพราะของสดและผักในตู้หมดทุกอย่างแล้ว ก็ช่วงนี้ไม่มีรถใช้น่ะสิ เพราะรถตัวเองส่งซ่อมอยู่ จะไปทำงานแต่ละทีก็ต้องอาศัยนั่งรถเมล์ไปก่อน ช่างที่อู่บอกว่าคิวแน่น ต้องรอสักหนึ่งหรือสองสัปดาห์นู่นเลยกว่าจะซ่อมเสร็จ แต่แบบนี้ก็ไม่ได้ลำบากอะไรหรอกนะ ฉันน่ะสบายมาก ๆ เลย ตลอดทั้งวันหยุดฉันไม่ได้ออกไปไหนเลยสักที่ เพราะของสดในตู้เย็นยังพอมีให้ประทังชีพไปได้อีกมื้อ และตลอดทั้งวันนายคนนั้นก็ยังโทร. หาและส่งข้อความมาอยู่ตลอด ฉันก็เปิดเข้าไปอ่านบ้าง เลือกตอบกลับบางข้อความ แล้วปิดท้ายไปว่าตอนนี้ไม่ว่างไม่ต้องโทร. มาแล้ว น่าตกใจไม่น้อยที่ข้อความนั้นถูกเปิดอ่านทันที แต่ฉันไม่ได้รออ่านข้อความจากเขาเหมือนอย่างที่เคยทำ ทั้งยังเลือกกดออกจากห้องแชตแล้วหากิจกรรมอย่างอื่นในห้องทำไปเรื่อย ๆ มื้อเย็นของวันนี้ก็เลยออกมาเป็นชาบูแบบเรียบง่าย ระหว่างที่นั่งกินข้าวอยู่ยัยพิมพ์ใจก็โทร. มาหาฉันราวกับรู้ใจว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ “ว่าไงพิมพ์” กดรับสายเพื่อนสนิทอย่างเร็ว แล้วเปิดลำโพงทิ้งไว้จะได้สะดวกตอนนั่งกินชาบูไปด้วยไง (อาทิตย์โทรมาถามฉันว่าแกเป็นไงบ้าง) ปลายสายรีบเอ่ยบอกทันที “อ๋อ ช่างเขาเถอะ” (เขาดูกังวลมากเลยนะที่แกเงียบไปแบบนี้น่ะ) แม้ฉันจะบอกแบบนั้น แต่ยัยนี่ก็ยังบอกกล่าวกันอย่างร้อนใจ “ฉันบอกเขาแล้วว่าไม่ค่อยว่าง” (ฮะ แกอะนะไม่ว่าง?) ดูท่าคนปลายสายจะตกใจไม่น้อย ถึงได้ถามเสียงหลงแบบนี้น่ะ “ใช่ นอนทั้งวันเลย แฮงก์หนักอะดิ” (อืม ถ้าแกไม่แฮงก์สิแปลก ดื่มซะขนาดนั้น) เจ้าของเสียงหวานหัวเราะเบา ๆ คงกำลังนึกถึงภาพยัยขี้เมาคนเมื่อคืนอยู่ละมั้ง “เอาน่า นาน ๆ ทีนี่ ไม่ได้กินบ่อยซะหน่อย” (โอเค ๆ แต่ถ้าอาทิตย์ทักไปหาก็ตอบเขาหน่อยนะ คงเป็นห่วงจริง ๆ นั่นแหละ) อีกฝ่ายเอ่ยย้ำอีกรอบก่อนจะวางสายไป แต่ฉันไม่ได้รับปากเสียหน่อยว่าจะตอบเขาน่ะ ก็เลยเลือกนั่งกินชาบูคนเดียวไปเงียบ ๆ พอเหงา ๆ ก็เปิดดูการ์ตูนในยูทูบไปด้วย วันหยุดพักผ่อนแบบนี้ทำให้รู้สึกสบายมากจริง ๆ ไม่ต้องออกไปไหนแบบนี้ดีที่สุดสำหรับฉันแล้ว “อิ่มมาก” นั่งย่อยสักพักก็เริ่มเก็บหม้อชาบูและอุปกรณ์เครื่องครัวไปล้างทำความสะอาดจนเสร็จเรียบร้อย แอบได้กลิ่นซุปในอากาศก็เลยเดินไปหยิบสเปรย์ปรับอากาศกลิ่นโปรดมาฉีด จากนั้นก็เดินไปนั่งเล่นที่โซฟาตัวใหญ่ เตรียมดูซีรีส์ที่ค้างเอาไว้ต่อให้จบ เฮ้อ วันหยุดแสนสบายของฉัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD