EP.6
“จะออกไปไหนเหรอไลลา”
ไลลาจำต้องหยุดก้าวเดิน และหันมาเผชิญหน้ากับเจ้าของเสียงแคลงใจ
“สวัสดีค่ะท่านแม่” หล่อนทักทายแคทเธอรีนด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
“สวัสดี ว่าแต่จะไปไหนล่ะ”
แคทเธอรีนถามลูกบุญธรรมซ้ำออกมาอีกครั้ง สายตาหรี่แคบจ้องมองอย่างจับผิด
“เอ่อ... พอดีของใช้ในครัวหมดหลายรายการน่ะค่ะ หนูก็เลยจะออกไปซื้อค่ะ”
หล่อนอยู่ที่นี่ในฐานะลูกสาวบุญธรรม และก็ควบตำแหน่งแม่บ้านใหญ่ด้วย ทุกอย่างในบ้านหลังนี้ล้วนแต่อยู่ในอำนาจการปกครองของหล่อนที่รองจากเจ้าของบ้านทั้งสามคน
“ให้คนใช้ไปซื้อสิ ไม่เห็นต้องลำบากออกไปเองเลยนี่”
“พอดีหนูอยากจะซื้อของใช้ส่วนตัวด้วยนะคะ ก็เลยว่าจะออกไปเอง ว่าแต่ท่านแม่อยากได้อะไรไหมคะ หนูจะซื้อมาให้ค่ะ”
“ฉันไม่อยากได้อะไรหรอก ของใช้ยังมีเหลืออยู่มาก”
“เอ่อ แล้วขนมล่ะคะ อยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม หนูจะได้ซื้อมาฝากค่ะ”
แคทเธอรีนส่ายหน้าน้อยๆ “ช่วงนี้หมอให้งดของหวานน่ะ ขอบใจเธอก็แล้วกันนะ”
“หนูยินดีทำทุกอย่างให้ท่านแม่ค่ะ”
แคทเธอรีนจ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของลูกสาวบุญธรรม ก่อนจะพูดขึ้น
“สิ่งเดียวที่ฉันต้องการให้เธอทำ และต้องทำให้ได้ด้วยก็คือ เลิกเข้าใกล้ชาร์ลีอีก”
ดวงหน้านวลของไลลาซีดเผือด ก่อนจะก้มหน้าลงมองปลายเท้าของตนเองที่พื้น
แคทเธอรีนเห็นหน้าของลูกสาวบุญธรรมขาวซีดก็อดไม่ได้ที่จะทวงคำตอบ
“ว่าไงล่ะ อย่าเข้าใกล้ชาร์ลีอีก เธอพอจะทำได้ไหม”
“หนู...”
“ทำไม่ได้หรือเปล่าไลลา”
ไลลาจำต้องเงยหน้าขึ้นมองแคทเธอรีน ก่อนจะกลั้นใจตอบโกหกออกมา
“ค่ะ หนูทำได้ค่ะ”
“ดีมาก และฉันก็หวังว่าเธอจะทำได้จริงๆ”
“ค่ะ”
แคทเธอรีนมองลูกสาวบุญธรรมอยู่เสี้ยววินาทีจึงตัดสินใจพูดขึ้นอีก
“ฉันไม่ได้รังเกียจอะไรเธอหรอกนะไลลา แต่เธอก็ต้องรู้ว่าตอนนี้เธออยู่ในฐานะอะไรของตระกูลเฮนเดอร์สัน ความรู้สึกที่เธอมีให้กับชาร์ลีนั้นมันเป็นเรื่องที่ดี แต่มันเป็นความจริงไปไม่ได้ เธอสองคนรักกันไม่ได้ หวังว่าเธอจะเข้าใจที่ฉันพูดนะ”
“หนู... เข้าใจค่ะท่านแม่”
ไลลาช้อนดวงตาที่มีหยาดน้ำใสๆ เอ่อคลอขึ้นมองแคทเธอรีน ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง
“งั้น... หนูขอตัวออกไปซื้อของก่อนนะคะ”
“ให้คนขับรถไปส่งสิ”
“เอ่อ... ไม่เป็นไรค่ะ หนูสะดวกขับรถเองมากกว่า”
เมื่อแคทเธอรีนพยักหน้าตอบอนุญาต ไลลาก็รีบก้าวเดินออกมาทันที
เมื่อก้าวขึ้นมานั่งตามลำพังบนรถคันงาม หลังมือเล็กก็ป้ายน้ำตาบนแก้มนวลจนแห้ง
“หนูเข้าใจสิ่งที่ท่านแม่พูดค่ะ แต่หนูรักพี่ชาร์ลเกินกว่าจะหยุดความสัมพันธ์ลงได้” ดวงตากลมโตของไลลาตอนนี้มีแต่ความมืดลึกที่ยากจะหยั่งถึง
ไม่ช้ารถคันงามก็แล่นออกจากคฤหาสน์หรู และมุ่งหน้าตรงไปยังคาเฟ่ที่ตนเองกับชาร์ลีมักจะนัดเจอกันเป็นประจำทันที
ลาซาลอสกำลังจะเดินออกจากห้องประชุม แต่ก็เหลือบไปเห็นว่าชาร์ลีลืมโทรศัพท์มือถือวางเอาไว้บนโต๊ะไม้กลางห้องประชุมเข้าเสียก่อน เขารีบเดินไปหยิบมาไว้ในมือ ตั้งใจจะเอาไปคืนให้กับลูกชาย แต่ระหว่างนั้นก็มีข้อความเด้งเข้ามาเสียก่อน
เขายกจอโทรศัพท์มือถือขึ้นมอง และไม่ได้ตั้งใจจะเปิดอ่าน แต่ข้อความมันโชว์เตือนที่หน้าปัดก่อนจะดับไป ซึ่งแน่นอนว่าเขาเห็นเข้าพอดี
‘พี่ชาร์ลคะ น้องรออยู่โรงแรมเดิมนะคะ’
ดวงตาของลาซาลอสเต็มไปด้วยความไม่สบายใจ เขาตัดสินใจนำโทรศัพท์มือถือของลูกชายกลับไปวางไว้บนโต๊ะที่เดิม จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้องประชุม
“ท่านพ่อจะกลับแล้วหรือครับ”
ชาร์ลีเอ่ยถามขึ้น เมื่อเห็นบิดาเดินผ่านตอนที่เขากำลังคุยงานอยู่กับเลขาหน้าห้อง
“อืม จะกลับแล้วล่ะ งานที่เหลือลูกก็รีบทำให้เสร็จโดยเร็วล่ะ เพราะเหลืออีกแค่สองวันก็จะถึงวันเลือกเจ้าสาวของลูกแล้ว”
สีหน้าของชาร์ลีเย็นชาขึ้นทันตาเมื่อได้ยินคำเตือนให้ระลึกถึงอนาคตมืดดำที่กำลังจะเกิดขึ้น
“ครับ”
“งั้นพ่อไปล่ะ”
ลาซาลอสเดินหายเข้ามาในลิฟต์ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล ข้อความที่เห็นจากโทรศัพท์มือถือของลูกชายที่ส่งมาจากไลลาลูกสาวบุญธรรมมันทำให้เขาไม่สบายใจเลย
เสียงเคาะประตูดังขึ้นสองครั้ง ไลลาที่ตอนนี้มีแต่ผ้าขนหนูห่อกายอยู่เพียงผืนเดียวฉีกยิ้มกว้าง เพราะมั่นใจว่าจะต้องเป็นชาร์ลีอย่างแน่นอน
หล่อนรีบพุ่งตัวไปดึงบานประตูไม้ให้เปิดกว้างออก ก่อนจะชะงักกึกด้วยความตื่นตกใจ เมื่อผู้ชายที่ยืนอยู่หลังบานประตูไม่ใช่ชาร์ลี แต่กลับเป็นพ่อบุญธรรม
“ท่านพ่อ!”
ลาซาลอสมองลูกสาวบุญธรรมที่มีแค่ผ้าขนหนูพันอยู่รอบกายด้วยความไม่พอใจ
“ถ้าท่านแม่ของเธอรู้เข้า คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไลลา”
ไลลาหน้าซีดเผือด น้ำตาไหลพราก และพยายามวิงวอนพ่อบุญธรรมด้วยความตื่นตกใจ
“ท่านพ่อ... หนู... หนูผิดไปแล้ว...”
“เธอรู้อยู่เต็มอกว่าสิ่งที่ทำอยู่มันไม่ดี และก็รู้ว่าพ่อกับแม่ไม่ต้องการให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก แต่เธอก็ยังทำ”
“ท่านพ่อ... หนูขอโทษ...”
ไลลาหวาดกลัวเหลือเกิน เพราะหากแคทเธอรีนทราบเรื่องนี้เข้า หล่อนจะต้องถูกทำโทษหนักแน่นอน ดังนั้นหล่อนจึงต้องคุกเข่าลงกับพื้น และวิงวอนพ่อบุญธรรมที่ใจดีกว่าให้สำเร็จ
“มันก็แค่จะเป็นครั้งสุดท้ายของหนูกับพี่ชาร์ล... หนูไม่ได้มีเจตนาจะรั้งพี่ชาร์ลเอาไว้เลยค่ะ ท่านพ่อเชื่อหนูนะคะ”
เมื่อลาซาลอสยังคงนิ่งเงียบ ไลลาจึงต้องบีบน้ำตาสร้างความน่าสงสารให้มากขึ้น
“ท่านพ่อ... ได้โปรดให้โอกาสหนูอีกครั้งนะคะ หนูสาบานค่ะ... สาบานว่าจะไม่ทำเรื่องแบบนี้อีก หนู... หนูจะอยู่ให้ห่างจากพี่ชาร์ลค่ะ นะคะได้โปรดเชื่อหนูอีกสักครั้ง”
ลาซาลอสดึงขาของตัวเองออกจากอ้อมแขนของลูกสาวบุญธรรม และขยับออกห่าง พร้อมกับเมินหน้าหนีสภาพล่อแหลมของไลลาไปมองที่อื่นแทน
“แล้วฉันจะเชื่อคำพูดของเธอได้ยังไงกัน ในเมื่อเธอก็รับปากฉันกับแคทเอาไว้ว่าจะไม่ทำแบบนี้อีก แต่เธอก็ทำมัน”
“หนู... สาบานค่ะ ถ้าหนูทำแบบนี้อีก หนูยินดีให้ท่านแม่ลงโทษหนูค่ะ”
“แน่ใจนะที่พูดน่ะ”
“หนูแน่ใจค่ะ”
หล่อนย้ำคำพูดออกไป ทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าตัวเองจะทำได้อย่างที่พูดออกไปหรือเปล่า
“งั้นครั้งนี้... ท่านพ่ออย่าบอกท่านแม่นะคะ หนูขอร้องล่ะ”
“ได้ ครั้งนี้ฉันจะไม่บอกให้แคทรู้เรื่องนี้ แต่ถ้ามีครั้งหน้า แคทคงจะจับเธอโยนออกไปจากเลแวนต้าอย่างแน่นอน”
ไลลาหยัดกายลุกขึ้นยืน ก่อนจะตอบรับอย่างไม่มีทางเลือก “ค่ะ ท่านพ่อ... “
“ไปแต่งตัวให้เรียบร้อย และกลับบ้านซะ”
“ค่ะ”
ไลลามองร่างของลาซาลอสที่เดินหายไปด้วยความเสียใจระคนแคลงใจ
“ท่านพ่อรู้ได้ยังไงว่าเราอยู่ที่นี่ หรือว่าพี่ชาร์ลบอก...” หล่อนพยายามครุ่นคิดหาคำตอบ “แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง พี่ชาร์ลไม่มีทางทำแบบนี้แน่ เพราะพี่ชาร์ลหลงเรายังกับอะไรดี” ไลลาพยายามนึกแต่ก็นึกไม่ออก จนกระทั่งได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือกรีดร้องขึ้น จึงรีบไปหยิบมากดรับ
“โทษทีนะไลลา พี่ลืมมือถือเอาไว้ในห้องประชุมน่ะ ว่าแต่น้องยังรอพี่อยู่ที่โรงแรมหรือเปล่า”
ไลลาพยายามทำเสียงปกติ เพราะไม่ต้องการให้ชาร์ลีรู้ว่าลาซาลอสมาเห็นอะไรเข้า
“น้องออกมาแล้วค่ะพี่ชาร์ล นี่กำลังจะเลี้ยวรถเข้าบ้านแล้ว”
“เสียดายจัง งั้นเอาไว้พรุ่งนี้นะครับ พี่คิดถึงไลลา อยากจูบไลลาใจจะขาดแล้ว”
ไลลายิ้มออกมาทั้งน้ำตาด้วยความดีใจ อย่างน้อยๆ ชาร์ลีก็รักหล่อนจริง
“คืนนี้ก็ปีนเข้ามาในห้องน้องอีกสิคะ”
หล่อนได้ยินเสียงถอนใจเบาๆ ของชาร์ลีดังแทรกเข้ามาในสายโทรศัพท์