บทที่ 1
เด็กเสิร์ฟ
บรรยากาศความวุ่นวายภายในร้านสังสรรค์เกิดขึ้นนับตั้งแต่ถึงเวลาเริ่มงานเมื่อตอนหกโมงเย็น ไม่ว่าพนักงานเสิร์ฟ เด็กโฮสต์ บาร์เทนเดอร์ หรือพนักงานครัว ต่างก็เดินวุ่นกันขวักไขว่ เนื่องจากลูกค้าแน่นเอี้ยดเต็มร้านจนบริหารการทำงานแทบไม่ไหว
นอกจากจะเป็นวันศุกร์ที่เหมาะสำหรับการดื่มกินแล้ว มันยังเป็นวันจัดงานเลี้ยงของบรรดาไฮโซที่ปิดร้านเพื่อฉลองเนื่องในวันเกิดของค่ำคืนนี้
“พี่เอ็ม ป่านมาแล้วค่ะ ขอโทษที่มาช้านะคะรถติดมากเลยค่ะ” เสียงปนหอบเอ่ยขึ้นหลังจากที่นำพาร่างกายมาถึงด้านในตัวร้านได้สำเร็จ
“ไม่เป็นไร ๆ พี่ต่างหากที่ต้องขอโทษที่รบกวนป่าน วันนี้ไม่ใช่วันทำงานของเราแท้ ๆ แต่ก็ยังอุตส่าห์เข้ามาช่วยงาน” ผู้จัดการของร้านกล่าวด้วยสีหน้าลำบากใจ
“ไม่เป็นไรค่ะพี่เอ็ม ป่านร้อนเงินพอดี อยู่บ้านก็ว่าง นี่พอป่านเห็นข้อความในกลุ่มป่านรีบอาบน้ำแต่งตัวมาเลยนะเนี่ย” สายป่านส่ายหน้าพลางหยิบผ้ากันเปื้อนยีนซึ่งเป็นยูนิฟอร์มของร้านมาสวมใส่
เธอหยิบกระจกพกพาที่อยู่ในกระเป๋ามาส่องความเรียบร้อยของใบหน้า แต่งแต้มด้วยลิปสติกสีชมพู ลามไปถึงผมเผ้าที่ถูกเก็บรวบไว้อย่างเรียบร้อย และเพียงไม่ถึงสองนาทีก็อยู่ในสภาพพนักงานเสิร์ฟที่พร้อมทำงาน
“ไหน ให้ป่านทำโซนไหนคะพี่เอ็ม” เมื่อร่างกายพรั่งพร้อมต่อการทำงานก็ไม่ควรปล่อยเวลาให้สูญเปล่า
“โซนด้านบนเลยป่าน แต่ไปดูแลโต๊ะคุณเวย์นะ โต๊ะเจ้าของวันเกิดน่ะมีคนดูแลแล้ว”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“เจ้าของวันเกิดเขาเป็นคนรู้จักของคุณเวย์น่ะ แต่คุณเวย์เขานั่งดื่มแยกกับเพื่อน ยังไงพี่ฝากดูด้วย”
ใบหน้าหวานหันมองไปยังโต๊ะจุดหมายซึ่งอยู่ชั้นบน พอได้ยินผู้จัดการร้านพูดถึงก็เป็นต้องเกิดอาการกลัดเกร็ง เนื่องจากคนที่ว่านั้นคือเจ้าของร้าน และยังเป็นคนจ่ายเงินค่าจ้างให้กับเธอด้วย
“พี่เอ็มอะ ให้ป่านรับศึกใหญ่ตลอดเลย ฮื่อ ทำไมถึงไม่ให้ป่านดูแลข้างล่างเล่า!” สายป่านทำหน้าง้ำงอพร้อมกับการออกปากบ่นพึมพำไม่หยุด แต่ถึงอย่างนั้นขาสองข้างก็เดินกระแทกจ้ำอ้าวไปยังโซนชั้นบนที่เต็มไปด้วยเสียงของเหล่าผู้คนมากมาย
“อ้าวป่าน วันนี้มาทำงานด้วยเหรอ นึกว่าหยุดซะอีก”
“สวัสดีค่ะคุณเวย์ ก็วันนี้ลูกค้าเยอะนี่คะ พี่เอ็มเลยตามป่านมาช่วย” สายป่านยกมือไหว้คนที่เปิดปากทักทาย ก่อนจะค้อมศีรษะลงให้กับเวย์คินผู้เป็นเจ้าของร้านและลูกค้าท่านอื่นตามหน้าที่
“ถ้าให้เดานี่ก็คงเพิ่งออกกะมาจากร้านสะดวกซื้อใช่ป้ะ” เวย์คินกวาดสายตามองไปยังหญิงสาวที่อยู่ในยูนิฟอร์มของร้านเรียบร้อย มั่นใจว่าเด็กสาวคนนี้จะต้องควบงานมากกว่าหนึ่งตลอดวันเต็มอย่างแน่นอน
“ก็แหงสิคะ ป่านร้อนเงินอะ นี่ป่านมาช่วยงานในวันหยุดด้วยนะ สงสัยคุณเวย์ต้องให้เงินสามเท่าแล้วล่ะค่ะ” เธอพูดทีเล่นทีจริง
“ถ้าอยากได้เยอะ ๆ ก็ต้องมาทำโฮสต์แล้วแหละ งานดี ไม่เหนื่อย ทิปหนัก ยินดีต้อนรับคร้าบ”
ประโยคนั้นทำให้เด็กเสิร์ฟสาวถอนหายใจออกมาหนัก ๆ พร้อมกับการสั่นหน้าหวือ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยินคำเชิญชวนจากปากเจ้าของร้าน เรียกได้ว่านับสิบนับร้อยครั้งได้
แม้ว่าตำแหน่งโฮสต์จะเป็นเพียงการต้อนรับและดูแลลูกค้า ทั้งยังได้ค่าตอบแทนรวมถึงทิปมือที่คำนวณแล้วคงไม่ต่ำกว่าสามพัน แต่คนที่เอาใจลูกค้าไม่เก่ง บวกกับอาการหวงตัวคงต้องขอปฏิเสธแต่โดยดี
“แล้วพี่ไตรเมื่อไหร่จะมาวะเนี่ย โทรหาให้หน่อยพี่ ผมเตรียมเด็กให้แล้วเนี่ย” เวย์คินเปลี่ยนการสนทนามายังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกาย
“มันบอกใกล้ถึงแล้ว แต่ไม่รู้ถึงไหนของมัน”
บนโต๊ะนี้มีผู้ชายสองคนที่นั่งดื่มกันท่ามกลางเสียงโหวกเหวกของกลุ่มเจ้าของวันเกิดที่กำลังสนุกสนาน สายป่านไม่รู้ว่าคนที่นั่งกับเจ้าของร้านเป็นใคร แต่ถึงอย่างไรแล้วเธอก็ไม่คิดสนใจอยู่ดี
หญิงสาวหมุนตัวเดินลงไปยังชั้นล่างเพื่อเตรียมเครื่องดื่มให้กับโต๊ะที่ต้องดูแล ถึงจะไม่ได้รับคำสั่งแต่ก็ย่อมรู้หน้าที่ดีว่าเจ้าของร้านคนนี้ดื่มเก่งดื่มโหดเป็นไหน ๆ แล้วการที่จัดเตรียมมาวางล่วงหน้าย่อมผ่อนแรงให้ตัวเองได้ไม่น้อย
“โห เสิร์ฟไม่ทันเหรอพี่เจ มาเดี๋ยวป่านช่วย”
“ไม่ต้องหรอกป่าน แต่ป่านช่วยไปดูหลังร้านให้หน่อยสิว่าน้องพี่มันมารอหรือยัง พอดีพี่บอกให้น้องชายมาเอากุญแจบ้านน่ะ”
“อ้อ ได้เลยค่ะพี่เจ เดี๋ยวป่านไปดูให้นะ” หญิงสาวยิ้มรับพร้อมกับก้าวเท้าเดินไปยังประตูหลังร้านที่ปิดสนิท
เส้นทางหลังร้านนั้นหากเปิดประตูมาก็จะพบว่ามันเป็นทางเดินที่สามารถเดินออกไปยังถนนใหญ่ได้ พื้นที่ฝั่งข้าง ๆ ก็ล้วนแต่เป็นร้านสังสรรค์เช่นเดียวกันทั้งหมด
ร่างเล็กเดินออกไปยังด้านนอกหลังร้านพร้อมกับการกวาดสายตามองรอบ ๆ แต่สิ่งที่ทำให้สะดุดกึกก็คือบุคคลที่ยืนพิงกายสูบบุหรี่ในระยะสายตา
เธอมั่นใจว่าคนคนนี้ไม่ใช่พนักงานของที่ร้าน และไม่ใช่คนที่เคยเห็นหน้าค่าตากันมาก่อนแน่นอน
“เธอเหรอที่ไอ้เวย์ส่งมา” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นหลังจากปล่อยควันบุหรี่ออกมาให้ล่องลอยเหนือศีรษะ ก่อนที่มันจะหายลับไปกับอากาศ
สายป่านหันซ้ายหันขวา พยายามหาคำตอบว่าคนแปลกหน้าคนนี้กำลังสนทนากับเธออยู่หรือไม่ แต่ก็เห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีใครนอกจากเขาและเธอเพียงสองคน
“คะ? คุณพูดกับฉันเหรอ”
“โคตรธรรมดา”
คำพูดหยันและสายตาเหยียดจรดมองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวถึงปลายเท้า สิ่งนั้นทำให้สายป่านถึงกับขมวดคิ้วมุ่นและมองอย่างไม่พอใจ
ไม่รู้ว่าเขาหมายถึงอะไร แต่มันก็คาดการณ์เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยว่ากำลังถูกเหยียดหยามด้วยสายตาและวาจาสกปรกแบบนั้น
สายป่านระงับความกรุ่นโกรธเพราะตระหนักได้ว่าคนคนนี้อาจจะเป็นลูกค้าของร้าน เธอหมุนตัวหวังจะเดินกลับเข้าไป แต่ทว่าต้นแขนกลับถูกรั้งจนร่างกายหันไปเผชิญหน้ากับบุคคลหยาบคาย โดยมีพื้นที่เว้นว่างห่างกันเพียงไม่กี่เซนติเมตรเท่านั้น
“อ๊ะ! นี่คุณ ทำบ้า...อื้อ!” เมื่อถูกมือใหญ่คว้าหมับ สิ่งแรกที่ควรทำก็คือการสะบัดตัวหนีและโวยวายออกมา หากแต่มันเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น เพราะคำพูดของเธอถูกปิดทับด้วยริมฝีปากของคนตัวโตกว่า รวมถึงอารามตกใจที่กำลังเผชิญโดยไม่ทันตั้งตัว
ริมฝีปากคล้ำบดเบียดทาบทับลงมาจนรู้สึกถึงกลิ่นบุหรี่ หญิงสาวเบ้บิดใบหน้าเมื่อรู้สึกรังเกียจกับสัมผัสที่ได้รับ ในขณะที่มือสองข้างก็พยายามทุบตีและผลักไส
ครั้นรวบรวมเรี่ยวแรงได้เธอจึงผลักร่างใหญ่ออก ซึ่งมันเป็นจังหวะเดียวกับระดับสายตาของตัวเองที่กดมองเขาคนนั้นด้วยความเกลียดชัง
เพียะ!
“ไอ้สารเลว สกปรก ต่ำ!” มือเล็กฟาดลงบนแก้มสากของคนตรงหน้า ก่อนจะเปล่งคำด่าที่สมองประมวลออกมาทั้งหมด
“...”
“ฉันว่าคุณคงเข้าใจผิดแล้ว ฉันเป็นพนักงานเสิร์ฟที่นี่ ไม่ได้ทำงานแบบที่คุณคิด แล้วฉันก็จะไม่ขอโทษที่ทำร้ายร่างกายคุณ นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับการที่คุณคุกคามลวนลามฉัน!”
ไม่สนับสนุนการทำร้ายร่างกายใครเพื่อใช้ตัดสินความถูกผิด แต่เหตุการณ์นี้สายป่านกลับมองว่ามันคือหนทางเดียวที่จะทำให้เธอหลุดพ้นจากสัมผัสกักขฬะนี้ได้
ผู้ชายคนนี้คงคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงที่ถูกส่งมาดูแล หากแต่มันไม่ใช่และไม่มีทางเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นการเข้าใจผิด แต่การที่เธอฟาดหน้าเขาไปนั้นก็ถือว่าเป็นการตอบโต้กับการกระทำต่ำ ๆ ของเขาอย่างสาสมเช่นกัน
“ช่วยจำใส่หัวไว้ด้วยว่าอย่าไปทำแบบนี้กับใครอีก ไอ้เลว!”
สิ้นประโยคตวาดกร้าวก็รีบวิ่งกลับเข้าไปด้านในตัวร้าน ไม่คิดสนใจเลยว่าประโยคเจ็บแสบเหล่านั้นจะสามารถทำให้คนที่ถูกตอกหน้าเดือดดาลมากเพียงใด
เสียงแค่นหัวเราะดังขึ้นเบา ๆ หากแต่สายตาคมเข้มกลับลุกโชนไม่ต่างจากเปลวเพลิงกองใหญ่ที่กำลังถูกสาดสุม