บทที่ 10
วางยา (1)
หลายวันผ่านไป
การดีลสินค้าล็อตใหญ่เกิดขึ้นที่ดาร์กไนต์บาร์ตามความต้องการของไตรพัฒน์ ที่ตั้งใจอยากหาที่เจรจาบวกกับการดื่มสังสรรค์ ซึ่งสถานที่แรกที่เขานึกถึงก็คงไม่พ้นที่แห่งนี้เนื่องจากเป็นร้านของน้องชายคนสนิท และภายในร้านก็มีโซนที่ถูกจัดแบ่งให้ความเป็นส่วนตัว
เจ้าของร้านจัดเตรียมสถานที่และเลือกปิดโซนร้านชั้นบนให้มาเฟียหนุ่มทั้งหมด รวมถึงพนักงานดูแลที่คิดว่าไว้ใจได้อย่างสายป่าน และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ก็คือผู้หญิงคอยบริการ เวย์คินรู้ว่าการเจรจาหากจะผ่านพ้นไปโดยง่ายนั้นก็ต้องมีของกำนัลมาแลกเปลี่ยนเป็นธรรมดา
“ฮ่า ๆ ผมเอาทั้งหมดเลยคุณไตร คุณเสนออะไรมาผมก็รับไว้ทั้งหมดนั่นแหละ ก็อย่างที่บอกว่าผมน่ะไว้ใจคุณ ผมรู้ว่าของจากบริษัทคุณมันดีทั้งนั้น”
เสียงพูดคุยเคล้าไปด้วยเสียงหัวเราะกังวานเป็นตัวบ่งบอกได้ว่าการเจรจาดีลสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น ไตรพัฒน์ยิ้มรับบาง ๆ พลางโน้มตัวหยิบวิสกี้สีอำพันมาเติมให้กับคู่ค้าคนสำคัญเองกับมือ เมื่อเห็นว่าของเหลวภายในแก้วทรงเตี้ยนั้นพร่องไปจนเกือบครึ่งแล้ว
“ขอบคุณครับเสี่ยยศ ******อนเงินมาเมื่อไหร่ อีกสองวีคก็เตรียมรับสินค้าไปได้เลยครับ แล้วก็ไม่ต้องกังวลเรื่องด่าน เรื่องนั้นผมจัดการได้”
สิ้นคำพูดจากมาเฟียหนุ่ม ชายวัยกลางคนก็ถึงกับหัวเราะดังลั่นจนดวงตาพราวอย่างนึกชอบใจ ถึงแม้ว่าไตรพัฒน์จะอายุเทียบเท่ารุ่นลูก แต่ประสบการณ์และอำนาจที่พึงมีนั้นต้องยอมรับได้ว่ามากล้นจนคนแก่คราวพ่ออย่างเขาถึงกับต้องพึ่งพาบารมี
“ขอบคุณครับคุณไตร ผมรู้อยู่แล้วล่ะว่าไอ้พวกตำรวจหิวเงินมันก็ช่วยคุณไตรทั้งนั้น ก็อย่างว่าแหละคุณไตรยิ่งใหญ่ขนาดนี้”
“ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ ผมมันก็แค่พ่อค้าธรรมดานี่แหละ ต้องขอบคุณลูกค้าคนสำคัญอย่างเสี่ยมากกว่าที่เมตตา” ไตรพัฒน์หยัดยิ้มพลางพูดเยินยออีกฝ่ายให้ตัวลอย
รู้ดีว่าการเจรจากับลูกค้าแต่ละรายนั้นย่อมต้องใช้หลากหลายวิธี อยู่ในวงการนี้มานานทำไมเขาถึงจะไม่รู้ว่าการอวดเบ่งอำนาจมีแต่จะทำให้คนหมั่นไส้และหวังชิงบัลลังก์ที่เขาครอบครองอยู่
ขนาดไม่ค่อยออกตัวเขายังถูกเข่นฆ่าลอบยิงอยู่ทุกวี่วัน...
“ไม่ต้องครับคุณไตร ผมเกรงใจ ให้น้องคนสวยจัดการให้ดีกว่า หนูจ๊ะ ชงเหล้าหวาน ๆ ให้เสี่ยหน่อยสิ” เสี่ยยศป้องมือห้ามก่อนจะตวัดสายตาหันไปมองยังพนักงานสาวที่ยืนห่างออกไปยังบริเวณด้านนอก
เมื่อถูกเรียกก็ทำให้สายป่านเดินเข้ามา เธอยืนอยู่ด้านนอกเหตุเพราะมีคำสั่งให้คอยดูแลแขกหากมีอะไรขาดเหลือ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปด้านในได้เนื่องจากการเจรจานั้นเป็นความลับที่พนักงานอย่างเธอไม่สมควรเข้าไปยุ่มย่าม เว้นก็แต่สาวสวยที่เจ้าของร้านจัดมาให้บริการ รายนั้นนั่งคลอเคลียอยู่บนตัก กอดเกยกันแทบสิงร่าง แต่เสี่ยหัวงูกลับไม่สนใจดันเรียกหาเด็กเสิร์ฟอย่างเธอเสียอย่างนั้น
“ขอหวาน ๆ เหมือนหนูเลยนะคนสวย”
ครั้นเห็นพนักงานสาวเดินเข้ามาก็ไม่วายที่จะส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้
สายป่านที่ได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มรับบาง ๆ ก่อนจะรีบทำตามหน้าที่ของตัวเองให้เสร็จสิ้น เพียงแค่ก้าวเดินเข้ามาเธอก็รู้สึกถึงรังสีจากดวงตาคมราวกับต้องการจะเชือดเฉือน
ไหนจะความหื่นกามของเสี่ยที่จ้องมองเธอมาตั้งแต่เดินเข้ามาในร้าน ไหนจะดวงตาเฉี่ยวจิกกัดของหญิงสาวร่างเพรียวบางที่มองเธออย่างไม่พอใจ แล้วไหนจะเป็นดวงตาคมเข้มของไตรพัฒน์ที่กดมองเธอนิ่ง ๆ แต่ก็สัมผัสได้ถึงความอำมหิตที่แผ่ซ่านออกมา
“นี่ค่ะคุณลูกค้า เอ่อ...แล้วคุณลูกค้าอีกท่านจะรับด้วยไหมคะ” สายป่านยกแก้วทรงเตี้ยยื่นให้กับเสี่ยหัวงู ครั้นถูกจับหมับโลมเลียด้วยสายตาและมือหยาบกร้านก็เป็นต้องรีบชักหนี จากนั้นก็หันไปถามกับไตรพัฒน์เมื่อเห็นว่าแก้วของเขานั้นพร่องไปมากแล้วเหมือนกัน
“อืม” มาเฟียหนุ่มตอบรับสั้น ๆ และผินใบหน้าไปอีกทาง
สายป่านทำหน้าที่ของตัวเองจนเสร็จสิ้น หลังจากนั้นก็ขอตัวเดินลงมาด้านล่างเมื่อเห็นว่าครบกำหนดเวลาในการทำงานของค่ำคืนนี้พอดี
เวย์คินเรียกให้เธอมาช่วยงานที่ร้านเพียงไม่กี่ชั่วโมง เพราะเห็นว่าเธอเป็นพนักงานที่ซื่อสัตย์และไว้ใจได้กับงานแบบนี้ สายป่านเองก็เลี่ยงไม่ได้จึงต้องตอบรับกับการทำงานในวันนี้ และรวมถึงจำนวนเงินว่าจ้างที่มากกว่าวันเวลาทำงานปกติถึงสามเท่า
“อ้าวป่าน จะกลับแล้วเหรอ” เอ็มผู้จัดการร้านร้องถามเมื่อเห็นว่าสายป่านกำลังเตรียมตัวเก็บข้าวของของตัวเอง
“ค่ะพี่เอ็ม พี่เอ็มก็ขึ้นไปดูแลต่อได้เลยนะ พรุ่งนี้ป่านมีควิซอะเลยต้องรีบกลับ”
“ได้ ๆ แล้วนี่คุณเวย์จ่ายค่าจ้างของวันนี้หรือยัง ถ้ายังเดี๋ยวพี่ไปเอาเงินที่แคชเชียร์มาให้”
“ได้แล้วค่ะพี่บอส รายนั้นโอนเงินเข้าบัญชีมาให้ก่อนจะสั่งงานอีก เผด็จการสุด ๆ!” พอนึกถึงจำนวนเงินที่ถูกโอนเข้าบัญชีเป็นต้องหัวเสีย เพราะเวย์คินเลือกที่จะใช้เงินฟาดหัวเธอก่อนจะโทรมาสั่งให้เธอเข้างานดูแลแขกด้วยซ้ำ
โชคดีมากที่จำนวนเงินมันมากพอให้เธอตอบรับ ไม่อย่างนั้นเธอคงได้แสดงฤทธิ์เฉ่งเจ้าของร้านหูชาแน่!
“เอาเถอะ กลับดี ๆ นะป่าน ขอบคุณมากที่มาช่วยดูแขก”
“ค่า ป่านไปก่อนน้า สวัสดีค่ะพี่เอ็ม” หญิงสาวยิ้มร่าก่อนจะเดินออกไปจากร้านไปทางประตูด้านหลังที่ใช้เป็นหนทางกลับบ้านนับตั้งแต่เริ่มทำงาน
คืนนี้เธอไม่ต้องอยู่ปิดร้านเนื่องจากได้รับมอบหมายให้มาช่วยดูแลแขกสำคัญเพียงไม่กี่ชั่วโมง แม้ว่าจะยกเรื่องการสอบมาอ้างเพราะไม่อยากรับงาน รวมถึงไม่อยากเจอหน้าไตรพัฒน์ แต่ในเมื่อเจ้าของร้านไว้ใจและฝากฝังก็ทำให้ดื้อด้านปฏิเสธต่อไปไม่ได้
สายป่านหัวเราะกับตัวเองเบา ๆ กับคำแก้ตัว ระหว่างนั้นก็ก้าวฉับ ๆ ไปตามตรอกซอยหลังร้านเพื่อเดินทะลุไปยังถนนใหญ่ซึ่งเป็นหนทางกลับบ้าน
ทว่าเสียงฝีเท้าหนักที่คืบคลานตามติดอยู่ด้านหลังกลับทำให้เธอชะงักและพยายามเงี่ยหูฟัง ครั้นหันไปมองก็พบกับความว่างเปล่า
ความหวาดกลัวตีตื้นจนทำให้ภายในใจสั่นไหวไปทั้งหมด ความไม่ชอบมาพากลส่งผลให้สองฝีเท้าเล็กรีบเร่งเปลี่ยนเป็นการวิ่งเพื่อหวังพาตัวเองออกไปยังจุดนี้ให้เร็วที่สุด
แต่ทว่า...
หมับ!
“อื้อ!” เสียงเล็กร้องอู้อี้ในลำคอเมื่อริมฝีปากถูกปิดทาบด้วยผ้าสีขาว โดยมีมือใหญ่ของใครคนหนึ่งกดทับและล็อกร่างกายของเธอ
สายป่านพยายามดีดดิ้นสุดแรงพร้อมกับกรีดร้องสุดเสียง แต่เธอไม่สามารถต่อกรกับแรงมหาศาลของคนร่างยักษ์คนนี้ได้ แถมผ้าสีขาวก็ปิดทาบจนแน่น กลิ่นไม่พึงประสงค์บางอย่างตีคลุ้งเข้าสู่จมูก และเพียงไม่ถึงนาทีสติของเธอก็เริ่มเลือนรางจนกลายเป็นความพร่าเบลอ
“อื้อ...อ่อย(ปล่อย)...อื้อ!” มือเล็กทุบตีด้วยแรงน้อยนิด พยายามฝืนความพร่าเรือนที่รู้สึกได้ว่าดวงตาสองข้างกำลังหนักอึ้งลงทุกที
กระทั่งเสียงสุดท้ายก่อนที่สติจะหลับใหล เธอได้ยินเป็นน้ำเสียงแข็งกร้าวของคนเพศชาย ซึ่งดูเหมือนว่าน่าจะกำลังพูดคุยกับใครบางคนที่อยู่ใกล้ ๆ กัน
“มึงมาช่วยกูประคองอีนี่ไปที่ห้อง เบา ๆ นะเว้ย เสี่ยสั่งมาว่าห้ามช้ำห้ามมีแผล!”