แสงสีทองสาดส่องประกายกระทบกับผ้าม่านในยามรุ่งอรุณ ไออุ่นจากแดดอ่อนสัมผัสกับผิวแน่น ที่ยืนทอดสายตามองไกลอย่างไร้จุดหมาย ภาพสวาทที่อยู่ในหัวของคนตัวใหญ่ เขาตื่นแต่เช้าด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบแน่ ทั้งที่ก่อนหน้าไม่เคยจะเป็น แต่ไฉนวันนี้ถึงได้อิ่มเอมจนต้องตื่นมายืนมองดวงตะวันในยามเช้าเสียได้
สายตาคมหันกลับไปห้องยังเตียงนอน ที่มีร่างเสลานอนหายใจเป็นจังหวะไม่รู้สึกตัว ร่างกายที่เปลือยเปล่าถูกเขานั้นจัดการสวมทับเสื้อผ้าอาภรณ์ให้ในยามใกล้ฟ้าสาง ใบหน้าจิ้มลิ้มที่นอนตะแคงไปทางเขา ยิ่งได้มองก็ยิ่งทำให้มีรอยยิ้ม เท้าแกร่งก้าวเดินทอดน่องเข้ามาในห้อง และนั่งลงกับพื้นเตียงนอนจนยุบตัว
"น้ำอุ่น" เขาเรียกขานชื่อเธอด้วยความละมุน เอื้อมมือเกลี่ยเส้นผมที่ปกคลุมใบหน้าสวยทัดหู
"ตื่นได้แล้ว" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นอย่างย้ำเตือน เพราะวันนี้เขาทั้งสองต้องเดินทางเพื่อไปตามนัดหมายของลูกค้าสำคัญ ที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
"อื้อ" เสียงแค่นในลำคอเปล่งออกมาเบา ๆ พร้อมกับขยับตัวพลิกตะแคงไปอีกด้าน ดึงผ้าห่มคลุมกายไม่คิดสนใจใด ๆ เมื่อร่างกายของเธอนั้นต้องการพักผ่อน
"ต้องเดินทางไปพบลูกค้านะ ตื่น..." คนที่นั่งข้างกายเอ่ยปากอีกครั้ง พร้อมเอื้อมมือจับไหล่มนเขย่าให้รู้สึกตัว
"อื้ม" คนที่ร่างกายอ่อนเพลีย เมื่อคำขอที่อ้อนวอนต่อเขาในรสสวาทนั้นไม่สำเร็จ คนที่หน้ามึนวนเวียนจนพรากสวาทรอบสองในยามดึก ทำให้ร่างกายของเธอนั้นเหนื่อยล้าแทบไม่อยากลุกตื่น
"กระเป๋ายังไม่ได้เก็บนะน้ำอุ่น ตื่นเร็ว" น้ำเสียงที่ใช้ คำพูดที่เปรยออกไปในตอนนี้ หากคนฟังมีสติคงแปลกใจไม่น้อย เพราะตั้งแต่คลุกคลีมา เขาไม่ค่อยจะมีคำพูดดี ๆ เสนาะหูกับเธอสักครั้ง หากเธอมีโอกาสได้ฟังตอนนี้คงนับว่าเป็นบุญไม่น้อย
"อีกห้านาที" เธอปัดมือที่ก่อกวนออกห่าง แล้วเอ่ยออกมาอย่างคนไม่มีสติ
"เด็กคนนี้นี่" เมื่อปลุกแล้วไม่มีทีท่าจะตื่น เขาจึงได้แต่ลอบยิ้มส่ายหัวเบา ๆ อย่างเผลอลืมตัว เพลิดเพลินสายตาในการมองหญิงสาวรุ่นหลานที่ดูเดียงสาในยามนี้
"ไซส์ใหญ่ใช่ย่อย" เขาพูดขึ้นเมื่อหยิบชุดชั้นในขึ้นมามอง อมยิ้มกับสิ่งที่เห็นเมื่อภาพเรือนร่างของเธอนั้นผุดเข้ามาในหัว
...สิ่งของทุกอย่างถูกจัดเก็บลงกระเป๋าใบใหญ่สองใบ เครื่องใช้ของเธอเขาจัดการเก็บใส่จนเรียบ ไม่เว้นแม้กระทั่งชุดผู้หญิงของเธอ ทุกอย่างที่คิดว่าจำเป็นเขาเก็บและจัดแจงจนเรียบร้อย รวมทั้งของตัวเองอีกด้วย ทุกอย่างพร้อมเพรียง ก็มีแต่คนที่ยังนอนบนเตียงไม่ไหวติง เขาประวิงเวลาให้เธอได้พักผ่อนอีกสักหน่อย จัดการชำระร่างกายของตัวเองให้เรียบร้อย จึงเดินมายังเตียงนอนแสนกว้างอีกครั้ง เพื่อหวังปลุกเธอในตื่นเพราะแสงแดดเริ่มทอแสงแรงแล้ว
"น้ำอุ่น ตื่นได้แล้ว ตอนนี้สายแล้ว..." เสียงทุ้มเอ่ยบอกพร้อมกับการติดกระดุมแขนเสื้อไปพลาง
"ลืมหรือไงว่าฉันให้เธอไปด้วย! น้ำอุ่น!"
พรึ่บ!! เสียงเข้มดุที่เริ่มดัง คนตัวสูงที่ยืนมองทำหน้านิ่งขรึม อยากจะเปล่งเสียงหัวเราะกับท่าทางของเธอที่ดูตกใจ ลืมตาแบบกะทันหันเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ต่อเรื่องราวที่ต้องทำในวันนี้
"ฉันให้เวลาห้านาที" เขาบอกเสียงเข้ม และจ้องมองหน้าเธอ ที่ตอนนี้เหลอหลาเหมือนตะลึง
"ห้านาที!!" สิ่งที่ได้ยินทำให้เธอนั้นต้องหลุดจากภวังค์ ตะโกนออกไปเสียงดังอย่างตกใจ
"อืม ห้านาที ฉันจะไปรอข้างล่าง ถ้าเลยเวลาละก็รู้นะว่าจะโดนอะไร?" เขาพูดออกไปด้วยใบหน้าที่นิ่งเรียบ แต่น้ำเสียงที่ออกคำสั่งฟังแล้วช่างเฉียบขาด
"ห้านาที คุณไฟบ้าไปแล้ว กระเป๋าหนูก็ยังไม่ได้เก็บเลย" เวลาที่เขาให้ทำเอาเธอนั้นแทบไปไม่เป็น ระยะเวลาอันสั้นเธอจะทำอะไรได้ทันขนาดนั้น นอกจากวิ่งผ่านน้ำด้วยความเร่งรีบ
"ฉันเก็บให้ละ" เขาบอกเธอหน้าตาเฉย
"ห๊ะ!!" แต่สิ่งที่เธอรับรู้ทำเอาเธอนั้นตกใจรอบแล้วรอบเล่า คนอย่างเขานี่หรือบอกว่าจัดการเก็บกระเป๋าให้เธอแล้ว
"จะตกใจอะไรหนักหนา" เขาต่อว่าเสียงขรึม
"มะ มะ เมื่อกี้คุณไฟว่าอะไรนะ เก็บกระเป๋าให้หนูเหรอ?" เธอยังคงตะลึงไม่หาย เอ่ยถามออกไปอย่างติดขัด
"อืม...หุบปาก แล้วก็เลิกถามไปอาบน้ำ เดี๋ยวนี้!! หนึ่ง...สอง...สาม..."
"ไปแล้วค่ะ!!" เมื่อดึงสติกลับคืนมาได้ เธอจึงรีบวิ่งออกไปจากห้องด้วยความลนลาน มุ่งไปห้องนอนตัวเอง กลัวว่าจะไม่ทันการและถูกบทลงโทษที่เธอนั้นรู้ดี
"อย่าวิ่งเส้!! เดี๋ยวก็ล้มหรอกยายเด็กบ้านี่" เขาตะโกนตามหลังเมื่อเห็นเธอวิ่งออกไปอย่างไม่ทันระวัง และเอ่ยเสียงเบาอมยิ้มกับกิริยาของเธอที่มุมน่ารักเช่นนี้น้อยครั้งที่เขาจะได้สัมผัส
"เสร็จแล้วค่ะ แฮ่ก แฮ่ แฮ่ก" คนที่รีบร้อนกับเวลา รีบวิ่งลงมาจากบนบ้าน จนมีอาการเหนื่อยหอบโค้งตัวมือค้ำเข่าอย่างอ่อนแรง เอ่ยบอกเขาที่นั่งหน้าดุมองมายังเธอ
"ช้า!" แล้วเธอก็เจอกับคำตำหนิและสายตาที่ดุดัน แทบหลบสายตาเขาไม่ทัน มองทีไรก็รู้สึกหวาดหวั่นสั่นกลัว
"หนูขอโทษค่ะ" เธอก้มหน้าแล้วเอ่ยเสียงแผ่ว
"เลยห้านาที!... คืนนี้จะจัดให้สมใจเลย เปลี่ยนสถานที่อีกต่างหาก "
"0.0..ทำไมต้องขี้เอาด้วยคะ?" หญิงสาวก้มหน้าถามแผ่วเบาและดูใสซื่อ
"ฉันชอบเอา...จบนะ!"
เขาพูดเสียงเข้มดังชัดอย่างกับคนหงุดหงิด แล้วค่อย ๆ เดินมาประชิดตัวเธอ โน้มตัวต่ำเสมอหูหญิงสาว เอ่ยกระซิบเสียงเบาอย่างคนเจ้าเล่ห์ และยกยิ้มมุมปากแสนร้ายกาจ สิ่งที่ได้ยินทำน้ำอุ่นนั้นเบิกตากว้างตกใจ จากนั้นเขาจึงเดินผิวปากนำเธอออกไปด้วยความอารมณ์ดี
"ผีเข้าปะวะ? ตามอารมณ์ไม่ทันแล้วนะ คนแก่บ้า!" อากัปกิริยาที่เห็นน้ำอุ่นถึงกับงวยงง ยืนเกาหัวมองตามแผ่นหลังหนาที่เดินห่างไป
"ให้ไว! ยืนบื้อเป็นหุ่นกระบอกอยู่ได้!"
"ค่ะ~~คุณเจ้านาย"
เขาตะโกนเสียงลั่น จนน้ำอุ่นวิ่งตามด้วยความรีบร้อนและลนลาน พลางเอ่ยแผ่วเบามองหลังเขาอย่างหมั่นไส้
รถยนต์ขับเคลื่อนไปด้วยความเร็วตามท้องถนน คนที่ร่างกายอ่อนเพลียก็เริ่มจะบังคับเปลือกตาให้ลืมมองไม่ไหว นั่งคอพับกึ่งหลับกึ่งตื่น ชายที่นั่งขับรถก็ลอบมองเป็นระยะ บ้างก็แอบอมยิ้มกับท่าทางของเธอด้วยความเอ็นดู
"ง่วงก็นอน ถึงที่พักแล้วจะปลุก" เสียงทุ้มกระด้างเอ่ยบอก แต่สำหรับน้ำอุ่นที่ได้ยินนั้นคือคำเสนาะหูที่สุดเท่าที่เธอนั้นเคยได้สัมผัส เธอแปลกใจไม่น้อยกับกิริยาที่เขาเป็นวันนี้
"หนูนอนได้เหรอคะ?" เธอขยับนั่งตัวตรงแล้วหันหน้าไปถามด้วยความสงสัย ต้องการความมั่นใจว่าหากนอนหลับไปแล้วเขาจะไม่โกรธหรือโมโหใส่เธอ เพราะมันอาจจะเรียกบ่อน้ำตาของเธอให้รินไหลได้ง่าย ๆ
"แล้วฉันล็อกตาเธอไว้หรือไง ถึงจะนอนไม่ได้น่ะ พูดมากบอกให้นอนก็นอน ปรับเบาะเอนไปข้างหลังนอนซะ" เขาพูดเสียงกร้าวดวงตาจ้องมองเธออย่างตำหนิ เมื่อเธอนั้นเร้าหรือเขาไม่หยุดหย่อน
"หนูก็แค่ถามให้มั่นใจ กลัวคุณไฟด่าหนูอีก" น้ำอุ่นพูดเสียงเบา เมื่อเธอนั้นหวาดหวั่นต่ออารมณ์ของเขาที่ขึ้น ๆ ลง ๆ จนเธอนั้นตามแทบไม่ทัน
"นี่เธอว่าฉันเหรอ?"
"ค่ะ"
คนที่ถูกต่อว่าหันหน้ามาตะคอกเสียงดุ น้ำอุ่นสะดุ้งตัวโหยงแต่ก็ยังตอบออกไปตามสิ่งที่เธอนั้นรู้สึกจริง ๆ อย่างไม่อาจปิดกั้น
"เดี๋ยวเถอะ!"
"ก็คุณไฟเหมือนปีศาจนี่คะ ชอบด่าชอบว่าทั้งที่หนูก็ไม่รู้เลยว่าทำผิดอะไร หรือทำอะไรให้คุณไฟไม่พอใจนัก" เธอบอกออกไปอย่างใสซื่อ น้ำเสียงที่เปรยออกไปแม้จะเสนาะหูและดูน่ารัก แต่ก็แอบซ่อนคำด่าเป็นนัย มีหรือคนที่เกิดก่อนมานานจะไม่เข้าใจ
"นี่!!!" เขาตะเบ็งเสียงดังลั่นรถเมื่อหญิงสาวนั้นพูดจบประโยค หันหน้ามามองหวังจะต่อว่าเธอด้วยอารมณ์เดือด แต่กลับต้องแทบกลั้นหัวเราะ เพราะใบหน้าจิ้มลิ้มนั้นนอนหลับตาสนิทอย่างเกร็ง ๆ เหมือนกลัวเขามากมาย
"ว่าฉันเป็นปีศาจ เดี๋ยวคืนนี้ฉันจะกลายร่างเป็นปีศาจบนเตียงขย้ำเธอ น้ำอุ่น"
สิ่งที่ได้ยินทำเอาหญิงสาวที่แกล้งนอนหลับตา ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอเฮือกใหญ่ คืนที่ผ่านมาเธอก็แทบคลานลงจากเตียง แล้วคำขู่ของค่ำคืนนี้ที่น่ากลัว เธอไม่อยากจะคิดเลยว่าจะสลบไสลไปกี่คืน