"แม่ เดือนหน้าเสือต้องไปสมัครเรียนแล้วนะครับ" ปากบอกกับแม่ ส่วนตายังดูจอมือถือ สองมือกำลังเล่นเกมนอนบนแคร่ไม้หวายตัวยาวในบ้าน หากแต่ไม่ยาวพอส่วนสูงของเด็กชายวัยสิบเอ็ดย่างสิบสองขวบนามว่า 'เสือ' มีดีกรีเป็นถึงลูกชายตำรวจยศร้อยตำรวจเอก
พ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เขาสามขวบ ถึงอย่างนั้นเขาก็จะเทียวไปเทียวมาระหว่างสองบ้าน
ทุกเย็นวันศุกร์แม่ไปรับที่บ้านพ่อเพื่อพามานอนค้างที่บ้าน เย็นวันอาทิตย์ไปส่งกลับบ้านพ่ออีกที
บ้านของพ่อกับแม่อยู่หมู่บ้าน 'คันคาย' แม่ 'คุ้มเหนือ' พ่อ 'คุ้มใต้' ไม่ไกลกันมาก ไปมาค่อนข้างสะดวก
เมื่อก่อนแม่จะเทียวปั่นจักรยานไปรับไปส่ง แต่เดี๋ยวนี้แม่มีรถมอเตอร์ไซค์ขับแล้ว
"เรียนที่ไหนล่ะเสือ ดูไว้บ้างยัง" คนเป็นแม่อย่าง 'ราตรี' วัยสามสิบเอ็ดปีถามออกมา ถือจานข้าวผัดที่เธอเข้าครัวทำอาหารเองมาวางบนโต๊ะญี่ปุ่นให้ลูกชาย เธอจะทำอาหารให้เสือกินเป็นประจำเวลาที่ลูกมาค้างด้วย ลูกชายเธอชมว่าเธอทำกับข้าวอร่อยมาก
เสือเห็นอย่างนั้นรีบปิดหน้าจอมือถือแล้วย้ายลงมานั่งข้างล่าง กินข้าวไปด้วยคุยกับแม่ไปด้วย
"เสือว่าจะเรียนในอำเภอครับแม่" โรงเรียนมัธยมของรัฐบาล มีระดับการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งถึงหก อยู่ไม่ไกลบ้านมาก ไม่ต้องตื่นแต่เช้า ไปมาสะดวก ติดรถพ่อไปเรียนทุกวันยังได้เพราะพ่อก็ทำงานที่สภ.คันคาย
ราตรีพยักหน้า เอามือลูบผมของเด็กชายที่มีเค้าโครงมาจากพ่อของแกมากกว่า ไม่ว่าจะผิวพรรณ ส่วนสูง และหน้าตา เสือได้พ่อมาเยอะมากเลย
ลูกชายเธออายุสิบเอ็ดขวบก็จริง แต่เสือสูงมาก สูงกว่าเธอเยอะ ดูเป็นหนุ่มกว่าวัยอีก ไม่นานก็คงได้ข่าวว่ามีสาวๆ มาติดแจแล้วสิทีนี้
เสือเรียนอีกไม่กี่เดือนก็จะจบป.6แล้ว จะว่าไปก็เร็วเหมือนกัน เด็กน้อยที่เทียวตามตูดเธอต้อยๆ ในวันนั้น มาวันนี้โตเป็นหนุ่มแล้ว แต่เสือก็ยังไม่ห่างเธอเหมือนเดิม ถ้าไม่เป็นการเข้าข้างตัวเอง เธอว่าลูกชายติดเธอมากกว่าพ่อของเขาอีก
"แต่พ่อบอกจะให้เสือไปเรียนในตัวจังหวัดครับแม่ เสือไม่อยากไปเลย แม่ช่วยพูดกับพ่อให้หน่อยสิ"
เด็กหนุ่มเอ่ยออกมาอย่างเซ็ง เพื่อนเขาก็เรียนโรงเรียนในตัวอำเภอกันทั้งนั้น ทำไมพ่อต้องให้เขาเข้าไปเรียนในตัวจังหวัดด้วยไม่เข้าใจ
"ทำไมพ่อเราถึงอยากให้ไปเรียนในตัวจังหวัดล่ะเสือ"
ราตรีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามลูกได้ยินอย่างนั้นขมวดคิ้ว ตั้งแต่เล็กจนโตผู้กองสิงห์ไม่ยอมให้ลูกห่างไกลตัวนี่ ถึงแม้ว่ามีกำลังทรัพย์มากพอที่จะส่งลูกเรียนเอกชนตั้งแต่อนุบาลแล้วก็ตาม
เสือเรียนโรงเรียนรัฐบาลในหมู่บ้านคันคายจนจะจบป.6อยู่แล้ว
"ไม่รู้เหมือนกันแม่ พ่อบอกว่าอย่างนั้น ดูโรงเรียนมาแล้วด้วย เดือนหน้าจะพาเสือไปสมัครครับ"
"ที่ไหน"
"เสือยังไม่รู้เลยครับ พ่อบอกแค่ว่ามีที่เรียนให้เสือเรียนต่อแล้ว แม่ช่วยคุยกับพ่อหน่อยสินะๆ เสือไม่อยากไปเรียนในตัวจังหวัดครับ"
เสือจับมือแม่มาหอมมาดม เวลาอยากได้อะไรก็ชอบอ้อนแม่แบบนี้ตลอด จนราตรีใจอ่อน ยิ้มบางๆ ให้ลูกชาย
แต่ยอมรับว่าหากต้องได้พูดคุยเรื่องอะไรต่างๆ กับพ่อของลูก เธอไม่เคยสบายใจสักครั้ง
"แม่ครับ" เสือส่งสายตาอ้อนๆ จนคนเป็นแม่หลุดขำออกมา
ราตรีพยักหน้า ถึงต่อให้ลูกไม่ขอ เธอก็ต้องคุยอยู่แล้ว อยากรู้ที่มาที่ไปเหมือนกัน
ไม่ได้ว่าจะไปขัดขวาง แต่ขอทราบสาเหตุที่ผู้กองสิงห์จะให้เสือไปเรียนสักหน่อย อย่างน้อยเธอจะได้มาอธิบายให้ลูกเข้าใจ
"เสือกินข้าวไปก่อนนะ แม่ออกไปคุยกับพ่อเราสักหน่อย"
"คุยนี่สิแม่ เสืออยากฟังด้วย" รีบบอกคนที่ทำท่าจะลุกออกไป
ราตรีเม้มปาก ก่อนพยักหน้าออกมา หยิบมือถือขึ้นมาต่อสายหาพ่อของลูก เป็นเบอร์โทรที่คุ้นเคย หมายเลขที่ไม่เคยเปลี่ยนสักครั้ง ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีผู้กองสิงห์ยังคงใช้เบอร์เดิม
เธอจะเมมชื่ออดีตสามีว่า 'ผู้กอง' เฉยๆ ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนเธอจะเมมชื่อเขาว่า 'สามีสุดที่รัก'
แต่เมื่อสถานะเปลี่ยน อะไรหลายๆ อย่างก็ย่อมเปลี่ยนแปลงตามไป แต่ก็มีบางอย่างที่ไม่เคยเปลี่ยนไปเลยเช่นกัน
ที่ผ่านมาเรามักจะเทียวพูดคุยกันเรื่องลูกตลอด แต่ส่วนใหญ่เธอจะเป็นฝ่ายต่อสายหาอดีตสามีเอง
มันไม่เคยเกินสามวันสักครั้ง เพราะเธอมีเรื่องให้โทรหาเขาตลอด
บางทีลูกโทรหาเธอให้คุยกับพ่อของเขา ทั้งที่คนทั้งสองอยู่บ้านหลังเดียวกัน เสือจะนอนที่บ้านของพ่อเป็นหลักเวลาที่ต้องไปเรียน
พ่อกับลูกเป็นผู้ชายเหมือนกัน บางเรื่องเสืออาจไม่สะดวกใจคุยกับพ่อ แต่กับเธอ ไม่ว่ามีเรื่องอะไรเสือจะชอบเล่าให้เธอฟังทุกอย่าง ลูกชายไม่เคยมีความลับต่อแม่
รอสายอยู่พักหนึ่ง ถึงได้ยินเสียงทางนั้นตอบกลับมา
ดีๆ นะคะ ลูกฟังอยู่ จะหอนหรือจะหอนเลือกเอา
คอมเมนต์ให้หน่อยนะคะ