“อุ๊ย!” นิ่มอุทานเมื่อจะเด็ดดอกรักแต่กลับมีมือหนาเอื้อมมาเด็ดดอกรักดอกเดียวกับเธอ
“พี่โมกข์” เธอหันมามองเขา ก่อนจะหน้าแดงเมื่อได้สบตาคมเข้มหวานหยดคู่นั้น
“น้องนิ่มจะเอาดอกรักไปทำอะไรคะ”
“ร้อยมาลัยค่ะพี่โมกข์” เธอตอบเสียงนุ่ม รีบดึงมือกลับแต่เขารวบเอาไว้ไม่ยอมปล่อย เธอเงยหน้ามอง ในขณะที่แก้มร้อนผ่าวอย่างปัจจุบันทันด่วน อยู่ใกล้โมกข์ทีไรหัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมานอกอกเสียทุกคราไป เธอวางไม้วางมือและทำหน้าไม่ถูกเอาเสียเลย มันร้อนผ่าววูบวาบไปหมดทั้งพวงแก้ม
“ปล่อยค่ะพี่โมกข์เดี๋ยวใครมาเห็นเข้าจะเอาไปนินทาได้นะคะ”
“น้องนิ่มร้อยมาลัยไปถวายพระหรือคะ” เขาเอ่ยถามแต่ไม่ยอมปล่อยมือน้อยนุ่มนวลนั้น
“ค่ะ” เธอตอบแล้วดึงมือหนีอีกรอบ แต่เขาไม่ยอมปล่อย กลับกุมมือของเธอเอาไว้แน่นขึ้น ก่อนดึงไปจุมพิตเบาๆ เธอเหนียมอายร่างกายร้อนผ่าวเพียงแค่ปากหนาของเขาสัมผัสหลังมือนุ่มแผ่วเบา
“พี่โมกข์...”
“กลิ่นน้องนิ่มหอมกว่าดอกไม้ทุกชนิดในสวนเสียอีก น้องนิ่มจะเมตตาร้อยมาลัยให้พี่สักพวงได้ไหมคะ อยากเอาไปกอดหอมในห้องนอนให้ชื่นใจในค่ำคืนนี้” เขาเอ่ยถาม ใบหน้าเปื้อนยิ้มอยู่ตลอดเวลาเมื่อพิศมองใบหน้านวลผุดผ่องนั้น
“ถ้าพี่โมกข์ต้องการ เดี๋ยวนิ่มจะร้อยให้ค่ะ”
“ให้พี่ช่วยเก็บดอกไม้ไหมคะ” เขาก้มลงไปกระซิบถามที่ริมหู
“นิ่มไม่อยากรบกวนค่ะ พี่โมกข์ไปนั่งรอที่ศาลาท่าน้ำดีกว่าไหมคะ” เธอตอบอย่างเกรงใจ เอียงอายเบี่ยงหลบอย่างสุภาพ
“พี่อยากช่วย” ร่างสูงของโมกข์ขยับเข้าหา เด็ดดอกรักใส่ลงไปในตะกร้าให้อย่างเบามือ
“ดอกรัก” เขาเด็ดดอกรักมาตรงหน้าของเธอแล้วพูดเสียงนุ่ม
“ค่ะพี่โมกข์ ดอกรัก” เธอทวนคำของเขาด้วยท่าทีงุนงงเล็กน้อย เธอรู้แล้วว่ามันคือดอกรัก
“พี่ให้น้องนิ่มแทนความรัก” ประโยคถัดมาของเขาทำให้เธอหน้าแดงรับมาถือเอาไว้อย่างขัดเขินเอียงอายพลางก้มงุดด้วยหัวใจสะท้าน
“น้องนิ่มจะเด็ดดอกอะไรอีกหรือคะ พี่จะได้ช่วย” เขาเอ่ยถาม อมยิ้มเมื่อเห็นอาการขัดเขินของสาวน้อยตรงหน้า
“ดอกพุดค่ะพี่โมกข์”
“มาครับพี่ช่วย” เขาช่วยเด็ดดอกพุดให้สาวน้อยอย่างเบามือ
“แล้วใบแก้วเอาไปทำไมหรือคะ”
“ร้อยมาลัยเหมือนกันค่ะ ต้องใช้ดอกกุหลาบและดอกจำปีจำปาร้อยเป็นอุบะด้วยค่ะ” โมกข์มองสาวน้อยเก็บดอกไม้อย่างเพลินตา เธอเดินไปเก็บดอกบานไม่รู้โรยและดอกกล้วยไม้รวมถึงดอกไม้อีกหลายชนิดจนเต็มตะกร้า ด้านล่างของตะกร้ารองด้วยใบตองเอาไว้
“พี่ช่วยอะไรได้บ้างคะ” เขาเอ่ยถามขณะเดินตามเธอมาที่ศาลาริมน้ำ ไม่เคยคิดว่าตัวเองจะสนใจการร้อยมาลัย หากถ้าคนร้อยไม่ใช่แม่นิ่มน้อยยอดขมองอิ่มคู่หมั้นคู่หมายหน้าหวานของเขา โมกข์พิศมองดวงหน้าผุดผ่องหวานละมุนด้วยดวงตาหยาดเยิ้ม รอยยิ้มแต่งแต้มอยู่บนริมฝีปากของเขาอยู่ตลอดเวลา
“พี่โมกข์คัดดอกพุดให้นิ่มก็ได้ค่ะ เลือกขนาดเท่าๆ กันเวลาร้อยจะได้สวย” เธอบอกเขาเสียงหวานค่อยๆ ตัดกลีบดอกกุหลาบและใบแก้วอย่างเบามือ ก่อนจะคัดดอกจำปีจำปา พร้อมด้วยดอกบานไม่รู้โรยแยกขนาดเอาไว้อีกตะกร้าหนึ่ง
สาวน้อยนำเข็มร้อยมาลัยมาถือเอาไว้ บรรจงเสียบดอกพุดเข้าไปทีละดอกสลับกับใบแก้วแล้วก็กลีบกุหลาบทำให้มีลวดลายสวยงามเพราะสีสันของดอกไม้และใบไม้ตัดกันชัดเจน
โมกข์มองเด็กสาวร้อยมาลัยอย่างเพลินตา เธอละเอียดละอออีกทั้งยังทำงานได้อย่างประณีตงดงาม ทำให้เขานึกชื่นชมไม่น้อย
“อันนี้เรียกมาลัยอะไรหรือคะ” โมกข์ชวนสาวน้อยตรงหน้าคุยเพราะนิ่มเป็นคนพูดน้อย หากไม่ชวนคุยเธอก็จะเอาแต่นั่งเงียบ
“มาลัยชายเดียวค่ะพี่โมกข์เอาไว้ถวายพระ” เธอตอบเสียงหวานขณะร้อยมาลัยอย่างคล่องแคล่วแต่ก็สวยงามเหมือนจับวาง
“สวย”
“ขอบคุณค่ะ” เธอตอบรับ เผยยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก
“ที่สวยคือน้องนิ่ม” เขาหยอด เธอเขินแต่ก็ถามกลับไปเสียงหวานใสประดุจระฆังแก้ว
“มาลัยของนิ่มไม่สวยหรือคะ”
“มาลัยก็สวย คนร้อยก็สวย คืนนี้พี่คงนอนหลับฝันหวาน” คนพูดเขยิบเข้าไปให้ใกล้สาวน้อยอีกนิด
“อุ๊ย! พี่โมกข์” เขาจับมือน้อยเอาไว้ยกขึ้นมาดอมดม ก่อนจะซุกใบหน้าไปหอมแก้มนวลอย่างหักห้ามใจไม่ไหว
“เดี๋ยวใครมาเห็นเข้านะคะ” เธอดันใบหน้าของเขาออกห่าง คิดว่าไม่เหมาะไม่ควรที่จะมากอดกันกลางศาลาท่าน้ำเช่นนี้
“พี่ขอชื่นใจบ้างไม่ได้หรือคะ ถ้าไม่ติดว่าคุณพ่อกับุคณแม่เพิ่งเสียไปเมื่อไม่กี่เดือนมานี้พี่จะให้คุณป้าจัดการงานแต่งงานเสียตอนนี้เลย”
“เดี๋ยวร้อยมาลัยไม่เสร็จนะคะพี่โมกข์” เธอรีบบอกด้วยหัวใจเต้นแรงระคนเปี่ยมสุข
“พี่จะช่วย” เพราะกลัวมาลัยจะร้อยไม่เสร็จจริงๆ เขาจึงเร่งคัดดอกพุดให้เธออย่างแข่งขัน นิ่มยื่นมือมารับดอกพุดที่เขาคัดให้ด้วยรอยยิ้ม แต่ต้องเก้อเพราะเขาขยับมือหนี
“พี่โมกข์อย่าแกล้งนิ่มสิคะ”
“เอาครับ” เขายื่นมาอีก เธอยื่นไปรับแต่เขาดึงมือหนีอีก ก่อนที่โมกข์จะขยับใบหน้าเข้าไปหาสาวน้อยหน้าหวานเพื่อจุ๊บปากเธอเบาๆ ด้วยความมันเขี้ยว
“อุ๊ย!” นิ่มอุทานยกมือขึ้นแตะปากแล้วตาโต โมกข์ยิ้มแล้วยื่นดอกพุดให้สาวน้อย เธอไม่กล้ายื่นมือไปรับ ก้มงุดเขินอายจนวางไม้วางมือแทบไม่ถูก
“พี่ตั้งใจคัดให้เลยนะ” เขาขยับเข้าไปใกล้ พยายามมองสบตาคนที่เอาแต่ก้มงุด หยิบดอกพุดใส่มือเธอแล้วไล้วนดอกพุดกลางฝ่ามือน้อยเบาๆ นิ่มสะเทิ้นอายได้แต่เสมองไปทางอื่นเพราะไม่กล้ามองสบตาคนตรงหน้า
“ไม่ร้อยมาลัยแล้วเหรอคะ” โมกข์เอ่ยถามคล้ายเย้าเมื่อเห็นเธอเอาแต่เก้อเขิน
“ร้อยค่ะ” เธอเอ่ยตอบเมื่อเขาดึงมือออกห่าง นำดอกพุดที่เขาวางใว้กลางฝ่ามือมาร้อยมาลัยด้วยมืออันสั่นเทา พยายามควบคุมสติให้ร้อยมาลัยจนเสร็จ
“มาลัยถวายพระและวางที่หน้ารูปถ่ายของคุณลุงกับคุณป้าค่ะ” เธอวางมาลัยที่ร้อยเป็นพวงเรียบร้อยแล้วลงบนใบตองที่วางรองเอาไว้บนพาน
“พวงไหนของพี่คะ” โมกข์เอ่ยถามสาวน้อย
“นี่ของพี่โมกข์ค่ะ” เธอหยิบมายื่นให้เขา โมกข์รับไปดอมดมกลิ่นหอมกรุ่นของดอกไม้นานาพันธุ์ ทั้งกล้วยไม้ จำปีจำปาที่เธอร้อยเป็นอุบะแลดูประณีตสวยงาม
“พี่โมกข์จะรับน้ำชากับของว่างเลยไหมคะ นิ่มจะได้จัดการให้” เธอเอ่ยถามเสียงนุ่ม ไม่ค่อยกล้าสบสายตาของเขาสักเท่าใดนัก สบตาเขาทีไร หัวใจสั่นไหวรุนแรงเสียทุกครั้งไป
“วันนี้มีของว่างอะไรบ้างคะ” โมกข์เอ่ยถามภรรยา
“นิ่มทำขนมไทยโบราณค่ะ ไม่แน่ใจว่าพี่โมกข์จะรับประทานไหม ไปอยู่เมืองนอกเมืองนาเสียนานอาจจะชอบขนมของฝรั่งมังค่า”
“ขนมอะไรคะ” โมกข์เอ่ยถามอย่างสนใจ
“บุหลั้นดั้นเมฆค่ะ”
“ฝีมือน้องนิ่มหรือคะ”
“ค่ะ” เธอตอบรับเสียงหวาน
“ถ้าฝีมือแม่นิ่มพี่ก็จะชิมสักหน่อย คิดว่ายังไงต้องอร่อยแน่ๆ”
“พี่โมกข์รอประเดี๋ยวเดียวนะคะ นิ่มจะไปจัดของว่างให้” เธอบอกเสียงหวานก่อนจะผละห่างไปเรียกบ่าวไพร่ให้จัดของว่างมาที่ศาลาริมน้ำ
“น่ากินเชียว” เขาพูดกับหล่อนเมื่อสาวใช้นำน้ำชาและขนมมาจัดวางลงตรงหน้าเรียบร้อยแล้ว
“พี่โมกข์ลองชิมดูสิคะ ไม่รู้ว่าจะถูกปากขนมไทยหรือเปล่า แต่นิ่มทำสุดฝีมือเลยนะคะ” เธอบอกอย่างลุ้นๆ
“อืม... อร่อย อร่อยกว่าคุกกี้ที่พี่เคยกินเสียอีก” เขาขยับเข้ามากระซิบตอบ คนฟังยิ้มหวานแต่สบนัยน์ตาของเขาแล้วให้ความรู้สึกร้อนวูบวาบไปหมด
“พวกขนมคุกกี้นิ่มก็เคยหัดทำนะคะ เค้กก็เคยทำ หากพี่โมกข์อยากจะรับประทานนิ่มจะทำให้ลองชิมดูค่ะ”