ฝาแฝดจากยุคอดีต/1

2151 Words
ยุคอดีต “อันอัน!!!” สุรเสียงรับสั่งชื่อเล่นสตรีที่ช่วยชีวิตพระองค์ พร้อมพระหัตถ์ยื่นออกไปราวกับว่าพยายามจะไขว่คว้านางมีอันต้องหยุดชะงักโดยพลัน ห้องพักในยุคอนาคตค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นภายในกระโจมที่ประทับเข้ามาแทนที่ พระหัตถ์ยังคงยกค้างอยู่เช่นนั้นโดยที่องค์ชายหนุ่มมิทรงขยับพระวรกายเคลื่อนไหวแม้แต่น้อย พระเนตรนิลกาฬจับจ้องอยู่แต่ทิศทางซึ่งตรงกับประตูห้องพักในโลกอนาคตอยู่เช่นนั้นนิ่งนาน ก่อนจะรู้สึกพระองค์เมื่อทรงได้ยินเสียงของเหล่าทหารดังอยู่นอกกระโจม “รีบเข้าไปในกระโจมเร็วเข้า! ได้ยินเสียงท่านรองแม่ทัพเรียกองค์ชายใหญ่เอ็ดอึงไปหมด” สิ้นเสียงพูดคุย ทหารชั้นนายกองจำนวนหลายนายเปิดผ้ากระโจมซึ่งปิดประตูทางเข้าออกอย่างรวดเร็ว ติดตามด้วยเสียงที่บ่งบอกว่าดีใจมากมายยิ่งนัก “องค์ชายใหญ่เสด็จกลับมาแล้ว! พระองค์ทรงหายไปไหนมาพ่ะย่ะค่ะ!” เหล่านายกองต่างพากันส่งเสียงเอ็ดอึงเป็นการใหญ่ ก่อนจะพากันยืนแปลกใจไปตามๆ กันเมื่อเห็นร่างของรองแม่ทัพยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่เช่นนั้น “ท่านรองแม่ทัพ! เหตุไฉนจึงยืนนิ่งราวกับหินเช่นนี้… หรือว่า!!!” นายกองแต่ละนายหันกลับมามองหน้ากันทันที ทุกสายตาเหลือบไปเห็นหน้ากากสีเงินถูกถอดวางเอาไว้บนโต๊ะรูปทรงประหลาดไม่เคยเห็นที่ใดมาก่อน ในขณะที่พระพักตร์องค์ชายของตนไร้สิ้นหน้ากากปิดบัง มองเห็นเพียงด้านหลังเต็มไปด้วยพระเกศาสีดำสนิทยาวสยายจนถึงบั้นพระองค์และนั่นทำให้ล่วงรู้โดยพลันขึ้นมาทันที พร้อมเสียงขององค์ชายอิ๋งหยางมีรับสั่งแทรกขึ้นมา “พวกเจ้านำร่างของรองแม่ทัพไปจัดพิธีศพให้เรียบร้อย แล้วรีบออก ไปนอกกระโจมซะ!เพราะข้ายังไม่ได้สวมหน้ากาก” สุรเสียงรับสั่งแหบแห้งแต่มิได้อิดโรยแต่ประการใด พระเนตรปิดลงทันที เมื่อคนใกล้ตัวจบชีวิตลงอย่างไม่คาดฝันอีกแล้ว “พ่ะย่ะค่ะ!” เหล่านายกองรีบรับพระบัญชาอย่างรวดเร็ว ร่างของรองแม่ทัพที่ยืนแข็งทื่อสิ้นลมหายใจด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเบิกกว้างหากแต่แฝงเร้นความยินดีอย่างเห็นได้ชัด เมื่อก่อนตายได้พานพบองค์ชายของตน โดยมิรู้ตัวเลยว่า ชะตาได้มาถึงฆาตแล้วทันทีที่บุรุษซึ่งเกิดมาพร้อมกับดวงพิฆาตหายจากอาการบาดเจ็บ กลับมาเป็นปกติดั่งเดิม บาดแผลจากกระสุนปืนจากยุคอนาคตถูกนำออกจากพระวรกายและได้รับการรักษาด้วยตัวยาทันสมัยมากมาย ทำให้พระอาการทุเลาลงไปชั่วพริบตา ครั้นได้พานพบพระพักตร์ซึ่งปราศจากหน้ากากปกปิดครั้งนี้ ในสภาพที่เต็มไปด้วยพระสติที่หวนคืนกลับมาอย่างสมบูรณ์ จึงทำให้รองแม่ทัพหนุ่มสิ้นชีพวิบัติลงไปโดยมิรู้ตัว ทั่วร่างแข็งราวดั่งหินขึ้นมาโดยพลันเมื่อได้สบพระพักตร์พร้อมลมหายใจหลุดลอย ครั้นภายในกระโจมมีแต่ความเงียบงันหลังจากเหล่านายกองนำร่างไร้วิญญาณของรองแม่ทัพและยังเป็นองครักษ์คนสนิทของพระองค์ออกไปแล้ว เปลือกพระเนตรที่ปิดอยู่ในขณะนั้นค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างช้าๆ “ในที่สุดก็หามีผู้ใดรอดชีวิตเมื่อได้พานพบใบหน้าของข้า หามีผู้ใดรอดสักคน!” สุรเสียงรับสั่งเต็มไปด้วยความหดหู่เป็นยิ่งนัก สายพระเนตรเต็มไปด้วยความหม่นหมอง แต่แล้วเพียงครู่พระเนตรสีนิลกาฬแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน พร้อมเบิกกว้างขึ้นมาทันที พระหัตถ์ยกขึ้นสัมผัสกับพระพักตร์ของพระองค์ครั้นทรงจดจำเสียงกระซิบแผ่วชิดริมหู “ฉันขออนุญาตถอดหน้ากากออกก่อนนะท่านแม่ทัพ จะรีบเช็ดตัวให้ ไข้จะได้ลด” ถ้อยประโยคดังกล่าวทรงได้ยินอย่างชัดเจนในสภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น “อีกไม่นานจุดจบของนางก็คงไม่พ้นเหมือนดั่งเช่นผู้อื่น ขึ้นอยู่กับว่าจะตายช้าหรือเร็วเท่านั้น แต่อย่างน้อยการที่ได้พบใบหน้าของข้าในสภาพที่ไร้สติก็ยังสามารถอยู่ต่อได้อีกหลายวัน มิต้องจบชีวิตทันทีที่พบครั้นข้ากลับมาเป็นปกติดั่งเดิม" รับสั่งพึมพำพลางส่ายพระพักตร์ไปมา "แต่ข้าจะอาลัยชีวิตนางไปทำไมเล่า ในเมื่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงแค่ความฝันเท่านั้น หาใช่เรื่องจริงที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย” รับสั่งพร้อมสลัดผ้าห่มออกจากพระวรกายแต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักทันที ครั้นพระหัตถ์สัมผัสถูกผ้าที่คลุมพระวรกายใหญ่เอาไว้ในขณะนี้ ผ้าห่มผืนน้อยค่อยๆ ถูกยกขึ้นมาทอดพระเนตรใกล้ๆ ด้วยความแปลกพระทัย ผืนผ้าเนียนนุ่มส่งกลิ่นหอมของดอกไม้แห้งที่นำมาอบจนฟุ้งกระจายและหอมทนทานนานหลายวันเลยทีเดียว พระหัตถ์สัมผัสถึงความนุ่มเนียนของเนื้อผ้าได้อย่างชัดเจน ก่อนจะก้มลงทอดพระเนตรพระวรกายของพระองค์พร้อมสำรวจอย่างละเอียดถี่ถ้วน และพบว่าหลังพระหัตถ์ถูกเข็มเงินขนาดย่อมปักเสียบคาอยู่พร้อมแผ่นแปลกประหลาดปิดทับลงบนก้อนปุยสีขาว เท่านั้นยังไม่พอบริเวณข้อพับก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน พระพักตร์อันปราศจากหน้ากากปิดบังรีบหันกลับไปทอดพระเนตรสายระโยงระยางที่ต่อจากเข็มเงินดังกล่าวทันที “นี่มันคืออะไร!” รับสั่งออกมาทันใด ราวไม้อเนกประสงค์ซึ่งจางเพ่ยอันนำมาใช้แขวนถุงน้ำเกลือและขวดยาสำหรับใช้ในการรักษามากมายยังคงห้อยค้างเอาไว้อยู่เช่นนั้น ขวดยาแก้อักเสบและยาฆ่าเชื้อหมดลงไปแล้ว เหลือเพียงน้ำเกลือที่ยังคงหยดลงมาตามจังหวะที่ถูกปรับอยู่ซึ่งเหลืออีกเพียงเล็กน้อยก็จะหมด ภาพสตรีสาวร่างระหงที่เดินวนเวียนอยู่รอบพระวรกาย และคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวดูแลพระองค์ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาในขณะที่ทรงอยู่ในภาวะครึ่งหลับครึ่งตื่น ซึ่งในขณะนั้นทรงทอดพระเนตรทุกสิ่งทุกอย่างได้เพียงเลือนรางเท่านั้น เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มผุดขึ้นในความทรงจำขึ้นมาทันที “ข้าไม่ได้ฝันไป! แต่นางมารักษาอาการบาดเจ็บข้าจริง! นางมีตัวตนจริงๆ ข้าไม่ได้ฝัน! ไม่ได้ฝัน!” สุรเสียงเพียรเฝ้ารับสั่งอยู่เช่นนั้น พระพักตร์ที่มิเคยปรากฏรอยยิ้มเลยสักครากลับเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อทรงล่วงรู้แล้วว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับพระองค์หาใช่ความฝันแต่นั่นคือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ครั้นทรงเหลือบไปพบโต๊ะข้างเตียงจากโลกอนาคตปรากฏอยู่ข้างแท่นพระบรรทมยิ่งทำให้ทรงมั่นพระทัยมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม อุปกรณ์ในการรักษายังคงวางไว้อยู่บนโต๊ะรวมไปถึงถุงผ้าที่เต็มไปด้วยตัวยาทันสมัยมากมายวางอยู่ด้านล่างก็ปรากฏให้พระองค์ได้ทอดพระเนตรเช่นเดียวกัน “นางเป็นชาวแคว้นใดเล่า เหตุใดแคว้นนั้นช่างแปลกประหลาดเสียจริง ข้าวของเครื่องใช้แลดูชอบกลนัก ราวกับว่ามิใช่สิ่งที่ปรากฏในเวลานี้แต่อย่างใด” รับสั่งพึมพำก่อนจะทอดพระเนตรปิ่นหยกที่เพิ่งทำเสร็จวางไว้อยู่บนโต๊ะข้างเตียง พระหัตถ์เอื้อมไปหยิบปิ่นหยกนำมาทอดพระเนตรใกล้ๆ อย่างละเอียด และทรงพบว่าปิ่นหยกตรงพระพักตร์ที่มีพระบัญชาให้ทำขึ้นมานั้น มีลวดลายและขนาดเหมือนกับที่สตรีประหลาดมีไว้ในครอบครอง “เหตุใดปิ่นหยกที่ข้าสั่งให้ทำขึ้น ใยช่างเหมือนกับของสตรีผู้นั้นมีไว้ในครอบครองนักเล่า แล้วเหตุใดปิ่นของนางจึงสูญสลายหายไปต่อหน้าข้า ทันทีที่ปิ่นนี้มาปรากฏเคียงคู่ ช่างประหลาดเสียจริง” รับสั่งเต็มไปด้วยความสงสัยอย่างยิ่งยวด “แต่ถึงอย่างไรเสียปิ่นหยกอันนี้ก็ทำขึ้นเหมือนกับปิ่นของนางอย่างไม่น่าเชื่อ เช่นนั้นปิ่นของนางที่เคยครอบครองก็ไม่มีอีกต่อไปแล้วน่ะสิ มีเพียงของข้าเท่านั้นที่ยังคงอยู่” รับสั่งพลางกำปิ่นหยกไว้ในพระหัตถ์พร้อมรอยแย้มเยือนยิ้มออกมาบางๆ ปรากฏออกมาเป็นครั้งที่สองครั้นทรงนึกถึงสตรีที่ครอบครองปิ่นหยกที่เหมือนกับพระองค์ “นี่ข้ากำลังยิ้มอยู่หรือนี่!” รับสั่งออกมาทันทีครั้นทรงรู้สึกองค์ ความรู้สึกในยามนี้ยากเกินกว่าจะพรรณนาออกมาได้ว่าเป็นเยี่ยงไร “เจ้าเป็นคนที่ทำให้ข้ามีรอยยิ้มปรากฏขึ้นเป็นครั้งแรกในชีวิต อันอัน ข้าอยากรู้ยิ่งนักว่าเจ้ามาจากที่แห่งหนใด ใยจึงเต็มไปด้วยปริศนาและแปลกประหลาดเสียจริง” รับสั่งด้วยความสงสัยมิรู้คลาย “ทหาร!! เข้ามาหาข้า” รับสั่งพร้อมเอื้อมพระหัตถ์หยิบหน้ากากสีเงินที่วางอยู่บนโต๊ะรูปทรงประหลาดจากโลกอนาคต นำขึ้นมาปกปิดพระพักตร์หล่อเหลา งดงามรัญจวนจิตราวอิสตรีเอาไว้ดั่งเดิม เพียงครู่ทหารรับใช้รีบก้าวเข้ามาภายในกระโจมที่ประทับจำนวนสองนายเพื่อรอรับคำสั่งแม่ทัพใหญ่ “ไปตามบรรดานายกองและรองแม่ทัพที่เหลือให้มาพบข้าเดี๋ยวนี้!” สุรเสียงสั่งการออกไปทันที “พ่ะย่ะค่ะ!!” ทหารรับใช้ขานรับอย่างแข็งขัน หากแต่ยังมิทันหันหลังกลับสุรเสียงดังแทรกขึ้น “เดี๋ยว!!” รับสั่งเรียกรั้งเอาไว้ ทหารรับใช้สองนายหันกลับมาทันทีด้วยความหวาดหวั่น เมื่อบรรดานายกองที่เพิ่งนำร่างไร้วิญญาณของรองแม่ทัพออกไปจากกระโจม ต่างบอกเล่ากันว่าจู่ๆ แม่ทัพใหญ่ก็ปรากฏพระวรกายภายในกระโจมที่ประทับ ทั้งๆ ที่ตลอดสามวันที่ผ่านมา เหล่าทหารต่างพากันค้นหาแทบพลิกแผ่นดิน อีกทั้งภายในกระโจมก็ถูกค้นทุกซอกทุกมุมอย่างละเอียด แต่จู่ๆ ก็ทรงปรากฏพระวรกายขึ้นมาเอง มิหนำซ้ำพระอาการบาดเจ็บบรรเทาเบาบางลงไปอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่ยังคงเหมือนเดิมนั่นก็คือทันทีที่ผู้คนได้พานพบพระพักตร์ของพระองค์ก็ต้องจบชีวิตลงอย่างไม่รู้ตัวดั่งเช่นรองแม่ทัพคนสนิท “พระองค์มีพระประสงค์สิ่งใดอีกพ่ะย่ะค่ะ” หนึ่งในทหารรับใช้กราบทูลถามกลับไปด้วยท่าทีหวาดหวั่น พระวรกายใหญ่ทำท่าจะลุกขึ้นจากแท่นพระบรรทม แต่แล้วกลับต้องหยุดชะงักเมื่อเข็มเงินที่เสียบอยู่หลังพระหัตถ์และข้อพับดึงรั้งเอาไว้จนรู้สึก พระพักตร์ภายใต้หน้ากากสีเงินหันกลับไปทอดพระเนตรราวแขวนอเนกประสงค์ที่แขวนถุงน้ำเกลือพร้อมสายระโยงระยางทำให้พระดำเนินไปมาไม่สะดวก ก่อนจะทรุดพระวรกายลงประทับนั่งตามเดิม “เรียกสายข่าวให้มาพบข้าให้หมด!” รับสั่งกลับไปก่อนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ “อ่อ... ไปบอกโรงครัวให้เตรียมอาหารสำหรับข้า! เยอะๆ หน่อยนะเพราะข้าหิว!” รับสั่งในสิ่งที่พระองค์ต้องการ “พ่ะย่ะค่ะ” ทหารรับใช้ทั้งสองนายรีบขานรับพร้อมหันหลังกลับเดินออกจากกระโจมไปอย่างรวดเร็ว ในขณะที่องค์ชายหนุ่มหันกลับไปทอดพระเนตรสายระโยงระยางและเข็มสีเงินที่เสียบอยู่ในขณะนั้น พระหัตถ์ลงมือจัดการกระชากเข็มเงินที่เสียบติดอยู่กับพระวรกายออกมาทันที พรืด! พรืด! เข็มที่นำน้ำเกลือและตัวยาจากยุคอนาคตถูกพระหัตถ์ขององค์ชายหนุ่มดึงออกไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความรู้สึกรำคาญที่ไม่สามารถพระดำเนินไปไหนต่อไหนได้ ในขณะที่โลหิตแดงฉานไหลรินออกมาจากรูเข็มที่ถูกเจาะนั้นออกมาโดยพลัน ก่อนจะถูกพระองค์ใช้ผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงจากยุคอนาคตนำมาเช็ดพร้อมใช้นิ้วพระหัตถ์กดเอาไว้เพื่อห้ามพระโลหิตมิให้ไหลออกมา พระหัตถ์ยกเข็มที่ถูกดึงออกจากพระวรกายทอดพระเนตรด้วยความแปลกพระทัยมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม “เข็มของเจ้าสามารถรักษาอาการบาดเจ็บของข้าได้อย่างน่าประหลาดยิ่งนัก ไม่น่าเชื่อว่าน้ำเหล่านี้จะมาจากสิ่งเล็กๆ อันน้อยนิดเช่นนี้” รับสั่งพร้อมวางเข็มจากยุคอนาคตลงบนโต๊ะประหลาด ก่อนจะทอดพระเนตรข้าวของเครื่องใช้ รวมไปถึงตัวยามากมายที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงด้วยความสนพระทัยระคนสงสัย พลางเอื้อมพระหัตถ์หยิบถุงผ้าซึ่งวางอยู่ชั้นล่างสุดออกมาทอดพระเนตร และพระองค์ก็ทรงวุ่นวายกับการที่จะพยายามเปิดถุงผ้าที่ถูกรูดซิบเอาไว้อย่างแน่นหนาอยู่เช่นนั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD