ซ่า...
เสียงน้ำที่ไหลจากเรนชาวเวอร์ไหลรดร่างกำยำที่ยืนอยู่ ผมสีทองถูกสองมือสางไปมาเพื่อทำความสะอาด พร้อมไล้ลงไปตามร่างกายที่เปลือยเปล่า
“ให้มีนช่วยมั้ยคะ มันจะได้สงบ”
กลีบปากสีชมพูอ้าออก แล้วครอบลงบนลำเนื้อที่กำลังชี้ตรงเข้าหาฝาผนัง ปลายลิ้นชื้นตวัดเกี่ยวหยอกล้อกับส่วนหัวหยัก แล้วก็ดูดดึงราวกำลังกินไอติมอยู่ก็ไม่ปาน
“อา...คุณมีนครับ” เสียงทุ้มกระเส่าหนัก ในขณะที่ท่อนแข็งกำลังโดนกระทำระรัวเร็ว ฝ่ามือหนายันฝาผนังไว้ข้างหนึ่ง เมื่อความซ่านเสียวกำลังแล่นมารวมอยู่ที่จุดกึ่งกลาง
“อา..” เสียงคำรามต่ำดังก้องห้องอาบน้ำ ลาวาขาวขุ่นพุ่งทะลักออกมาจนเปื้อนผนังเต็มไปหมด
“เฮ้อ...บ้าฉิบ” ขุนเขาสบถคำออกมาเบา ๆ เมื่อภาพของหญิงสาวที่ขอร้องให้เขาช่วยเอาแต่วนเวียนรบกวนอยู่ในความคิดไม่หยุด จนต้องมาจินตนาการเพื่อช่วยตัวเองแบบนี้
อยู่มาจนถึงอายุ 35 ปี ยังไม่เคยทำเรื่องอะไรที่มันบ้าบอขนาดนี้มาก่อน แต่ภาพที่เธอหลับตาพริ้มในขณะที่เขากำลังพร่างพรมจูบไปตามผิวเนียน มันดันกระตุ้นอารมณ์จนต้องหาวิธีปลดปล่อยด้วยตัวเอง
ตื้ด ตื้ด...
ทันทีที่ก้าวขาออกมาจากห้องอาบน้ำ เสียงโทรศัพท์ที่วางเอาไว้บนโต๊ะก็ดังขึ้น แต่ยังไม่ทันจะได้กดรับสายก็ตัดไปเสียก่อน เมื่อเปิดดูก็เห็นเป็นเบอร์ของเคน แถมยังขึ้นเบอร์ที่ไม่ได้รับสายอีกหลายครั้ง
“มีธุระงั้นเหรอ” คนตัวโตพึมพำกับตัวเอง แล้วก็รีบกดโทรกลับในทันที
“มีอะไรวะไอ้เคน โทรมาทำไมตั้งหลายสาย” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายรับสายแล้ว ขุนเขาก็ถามออกไปทันที
//แกไปดีลงานกับคุณมีนยังไง เธอถึงได้มาพร่ำเพ้ออยู่ที่ร้านฉันเนี่ย//
“คุณมีน? เพ้อ? เพ้ออะไรวะ”
//ก็เธอบอกว่า เป็นเพราะแกทำให้โรคกลัวผู้ชายดีขึ้น เนี่ยตอนนี้ก็นั่งเมาอยู่ที่ร้าน แถมวันนี้เรียกเด็กมานั่งด้วยตั้งสองคน ทั้งที่ปกติไม่เคยให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้เลย//
พอได้ยินคำที่เพื่อนบอก ทำเอาขุนเขาหงุดหงิดขึ้นมาทันที เขาแค่อยากช่วยมีนตรารักษาโรคประหลาด ๆ นั่น เผื่อจะได้สานต่อความสัมพันธ์กันง่ายขึ้น ไม่ใช่หวังให้เธอไปเที่ยวเล่นกับผู้ชายคนอื่นแบบนี้
“คุณมีนอยู่กับใคร”
//มากับเพื่อนคนหนึ่ง แล้วก็เด็กที่ร้านฉันอีกสองคน//
“เออ แค่นี้แหละ”
ขุนเขาวางสายทันทีที่พูดจบ แล้วก็รีบมาเลือกเสื้อผ้าสำหรับที่จะใส่ออกไปข้างนอก เส้นผมสีทองถูกเป่าให้แห้งแค่พอหมาด ๆ จากนั้นก็รีบออกมาจากคอนโดอย่างรวดเร็ว
ด้วยความเร็วของรถที่เร่งทำความเร็วให้มากที่สุด ทำให้ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงบาร์โฮสชื่อดังที่เพื่อนของเขาเป็นเจ้าของ
ชายหนุ่มเจ้าของผมสีทองรูปร่างสูงเกิน 190 เซนติเมตร แม้จะสวมเพียงเสื้อยืดสีดำกับกางเกงขายาวสีเดียวกัน แต่เขาก็ยังดูดีและมีเสน่ห์ จนสายตาหลายสิบคู่ต้องเหลียวมอง
“เธออยู่โต๊ะไหน” ขุนเขาถามขึ้นทันทีเมื่อเห็นหน้าเพื่อนสนิทที่กำลังง่วนอยู่ในบาร์
“ใคร?”
“ก็คุณมีนไง เธออยู่โต๊ะไหน”
ท่าทางร้อนใจของเพื่อนทำเอาเคนหัวเราะอยู่ในลำคอ ทีแรกก็คิดแค่ว่าอาจจะคุยกันถูกคอ แต่อาการของขุนเขาดันแสดงออกชัด
“อยู่ที่โต๊ะด้านในนู่นไง”
ขุนเขาตวัดสายตาไปตามทางที่เพื่อนบอก ก็เห็นมีนตราในชุดเดรสสายเดี่ยวสีฟ้า ผมสั้นสีดำสนิทที่ปล่อยธรรมชาติไม่ได้จัดทรงอะไรมาก มันทำให้เธอดูสวยและน่ารักมากทีเดียว
แต่มันไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องนี้ เพราะข้างกายของเธอขนาบข้างด้วยชายหนุ่มหน้าตาดีถึงสองคน และคงเป็นเด็กในร้านตามที่เพื่อนเขาบอก
สองขารีบก้าวไปยังโต๊ะนั้นทันที แต่พอไปถึง คนที่เมาไปแล้วไม่ได้สนใจสักนิดว่าใครมายืนอยู่ตรงหน้า ที่เห็นตกใจก็คงเป็นผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ด้วยกัน คงเป็นเพื่อนเธอตามที่เคนบอก
“คุณขุนเขาเหรอคะ” เสียงมีนาถามขึ้น พร้อมกับดวงตาที่มองชายหนุ่มอย่างไม่ค่อยเชื่อตาตัวเองนัก
“ครับ ผมขุนเขาครับ”
“ดูดีอย่างที่ไอ้มีนบอกเลยค่ะ”
ไม่รู้ว่ามีนตราไปเล่าอะไรให้เพื่อนฟังแล้วบ้าง แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของอีกฝ่ายที่กำลังมองเขาอยู่ ก็คงจะเล่าไปเยอะพอสมควร
“ไอ้มีน ไอ้มีน คุณขุนมา” มีนารีบสะกิดบอกเพื่อนที่กำลังคุยหยอกล้อกับสองหนุ่ม
“ใครมานะมีนา เอ๊ะ คุณขุนเหรอคะ”
มีนตราหันไปถามเพื่อนซี้ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่เธอเงยหน้าขึ้นมามอง ทำให้เห็นผู้ชายตัวสูงคนหนึ่งยืนอยู่พอดี แถมนัยน์ตาสีฟ้าคู่นั้นกำลังจ้องเธอเขม็งอีกต่างหาก
“เหมือนอาการจะดีขึ้นเยอะเลยนะครับคุณมีน” เสียงทุ้มต่ำที่ลอดออกมาตามไรฟันนั้น ก็เพราะขุนเขากำลังสะกดอารมณ์ที่ไม่ชอบใจยู่ข้างใน และพยายามท่องเอาไว้ว่าเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน
“แหม เป็นเพราะคุณเลยนะคะ มาเร็วค่ะ มานั่งนี่มา” ฝ่ามือเล็กตบลงบนโซฟาเรียกให้เขาไปนั่งข้างตัวเอง พร้อมกับดวงตาหวานฉ่ำเยิ้มจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ช้อนขึ้นมามอง
“เมาขนาดนี้ กลับห้องดีกว่าครับคุณมีน” ขุนเขาพูดขึ้นพร้อมกับดึงแขนเล็กให้ลุกตาม แต่มีนตราก็ยังดื้อดึง
“ยังไม่เมาเลยค่ะ ใครว่ามีนเมา”
เสียงลมหายใจถูกพ่นออกมายาว ๆ ทันทีที่ได้ยินเธอบอกว่าตัวเองไม่เมา ใครมันจะไปเชื่อ ขนาดนั่งยังเอนไปเอนมา
“เอ่อ...คุณ”
“มีนาค่ะ”
“คุณมีนากับคุณมีนมาที่นี่กันยังไงครับ”
เมื่อเห็นว่าคุยกับมีนตราไม่รู้เรื่อง ขุนเขาเลยหันมาคุยกับมีนาแทน เพราะดูแล้วคงไม่ได้ดื่มไปเยอะเท่าไหร่
“มีนาเอารถมาค่ะ ไปรับมีนมาจากคอนโด” มีนารีบตอบทันควัน เธอเองก็อยากจะให้เพื่อนกลับแล้วเหมือนกัน แต่พยายามอยู่นาน มีนตราก็ไม่ยอมกลับสักที
“ถ้าอย่างนั้นคุณมีนากลับได้เลยนะครับ ส่วนคุณมีนเดี๋ยวผมพาไปส่งเอง”
“ได้ค่ะ งั้นฝากคุณขุนด้วยนะคะ มีนากลับก่อนนะคะ”
ไม่ใช่อยากจะทิ้งเพื่อนไว้กับผู้ชายที่เพิ่งรู้จัก แต่เขาดันเป็นคนเดียวที่มีนตราอยู่ด้วยแล้วไม่กลัว และสามารถทำให้ไอ้โรคกลัวผู้ชายทุเลาลง ถ้าเพื่อนจะสานต่อกับผู้ชายคนนี้ก็น่าจะดี
มีนาลุกออกไปแล้ว คราวนี้ขุนเขาก็ตวัดสายตามามองชายหนุ่มสองคนที่ยังนั่งอยู่ สายตาแบบนี้ใครเห็นก็คงไม่กล้าอยู่ใกล้ พวกเขารีบลุกออกไปจากโต๊ะทันที
“กลับคอนโดกันครับคุณมีน”
“กลับก็ได้ค่ะ” คนเมาทำเสียงอ่อน แต่ก็ยอมลุกขึ้นแต่โดยดี ถึงแม้ว่าจะเซไปซ้ายทีขวาทีก็ตาม
“เดินดี ๆ ครับ เดี๋ยวล้มลงไปจะเจ็บตัวเปล่า ๆ” วงแขนโอบกอดเอวบางเอาไว้ ประคองมีนตราเดินออกมาทางหน้าร้าน จากนั้นก็เปิดประตูรถจัดแจงให้เธอนั่ง แล้วรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว
“อายุแค่นี้ ทำไมดื่มเยอะขนาดนี้”
“มีนโตแล้วนะ อายุตั้ง 24 แล้ว”
ถึงจะเมา แต่ความสามารถในการเถียงไม่ได้ลดลงเลยแม้แต่น้อย แถมตอนนี้ก็เต้นไปมาในรถไม่หยุดอีกต่างหาก
ใช้เวลาร่วมสองชั่วโมง รถยนต์คันหรูก็มาจอดอยู่ที่หน้าคอนโดที่เขาเคยมาส่งเธอแล้วครั้งหนึ่ง ขุนเขาประคองคนตัวเล็กให้เดินมาตามทาง จนมาถึงห้องของเธอ แต่ยังไม่ทันได้ถึงห้องนอน คนเมาก็หลับไปเสียแล้ว
“อาการดีขึ้นหน่อยก็ปล่อยตัวแบบนี้ สงสัยต้องควบคุมสักหน่อยมั้ง” ขุนเขาพูดกับตัวเองในระหว่างที่กำลังวางมีนตราลงบนเตียงนอน จัดแจงท่าทางที่คิดว่าเธอน่าจะนอนสบายที่สุด โชคดีที่วันนี้ไม่อ้วกเลอะเสื้อผ้าจนต้องเปลี่ยนชุดให้เหมือนคราวก่อน
ขุนเขาปล่อยให้มีนตรานอนหลับอยู่ในห้อง ส่วนตัวเองก็ออกมานอนเฝ้าเธอที่โซฟาตัวเดิม
“อย่านะ อย่าทำมีน อย่าทำ แม่จ๋า ช่วยมีนด้วย”
จู่ ๆ เสียงของมีนตราก็ดังขึ้น ทำให้ขุนเขาที่นอนหลับอยู่บนโซฟาสะดุ้งตื่น เขารีบเปิดประตูเข้าไปดูเธอในห้องนอนทันที ภาพที่เห็นคือ เธอกำลังนอนกระสับกระส่ายอยู่บนที่นอน คล้ายกำลังฝันร้าย
“อย่าทำมีน แม่จ๋า มีนไม่ได้ทำ อย่าทำมีน”
ร่างเล็กดิ้นไปมาบนที่นอน จนขุนเขาต้องรีบจับเธอเอาไว้ แต่เหมือนว่าเธอจะหลับลึกเกินกว่าจะตื่นขึ้นมา
“คุณมีน ไม่เป็นไรนะครับ ไม่เป็นไร” ฝ่ามือหนาลูบลงบนเส้นผม โน้มใบหน้าลงไปใกล้แล้วพูดอยู่ข้างใบหู หวังเพียงให้เธอสงบลง
“ช่วยมีนด้วย ช่วยมีนด้วย” มีนตรายังพูดคำเดิมอยู่ซ้ำ ๆ มือเล็กปัดป่ายคล้ายกำลังหาที่ยึดเหยี่ยว จนคว้าได้แขนของขุนเขา แล้วเธอก็กอดเอาไว้แบบนั้น
“ไม่เป็นไรนะครับ ผมอยู่ข้าง ๆ แล้ว”
เมื่อพยายามแกะมือเล็กออกจากแขนแล้วแต่ไม่เป็นผล ทำให้ขุนเขาจำเป็นต้องเอนกายลงนอนข้างเธออย่างช่วยไม่ได้
นัยน์ตาคมจ้องมองคนที่หลับสนิท ความรู้สึกมากมายตีรวนอยู่ในอก ตลอดเวลาสิบปีที่ผ่านมาก็ไม่ใช่ว่าจะขาดแคลนผู้หญิง เขายังสามารถหาคนมาช่วยปลดปล่อยได้ตลอด แต่ไม่รู้ทำไม กับมีนตรากลับมีความรู้สึกที่ต่างออกไป
มันเป็นความรู้สึกที่อยากให้เธอหลุดพ้นจากสิ่งแย่ ๆ ที่กำลังกัดกินหัวใจของเธอ
///////////////////////////////////////////////////////