Ep.1 : งานใหม่ของเอวา

2573 Words
ฉันหนีออกจากบ้าน เพื่อมาเรียนรู้งานกับคนที่สุดยอดมาก ฉันเป็นแฟนคลับเขา อะ ติ่งอ่าว่าง่าย ๆ แต่ฉันไม่ใช่ติ่งดาราหรือนักร้องอะไรหรอกนะ แต่ฉันเป็นติ่งนักเขียน เขาเป็นนักเขียนที่เก็บตัวมาก ๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาคือใคร นอกจากเขามีน้ำปากกาว่า เพชรน้ำหนึ่ง ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นใคร เป็นหญิงหรือว่าชาย เขาไม่เคยเปิดเผยตัว ไม่เคยไปเปิดงานแจกลายเซ็นต์ที่ไหน แต่วันนี้จู่ ๆ เขาก็เปิดรับสมัครผู้ช่วย แต่มันติดปัญหาตรงที่ เขารับแต่ผู้ชายเท่านั้น รายละเอียดการสมัคร ตำแหน่งงาน ผู้ช่วยนักเขียน -อายุ 20 ปีขึ้นไป -จบอักษรศาสตร์ -มีความอดทนสูงมาก ๆ -เพศชายเท่านั้น มันเลยทำให้ฉันต้องมาถึงที่นี่ เอ่อออ คือ นี่ฉันมาสมัครงานในบ้านร้างเหรอ?? ฉันแหงนมองดูเคหะสถานที่อยู่ตรงหน้า ที่ต้องเรียกว่าบ้านร้าง เพราะมันให้บรรยากาศบ้านผีสิงสุด ๆ ไปเลย เรือนไทยเก่า ๆ ที่อยู่แถวสมุทรปราการ มีกลิ่นของดอกปีปที่ลอยตลบอบอวล และประตูรั้วที่เก่าสยองพอ ๆ กับบ้านที่อยู่ตรงหน้าของฉันเลย นี่มันหลอนเกินไป พอเข้าใจว่าคนแต่งนิยายสยองขวัญต้องการแรงบันดาลใจ แต่แบบนี้มันเกินไปไหมอ่า ฉันมองสำรวจข้างทางที่พร้อมจะ.....อ้วก!!! แน่นอนรัดหน้าอกจนแทบหายใจไม่ออก แถมคันหัวเพราะไอ้วิกงี่เง่า จะตัดสั้นเลย ก็ใจกากทนไม่ได้ที่จะตัดผมที่ไว้มาหลายปี ให้ได้งานก่อนแล้วกัน ค่อยไปตัด “คุณเอ็มใช่ไหมครับ ท่านรออยู่ข้างในแล้วครับ” เสียงชายแก่ที่เดินเข้ามาหาฉัน ทำให้ฉันต้องสะดุ้งโหยง นี่มันครบสูตรหนังผีมากเลยนะ “ครับ” ฉันตอบแบบกล้า ๆ กลัว ๆ เพราะว่ากลัวจะถูกจับได้ ทำได้แค่ทำตัวให้แมนที่สุด เท่าที่จะทำได้ แล้วเดินตามคุณตาเข้าไปในบ้านผีสิงนี่ . . “อรรถพล อักษรศิลป์ อายุ 27 ปี นี่มันคนแคระหรือยังไง ทำไม 27 ถึงดูหน้าหวานเป็นตุ๊ด ตัวเล็ก ผอมแห้งแรงน้อย จะทำงานอะไรได้” ผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาสำรวจตัวฉัน แต่!!! มีอีกคนที่นั่งอยู่หลังฉากกั้น ต้องเป็นคุณเพชรน้ำหนึ่งแน่ ๆ เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายนะ “ครับ ผมน่าจะได้ยีนด้อยมาเยอะ” ฉันตอบออกไปตาก็ยังชะเง้อมองคนที่อยู่หลังฉากกั้นนั่น ลึกลับจังเลย ทำไมแค่สัมภาษณ์งานต้องซ่อนตัวนะ แต่กรี๊ดดดดด ตื่นเต้นจนจะไม่ไหวแล้ว “มาช้า มาเป็นคนสุดท้าย รู้ไหมว่านายน้อยมีพนักงานในใจแล้ว” ผู้ชายที่เดินเข้ามาหาฉัน แล้วดึงใบสมัครจากมือของฉัน “อย่าตัดสินคนจากหน้าปก และอย่าเพิ่งปิดหนังสือหากไม่ได้อ่านมัน ได้โปรดสัมภาษณ์ผมก่อน” ไม่ได้นะ ไม่ได้ อย่าทำกับฉันแบบนี้ ฉันต้องการงานนี้มาก ๆ “เหตุผลอะไร ทำไมผมถึงต้องรับคุณเข้าทำงาน” เสียงทุ้มต่ำจากคนที่อยู่หลังฉากกั้น ทำให้หัวใจฉันเต้นรัว เขาเป็นผู้ชาย!!! ฟังจากเสียง อายุไม่มากเท่าไหร่แน่ ๆ แต่จะตอบคำถามนี้ว่ายังไงดี ตอบง่าย ๆ หรือตอบเอาสวยงาม “เพราะฉันต้องการที่จะเรียนรู้งาน…..” “ไล่กลับไป” ฉันยังพูดไม่ทันจบ คำสั่งที่ไล่ฉันไปเหมือนสายฟ้าฟาด อะไรกันฉันตอบผิดอย่างงั้นเหรอ ฉันตอบอะไรผิด “ทำไมถึงไล่ผมครับ” “เพราะฉันต้องการคนที่พร้อม ไม่ใช่คนที่จะมาเรียนรู้ มีคนอีกมากมายที่พร้อม” เหตุผลที่ได้รับทำให้ฉันเข่าแทบทรุด การรอคอยหลายปีจบลง เพียงแค่ตอบคำถามผิด โอ๊ยยยยยย!!! ไม่ได้นะ “ได้โปรด จะให้ผมทำอะไรก็ได้ เป็นคนใช้ก็ได้ ขอเพียงแค่ให้ผมได้งานนี้ มันคือการเดิมพันทั้งชีวิตของผมเลย ตอนนี้คุณไม่มีงานหนังสือออกมาสักพักแล้ว” สิ่งที่ฉันพูดทำให้ผู้ชายตัวใหญ่พยายามที่จะไล่ฉันออกไป อะไร มันจะจบแค่นี้เองเหรอ มีเหรอที่คนอย่างฉันจะยอม!!! ฉันดันสู้กับคนตัวใหญ่แต่เขากลับทั้งผลัก ทั้งดันให้ฉันออกไปจากบ้าน “ความพยายามดี ฉันชอบนะ ไปอยู่กับสำนักพิมพ์เถอะ ที่นี่อาจจะไม่เหมาะ” คนตัวใหญ่ไม่พูดเปล่าพยายามจะดันฉันออกท่าเดียว “ผมเป็นแฟนนิยาย ตั้งแต่รุ่นแม่ของคุณ หนังสือของคุณผมมีทุกเล่ม ถ้าไม่ใช่คุณ มันก็ไม่มีความหมาย” ฉันตะโกนบอกคนที่นั่งอยู่หลังฉาก แข่งกับคนที่พยายามจะดันฉันออก “ไทม์ เอาระเบียบการให้คุณอรรถพลดู” “นายน้อย เอาขี้ก้างมาทำไมละคร้าบ เฮ้ออออ เอาเถอะ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ช่างแก” ผู้ชายที่ชื่อไทม์ ส่งกระดาษมาให้ฉันดู ซึ่งฉันก็อ่านมันอย่างละเอียด ระเบียบการอยู่ร่วมกัน 1. ห้ามมีเรื่อง ห้ามทะเลาะวิวาท ห้ามก่อปัญหาภายในบ้าน 2. บริเวรชั้นสองทางเดินด้านขวา ห้ามไปเด็ดขาด 3. สั่งให้ทำอะไร ห้ามมีข้อแม้ ต้องทำทันที ห้ามพูดคำว่าเดี๋ยว ถ้าพูดปรับ 500 บาท ต่อ 1 คำ 4. ถ้ามีต้นฉบับนิยายรั่วไหล ทางเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และไม่ใช้ช่องทางกฏหมาย 5. ที่อยู่ของการทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง ต้องพร้อมที่จะทำงานอยู่ตลอดเวลา ผลประโยชน์ที่ได้รับ -เงินเดือน 32,000 บาท -ค่าออกต่างจังหวัดต่างหาก วันละ 1,000 บาท “เดี๋ยวนะครับ แล้วค่าเดินทาง วันหยุด” ฉันถามเพราะมันมีรายได้แค่ส่วนเงินเดือนกับ ค่าออกต่างจังหวัด ไหนค่าเดินทาง ค่าประกัน ค่าบรา ๆ ไหนสวัสดิการอย่างอื่น ๆ อีกอื่า “เดินทางอะไร นอนที่นี่ กินอยู่ที่นี่ จะเดินทางอะไร” “กินอยู่ที่นี่!!!!” “ใช้คำว่าเจ้านายอยู่ที่ไหน เราก็อยู่ที่นั่น มีเมียหรือแฟนเปล่า ถ้ามีไปบอกเลิกซะ ทำงานตลอดเวลา ไม่มีเวลาให้แฟนหรอก” คนที่ชื่อไทม์ ดึงกระดาษออกจากมือของฉัน พร้อมกับตบไหล่จนตัวฉันแทบจะปลิว “งานมีอะไรบ้างครับ ไม่เห็นมีบอก” ฉันถามถึงหน้าที่ที่ชัดเจน ไม่มีใครรู้เลยว่า เพชรน้ำหนึ่งหน้าตาเป็นยังไง แล้วงานที่เขารับสมัคร ก็ไม่รู้ว่างานอะไรด้วย “ทำตามที่นายน้อยสั่ง เริ่มงานวันนี้เลย ฉันจะพาแกไปดูห้องนอน อะเซ็น เซ็นยอมรับกฎ และเข้าทำงานซะ” ปากกาถูกส่งมาให้ฉัน ฉันไม่เคยเจอการสมัครงานอะไร ที่ไม่มีระเบียบการอะไรเลย ไม่มีขอบเขตของงานอะไรเลยด้วย แต่ฉันเองก็ยังเซ็นต์รับงานที่ดูยังไงก็ไม่เห็นความเป็นธรรมเลย “ผมต้องกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อน” มีแค่กางเกงในกับชุดชั้นในชุดเดียว จะอยู่ยังไงตัวเธอ “ถ้าอย่างงั้น เจอกันที่นี่ตอนเช้า ห้ามช้าอีกนะ นายน้อยเป็นคนตรงต่อเวลามาก….” ฉันไม่ได้ฟังคนชื่อไทม์พูดจนจบ เพราะฉันสนใจผู้ชายที่อยู่หลังฉากกั้นที่ตอนนี้ลุกขึ้นจากเก้าอี้ ไอ้ฉากบ้านี่ทำไมสูงจัง ไม่เห็นอะไรเลย แต่ดู ๆ แล้ว น่าจะสูงมาก ๆ อยู่นะ “แล้วผมจะต้องเรียกเจ้านายว่าอะไร” “เรียกนายน้อยไง ถามมากจริง ที่นี่ทุกคนเรียกเขาแบบนี้ ไปเอาเสื้อผ้าของแกมาได้แล้ว อายุ 27 งั้นเหรอ มึงกินอะไรเป็นอาหารรวะ หน้าไม่เหี่ยวเลย” “ตีนนน!!!! ไก่ มันมีคอลลาเจนสูงครับ ผมขอตัวลา เจอกันพรุ่งนี้ครับ” เฮ้อออออ เอาชื่อพี่เอ็มมาใช้ ถ้าพี่เอ็มรู้เอาตายแน่ ๆ เลย แต่ยังไงก็ได้งานแล้ว เยสสสสส ต่อจากนี้ไป ฉันจะได้อยู่ใกล้ ๆ กับนักเขียนที่ฉันคลั่งใคล้แล้ว ว่าแต่ทำไมมันง่ายจัง... Rrrrrrr Rrrrrrrr Rrrrrrrrr [ M Called ] ตายยากจัง บ่นถึงปุ๊บก็โทรมาเลย สายสนทนา “คะ พี่” [ เอมิกา อยู่ที่ไหนได้ ] เรียกเต็มยศเลย โกรธอะไรอ่า “มาสมัครงาน ได้งานแล้วนะ เป็นผู้ช่วยนักเขียนของเพชรน้ำหนึ่ง ดีใจกับน้องหน่อย น้องทำได้ เห็นไหมบอกแล้วว่าน้องทำได้” [ มันเป็นผู้หญิง หรือผู้ชาย ไม่เคยมีใครเห็นตัวมัน ] ถ้าบอกว่าผู้ชาย ไม่ได้ทำงานแน่ “ผู้หญิง สวยมาก สมชื่อเพชรน้ำหนึ่งเลย” [ ดีใจด้วย แล้วก็ตั้งใจทำงานล่ะเอวา แกมีเวลาเล่นสนุกแค่ปีเดียวนะ ] “แน่นอนอยู่แล้ว พี่ไม่ต้องห่วงเลย ครบปี กลับบ้านแน่นอน” [ ก็ดี พ่อให้เวลาแกแค่ปีเดียว หมดเวลาก็ต้องกลับมาทำงานที่บ้านได้แล้ว เข้าใจนะ ดูแลตัวเองดี ๆ อย่าดื้อ อย่าซนให้มันมากนัก ] จบการสนทนา บ่นนักกดสายทิ้งเลย ใครจะไปอยากฟัง กลับบ้านไปเตรียมตัวดีกว่า เพชรน้ำหนึ่ง เพชรน้ำหนึ่ง ฉันได้มาอยู่กับเพชรน้ำหนึ่ง มีความสุขจังเลยยยย เช้าวันต่อมา ฉันเตรียมตัวพร้อมที่จะมาทำงาน ด้วยกระเป๋าเดินทาง 4 ใบใหญ่ ผ้าอนามัย ชุดชั้นใน ทุกอย่างพร้อม ฉันปิดเครื่องโทรศัพท์ เพื่อกันการโทรมาทุกกรณีของคนที่บ้าน วันนี้แหละ ฉันจะได้เรียนงานเขียน เมื่อคุณตาคนเดิมเปิดประตูให้ฉันเข้ามาในบ้าน เสียงครวญครางของหญิงสาวก็ดังมาเป็นระยะ มันทำให้ฉันก้าวขาไม่ออก เสียงดังกลางบ้านเลยเนี่ยนะ นี่มันอะไรกัน “นี่มึงจะย้ายบ้านเลยรึไง” ผู้ชายที่ชื่อไทม์เมื่อเห็นฉันลากกระเป๋าใบใหญ่มาก็ทักทายกันอย่างเป็นมิตรทันทีเลย “ผู้หญิงที่ไหนครางอะพี่” ฉันถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น “มึงไม่ต้องเรียกกูพี่ อายุเท่ากัน นายน้อยไม่เข้าใจฉากในนิยาย เลยจัดเด็ก เพื่อเข้าใจความหมายของความรู้สึกที่จะบรรจงเขียนเป็นตัวหนังสือ” เท่ากันกับผีอะไร ฉันอายุ แค่ 22 เอง พี่เอ็มต่างหาก 27 ขวบอ่า ผู้ชายที่ชื่อไทม์ช่วยฉันยกกระเป๋าไปที่ชั้น 2 ฝั่งด้านซ้าย บ้านที่นี่มันเก่าดีจริง ๆ เมื่อมาถึงห้องนอนก็เจอเตียงนอนสี่เสาแบบโบราณ โต๊ะเครื่องแป้งก็โบราณ มันจะมีผีโบราณด้วยไหมเนี่ย “ที่นี่มีผีไหมครับ” ฉันหันไปถามพี่ไทม์แบบหวาด ๆ “เคยมี ตอนนี้ก็มีอยู่มั้ง ไม่รู้ดิ กูก็ไม่เคยเจอ ไม?? มึงกลัวเหรอ” ผู้ชายที่ชื่อไทม์กอดเข้าที่คอของฉัน จนฉันต้องผลักเขาออก พอมาอยู่ในห้องนอนแบบนี้ เสียงครางที่เคยอยู่ไกล ๆ ก็ยิ่งดังชัดเจนขึ้น [ อ๊าาาา ซี้ดดดดด ครูขาาาาเบาหน่อยค่ะ โอ้วววววว อื้มมมมม สุดยอดดดเลยยยย ] คุณครูอย่างงั้นเหรอ!!! “ทำใจ เดี๋ยวก็ชิน มันเป็นการเข้าใจตัวละคร เคยไหมมึง อะไรแบบเนี้ย อยากลอง นายน้อยเสร็จ มึงก็ไปดีลได้นะ โคตรสวย แต่ยังไงก็ต้องต่อกู “ผู้หญิงไม่ใช่รถประจำทาง ถึงจะมาต่อคิวขึ้นรถ” มาต่อคงต่อคิวอะไรกัน ฉันไม่มีอะไรให้จิ้มสักหน่อย “มึงไปอยู่ขุมไหนมา เดี๋ยวกูปั้ดตบกะโหลกร้าว กูไม่ได้บังคับเขา มันเป็นงานเขา เราจ่ายเงินซื้อความสุขที่เขายินดี เขาไม่ยินดี กูก็ไม่เอา มึงต้องเข้าใจ งานแบบนี้มันคืองานให้ความสุข เราไม่ได้ด้อยค่าหรือทำไม่ดีกับเขา มึงคิดว่าวันหนึ่งเขาทำงานได้มากขึ้น มีเงินจุนเจือครอบครัวมากขึ้น ดูจากหน้าตาผิวพรรณ มึงคงจะมาจากครอบครัวคนรวยสินะ เข้าใจหน่อย คนจนมันก็ต้องปากกัดตีนถีบ” คนชื่อไทม์สอนฉันซะยาวเหยียด มันเป็นงานอย่างงั้นเหรอ ฉันจะต้องเข้าใจมันใช่ไหม แต่ฉันไม่ชอบไง ผู้หญิงพวกนี้ทำให้พ่อไม่มีเวลาให้ฉัน พี่เอ็มก็ด้วย “ครับ ผมเข้าใจแล้ว” “เอออ มึงก็รีบเก็บของ เผื่อนายน้อยจะต้องการอะไร รีบเป็นงาน กูจะต้องกลับไปอยู่เชียงใหม่ มึงก็ดูแลนายน้อยอยู่ที่นี่ เสร็จงานเมื่อไหร่ มึงก็พานายน้อยกลับเชียงใหม่ด้วย” “ห๊ะ!!! เอ่ออ ครับ” ฉันร้องเสียงหลง ไม่ใช่แค่มาเป็นผู้ช่วยเขียนงานเหรอ!!!! ไม่เป็นไร เหมือนพวกดูแลนักเขียนก็ต้องทำทุกอย่างละมั้ง ก็เราบอกไปแล้วนี่ ว่าจะทำให้เค้าทุกอย่าง [ ไอ้ไทม์!!!! ส่งเด็กหน่อย ] เสียงตะโกนเรียกทำให้คนที่อยู่กับฉันสะดุ้ง “ไอ้เอ็ม มึงตามกูมา กูจะสอนมึงส่งเด็ก” คำสั่งจากรุ่นพี่ทำให้ฉันต้องเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ หญิงสาวสูงหุ่นนางแบบเดินออกจากห้องริมสุดฝั่งขาว ก้าวออกมาจากห้องพร้อมกับแบงก์พันหลายใบในมือ “มีอีก เรียกฉันได้เลยนะคะ” หญิงสาวกระซิบบอกพี่ไทม์ ทำให้ฉันแต่สงสัย ผู้ชายที่อยู่ในห้องนั้น อยากจะไปเห็นหน้าสักครั้ง “ไอ้เอ็ม มึงรออะไร ไปส่งเด็ก” “อะ ค้าบบบบบ ๆ” ฉันต้องรีบวิ่งตามพี่ไทม์และผู้หญิงคนนั้นลงมาที่ชั้นล่าง เพื่อส่งเธอ เอ่อออ ขึ้นรถตู้อย่างงั้นเหรอ มีรถตู้ด้วยเหรอ “รถของโมเดลลิ่ง จะมารับเมื่อเสร็จงาน เราก็แค่มาส่งแล้วจบ ตอนนี้นายน้อยคงจะปิดตัวเองอยู่ในห้องเขียนนิยาย ไปเถอะ...ฉันจะพาแกเดินสำรวจบ้าน” อีกด้าน “เอวางอนอะไรอีก เก็บเสื้อผ้าไปไหน” ชายวัยกลางคนถามสาวใช้ในบ้าน ถึงลูกสาวที่หายไป “มันบอกจะไปทำตามความฝัน พ่อบอกจะให้เวลาน้องมัน 1 ปี ตอนนี้มันก็เลย เก็บเสื้อผ้าไปอยู่กับไอ้นักเขียนเพชรน้ำหนึ่ง ได้ข่าวว่าเป็นผู้หญิงที่สวยมากด้วย” อรรถพล หรือ เอ็มผู้เป็นพี่ชาย เอ่ยบอกคนเป็นพ่อ ถึงน้องสาวที่หายตัวไป “ฉันก็เออออกับมันไปแบบนั้น เอาเถอะ หลังจากนี้เอวาจะได้มาอ้างนู่นนี่นั่นไม่ได้อีกแล้ว” “ตอนนี้ พ่อก็ปล่อยน้องไปก่อน ให้มันได้เพ้อเจ้อของมันไป วันนี้ฉันจะเข้าบริษัท พ่อจะฝากอะไรไหม” อรรถพลขยับเนกไท แล้วหยิบเสื้อสูท เตรียมจะออกบ้าน “ยอดทัวร์ตก จัดการหน่อย” “อะได้” ลูกชายรับคำอย่างว่าง่าย "มีคอมเพลนจากลูกค้า จัดการด้วย" "ได้" “หาเมียด้วย” คำขออีกครั้งจากคนเป็นพ่อ กลับไม่ทำให้อรรถพลเคลิ้มตาม แถมยังปฏิเสธแทบจะทันที “พักก่อนนนนน ยังไม่อยากมี ฉันยังอยากเป็นคนของประชาชนอยู่ ไปหาให้เอวานู่น” “ใครมันจะเจาะไข่แดงลูกสาวฉัน มันได้ตายไม่ดีแน่”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD