หลังจากที่การเปิดพินัยกรรมจบลงอัยรินทร์ก็ขึ้นมาสงบสติอารมณ์ของตัวเองบนห้อง สิ่งที่เครียดในตอนนี้มากที่สุด ไม่ใช่เรื่องที่เธอถูกแย่งการบริหารงานของวัฒนะกรุ๊ปแต่เพียงผู้เดียวไป แต่มันเป็นเรื่องที่เธอได้รู้ว่าผู้ชายคนที่เธอมีอะไรด้วยที่อังกฤษในวันนั่นคือน้องชายแท้ๆคือเธอเอง
“ฉันจะทำยังไง..ฉันจะทำยังไงต่อไปดีจะมองหน้าเขายังไง จะพูดจะคุยยังไงกับเขาดี..”
อัยรินทร์นั่งลงบนเตียงด้วยสีหน้าเครียดจัด เพราะไม่รู้ว่าจะต้องจัดการกับเรื่องนี้ยังไง
กริ๊งงง กริ๊งงง >>>
เธอหันมามองที่หน้าจอมือถือของตัวเองก็เห็นเป็นเบอร์ของแม่โทรเข้ามา จึงรีบกดรับทันที
“สวัสดีค่ะแม่ แม่มีอะไรจะคุยกับอัยหรือเปล่าคะ..?”
(...)
ปลายสายเงียบไม่ได้พูดอะไรจนอัยรินทร์แปลกใจ
“แม่คะ..แม่ได้ยินอัยไหมคะ..?”
(...)
เสียงเงียบยังไม่มีใครพูดอะไรออกมา
“อัยขอวางสายก่อนนะคะแม่ อัยไม่ได้ยินเสียงแม่เลย..”
อัยรินทร์กำลังจะวางสายลงแต่
(ผมเอง..)
“...”
อัยรินทร์อึ้งไปทันทีที่ได้ยินเสียงของคนในสาย และเธอก็รู้ได้ทันทีว่านี่เป็นเสียงของใคร
(ผมอยากเจอพี่..ออกมาเจอกับผมข้างนอกหน่อยได้ไหม..?)
“...”
เธอไม่ตอบอะไรอกไป และคราวนี้เธอกลับเป็นฝ่ายเงียบแทน
(ผมจะรออยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงปากซอยบ้านพี่นะ..ผมจะรอจนกว่าพี่จะออกมา)
“...”
เขาพูดจบก็วางสายลงทันที แต่เธอในตอนนี้กลับยังอึ้งพูดอะไรไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าควรจะออไปเจอเขาดีไหม
...
ผ่านไป 3 ชั่วโมง
เวลา 5 ทุ่ม
อัชวินทร์ออกมานั่งรอเธอตามที่บอกอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวหน้าปากซอยตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนร้านใกล้จะปิดเขาไม่รู้จะไปรอเธอตรงไหนเพราะเส้นทางเขาก็ยังไม่คุ้นดีมากนัก จึงมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวรอแต่เพราะความเกรงใจเขาจึงต้องสั่งก๋วยเตี๋ยวทานไปด้วยเพื่อรอเธอ
“ชามที่ 9 แล้วนะ นี่ยังไม่อิ่มอีกหรอ..?”
เจ้าของร้านเดินมาเสิร์ฟเขาเป็นชามที่ 9 จึงต้องถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
“อิ่มตั้งแต่ชามที่ 3 แล้วครับ..แต่พอดีผมรอคนอยู่นะครับเลยเกรงใจพี่จึงต้องสั่งก๋วยเตี๋ยวทานไปเรื่อยๆรอ..”
“นั่งไปเลยจะเกรงใจทำไม ไม่ต้องกินแล้วดูซิเอ็งสั่งก๋วยเตี๋ยวพี่ตั้งหลายชามแล้ว เห็นกินแค่ 2-3 คำเอง พี่เห็นแล้วเสียดายแย่ เอ็งจะนั่งรอคนของเอ็งไปเฉยๆก็ได้ตามสบายเลย..”
“ขอบคุณนะครับพี่..”
อัชวินทร์ขอบคุณเจ้าของร้านด้วยความดีใจ ที่ไม่ต้องทานก๋วยเตี๋ยวเป็นชามที่ 9 แล้ว เขาจึงนั่งรออัยรินทร์ไปเรื่อยๆจนร้านจะปิดเพราะจะเที่ยงคืนแล้ว เขาจึงจำใจยอมลุกขึ้นแล้วก็เดินคอตกออกไป
“ร้านปิดแล้วหรอคะ..?”
“ครับ..”
อัยรินทร์ตัดสินใจอยู่นานว่าจะมาหาเขาตามนัดดีไหม แต่เธอก็ตัดสินใจช้าไปเพราะเขาคงกลับไปแล้ว
“ผมมีก๋วยเตี๋ยวใส่ไว้ 1 ถุงคุณจะเอาไหมครับ พอดีมีน้องผู้ชายคนหนึ่งเขาสั่งไว้แต่ยังไม่ได้ทานเลยนะครับผมเลยเอามาใส่ถุงให้ ที่น้องเขาไม่ทานเพราะเขาเล่นนั่งรอคนมาแล้วก็สั่งก๋วยเตี๋ยวผมกินรอเกือบจะ 10 ชาม เล่นนั่งตั้งเกือบ 3 ชั่วโมง เขาคงเกรงใจผมเลยสั่งสะเยอะเลย ถ้าคุณไม่ถือคุณจะเอาไปทานก็ได้นะครับ ผมให้..”
อัยรินทร์ได้ยินที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวพูดก็รู้สึกอึ้งไปทันที เธอยอมรับถุงก๋วยเตี๋ยวในมือพี่เขามาถือไว้แล้วกำลังจะเดินกลับไปที่รถตัวเอง ก็เห็นเขายืนอยู่ตรงหน้าเธอพอดี
“...”
อัชวินทร์มองถุงก๋วยเตี๋ยวในมือเธอนิ่งๆแล้วเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
“ผมคิดว่าพี่จะไม่มาซะแล้ว..”
“ขอโทษนะ..ที่ให้รอนานคือฉัน..”
“ผมตัดสินใจแล้วว่าผมจะไปจากที่นี่..”
“อะไรนะ..?”
เขาตัดสินใจพูดแทรกเธอขึ้นมาทันที เธอตกใจมากที่ได้ยินเขาพูดแบบนี้
“ผมจะกลับอังกฤษและจะไม่กลับมาที่นี่อีก ผมจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับบริษัทของพ่อ เงินของพ่อเด็ดขาด..พี่ไม่ต้องกังวล..”
“ฉันไม่ได้ไม่พอใจนะที่นายจะมาบริหารงานที่บริษัทคู่กับฉัน ฉันเคารพในการตัดสินใจของคุณพ่อ..เพราะจริงๆแล้วมันก็เป็นสิทธิ์ที่นายสมควรจะได้รับ..”
“แล้วพี่รับได้หรอถ้าผมจะต้องทำงานอยู่ใกล้ๆพี่..?”
“...”
เธออึ้งทันทีกับคำพูดของเขาเพราะเดาได้ว่าเขากำลังจะสื่อถึงเรื่องอะไร
“พี่จะรับได้หรอที่ต้องมองหน้าผมแบบที่พี่สาวมองน้องชาย พี่จะรู้สึกรักและเอ็นดูผมแบบนั้นได้จริงๆหรอ..?”
“...”
อัชวินทร์เดินเข้ามาใกล้ตัวอัยรินทร์มากขึ้น จนใบหน้าของพวกเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบฝ่ามือ
“มองตาผมซิ..แล้วก็พูดออกมาว่าวันนั้นพี่จำเรื่องราวของเราที่เกิดขึ้นในคืนนั้นไม่ได้..”
“ฉันจำไม่ได้แล้ว..ฉันลืมมันไปหมดแล้ว..”
“...”
“พี่จำไม่ได้แต่ผมจำมันได้ดีเลยนะ.."
"..."
"เพราะผมหลงรักเธอตั้งแต่วันแรกที่เจอ แต่เธอกลับมาทิ้งผมไปได้อย่างหน้าตาเฉย แม้กระทั่งชื่อเธอผมก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเธอชื่ออะไร..”
“...”
อัยรินทร์ถอยห่างออกมาเพราะกลัวเขาจะได้ยินเสียงเต้นของหัวใจ เพราะอึ้งกับคำสารภาพของเขา
“เพราะงั้นผมควรไปจากที่นี่ใช่ไหม..?”
“...”
เธอนิ่งไม่ตอบอะไรออกไป และไม่คิดจะห้ามเขาอีกเหมือนในตอนแรก
“เพราะถ้าผมอยู่ที่นี่..ผมก็ไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับพี่ต่อไป เพราะคำว่าพี่น้องมันกั้นผมเอาไว้ไม่ให้ผมได้เข้าใกล้พี่ได้มากกว่านี้..”
อัยรินทร์ถอยหลังเดินออกไปเพื่อให้ห่างจากตัวเขามากกว่านี้ น้ำตาที่เริ่มคลอออกมาทำให้เธอรู้สึกเสียใจกับความหวั่นไหวของตัวเองในครั้งนี้มาก ทั้งที่ก็รู้ว่านี่คือน้องชายแท้ๆของตัวเอง แต่เธอกลับรู้สึกดีที่ได้ยินเขาสารภาพความรู้สึกที่มีต่อเธอออกมาแบบนี้ ถ้านี่ไม่ใช่น้องชายแท้ๆของเธอเอง เธอก็คงจะวิ่งเข้าไปกอดเขาไว้แน่นๆแล้วก็อาจจะยอมเปิดใจคุยกับเขาต่อไปก็ได้ แต่มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิดเพราะเขาคือน้องชายของเธอ น้องชายแท้ๆที่เกิดมาจากพ่อแม่เดียวกัน เธอจะคิดหรือรู้สึกอะไรที่มากกว่านี้กับน้องชายตัวเองไม่ได้
“พี่..”
อัยรินทร์รีบวิ่งมาที่รถตัวเองเพราะไม่อยากให้เขาเห็นน้ำตา รถของเธอที่จอดอยู่ริมแม่น้ำใต้สะพานไม่มีใครผ่านไปมาเพราะดึกมากแล้ว อัชวินทร์จึงรีบวิ่งตามเธอมาเพราะเห็นน้ำตาที่ไหลออกมาก็อดเป็นห่วงเธอไม่ได้
“ไม่ต้องตามฉันมา..แล้วถ้านายอยากจะกลับอังกฤษก็กลับไป..ฉันกับนายจะได้ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก..”
“ถ้ามันทำให้พี่สบายใจผมก็จะกลับไปแล้วจะไม่กลับมาที่นี่อีก..”
“...”
“แต่ก่อนที่ผมจะไป..ผมขอกอดพี่เป็นครั้งสุดท้ายได้ไหม..?”
....