3 เดือนผ่านไป
ประเทศอังกฤษ
“แม่ร้องไห้ทำไมครับ..เกิดอะไรขึ้น..?”
เขาเลิกงานกลับมาบ้านก็ต้องตกใจ ที่เห็นแม่ตัวเองนั่งร้องไห้ด้วยความเสียใจอยู่ที่โซฟาคนเดียว
“โอม..”
“เกิดอะไรขึ้นครับ บอกผมมาครับว่าใครทำอะไรแม่..?”
“เราต้องรีบกลับเมืองไทยด่วนเลย..”
“ทำไมครับ..?”
“พ่อของลูกกำลังป่วยหนัก..ลูกต้องรีบไปหาพ่อเดี๋ยวนี้..”
เขาตกใจมากที่ได้ยินแบบนี้เพราะแม่ไม่เคยพูดถึงเรื่องของพ่อมาก่อนเลยตั้งแต่เขาเด็กๆ แต่จู่ๆก็มาพูดกับเขาเรื่องนี้ในวันที่มันสายไปแล้ว
....
ประเทศไทย
โรงพยาบาลรักษาโรคมะเร็ง
“ผมต้องการเจอหน้าลูกชายผมเป็นครั้งสุดท้าย..ผมอยากเจอหน้าแกสักครั้งก่อนที่ผมจะจากโลกนี้ไป..”
“พ่อคะ..อย่าพูดแบบนั้นซิคะ พ่อต้องไม่เป็นอะไรนะคะ พ่อต้องหายนะคะ..”
อัยรินทร์ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ข้างเตียงผู้เป็นพ่ออย่างดูน่าสงสาร โดยมีทั้งคุณย่าแล้วก็คุณอาที่ยืนมองคนทั้งคู่ด้วยความสงสารจับใจ
“อัยฟังพ่อนะลูก..”
“...”
ผู้เป็นพ่อยื่นมือไปจับมือลูกสาวสุดที่รักเอาไว้
“ฝากดูแลน้องด้วย น้องชายของลูกเขากำลังมา พ่อไม่มีโอกาสได้เลี้ยงดูเขาตั้งแต่เขาจากพวกเราไป พ่อยังคิดถึงน้องชายแล้วก็แม่ของลูกเสมอ สัญญากับพ่อนะว่าอย่าทิ้งน้อง...สัญญากับพ่อได้ไหม..?”
“ค่ะ..อัยจะไม่ทิ้งน้องค่ะพ่อ แต่พ่อก็ต้องสัญญากับอัยนะคะว่าพ่อจะไม่เป็นอะไรเหมือนกัน..”
“อื้ม..”
อาการของพ่อเธอเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ ซึ่งเธอก็รู้ดีว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้เลยที่พ่อเธอจะไม่เป็นอะไร อย่างที่รับปากกับเธอ
อัยรินทร์เดินออกมาร้องไห้นอกห้องคนเดียว เพราะเธอไม่สามารถทนเห็นพ่อทรมานแบบนี้ต่อไปได้แล้ว
แต่แล้วจู่ๆเธอก็เป็นลมล้มพับไป
“อัย..อัย..”
คุณอาที่เป็นน้องสาวของพ่อรีบวิ่งเข้ามาดูเธอ พยาบาลที่อยู่แถวนั้นจึงรีบเข้ามาช่วยปฐมพยาบาลให้เธอ
....
เขาและแม่ลงเครื่องได้ก็รีบนั่งรถแท็กซี่ตรงมาที่โรงพยาบาลทันที เขาเดินเข้ามาในโรงพยาบาลในเมืองไทยซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อน มันตื่นตาตื่นใจมากเพราะตั้งแต่เขาจากที่นี่ไปตั้งแต่เด็กเขาก็ไม่เคยได้กลับมาเมืองไทยอีกเลย
“โอม...”
แม่ของเขาพามาหยุดอยู่ที่ห้องผู้ป่วยคนหนึ่ง ที่แม่เขาบอกว่าเป็นพ่อที่กำลังป่วยอยู่ และต้องการเจอหน้าเขาเป็นครั้งสุดท้าย
แกร๊ก>>
“นี่เธอ..”
คุณย่าเห็นหน้าแม่ของเขาเปิดประตูเข้ามาก็ทำสีหน้าไม่พอใจนัก แต่พอเห็นผู้ชายวัยรุ่นที่เดินตามหลังเธอมาก็เริ่มอ่อนลง แล้วหันไปมองที่ลูกชายตัวเองที่นอนอยู่บนเตียงกำลังมองมาที่พวกเขาทั้งคู่พอดี
“คุณ..”
เธอร้องไห้ออกมาทันทีที่เห็นสามีเก่าของตัวเองป่วยหนักขนาดนี้
“ฉันพาลูกมาหาคุณแล้วนะคะ..”
เธอพูดกับเขาทั้งน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม เขาเดินไปดึงแขนของอัชชาเข้ามาใกล้ๆพ่อของเขา
“โอม..โอมลูกพ่อ..”
พ่อของเขาน้ำตาไหลพรากที่ได้เจอลูกชายตัวเอง เพราะพวกเขาจากกันไปตั้งแต่ลูกชายเขายังเป็นเด็กเล็กมาก
อัชวินทร์อึ้งกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ แม่ไม่เคยพูดถึงพ่อเลยสักครั้ง บอกกับเขาแต่ว่าเลิกกันไปนานแล้วเพราะย่าไม่ชอบแม่ พ่อกับแม่จึงต้องเลิกกัน และเขาก็ไม่คิดที่จะถามเพราะไม่อยากให้แม่หนักใจ แต่เวลาก็ผ่านมา 25 ปีแล้ว ก็ไม่คิดว่าพ่อยังคงรักและคิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา
“พ่อดีใจที่ได้เจอหน้าโอม..พ่อคิดถึงโอมอยู่ตลอดเวลาเลยนะลูก..”
“ผม..”
เขาเดินเข้าไปใกล้พ่อตัวเองแต่เพราะความห่างเหินทำให้เขาไม่กล้าคุยไม่กล้ามองหน้า และก็ไม่กล้าสัมผัสพ่อแท้ๆของตัวเองด้วย
พ่อของเขาพยายามยื่นมือขึ้นมาจับมือลูกชายตัวเองไว้ แต่ตัวเขาก็ได้แต่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก
“พ่อขอโทษที่ไม่สามารถดูแลลูกต่อไปได้ แต่หลังจากนี้พ่อจะขอชดใช้ทุกอย่างให้กับลูกเท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำให้ได้นะ..”
“...”
แม่ของเขายืนร้องไห้อยู่ข้างๆเขาจนตัวโยน
“พ่อ...ขอ...โทษ..”
ติ๊ด.......เสียงสัญญาณชีพก็เตือนให้ทุกคนในห้องรู้ว่าพ่อของเขาได้เสียชีวิตลงแล้ว
แกร๊ก>>>
อัยรินทร์เปิดประตูเข้ามาในห้องก็ได้ยินเสียงนี้พอดี เธอวิ่งร้องไห้เข้ามาที่เตียงของผู้เป็นพ่อพร้อมทั้งปล่อยโฮออกมาอย่างหนัก เธอรับไม่ได้ที่พ่อจากเธอไปแล้วจริงๆ
“คุณพ่อ..ไม่จริงคุณพ่อต้องไม่เป็นอะไร คุณพ่ออย่าจากอัยไปนะคะ คุณพ่อ...ฮืออออ..”
หมอและพยาบาลต่างพากันกรูเข้ามาในห้องหลายคนเพื่อเข้ามาดูอาการพ่อของพวกเขา อัชวินทร์จึงพาแม่ออกไปข้างนอกโดยไม่ทันได้มองหน้าของใครต่อใครบ้างที่อยู่ภายในห้องตอนนี้ ได้ยินแต่เสียงของพ่อที่ดังก้องอยู่ในหูว่า “พ่อขอโทษ” แล้วก็หน้าตาของพ่อที่เขาเพิ่งได้เจอเป็นครั้งแรกแต่มันยังคงติดตาเขาจนถึงตอนนี้
....
7 วันผ่านไป
แม่พยายามชวนเขาไปงานสวดศพของผู้เป็นพ่อแต่เขากลับไม่ยอมไป เพราะภาพและเสียงในวันที่พ่อจากไปในวันนั้นมันยังดังก้องอยู่ในหูเขาไม่รู้ลืม
“วันนี้วันเผาแล้วนะโอมจะไม่ไปส่งพ่อเป็นครั้งสุดท้ายหรอลูก..?”
“ครับ..ผมจะไปกับแม่ครับ..”
เขายอมไปในวันสุดท้ายของงานเพราะอยากไปส่งพ่อเป็นครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่กล้าเข้าไปในงานได้แต่ยืนมองอยู่ห่างๆ
“น้องไม่ได้มาด้วยหรอคะ..?”
“มาจ่ะ..แต่ไม่ยอมเข้ามาในงานคงยังทำใจไม่ได้นะ..ให้เวลากับน้องหน่อยนะอัย น้องเพิ่งได้เจอพ่อเป็นครั้งแรกแล้วพ่อก็มาจากไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้น้องคงยังช็อคอยู่..”
“ค่ะแม่..”
“นี่สรุปกันหรือยังว่าจะเปิดพินัยกรรมกันวันไหน..?”
อัยรินทร์หันไปมองหน้าแม่อย่างแปลกใจ เพราะไม่คิดว่าแม่จะถามเรื่องนี้ ทั้งที่งานศพของพ่อยังไม่จบลงด้วยซ้ำ
“อาทิตย์หน้าค่ะ..”
“ดี..แม่จะได้พาน้องมาฟังด้วยกัน..”
....
1 อาทิตย์ผ่านไป
วันเปิดพินัยกรรม
“อัยจ่ะ..นี่โอม..น้องชายของลูกจ่ะ”
....