ไม่ได้บังเอิญเจอกัน

2506 Words
เช้านี้เหมือนเช่นทุกวัน ธาดาตื่นเช้าเขาออกมานั่งกินกาแฟและสูบบุหรี่ที่ริมระเบียง ไม่ได้ตั้งใจจะมอง แต่สายตาก็คอยเหลือบแลลงไปด้านล่าง อยากรู้เหมือนกันว่าเช้านี้จะเจอ เด็กผู้หญิงสองคนนั้นอีกไหม เหมือนอย่างที่ใจเขาคิดไว้ แก้วกานดากับทรายหอม กำลังเดินออกจากคอนโด เพื่อไปทำงาน วันนี้สองสาวใส่ชุดพนักงานต้อนรับของโรงแรม คล้ายชุดเมื่อวาน แต่วันนี้เป็นสีน้ำเงิน ขนาดมองไกลๆยังรู้สึกว่าผิวผ่องมาก ธานินทร์ยังไม่ตื่น นี่คือผลเสียของการตื่นสาย เขาไม่สนับสนุนให้น้องชายจีบเด็กสาวนั่น ยังเรียนไม่จบเลยเป็นภาระเปล่าๆ สองสาวนั่นอาจจะมีแฟนแล้วก็ได้ สวยกันขนาดน้ัน เขาไม่นิยมเด็กชอบคนรุ่นๆเดียวกันมากกว่า เหมือนโสรญา อีกแล้วอยู่ๆเขาก็คิดถึงโสรญา ทั้งที่อดีตคนรักเขาแต่งงานมีลูก มีครอบครัวที่อบอุ่นไปแล้ว ธาดาถอนหายใจเขาอัดบุหรี่ก่อนที่จะขยี้มันทิ้ง “พี่ธาดาผมเสร็จแล้วไปกันเถอะพี่เราแวะไปกินข้าวที่โรงแรมดีกว่านะ ผมจองโต๊ะไว้แล้ว” “ป่วยการจะค้าน น้องชายเขาเป็นคนแบบนี้ อยากได้อะไร ชอบอะไรก็แสดงออกชัดเจน” ที่โรงแรมสองสาวทำงานกันได้สักพักแล้ว วันนี้ลูกค้าเยอะเหมือนทุกวัน “ทราย แก้วฝากดูตรงนี้แป๊ปนะ แก้วจะไปเข้าห้องน้ำแป๊ปเดียวขอไปเติมหน้าอีก “ได้ๆไม่ต้องรีบนะแก้ว ยังเช้าอยู่ลูกค้ายังไม่เยอะ เดี๋ยวทรายดูให้เอง” แก้วกานดาแยกไปทำธุระในห้องน้ำ เมื่อคืนเธอตื่นขึ้นมาถักกระเป๋า ลืมดูเวลา เกือบสายเลย ยังไม่ได้แต่งหน้าจริงๆเธอไม่ต้องแต่งหน้าเยอะเลย แค่เติมนิดหน่อยก็สวยแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของผู้หญิง ขอให้ได้เติมปากสักหน่อย ส่องกระจกสักนิด แม้จะเป็นลิปมันก็ตาม ระหว่างที่เติมปาก เสียงโทรศัพท์ดัง จากป้าพุดซ้อน คงมีเรื่องให้ช่วย “สวัสดีค่ะป้าพุดซ้อน มีอะไรด่วนหรื่อเปล่าคะป้า โทรมาแต่เช้าเลย ” “หนูแก้ว อาทิตย์นี้มาช่วยป้าขายของหน่อยได้ไหมลูก ลุงเขาต้องไปธุระด่วน แต่ป้าก็ไม่อยากปิดร้าน วันหยุดด้วยเสียดายลูกค้า” “ได้ค่ะป้าแก้วว่าง ไม่ได้ไปไหน งั้นเดี๋ยวแก้วชวนทรายไปด้วยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจนะคะป้าแก้วยินดีช่วย” “ขอบใจมากลูก ป้านัดลูกค้ามารับของด้วย ไม่อยากเสียคำพูดเลย” “สบายใจได้เลยนะคะป้า อาทิตย์นี้แก้วถักกระเป๋าไม่ทันเพราะต้องทำงานเลิกดึกค่ะ เมื่อคืนถักได้แค่สองใบเอง ดีเหมือนกันช่วยป้าขายของดีกว่า อาทิตย์ถัดไปค่อยขายกระเป๋า เช้าวันเสาร์เจอกันค่ะ แก้วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะป้า” ป้าพุดซ้อนที่เป็นเจ้าของที่แบ่งให้เธอเช่าขายของ เวลาที่ป้ากับลุงมีธุระ มักจะโทรหาเธอเสมอ และเธอก็ยินดีช่วย ไม่ว่าจะขายของแทนที่ร้าน หรือพาป้า ไม่ก็ลุงไปหาหมอตามนัด อาทิตย์นี้เธอถักกระเป๋าไม่ทัน ดีเหมือนกัน ถึงเธอเต็มใจช่วยฟรีๆแต่ป้ากับลุงก็ให้เงินค่าจ้างตลอด หญิงสาวตั้งใจว่า จะชวนทรายหอมไปด้วย และเธอก็เชื่อว่ายังไงทรายหอมก็ต้องไป กลิ่นบุหรี่โชยมา แก้วกานดาออกจากห้องน้ำแล้วตรงไปทำงานต่อ รู้สึกไม่ค่อยชอบบริเวณห้องน้ำเลย ลูกค้าชอบมาสูบบุหรี่ แต่ก็คิดว่าเพราะเลือกไม่ได้ และก็ไม่สามารถไปห้ามลูกค้าไม่ให้สูบบุหรี่ได้ ทำได้แค่ใส่แมส หรือไม่ก็พยายามไม่มาแถวๆนี้ “ไปไหนมาครับพี่ธาดา นี่ผมกินข้าวจะอิ่มแล้ว” “พี่ไปสูบบุหรี่มา” “พี่ครับ ทำยังไงดีผมอยากได้เบอร์โทรน้องทรายหอมก่อนไปพม่า” “ธานินทร์พี่จะเตือนก่อนนะ อย่าไปยุ่งเลย จะเสียงานเปล่าๆสองคนนั่นยังเด็กมาก เรียนหนังสือยังไม่จบเลย แล้วก็ทำใจไว้ด้วยนะว่า เขาอาจมีแฟนแล้ว พี่พูดย้ำหลายรอบมากเรื่องนี้ สวยขนาดนั้นพี่ว่าไม่เหลือหรอก” “โธ่...พี่ธาดาครับ เด็กแล้วไงเด็กก็มีหัวใจนะครับ” “พี่เตือนแล้วนะธานินทร์” “ผมก็แค่อยากรู้ว่าเขามีแฟนหรือยัง ถ้ามีผมจะไม่ยุ่งแต่ถ้ายังไม่มีผมจะเดินหน้าจีบเต็มที่” “กับผู้หญิงคนอื่นๆไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย โดนของหรือเปล่าเนี้ย” “พี่ธาดา ผมกับเขายังไม่เคยได้คุยกันเลย เขาจะมาใส่ของผมตอนไหนครับ พี่ก็พูดไปเรื่อย” ธานินทร์พูดแล้วก็ส่ายหัวกับความคิดของพี่ชาย ธาดานั่งกินข้าวเงียบๆห้องอาหารของโรงแรมเป็นห้องกระจก สามารถมองออกไปที่ห้องประชาสัมพันธ์ได้อย่างชัดเจน เห็นสองสาวทำงานกันอย่างตั้งใจ ท่าทางอ่อนน้อมของทั้งคู่เป็นที่สะดุดตาของลูกค้า รูปร่างดีหุ่นดีมากด้วย สื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี แค่สองวันที่เขามาเห็นสองสาวทำงาน ก็เห็นว่ามีลูกค้าผู้ชายติดใจกันเป็นแถว ลูกค้าผู้หญิงก็ชื่นชม ผู้หญิงไม่เท่าผู้ชาย แต่เด็กผู้หญิงสองคนนั่นนิ่งมากวางตัวเหมาะสม แบบนี้ใครๆก็ชอบอยากเข้าหา ธาดาลืมตัวนั่งมองแก้วกานดาทำงานเพลิน วันนี้ชุดทำงานสีสวย ท่าทางก็อ่อนหวาน จะพูดจะเดินดูนุ่มนวลไปหมดทุกอย่าง รองเท้าส้นสูงไม่ได้ทำให้สองสาวประหม่าเลย สูงอยู่แล้วใส่รองเท้าส้นสูงเข้าไปอีก ยิ่งสูงเด่น “ธานินทร์จะกินอะไรต่อ ไปร้านกันดีกว่าพี่อยากคุยงานก่อนไปพม่า” “คุยที่นี่ไม่ได้เหรอครับพี่ธาดา ประชุมที่นี่เลยดีกว่า ผมจองห้องเองเสร็จแล้วเย็นจะได้กินข้าวแล้วกลับคอนโดเลย” ธาดาเริ่มหงุดหงิด น้องชายเขาทำตัวเหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งจะมีความรัก และเริ่มเอาแต่ใจตัวเอง “ถ้าจะประชุมก็รีบจัดการ พี่ให้เวลาสามสิบนาทีทุกอย่างต้องพร้อมนะ ขอไปสูบบุหรี่ก่อน” "ครับพี่ชาย ขอบคุณมากครับ รับรองไม่ถึงสิบนาทีเราได้ประชุมกันแน่ๆ" แก้วกานดาและทรายหอม ได้เวลาพักเบรก 1 ชั่วโมง โรงแรมจะมีที่ให้พนักงานพักผ่อน เป็นห้องแอร์เล็กๆข้างๆโรงแรม แก้วกานดาใช้เวลานั้นเร่งถักกระเป๋าเพื่อที่จะเตรียมไปขายที่ตลาดวันเสาร์อาทิตย์หน้า “แก้วอยากกินชาเขียวไหม” “ก็ดีนะ ร้านข้างๆนี่อร่อยทรายพักเถอะ เดี๋ยวแก้วไปซื้อเอง” “แก้วเอาเงินนี่ไป” “ไม่เอาๆไว้ทรายค่อยจ่ายค่าข้าวมื้อเย็นละกัน แป๊ปเดียวเดี๋ยวแก้วมานะ” แก้วกานดาวางมือจากกระเป๋าที่ถัก ลุกขึ้นรีบเดินลัดเลาะข้างตึก เพื่อไปซื้อชาเขียวที่ร้านกาแฟห่างจากโรงแรมประมาณห้าสิบเมตร เธอไม่ค่อยชอบบรรยากาศที่นี่เลย ไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ ลูกค้าต่างชาติส่วนมากสูบบุหรี่จัด ถึงจะเป็นการออกมาสูบด้านนอก แต่กลิ่นก็ยังคงติดตัวติดเสื้อผ้า ก่อนหน้ามาทำงานที่นี่ลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย ปกติไม่ว่าเธอจะทำงานที่ไหน ต้องเช็คก่อนเรื่องบุหรี่หญิงสาวพยายามเลี่ยง วันนี้ตั้งแต่เช้าเธอแอบจามหลายครั้ง ภายในบริเวณห้องโถงของโรงพยาบาล เธอจะต้องเจอกับลูกค้าเป็นคนแรกๆ บางคนเพื่งสูบบุหรี่ เสร็จแล้วก็เปิดประตูเข้ามาเลย หญิงสาวแทบจะกลั้นหายใจ ระหว่างที่คุยกับลูกค้า “อุ้ย....”แก้วกานดาตกใจที่อยู่ๆขณะที่เธอกำลังเร่งฝีเท้าเพื่อให้พ้นจากจุดนี้ไป อยู่ๆก็มีก้นบุหรี่กระเด็นมาถูกเธอช่วงเหนือเข่าขึ้นมา หญิงสาวมองหาที่มาของก้นบุหรี่นึกโมโห แล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นคนที่ดีดก้นบุหรี่กระเด็นมาถูกตัวเธอ เธอจำได้ผู้ชายตัวใหญ่ที่เจอที่ร้านก๋วยเตี๋ยว แก้วกานดานิ่งคิดว่าจะเดินต่อไปดีไหม หรือจะหันหลังกลับดี ผู้ชายคนนั้นยืนอยู่บนบันไดที่ยื่นออกมาจากตัวอาคารของโรงแรม ตรงนี้เป็นสวนหย่อมขนาดเล็ก เธอเคยเห็นคนขับรถของลูกค้ามานั่งสูบบุหรี่เป็นประจำ หญิงสาวก้มมองผ้าถุงเกือบไหม้ “แย่มากเลยนะคุณ ทำไมทำน่าเกลียดแบบนี้ สูบแล้วทำไมไม่ทิ้งให้เป็นที่ ที่ทิ้งก็มีทำไมต้องดีดไปทั่วด้วย ไม่เห็นใจคนเก็บบ้างเลยรึไง สูบเข้าไปได้ยังไงเหม็นก็เหม็น สังคมก็รังเกียจแล้วยังทิ้งมั่วอีก” หญิงสาวต่อว่าชายหนุ่มเสียงดังไม่พอใจอยู่แล้ว เธอไม่ชอบกลิ่นบุหรี่ แพ้กลิ่นด้ภูมิแพ้กลับมา เริ่มหายใจติดขัดบ่อยๆ เธอตัดสินใจหันหลังกลับไม่กงไม่กินแล้วชาเขียวปั่น อารมณ์เสียมาก ระหว่างทางก็จามตลอดเวลา ธาดายืนงง ท่าทางของแก้วกานดาที่ท้าวเอว แล้วต่อว่าเขาเรื่องก้นบุหรี่ หน้าตาท่าทางไม่พอใจมาก เด็กนี่ด่าเขาเหรอ ชายหนุ่มงง ไม่เคยมีใครกล้าว่าเขาเรื่องสูบบุหรี่ ขนาดแม่เขาขอร้องให้เขาเลิกสูบ เขาไม่เลิก แม่เขายังไม่พูดต่อเลย แล้วเด็กนี่เป็นใครกัน ธาดาโมโห “เกินไปแล้วซุ่มซ่ามแล้วยังก้าวร้าวอีก เขาอยากให้น้องชายเขามาเห็น คนที่เขาบอกว่าสวยลักษณะดี นิสัยจริงๆเป็นยังไง ต่อหน้าคนเยอะก็ทำเป็นเรียบร้อย ทำเป็นอ่อนหวาน กว่าเขาจะรู้สึกตัว เขายังไม่ทันที่จะได้ตอบโต้อะไร เด็กนั่นก็เดินกลับหายลับไปตรงซอกตึก ธาดาอารมณ์ขุ่นมัวไม่ได้คิดว่าตัวเองผิด แต่โมโหที่เด็กเมื่อวานซีนมาต่อว่าเขา ไม่รู้จักกันสักหน่อย ปากสวยๆนั่นร้ายจริงนะ “แก้วเป็นอะไรทำไมทำหน้าแบบนั้น แล้วไหนชาเขียวล่ะ” “ไปไม่ถึง เจอคนสูบบุหรี่ระหว่างทางที่เดินไปร้านกาแฟ เหม็น หายใจไม่ออก ไว้พรุ่งนี้นะเดี๋ยวแก้วเลี้ยงเอง” “ก็ได้ มันก็ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ตกลงตามนั้น กินน้ำเปล่าก็ได้”ทรายหอมไม่ได้ซักไซ้อะไร เพราะมัวเพลินอยู่กับการถักกระเป๋าลายใหม่ แก้วกานดาอารมณ์ไม่ดีตลอดการทำงานรอบบ่ายกระทั่งกลับบ้าน หญิงสาวยังจามไมหาย น้ำมูกเริ่มมาแล้ว แต่ก็ยังอยากกินก๋วยเดี๋ยว สองสาวแวะกินก๋วยเตี๋ยวร้านเดิม “ทราย แก้วไม่อยากทำงานที่นี่แล้ว ที่ตรงไหนๆก็มีแต่กลิ่นบุหรี่แก้วแสบจมูกทุกวันเลย” “ทรายก็เหมือนกัน ยิ่งวันนี้เจอลูกค้าต่างชาติเหม็นมาก ถึงโรงแรมจะมีที่ให้สูบบุหรี่ แต่เวลาที่เขาเข้ามาในอาคารกลิ่นบุหรี่ก็ติดตัวเขาเข้ามา” “พรุ่งนี้แก้วจะมาลาออก ไม่ทำแล้วไม่จ่ายเงินก็ไม่เป็นไรถือว่ามาเอาประสบการณ์ เนี้ยเห็นไหมทั้งตัวมีแต่กลิ่นบุหรี่ ปวดหัว “ยังไม่ทันที่แก้วกานดาจะพูดจบหญิงสาวก็จามติดๆกันชุดใหญ่ เริ่มคันตามตัว ที่หน้าเริ่มมีผื่นคัน และจามติดๆกัน “ทรายว่าเรารีบกลับห้องดีกว่า ไว้ค่อยไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อด้านล่างคอนโด ดูท่าว่าแก้วจะภูมิแพ้กำเริบแล้ว รีบกลับห้องไปกินยาดีว่านะ เดี๋ยวทรายไปยกเลิกก๋วยเตี๋ยวเอง” แก้วกานดาจามติดๆกัน เริ่มคัดจมูก จามจนน้ำหูน้ำตาไหล เสียงเริ่มเปลี่ยน และเริ่มเหนื่อยแน่นหน้าอก “แก้วไหวไหม ทรายหอมตกใจที่อาการของเพื่อนกำเริบ แก้วกานดาแพ้ควันและกลิ่นบุหรี่หนักมาก” “ทรายเรียกรถพยาบาลเร็ว แก้วแน่นหน้าอก พูดจบหญิงสาวก้มหน้าฟุบอยู่กับโต๊ะก๋วยเตี๋ยว ลูกค้าในร้านตกใจ เมื่อได้ยินว่าเสียงหญิงสาวบอกเพื่อนให้เรียกรถพยาบาล” “น้องครับ ไม่ต้องเรียกรถพยาบาลหรอก ไปรถพี่ดีกว่าเร็วไป ไปครับพยุงเพื่อนขึ้นรถพี่” ธานินทร์และธาดานั่งฟังอยู่นานแล้ว ธานินทร์เสี่ยงมาที่ร้านก๋วยเตี๋ยว เพราะคิดว่าจะได้เจอกับทรายหอม และเขาก็ได้เจอจริงๆ “ค่ะ รบกวนด้วยนะคะ แก้วๆทำใจดีๆนะเดี๋ยวพี่เขาไปส่งที่โรงพยาบาลพยายามหายใจลึกๆ” “พี่ธาดาช่วยหน่อยครับ อุ้มน้องไปที่รถให้หน่อยน่าจะเดินไม่ไหวแล้ว”ธาดาสั่งพี่ชาย สภาพของแก้วกานดาน่าห่วงมาก หญิงสาวดูอ่อนแรงหายใจติดขัด ไม่ถึงสิบนาทีทั้งหมดก็มาถึงโรงพยาบาล แก้วกานดาถึงมือหมอ ทรายหอมถอนหายใจอย่างโล่งอก “ขอบคุณมากนะคะ ที่ช่วยพาเพื่อนมาโรงพยาบาล”ทรายหอมยกมือไหว้ชายหนุ่มทั้งสองคน “ครับไม่เป็นไร พี่ยินดีมากสบายใจแล้วนะครับ นี่เพื่อนเป็นแบบนี้บ่อยเหรอครับ” “ใช่ค่ะ แก้วแพ้กลิ่นและควันบุหรี่อย่างหนักเลย “ “แบบนี้แย่เลยนะครับ เห็นอาการแล้วน่าเป็นห่วง” “เอ่อ..พี่ชื่อธานินทร์นะครับ ส่วนคนนี้พี่ชายพี่เองชื่อพี่ธาดา” “ทรายหอมค่ะ ทรายขอบคุณมากนะคะที่ช่วยพาเพื่อนมาโรงพยาบาล ไม่งั้นแก้วแย่แน่เลย “ “คุณทั้งสองคนอยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวเมื่อกี้เหรอคะ” “ครับพี่กินก๋วยเตี๋ยวอยู่โต๊ะถัดไป เห็นเหตุการณ์พอดี” “เพื่อนของทรายไม่มียากินพกติดตัวเหรอครับ แบบนี้ไปที่ไหนที่มีคนสูบบุหรี่เยอะๆอันตรายมากเลยนะ” “เราสองคนทำงานเป็นพนักงานต้อนรับที่โรงแรมแถวนั้นค่ะ จริงๆแก้วมีอาการตั้งแต่ทำงานวันแรกแล้ว ยิ่งวันนี้เราเจอลูกค้าต่างชาติสูบบุหรี่จัดมาก อาการเลยกำเริบหนักวัน”ทรายหอมเดินไปมาหน้าห้องฉุกเฉินเป็นห่วงเพื่อน “แย่จังเลยนะครับ”ธาดามองหน้าพี่ชาย เขาไม่สูบบุหรี่แต่พี่ชายสูบ เขาลืมไปเลยที่ให้พี่ชายช่วยอุ้มแก้วกานดาขึ้นรถ หนักเข้าไปอีกตัวพี่ชายเขามีแต่กลิ่นบุหรี่ นึกสงสารแก้วกานดารู้สึกผิดที่เหมือนยิ่งทำให้คนป่วยรับกลิ่นบุหรี่มากกว่าเดิม ธาดาทำหน้าไม่ถูก เขาชินแล้วไม่รู้หรอกว่าร่างกายตัวเองมีกลิ่นบุหรี่ไหม คนสูบไม่ได้กลิ่น คนได้กลิ่นไม่ได้สูบ ตอนนี้เขานึกห่วงแก้วกานดามากกว่าอย่างอื่น จากที่โมโหหญิงสาวที่ต่อว่าเขา กลายเป็นว่าเขาเองรู้สึกผิด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD