เช้าวันเสาร์ แก้วกานดากับทรายหอม ตื่นกันตั้งแต่เช้า วันนี้แก้วกานดาไปขายกระเป๋าถักที่ตลาดนัด ปกติเธอก็ขายอยู่เป็นประจำ สมัยเรียนปีหนึ่งหญิงสาวขายกิฟช้อฟ ไปซื้อของที่สำเพ็งมาแพ็คขาย กำไรดีมาก พอเริ่มมีคนขายกันเยอะ ก็เปลี่ยนมาขายผ้ามือหนึ่ง ขายไม่ดีนัก เปลี่ยนมาขายผ้ามือสอง เพราะส่วนตัวก็ชอบใส่ผ้ามือสองอยู่แล้ว ขายดีอีกเช่นกัน เริ่มมีคนขายเหมือนๆกัน หญิงสาวเปลี่ยนไปขายน้ำปั่น ขายดีแต่ทำไม่ทัน วัตถุดิบและอุปกรณ์หลายอย่างไม่สะดวกสำหรับเธอ เลยเลิกไป หันมาขายกระเป๋ามือสอง แต่ต้องลงทุนเยอะ ทุนไม่มีเลิกไปอีก เป็นแบบนี้เรื่อยมาแต่ก็พยายามหาเงิน คิดว่าการขายของนี่แหละดีที่สุด ไม่เคยคิดว่าจะต้องทำงานประจำเลย
แก้วกานดาชอบกระเป๋าถัก และตัวเองก็พอมีฝีมือ จากที่ชอบซื้อก็เริ่มเอาของตัวเองออกมาขาย กลายเป็นขายดี กระเป๋าถักราคาค่อนข้างแพง ดังนั้นหญิงสาวเริ่มศึกษาวิธีการถักจากยูทูป แกะลายเอง อาศัยช่วงที่วันไหนมีเรืยนไม่กี่วิชา นั่งถักกระเป๋าทำมาเรื่อยๆกระทั่งปัจจุบัน ขายกระเป๋าอย่างเดียว ออกขายทุกตลาดนัด ช่วงไหนที่มีงานของมหาวิทยาลัยเยอะ ก็ทำงานถักอยู่ที่ห้อง บางครั้งก็ไลฟสดขาย โดยมีทรายหอมช่วยแพคของขายดีอีกเหมือนเดิม ช่วงนี้มีโซเชียลมากมายที่จะทำให้หญิงสาวมีเงินใช้ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่
บางครั้งเธอก็กลัวว่า ลุงกับป้าเธอจะเห็นว่าเธอไลฟขายของ แต่ความอยากได้เงินมีมากกว่า ทำให้ลืมๆไปหลังๆมาจากที่เธอนำกระเป๋าถักไปขายที่ตลาด มีลูกค้าต่างชาติมาสั่งมากขึ้น หญิงสาวหยุดไลฟสด ขายที่ตลาดนัดอย่างเดียว และกลับมานั่งถักงานที่ห้อง ส่งลูกค้าทั้งในไทยและที่ต่างประเทศ
“พร้อมหรือยังทราย ไหวไหมถ้าไม่ไหวแก้วไปเองก็ได้นะ”
“ไหวซิ ทำอย่างกับว่าทรายไม่เคยไปงั้นแหละ เมื่อก่อนเราก็ไปขายกันออกบ่อย”
“อีกสักหน่อยแก้วจะเลิกไลฟสด ขายแค่ที่ตลาดและในเพจก็พอ”ใจเธอไม่อยากให้เพื่อนมาลำบากด้วย ทรายหอมชอบงานขายและติดเธอมาก ไม่ยอมกลับบ้าน เป็นธรรมดาของวัยรุ่นต้องการชีวิตอิสระ ต่างกับเธอที่ผ่านมาใช้ชีวิตอิสระตลอด ไม่มีครอบครัวมาคอยห่วงหา
สองสาวช่วยกันขนกระเป๋าพลาสติกใบใหญ่สองใบลงไปด้านล่างคอนโด เรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ตลาดนัด ออกแต่เช้าดี แดดไม่ร้อนและได้ขายก่อนคนอื่นด้วย ตลาดที่นี่เปิดสามโมงเช้า ปิดสามทุ่ม แก้วกานดาใช้เวลาเต็มที่ขายของที่ตลาด เธอทำแบบนี้สม่ำเสมอ ลูกค้าเริ่มติด ต่างชาติถามหางานของเธอ แก้วกานดาและทรายหอมเก่งภาษายิ่งได้เปรียบ
ทั้งสองสาวเดินทางมาถึงตลาดนัดที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ช่วยกันตั้งร้านยังไม่เสร็จ ก็มีลูกค้าเข้ามาแวะเวียนซื้อกระเป๋าไปแล้วหลายใบ แก้วกานดาโชคดี ป้ากับลุงเจ้าของร้านขายส่ง และเป็นเจ้าของล็อคที่หญิงสาวเช่าขายของ ท่านทั้งสองคนคงจะสงสารเธอ แบ่งล็อคขายของให้เธอเช่าทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ ไม่ต้องหนีฝนเพราะมีหลังคาคลุม เธอตอบแทนด้วยการทำความสะอาดร้านให้ จริงๆลูกหลานของลุงกับป้าไม่ได้อยากให้ขายแล้ว อยากให้พักมากกว่า แต่สองคนผัวเมียก็ดื้อ ทำกันสองคนลูกๆไปทำงานที่อื่นกันหมด แน่นอนการจัดเรียงสินค้าสำหรับขายไม่ค่อยเป็นระเบียบนัก วันไหนที่แก้วกานดาขายของหมดเร็ว เธออาสาจัดของที่ร้านให้ลุงกับป้าประจำ เป็นการตอบแทนที่แบ่งที่ไว้ให้เธอขายของ
ลุงโรจน์กับป้าพุดซ้อนนึกเอ็นดูเด็กผู้หญิงหน้าตาสวยๆท่าทางดี แต่ต้องมาเป็นแม่ค้า หน้าตาและลักษณะท่าทางแบบนี้ น่าจะเป็นคุณหนูมากกว่า ป้าพุดซ้อนเคยสอบถามเรื่องครอบครัวของแก้วกานดากับทรายหอม พอได้รู้แล้วยิ่งเมตตาและสงสาร วันไหนที่แก้วหยุด ก็ให้มาช่วยขายของ ให้เงินเป็นค่าจ้าง ส่วนมากลุงกับป้าจะปิดร้านวันหยุดนักขัตฤกษ์เพราะไปทำบุญ ไม่ก็วันพระ แต่ก็จะให้แก้วมาช่วยขายให้ บางสัปดาห์ทรายหอมก็มาช่วยด้วย
บ่ายโมงกว่าแล้ว สองสาวยังคงช่วยกันขายของ แก้วนั่งถักซะส่วนมาก ทรายเป็นคนรับลูกค้า พื้นที่ขนาด 1X3 เมตร สองคนใช้วางสินค้าเต็มพื้นที่ จัดเรียงอย่างเป็นระเบียบ มีช่องว่างให้ลูกค้าเดินนิดหน่อย ภายในร้านมีสินค้าเช่น กระเป๋า ผ้าคาดผม ผ้าพันคอ ทั้งหมดถักด้วยมือ หลังๆมาลูกค้าสั่งให้ถักที่หุ้มยาดม ที่ใส่โทรศัพท์ ลายน่ารักๆ ชิ้นเล็กๆแต่ขายดี ใช้เวลาถักไม่มาก
“ทรายหิวหรือยัง สั่งยำมากินกันดีไหม สบายๆแล้วนะ แค่ครึ่งวันก็คุ้มแล้ว ของเกือบจะหมดแล้วอ่ะดีใจมากเลย” แก้วชวนทรายเธออยากกินยำแซ่บๆ
“ได้ๆหิวแล้วเหมือนกัน นี่ทรายว่าไม่เกินบ่ายสองของก็น่าหมดแล้วนะ
“ใช่เนี้ยแก้วยังคิดว่าจะทำยังไงดี พรุ่งนี้ไม่มีของขาย อาทิตย์หน้าก็ต้องไปทำงานแล้วถักไม่ทันแน่ๆเลย ไม่คิดว่าจะขายดีขนาดนี้”
“หรือว่าเรามาช่วยกันถักดีไหม ไม่ต้องไปทำงาน”
“เอาจริงเหรอทราย แต่แก้วรับปากพี่เขาไปแล้วนะ ไม่อยากเสียคำพูด”
“เราก็เริ่มถักกันเลย ทรายจะถักรอที่คอนโด แก้วก็ไปทำงานกลับมาก็มาถักช่วยกัน อย่างน้อยก็ต้องได้แหละ เนี้ยลูกค้าออเดอร์มาเยอะเลยนะ บางคนมัดจำแล้วด้วย แต่ถ้าเราถักมาแล้วขายไม่ได้ก็ไลฟขายไม่เป็นไรหรอก”
“แหม...เห็นเงินแล้วตาลุกนะทราย จะลำบากคุณหนูทรายหรือเปล่าเนี้ย”แก้วกานดาแซวเพื่อน
“พ่อกับแม่ทรายต้องสนับสนุนเชื่อทรายเถอะ ถ้าทำอะไรกับแก้วแล้วท่านไม่ขัดเลยแถมได้เงินอีก”
“ก็ได้งั้นพรุ่งนี้เราไม่มีกระเป๋าขาย แก้วจะมาช่วยป้ากับลุงจัดร้าน แล้ววันจันทร์เราไปหาซื้อด้ายมาถักงานกันนะ แต่ตอนนี้สั่งอาหารมากินเถอะหิวมาก”
“สุดยอดเลยแก้ว ไม่ใช่แค่นักท่องเที่ยวต่างชาตินะ คนไทยเราก็ชอบกระเป๋าของแก้วมาก หลายคนชมตลอดเลย”
ไม่ถึงบ่ายสองโมงสองสาวก็ขายกระเป๋าหมด มีเวลาเหลือทั้งสองคนช่วยป้ากับลุงทำความสะอาดร้านและจัดเรียงสินค้าให้เป็นระเบียบ
“หนูแก้ว หนูทรายพักกินน้ำก่อนลูก ป้าดีใจด้วยนะวันนี้ขายกระเป๋าหมดเร็วเลยเหรอ ลูกค้ารุมน่าดู”
“ขอบคุณค่ะป้าพุดซ้อน ใช่ค่ะดีใจมากเลยเดี๋ยวพรุ่งนี้เราสองคนจะมาช่วยป้าขายของนะคะ ลุงกับป้าจะได้พักผ่อน”
“ไม่เป็นไรหรอกลูก ลุงยังไหวพวกหนูก็พักเถอะต้องรีบถักกระเป๋ากันไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะลุง ยังมีเวลาพวกเราอยากช่วยลุงกับป้ามากกว่าค่ะ”
“ก็ตามใจนะลูก ดีเหมือนกันนะงั้นพรุ่งนี้ลุงว่าจะไปตัดแว่นสักหน่อย หาโอกาสมาหลายวันแล้วไม่ว่างสักที”
“ขายของเก่งแบบนี้เอาเงินไปเก็บไว้ที่ไหนหมดหนูแก้ว”
“ก็จ่ายค่าเทอม ค่าหอ ค่ากิน ค่าจิปาถะเลยค่ะป้า มีเหลือเก็บไว้นิดหน่อย”
“เก่งกันจริงๆเลยลูก ป้าอยากให้พวกลูกๆเขากลับมารับกิจการของป้าต่อสักคน ไม่มีใครสนใจเลย เขาบอกร้อน ไปทำงานในห้องแอร์ดีกว่า” หน้าตาของป้าพุดซ้อนเศร้ามาก เวลาที่พูดถึงลูกๆ
“คนเราไม่เหมือนกันค่ะ พวกพี่ๆเขาคงไม่ชอบ แต่พวกหนูชอบเอามาเทียบกันไม่ได้หรอกค่ะป้า”
“จริงอย่างที่หนูแก้วพูด เราก็เป็นแค่พ่อกับแม่เลี้ยงเขาได้แค่ตัว ส่วนหัวใจก็เป็นของเขาแล้วแต่เขาจะคิด ไปบังคับเขาไม่ได้หรอก ป้าก็ไม่อยากคิดหรอกนะ แต่ก็อดไม่ได้”
“แต่พวกพี่ๆเขาก็ยังมาเยี่ยมป้ากับลุงอยู่นี่คะ เดือนที่แล้วแก้วยังเห็นพี่เขามารับลุงกับป้าไปกินข้าวอยู่เลย”
“ใช่ เขาก็ดีหมดทุกคนนั่นแหละลูก แต่ป้าก็น้อยใจไปเอง ทีหลังไม่คิดแล้วนี่ดีนะที่ทุกอาทิตย์ป้าก็รอคุยกับหนูทั้งสองคน ทำให้ป้ากับลุงไม่เหงา ขอบใจนะลูกที่เข้าใจคนแก่”
ลุงโรจน์ กับป้าพุดซ้อนอายุหกสิบห้าปีแล้ว แต่ก็ยังไม่พักลูกหลานเรียนจบต่างก็แยกย้ายกันไปทำงาน ไม่มีใครอยากจะค้าขายเหมือนพ่อกับแม่สักคน สองคนตายายยังมีแรงก็ทำไปเรื่อยๆตามประสาคนขยัน ทั้งสองคนเอ็นดูแก้วกานดากับทรายหอม เด็กสองคนหน้าดีผิวพรรณดี ไม่น่ามาลำบากขายของหาเงิน ยิ่งพอได้รู้ประวัติความเป็นมาของแก้วกานดาแล้ว ทำให้ทั้งสองคนสงสาร สนับสนุนทุกอย่าง และหญิงสาวก็เคารพทั้งสองคนมากเพราะทั้งสองคนให้โอกาสเธอได้ที่ขายของดีๆ
สองสาวอยู่ช่วยลุงกับป้าจนเกือบห้าโมงเย็น และขอตัวกลับห้องพัก แก้วกานดาดีใจมากที่ขายของหมดเกลี้ยง สองสาวแวะซื้ออาหารเข้าไปกินที่ห้องพัก น้อยครั้งมากที่ทั้งสองคนจะนั่งกินข้าวนอกบ้าน คิดว่ากินที่ห้องสะดวกสบายทุกอย่าง
“ทราย รับไปห้ามไม่รับ ถ้าไม่รับแก้วจะโกรธ”แก้วกานดายื่นเงินจำนวนสองพันบาทให้ทรายหอม
“ไม่ๆทรายรับ แต่ว่าทรายจะให้แก้วเอาไปซื้อด้ายมาลงทุนถักกระเป๋ากัน สองพันนี่ถือว่าเป็นทุนเริ่มแรกของเราตกลงไหม ทรายตัดสินใจแล้วปิดเทอม ทรายจะไม่กลับบ้านจะทำงานที่ห้องกับแก้ว”
“จริงดิ ไปถามพ่อกับแม่ก่อนดีไหม”
“พ่อกับแม่ไม่ว่าหรอก มีแต่จะสนับสนุนให้ทรายทำงาน ยิ่งทำกับแก้วท่านยิ่งไม่ว่าเลย”
“ไม่กลัวพ่อกับแม่เหงาเหรอทราย”
“ไม่ๆที่บ้านก็มีน้องอีกตั้งสองคนอยู่เป็นเพื่อนพ่อกับแม่ ดีแล้วที่ทรายไม่กลับบ้าน ถ้ากลับไปก็กองกันอยู่บ้านเปลืองน้ำเปลืองไฟเปล่าๆ ทำงานดีกว่าได้เงิน แต่เราจะทำทันไหมแก้ว นี่ออเดอร์มาเรื่อยๆเลยนะ”
“ไม่เป็นไรงานแบบนี้ลูกค้าเขาเข้าใจ ไม่งั้นเขาจะเรียกว่างานฝีมือเหรอใช่ไหม”
“อืม...ใช่ๆทรายก็ลืมไป ว่าแต่ว่าสงสารลุงโรจน์กับป้าพุดซ้อนเนาะแก้ว อายุเยอะแล้วยังต้องมานั่งขายของร้อนก็ร้อน”
“สมัยก่อนยังไม่มีห้องแอร์ ร้อนกว่านี้อีก นี่ลูกสาวป้าเขามาทำห้องแอร์ไว้ให้ ลูกๆของป้าเขาก็พูดถูกนะ สองคนอายุเยอะแล้วลูกเต้าก็เรียนจบทำงานทำการดีๆกันทุกคน น่าจะพักได้แล้วไม่น่ามาเหนื่อยเลยแทนที่จะได้ไปเที่ยวหรือไปวัด”
“แก้วคนสูงอายุบางคนเขาก็ไม่ชอบเที่ยวหรือชอบเข้าวัดหรอกนะ ชอบทำงานมากกว่า”
“คงใช่ คนเราไม่เหมือนกันเนาะวิถีใครวิถีมัน”
“แก้วนี่เห็นไหม พี่สาวของแก้วไปเที่ยวต่างประเทศอีกแล้วงวดนี้ไปยุโรป เขาสวยนะสวยมากด้วยเวลาแต่งหน้า แต่เวลาไม่แต่งคงไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ตกลงพี่เขาสวยไหมแก้ว”
“แก้วไม่เคยเจอพี่เขาเลยตั้งแต่ออกมาจากบ้านหลังนั้น ลุงกับป้าส่งเขาไปเรียนต่างประเทศเขาก็โตอยู่ที่โน้น เพิ่งกลับมาช่วงโควิด จำได้แค่สมัยเด็กๆแก้วไม่สนิทหรอก ถึงจะเป็นลูกผู้พี่ลุงกับป้าคิดว่าแก้วเป็นคนใช้มากกว่า ก็เลยทำให้พี่ไม่ได้คิดว่าแก้วเป็นน้อง”
“ทรายลืมไป ไม่เอาไม่พูดแล้ว เตรียมขึ้นแบบกระเป๋าลายใหม่ไว้ถักดีกว่า เนี้ยของจริงของที่เราจะได้เงิน”
"ใช่ แก้วไม่สนใจคนบ้านนั้นแล้ว ถือว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกัน จำไว้นะทรายว่าแก้วไม่มีญาติ แก้วตัวคนเดียว"
"โอเค ทรายเข้าใจแล้ว แก้วกานดา สกุลบริรักษ์ เพื่อนสาวคนสวยของทรายหอม เก่งที่สุด"
"ทรายหอม แก้วไลน์ไปถามพี่ที่โรงแรมแล้วนะ ตกลงว่าขาดคนอีกสองคน ไปทำไหม"
"จริงเหรอไปๆทรายอยากทำ เดี๋ยวทรายขอพ่อกับแม่ก่อนนะ เดี๋ยวนี้เลย" ทรายหอมโทรหาแม่ขอไปทำงานกับแก้วกานดาที่โรงแรม หญิงสาวบอกชื่อโรงแรม ทรายหอมรู้ว่ายังไงพ่อกับแม่ก็อนุญาต พอรู้ว่าไปทำงานกับแก้วกานดาท่านก็วางใจไม่ห่วงมาก เพราะเชื่อว่าถ้าอยู่กับแก้ว ไม่มีเรื่องเสียหาย เอาตัวรอดได้สบายๆ สองสามีภรรยาอยากให้ลูกสาวแข็งแกร่งเหมือนแก้วกานดา จึงไม่ขัดเลยเมื่อเวลาที่ลูกสาวขอทำโน้นทำนี่กับเพื่อนสนิทคนนี้ ที่สองคนดีใจที่สุดคือเพราะแก้วกานดาทำให้ ทรายหอมเรียนดีขึ้นจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว
"พ่อกับแม่ทรายอนุญาตด้วยล่ะ เห็นไหม ทรายบอกแล้วว่าถ้าทำอะไรก็ตามที่มีแก้วอยู่ด้วย พ่อกับแม่ไม่มีปัญหาเลย"
"แหม...ทรายก็พูดซะแก้วกลัว นี่แก้วทำอะไรเสื่อมเสียไม่ได้เลยนะเนี้ย เสียหายมาพ่อกับแม่เอาตายแน่เลย"
สองสาวหัวเราะเสียงดัง ทั้งสองคนชอบชีวิตช่วงเรียนมหาวิทยาลัยที่สุด ได้ใช้ชีวิตการเป็นนักศึกษาเต็มที่ มีความสุขและสนุกกับเพื่อน แต่สำหรับทรายหอมเธอสนุกกับการได้ทำโน้นทำนี่กับแก้วกานดา จริงๆครอบครัวของเธอฐานะดีมาก ไม่ต้องทำงานเลยก็ยังได้ พ่อกับแม่ของเธอมีโรงงานใหญ่โต เงินเก็บมากมาย ลูกๆแทบไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แต่พ่อกับแม่ก็สอนลูกทุกคนให้ทำงาน เธอกับน้องๆไม่ได้สบาย ถึงจะเป็นลูกเจ้าของโรงงาน แต่ก็ต้องทำงานกันทุกคน
สองสาวช่วยกันทำบัญชี ตัวเลขและเงินสดที่ออกมา ทำให้ทั้งคู่มีแรงถักกระเป๋า กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ปาเข้าไปเกือบเที่ยงคืน ต่างคนต่างแยกย้ายกันเข้าห้องนอน และหลับเป็นตาย เพราะวันนี้ถึงจะขายดีขายหมด แต่แดดที่ตลาดร้อนมากคนก็เยอะ ขายของตลาดนัดยิ่งต้องคุยกับลูกค้าต่างชาติ ใช้พลังมากมายเหมือนกัน ทำให้สองสาวเพลียหมดแรงทั้งคู่