บทที่2.นางบำเรอคนใหม่

1546 Words
ปลายนิ้วร้อนร้ายขยับถี่กระชั้น แม้จะมีความแน่นตึง แต่ก็ไม่ใช่อุปสรรค เมื่อน้ำหวานจากแอ่งน้ำไหลอาบปลายนิ้วจนชุ่มฉ่ำ ชายหนุ่มครางเสียงปร่าเมื่อมือเล็กๆ ลูบไล้สะเปะสะปะบนลำตัวหนั่นแน่นของเขา เสื้อยืดบนลำตัวดูเหมือนจะเกะกะ อีเกร์จึงหยัดกายขึ้นนั่ง รีบถอดเสื้อออกไปให้พ้นๆ อย่างรวดเร็ว ตามด้วยกางเกงยีนที่ถูกถอดออกเป็นลำดับต่อไป อีเกร์เอนกายทาบทับเรือนกายขาวโพลน เขาบดเบียดเสียดสีผิวกายเปลือยเปล่ากับผิวกายนุ่มนิ่ม สอดตัวแทรกกึ่งกลางกายของสาวใช้แสนหวาน ส่ายไหวตัวตนเสียดสีกับเนินนางอวบอูม ในความคิดของอีเกร์ตอนนี้ไม่มีเซโลน่าอยู่สักนิด มีแต่ผู้หญิงร่างเล็กตรงหน้ากับกลิ่นหอมหวานยวนใจ กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยมาเข้าจมูกทำให้เขาหลงมัวเมา มือเอื้อมหยิบซองสีเงินหัวเตียงและรีบฉีกสวมบนตัวตนที่ขยายเต็มที่ “ชูว์! ใจเย็นๆ คนสวยทุกสิ่งๆ กำลังไปด้วยดี” อีเกร์กระซิบปลอบ จรดแก่นกายแข็งตึงกับเนินนางอวบใหญ่ แก่นกายใหญ่โตเสือกตัวตนในแอ่งน้ำหวานที่เล็กไปสักหน่อยถ้าเปรียบเทียบกับขนาดโอฬารของตัวเอง ความเจ็บปวดเหมือนถูกฉีกทึ้งโจมตีทัดดาวจนสติที่ลอยเคว้งคว้างกลับมาอยู่ที่เดิม “ปล่อย! ปล่อยนะฉันเจ็บ คุณกำลังทำอะไร?” เธอแผดเสียงดังลั่น มือเล็กๆ ดันแผงอกตรงหน้าสุดแรงเกิด แต่ชายหนุ่มได้ยินเหมือนเสียงกระซิบแผ่วๆ อารมณ์หนุ่มตื่นเตลิดอะไรทั้งปวงก็ฉุดไม่อยู่ เขาเร่งเสือกแก่นกายอีกครั้ง สอดหายเข้าไปในแอ่งน้ำคับแน่นสุดตัว ความรู้สึกแรกยามตัวตนใหญ่โตผ่านเยื่อใยบางเบา หัวคิ้วอีเกร์ขมวดแน่นรู้สึกแปลกๆ และมันมีบางอย่างวิ่งชนหัวใจเข้าจังๆ ทัดดาวขยุ้มปลายนิ้วที่แผ่นหลังกว้างของผู้ชายแปลกหน้า เธอตะกุยปลายเล็บสุดแรง หวังให้ชายหนุ่มเจ็บและเขาจะถอยหลังออกไป เมื่อร่างกายตัวเองตอนนี้ใกล้จะปริแตกมันเจ็บร้าวแทบขาดใจ “อ๊าค!” อีเกร์แผดเสียงก้อง กระทั้นเอวสอบแรงๆ กดลำตัวแนบแน่น จมดิ่งในแอ่งน้ำฉ่ำหวานแต่ก็เจ็บแปลบทั่วแผ่นหลัง “คนสวยเธอทำอะไร! แค่นี้หยุดฉันไม่ได้หรอกน่า” เขาส่งเสียงกระซิบขู่แนบเรียวปากอิ่ม ก่อนจะตามติดบดขยี้อย่างหนักหน่วง เอวสอบหนาก็ขยับเคลื่อนที่กระแทกตัวตนถี่ๆ มือใหญ่กางกำรวบมือเล็กๆ ไว้เหนือศีรษะ ขยับตัวสุดแรงเกิดฝากฝังแก่นกายเติมเต็มตื้อทุกสัดส่วน ทัดดาวส่ายหน้าบนที่นอนหนา หลังความเจ็บปวดจางหายไปความรู้สึกแปลกๆ ก็เข้ามาแทนที่ เอวอ่อนส่ายไหวไปตามจังหวะชักนำของชายหนุ่มที่เป็นผู้คุมเกม อีเกร์ปล่อยมือที่จับกุมไว้มือเล็กๆ เอาไว้ เขาหันไปขยำขยี้หน้าอกอวบแทน ทัดดาวเกร็งตัวแน่นขยุ้มผืนผ้าใต้ร่างผ่อนคลายความซ่านเสียว แอ่นกายตอบโต้จังหวะหฤหรรษ์สุดตัว เปล่งเสียงครางกระเส่าไม่หยุดไม่หย่อน “อ๊า…อู้…” หนุ่มจอมพลังขยับตัวสุดฤทธิ์ เขาหลงลืมเซโลน่าคู่ควงเสียสนิทใจ หลงลืมไปว่าเตียงหนาในคฤหาสน์ราโคยไม่เคยมีใครได้กล้ำกรายขึ้นมาบนนี้สักคน อารมณ์หนุ่มพุ่งสูงสุดขีดฮึกเหิมลำพองใจ ควบทะยานสุดกำลังที่มี เสียงตอกอัดดังกระชั้นถี่ๆ กลิ่นอายพิศวาสลอยฟุ้ง เสียงหอบหายใจดังประสานไปกับเสียงครางแผ่วๆ ทัดดาวหลับตาแน่นตอบโต้สุดตัวเมื่อความรู้สึกทั้งมวลเหมือนกำลังใกล้ถึงเส้นชัย ลมหายใจหอบกระเส่าเกร็งลำตัวแน่น แอ่นลำตัวขึ้นสู้การกระแทกกระทั้น พร้อมกรีดร้องเสียงแหลมเมื่อดวงดาวพร่างพรายแตกกระจายลงต่อหน้าต่อตา “อ้ายยยย…” อีเกร์กัดกรามแน่นเขากระทั้นตัวสุดฤทธิ์สุดเดช มือช้อนเรียวขายาวขึ้นไว้บนสองบ่า เร่งตอกอัดแก่นกายสุดแรงเกิด เมื่อภายในร่างกายของผู้หญิงใต้ร่างดูดตอดถี่ๆ จนทานทนไม่ไหวเผลอตัวปลดปล่อยเชื้อพันธุ์ขุ่นข้นทะลักทลาย ชายหนุ่มปลดปล่อยด้วยความอิ่มเอม ทรุดลำตัวชื้นเหงื่อเอนตัวซบหน้าอกอวบตรงเบื้องหน้า พลิกกายนอนแผ่หมดเรี่ยวแรงหลังได้รับความสุขสมเต็มหัวใจ เสียงร้องไห้กระซิก ข้างๆ หูอีเกร์จึงเปิดเปลือกตาขึ้นมอง หลังหลับไปชั่วครู่ยามลืมตาตื่นเต็มที่ชายหนุ่มรู้สึกตกใจที่เผลอหลับไปบนเตียงกับคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักแม้แต่ชื่อแซ่ ที่สำคัญบนเตียงนอนใต้หลังคาคฤหาสน์ราโคย! “พอเถอะน่า จะร้องทำไมกันนักกันหนา! ฉันรำคาญ!” ชายหนุ่มตวาดเสียงก้อง ยกหมอนนุ่มขึ้นปิดใบหูรำคาญเสียงร้องไห้กระซิกกระซี้ที่ดังอยู่ใกล้ๆ ทัดดาวขดตัวจนเป็นก้อนกลมๆ สองมือโอบรัดตัวเองไว้จนแน่น เธอเม้มเรียวปากกลั้นเสียงสะอื้นไห้ ปล่อยหยดน้ำตารินไหลเงียบๆ เรือนกายโปร่งบางเจ็บร้าวไปตลอดทั้งหน้าขา สัดส่วนความเป็นหญิงเจ็บแปล๊บๆ ยามขยับเนื้อขยับตัว ค่อยๆ กระถดตัวหนีให้ห่างผู้ชายแปลกหน้าที่พึ่งพรากความบริสุทธิ์ของตัวเองไปหมาดๆ เธอเบียดตัวเองกับหัวเตียงแน่น เมื่อไม่มีทางก้าวข้ามเรือนกายเปล่าเปลือยทรงพลังที่นอนขว้างทางอยู่ไปได้ ดวงตากลมโตเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา เธออยากจะทำร้ายร่างกายผู้ชายตรงหน้าให้เจ็บปวด แต่คงไม่มีทางสู้เพราะเขาตัวใหญ่เกินไปเกินกว่าจะต่อกร “คุณ! ปล่อยฉันไปได้หรือยัง ฉันไม่อยากอยู่แบบนี้” เสียงเครือสะอื้นวอนขอเสียงสั่นพร่า อีเกร์เปิดเปลือกตาขึ้นมองอีกครั้งด้วยความเกียจคร้าน ชายหนุ่มยันกายลุกขึ้นนั่งมองผู้หญิงสาวบนเตียงใหญ่ด้วยแววตาเฉยชา “ฉันรั้งเธอไว้เหรอ? อยากไปไหนก็ไปซิ แต่เธอคงไม่เอาเรื่องนี้ไปพูดให้ใครฟังหรอกนะ! ครั้งนี้ฉันลืมตัวไปหน่อย เธอต้องการเท่าไหร่ล่ะสำหรับค่าเยื่อพรหมจรรย์บางๆ ที่ฉันพึ่งจะทำลายไปนี่น่ะ” เสียงเฉยชากล่าวลอยๆ และลุกขึ้นยืน เดินไปคว้ากางเกงยีนที่ตกอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ลวกๆ สองมือเท้าสะเอวจ้องมองก้อนกลมๆ นุ่มนิ่มไปทั้งเนื้อทั้งตัวด้วยสายตาวาววาม “ขอบคุณ! แต่ฉันไม่ต้องการ ขอแค่คุณยอมปล่อยฉันไปก็พอ...” ทัดดาวกัดฟันพูดเสียงสะบัด ดวงตากลมโตวาววับ เธอแค้นสุดชีวิตแต่ไม่สามารถต่อกรอะไรกับคนแปลกหน้าบนประเทศสเปนที่ถือว่าสายเลือดของเขาเข้มข้นกว่าพลเมืองชั้นสองที่เข้ามาพึ่งใบบุญ “เอาอย่างนั้นเหรอ! ตามใจสิ ฉันยังไงก็ได้แล้วแต่เธอก็แล้วกัน...” อีเกร์ยักไหล่ หมุนรีหมุนขวางทำตัวไม่ถูกเมื่อสาวเจ้าไม่เรียกร้องเงินทองเหมือนผู้หญิงทุกคนที่เคยผ่านเข้ามาในชีวิต “ขอเสื้อผ้าฉันได้ไหมคะ ฉันอยากออกไปจากที่นี่ เดี๋ยวเจ้าของบ้านเข้ามาเจอ ฉันจะเดือดร้อนจนต้องหางานทำใหม่” ทัดดาววิงวอนเสียงอ่อนเบามือเล็กๆ กุมชายผ้าแน่นเมื่อตลอดร่างกายไม่มีผ้าผ่อนติดกายสักชิ้นเดียว “เจ้าของบ้านใครล่ะ! เธอกลัวใครกัน? ฉันแน่ใจว่าห้องนี้ไม่มีใครกล้าเข้ามาถ้าฉันไม่อนุญาต” อีเกร์หมุนซ้ายหมุนขวาเหลือบมองผู้หญิงกลางเตียงนิ่งๆ “คุณหมายความว่ายังไงคะ ฉันไม่เข้าใจ?” “ถามจริงแกล้งโง่? หรือโง่จริงๆ กันแน่หะ อย่ามาทำเป็นตลกน่ะ เธอไม่รู้จักฉันเหรอ ฉันเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้” ชายหนุ่มตัดความรำคาญเฉลยความจริงให้เธอรู้ เขามองหน้าหวานฉ่ำที่นองน้ำตา ที่ตาค่อยๆ เบิกกว้างและอุทานเสียงดังลั่น “คุณพระ! คุณอีเกร์หรอกหรือคะ ขอโทษค่ะๆ อย่าไล่ฉันออกเลยนะคะฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ว่าเป็นคุณ!” ทัดดาววิงวอนเสียงสั่นพร่า เธอตกใจสุดขีดแกมวิตก ความสาวที่สูญเสียไปยังไม่น่าตกใจเท่าคนที่ครอบครองมันเป็นเจ้านายโดยตรงและสามารถปลดเธอออกจากงานที่ทำถ้าเขาเกิดไม่พอใจขึ้นมา “เอาล่ะ! เธอต้องการอะไรเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับสิ่งที่เธอพึ่งจะเสียไปล่ะ” ชายหนุ่มปรายตามองคราบเลือดจางๆ กลางเตียง มันเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าเขาพึ่งจะเชยชิมน้ำค้างบริสุทธิ์กลางเวหามาหมาดๆ “ไม่ค่ะ ไม่! ฉันไม่ต้องการอะไรเลยสักอย่าง เราจบกันแค่นี้เถอะค่ะ ได้โปรดปล่อยฉันไปเถอะค่ะคุณ...” “แน่ใจนะว่าเธอจะไม่แบล็กเมล์ฉันทีหลัง เพื่อความมั่นใจเธอเอานี่ไปดีกว่า” เขาปลดนาฬิกาเรือนโปรดส่งให้ผู้หญิงหวานฉ่ำตรงหน้า มูลค่าราคาของมันหลายแสนยูโรโดยไม่เสียดายสักนิด เมื่อเทียบกับสิ่งที่พึ่งจะได้รับมันมา “ขอบคุณค่ะ แต่ฉันไม่ต้องการ ฉันให้สัญญาเลยก็ได้ค่ะว่าจะพยายามอยู่ให้ห่างคุณที่สุด จะไม่ให้คุณเห็นหน้าอีกสักครั้งจนกว่าฉันจะหางานใหม่ได้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD