“อะไรเนี่ย...” ริมฝีปากรูปกระจับขมุบขมิบอ่านข้อความบนกระดาษสีขาวนี้ด้วยความฉงนมึนงง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัยไม่เข้าใจ หญิงสาวพึมพำออกมาเสียงแผ่วเบาภายในห้องพักของเธอ
‘จัดจองโต๊ะกินข้าวกลางแม่น้ำเจ้าพระยาในวันพระจันทร์เต็มดวง ให้คุณพาคินณ์ เกียรติภูมิ ผู้ดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร
ปรากฏว่าท่านไม่สามารถทำงานตามที่ได้รับมอบหมายได้ เกิดความผิดพลาด และท่านไม่สามารถแก้ไขได้ทันตามกำหนดเวลา เป็นเหตุให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหาย ส่งผลกระทบต่อการทำงานหลายด้าน’
ข้อความเด่นหราที่เธออ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ยิ่งทำให้ไม่พอใจ หากเขาคิดจะไล่เธอออกก็ไม่ควรตั้งข้อหาไร้สาระแบบนี้ให้เธอ
“...พาคินณ์” ม่านฟ้ากำจดหมายคำสั่งเลิกจ้างในมือจนยับยู่ยี่ เธอต้องไปคุยกับเขาคนนั้นให้รู้แล้วรู้รอด คิดได้ดังนั้นฝ่ามือบางก็รีบวางกระเป๋าสะพายข้างลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะเดินออกไปหาคนเป็นนาย
...ร่างบางผอมเพรียวแต่มีสัดส่วนโค้งเว้า ม่านฟ้าสวมเสื้อแขนยาวคอกระเช้า กระโปรงทรงเอยาวเหนือหัวเข่าเพียงเล็กน้อย ฝ่าเท้าเล็กในส้นสูงสองนิ้วก้าวเดินอย่างคล่องแคล่ว เธอเดินไปหยุดที่หน้าห้องทำงานของท่านรองประธานบริษัทที่สาวเจ้าทำงานอยู่ ก่อนจะเคาะประตู
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
“ฉันเองค่ะ บอส...” ไร้เสียงตอบรับเช่นเดิม เรียวแขนเล็กถูกยกขึ้นมองดูนาฬิกาบนข้อมือทันที เวลานี้เขาคงมาทำงานแล้ว พาคินณ์ไม่เคยมาทำงานสาย แต่ทำไมเขาไม่ขานรับเสียงของเธอ
หรือเขาจะแกล้งไม่ได้ยิน
“ท่านรองคะ...ฉันม่านฟ้าค่ะ”
เงียบ...
ดังเดิม
“ขออนุญาตเข้าไปนะคะ” ไม่ว่าเปล่า ฝ่ามือเล็กถือวิสาสะเอื้อมไปคว้าลูกบิดประตู ก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไป
ทว่า
“ผมไม่ได้อนุญาตให้คุณเข้ามา” เสียงของเขาบึ้งตึงและเต็มไปด้วยความไม่พอใจ สายตาของม่านฟ้าเลื่อนมองแขกภายในห้องของเขาด้วยความตกใจเช่นกัน เวลานี้ไม่คิดว่าท่านรองฯจะมีแขกมาหา ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นคุณลุงของเขาและเธอเองก็รู้จัก
“ไม่เป็นไรหน่า คนกันเอง” พาคินณ์พ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อคุณลุงของเขาว่าอย่างนี้ ก่อนที่ท่านจะหันไปหาม่านฟ้า “เดี๋ยวลุงก็จะกลับแล้วล่ะ มาทำธุระนิดหน่อย”
“เรื่องพี่พาทิศหรือเปล่าคะ”
“ไม่ใช่เรื่องของเธอ!...” หญิงสาวหุบปากแทบไม่ทันเมื่อได้ยินเสียงกัมปนาทจากเจ้านายหนุ่มที่ตะคอกออกมา กระนั้นเธอก็ยังคงอยากรู้ว่าคุณลุงอัทธากรมาหาท่านรองฯแต่เช้านั้นใช่เรื่องของท่านประธานที่หายตัวไปหรือไม่
“หึ โอเค…แค่นี้ก่อนก็แล้วกัน ถ้าได้เรื่องอะไรจะโทรมาบอก”
“ครับ ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“บอกตัวเองเถอะ ลุงมันเก๋าอยู่แล้ว ฆ่าไม่ตาย” พาคินณ์ยกยิ้มมุมปากให้กับผู้มากประสบการณ์กว่า ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกับเดินไปส่งพี่ชายของบิดา
“เดี๋ยวผมติดต่อไปนะครับ” เสียงของชายหนุ่มเจือไปด้วยความหวัง ทำให้คนที่เงี่ยหูฟังอยู่นั้นอยากรู้อยากเห็นไปด้วย แต่ก็ไม่สำเร็จเมื่อคนตัวโตหมุนตัวมาหาเธอเสียก่อน
“_” เขาไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่มองหน้าเธอ ก่อนจะเลื่อนสายตามองกระดาษในฝ่ามือของเธอที่ตอนนี้มันถูกกำจนยับยู่ยี่
“ทำไมทำแบบนี้คะ”
“แบบไหน?”
“คุณไล่ฉันออกแบบไม่มีเหตุผล” ม่านฟ้าเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างช้า ๆ พลางมองหน้าเขาไปด้วย แต่ร่างหนากลับไหวไหล่ให้เธอเป็นการตอบกลับเพียงเท่านั้น
“ก็ตามนั้น จำเป็นหรือไงที่ต้องมีเหตุผล”
“เหอะ!...ฉันทำงานให้บริษัทของคุณมาแปดปี แต่คุณไล่ฉันออกด้วยเหตุผลจองโต๊ะไม่ทันเนี่ยนะ”
“แล้ว...ไม่ถูกเหรอ เธอจองโต๊ะไม่ทัน”
“คุณให้ฉันจองเวลานั้นมันจะไปทันได้ยังไง!” ม่านฟ้าขึ้นเสียง เธอติดนิสัยเป็นประจำว่าสามารถขึ้นเสียงใส่เขาได้ เพราะผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเจ้านายของเธอคนนี้เขาหลงรักเธอ ทว่า
“อย่าขึ้นเสียงใส่ฉัน!!” เขากลับตะคอกเสียงกลับจนร่างบางสะดุ้งโหยง
“นายเป็นอะไร” พาคินณ์ไร้เหตุผลกว่าทุกครั้ง เวลาที่เขาให้จองโต๊ะทานข้าวกลางแม่น้ำนั้นมันกระชั้นชิดมาก แถมวันนั้นก็มีคนตั้งใจจะไปดื่มด่ำบรรยากาศบนเรือใต้แสงจันทร์อีกหลายร้อยคน เขาจงใจบีบบังคับให้เธอจองให้ได้แต่ก็ไม่สำเร็จ จากนั้นจึงใช้เหตุผลนี้ในการไล่เธอออก
“ม่านฟ้า...เธอไม่ควรเรียกฉันแบบนี้อีก เธอมีเวลาหลังจากนี้แค่หนึ่งเดือน...ส่งต่องานค้างให้เลโก้ให้เสร็จแล้วเก็บข้าวของของเธอออกจากบริษัทไป”
“อะไรนะ! คินณ์...ฉันไม่เข้าใจ อยู่ ๆ นายก็มาไล่ฉันออกทั้ง ๆ ที่นายเป็นคนอยากให้ฉันมาทำงานเป็นเลขาฯของนาย แต่วันนี้นายกลับมาไล่ฉันออกหน้าตาเฉยเนี่ยนะ” หญิงสาวว่าอย่างมีน้ำโห เธอกำฝ่ามือเข้าหากันพลางหายใจฮึดฮัดอย่างคนไม่พอใจ เขาต้องการให้เธอมาทำงานด้วยเพราะหลงรักเธอนั่นนี่ แต่คราวนี้เขากลับไล่เธอออก
“ทำไม เธออยากออกอยู่แล้วนี่”
“_”
“หึ ตอนเธอมาทำงานกับฉันวันแรกเธอว่าไงนะ...เธอบอกว่าเธอถูกบังคับให้ทำ แล้วทำไมตอนนี้ฉันปล่อยให้เธอไป เธอจะมาเรียกร้องอะไร”
“ฉันไม่เข้าใจไง ไม่เข้าใจว่าฉันผิดอะไรที่อยู่ ๆ นายก็มาไล่ฉันออก”
“_” พาคินณ์ไม่ตอบในทันที เขาจ้องมองใบหน้าแดงก่ำไปด้วยความโกรธของคนตัวเล็กกว่า
“เพราะฉันเบื่อเธอ”
“ห้ะ...”
“ฉันเบื่อเธอแล้ว แล้วเธอก็ไม่มีสิทธิ์อะไรมาพูดเหมือนกับอยู่เหนือฉัน ทั้ง ๆ ที่เธอเป็นลูกน้องฉัน...มีหน้าที่แค่ทำตามที่ฉันสั่ง ไล่ออกคือออก ไม่พอใจก็ไปฟ้องกรมแรงงาน”
“นาย...”
“ถ้าคิดว่าจะฟ้องชนะน่ะนะ...หึ” พาคินณ์แค่นหัวเราะอย่างนึกสมเพช ร่างหนาเดินชนไหล่เล็กของเธอไปที่โต๊ะทำงานของตัวเองโดยไม่สนใจว่าสาวเจ้าจะตกใจกับการกระทำของเขามากเพียงใด
...พาคินณ์เปลี่ยนไป