เวลาต่อมา...
ร่างขาวผ่องเปลือยเปล่าใต้ร่างทำเลือดในกายหนุ่มพลุกพล่าน พาคินณ์กำลังจะปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออกแต่ก็ถูกฝ่ามือเล็กยื่นขึ้นมาจับฝ่ามือของเขาไว้ เธอคุกเข่าบนที่นอนตรงหน้าเขา
“ถอดให้ค่ะ” เธอว่าเสียงกระเส่า สาวนักรักเรียนนอกอย่างเธอจะทำให้เขาพึงพอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มออกมาเบา ๆ ไม่เคยเลยที่เขาจะมีเซ็กส์สมยอมทั้งคู่แบบนี้ ปกติมักจะเป็นเขาที่เห็นแก่ตัวข่มเหงม่านฟ้า และมันก็ไม่ได้มีความสุขเอาเสียเลย นี่เป็นครั้งแรกกับหญิงอื่น เขาซื่อสัตย์กับรักเดียวมาตลอดแต่ก็ไม่เคยได้อะไรกลับคืน
“หุ่นดีจังเลยค่ะ” อิงฟ้าเม้มริมฝีปากพลางเลื่อนสายตามองร่างหนาที่เต็มไปด้วยมวลกล้ามเนื้ออย่างคนสุขภาพดี
“หึ เธอเองก็เหมือนกัน” เขางึมงำออกมาเบา ๆ แต่กลับเรียกเลือดฝาดในกายสาว ร่างเล็กแดงซ่านในทันที ฝ่ามือหนาจับสะโพกของเธอไว้ ก่อนจะดันร่างเล็กให้นอนราบบนที่นอนอีกครั้ง
“ใจเย็น ๆ สิคะ...หึ อ่า...พี่คินณ์” พาคินณ์โน้มตัวทาบทับร่างบาง ไซ้ซอกคอระหงอย่างหื่นกระหาย เรือนร่างขาวผ่องเป็นยองใย เธอไม่ได้ดีไปกว่าม่านฟ้าอันนี้เขายอมรับ แต่การตอบรับของเธอนั้นดีกว่าแน่นอน
...ร่างเล็กใต้ร่างบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน ฝ่ามือหนาของเขาลูบไล้ไปที่จุดใดก็ทำให้ไรขนอ่อนทั่วทั้งร่างลุกซู่ขึ้น หญิงสาวปล่อยกายให้เขาได้เชยชม
พาคินณ์หยัดกายขึ้นอีกครา เขาปลดปราการช่วงล่างลงจนหมดสิ้น แก่นกายแข็งชันดีดผึ่งออกมาทันที ขนาดของมันทำให้คนตัวเล็กดวงตาลุกวาว ร่างบางรีบผุดลุกขึ้นคุกเข่าลงตรงหน้าเขาอีกครั้ง
“ทำให้ค่ะ” ฝ่ามือบางคว้าหมับที่ท่อนเขื่องนี้ รีบชักรูดพร้อมกับอ้าปากครอบงำ เธอดูดปลายหัวเห็ดแดงก่ำด้วยความช่ำชอง เสียงครางระส่ำจากลำคอหนาบอกเธอว่าเขาพอใจมากแค่ไหน
“อื้มม...” พาคินณ์คำรามเสียงอย่างคนพึงพอใจ เขาลูบศีรษะเล็กของเธออย่างนึกเอ็นดู รวบผมยาวสลวยนั้นเป็นหางม้า สบสายตากับดวงตาคู่สวยที่กำลังสาวแท่งเนื้อของเขาอยู่
ริมฝีปากเล็กดูดเลียอย่างมูมมามราวกับว่ามันเป็นไอศกรีมรสหวาน เสียงน้ำลายของเธอนั้นเสนาะหู หญิงสาวชักรูดถี่ ๆ พร้อมกับอ้าปากแลบลิ้นตวัดเลียอย่างเมามัน อิงฟ้ากอบกุมแท่งไอศกรีมขนาดใหญ่ของเขาขึ้น ใช้ปลายลิ้นเลียตั้งแต่รอยฝีเย็บจนถึงพวงสวรรค์ เธอช่ำชองจนทำให้เขาใจสั่น
“อ่า...”
“แตกมาเลยค่ะ” หญิงสาวว่าเสียงแหบพร่า ก่อนจะเลื่อนริมฝีปากดูดแรง ๆ ที่ปลายหัวความเป็นชายทำเอาร่างหนาสั่นสะท้าน แผ่นหลังของเขาสั่นเล็กน้อยพร้อมกับน้ำรักที่กระฉอกออกมาเต็มโพรงปากเล็กจนไหลเยิ้มออกตามมุมปาก อิงฟ้ารีบตวัดเลียทันทีเธอกอบโกยไปจนหมดพร้อมกับกลืนลงคอ
“อึก ซี๊ดด~ ดีไหมคะ อึก ฉันทำดีหรือเปล่า” เขายกยิ้มมุมปากให้กับเธอ ลูบศีรษะเล็กด้วยความพึงพอใจ
“ดี แต่จะดีกว่านี้ถ้าเธอนอนลงให้ฉันเอาแรง ๆ” อิงฟ้าฉีกยิ้มกว้าง ไม่รอช้าที่เธอจะนอนราบลงพร้อมกับอ้าขากว้างให้กับเขา สะโพกสวยส่ายเบา ๆ ด้วยความต้องการระหว่างรอเขาสวมเครื่องป้องกัน
“เธอพกไว้ติดตัวเลยงั้นเหรอ” อิงฟ้ามีถุงยางพร้อมให้กับเขา พาคินณ์ไม่เคยพกถุงยางเพราะไม่เคยคิดอยากนอนกับใคร หากเป็นม่านฟ้าเขาสดตลอด
“ค่ะ ฉันเป็นผู้หญิงที่ต้องรู้จักป้องกันตัวเองอยู่แล้ว” เธอหัวสมัยใหม่ และเขาก็พอใจเป็นอย่างมาก พาคินณ์ขยับเข้าแทรกกลางหว่างขาของเจ้าหล่อน สลัดภาพของม่านฟ้าออกจากหัวก่อนจะดันแก่นกายเข้าดอกไม้งามจนมิดโคน
“อ่า~ ใหญ่มากเลยค่ะ” อิงฟ้าซี๊ดปาก เธอหายใจไม่ทั่วท้องเมื่อจังหวะของคนตัวโตนั้นรุนแรงมาก ร่างเล็กสั่นคลอนพร้อมกับฝ่ามือบางที่ปัดป่ายไปทั่ว
...สองร่างสลับสับเปลี่ยนกันรุกรับอย่างไม่มีใครยอมใคร ความเสียวซ่านแผ่กระจายไปทั่วทุกอณู เสียงครางระงมดังไปทั่วทั้งโรงแรมหรู ร่างหนาโปรดปรานในกายสตรี เช่นเดียวกับสาวเจ้าที่ยิ่งตกหลุมรักเขาไปกันใหญ่ เขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตา ฐานะ เงินทอง...แต่เขาดีทุกอย่าง...
ปัจจุบัน
หลังจากนั้นสองวัน
ร่างซูบผอมของชายคนหนึ่งในเสื้อยืดเปื้อนฝุ่น โกดังแห่งนี้เป็นคลังสินค้าในโรงงานของบริษัทเดอะเกรทฟีเจอร์กรุปจำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำผู้ประกอบธุรกิจเครื่องอุปโภคบริโภค ของใช้ในครัวเรือน ผู้นำเข้าสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ห้างสรรพสินค้า รวมถึงบริษัทจำกัดในเครือ ภายใต้ชื่อเดอะเกรทฟีเจอร์กรุป หรืออักษรย่อตัว Gf ซึ่งเป็นเครื่องหมายการค้าที่เห็นโดยทั่วไปตามท้องตลาด
พาคินณ์มองร่างเปื้อนฝุ่นของผู้ชายคนหนึ่ง นานแล้วที่เขากับน้องชายจับการทุจริตเงินในองค์กรได้ ซึ่งเป็นการยักยอกเงินเดือนพนักงานโรงงานกว่า 500 ล้านบาทตลอดห้าปีที่ผ่านมา ทว่าเขากลับจับได้เพียงคนที่ทำการยักยอกเงินแต่คนที่บงการทุกอย่างนั้นกำลังลอยนวล
“บอสจะเอายังไงต่อเหรอครับ มันบอกว่าไม่รู้อะไรเหมือนเดิม” พาคินณ์ปลงกับพนักงานบัญชีคนนี้นานแล้วล่ะ ธนกิตเป็นพนักงานบัญชีที่เป็นคนเขียนหนังสือเบิกเงินกับธนาคารให้โอนเงินที่ยักยอกไปให้กับผู้จัดการฝ่ายผลิต ซึ่งเขาเพิ่งปลิดชีพอีกฝ่ายไปเมื่อไม่นานมานี้ ทว่าผู้จัดการฝ่ายผลิตคนนั้นไม่ใช่ตัวการใหญ่ เป็นเพียงแค่หมากในกระดานเท่านั้น
“ที่กูให้มันทรมานอยู่ที่นี่ กูแค่อยากให้มันรู้ว่าพี่กู...กำลังทรมานอยู่” พาคินณ์พูดถึงพี่ชายของเขาที่หายตัวไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว จะเรียกว่าหายตัวก็ไม่ใช่ เรียกว่าถูกทำร้ายและยังหาตัวไม่พบน่าจะถูกมากกว่า ชายหนุ่มคิดว่าพาทิศรู้เรื่องการทุจริตเงินในครั้งนี้ และรู้ว่าใครเป็นคนบงการ จากนั้นจึงถูกปิดปากในที่สุด จนตอนนี้ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่าจะพบตัวพี่ชายของเขา
แม้นจะพบกล้องหน้ารถแล้วก็ตามแต่
เกิดข้อสันนิษฐานมากมายหลังจากที่กู้กล้องหน้ารถได้แล้ว ด้วยความที่รถของพี่ชายถูกชนจนตกลงคลองข้างถนนที่เขาใหญ่ ทำให้กล้องหน้ารถเสียหายหนักกว่าจะกู้ได้ก็ล่อไปเป็นเดือน เพิ่งจะกู้ได้เมื่อไม่นานมานี้นี่เอง แต่เขาก็ไม่มั่นใจกับข้อสันนิษฐานเหล่านั้นสักเท่าไร แต่ลองดู...มันก็ไม่เสียหายอะไร
“ถ้าปล่อยไว้แบบนี้อีกหน่อยมันตายแน่ ๆ ครับ”
“ตายได้ก็ดี พวกมันทำพี่กูเจ็บ”
“บอสยังถูกคุมประพฤติจากศาลอยู่นะครับ” เลโก้ว่าด้วยความเป็นห่วง เพราะเจ้านายหุนหันพลันแล่นฆ่าคนไปแล้ว ผู้จัดการฝ่ายผลิตนามว่าสมชาติถูกเจ้านายยิงจนตายไปในที่สุด[1] ถ้าจับพนักงานบัญชีคนนี้มาทรมานจนตายไปอีกคนมีหวังว่าเงินจำนวนมากที่มีก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้อีก
“กูอยากฆ่ามันให้มันตายไปตั้งแต่ตอนนี้อีก” เขาว่าอย่างเดือดดาลในใจ ถ้าไอ้พวกสารเลวนี้ไม่ร่วมมือกันโกงบริษัท พี่ชายของเขาก็คงไม่ต้องถูกทำร้ายแบบนั้น แถมยังไม่รู้ด้วยว่าคนเป็นพี่เป็นตายร้ายดียังไง
“ถ้างั้นเราแจ้งตำรวจให้มาจับมันไปขังดีกว่าไหมครับ”
“หึ ไม่ดีกว่า...” มุมปากหยักได้รูปยกยิ้มขึ้นมา เขานึกอะไรดี ๆ ออก “ไหน ๆ เราก็เลือกทำแบบนี้แล้ว เดี๋ยวมึงเอามันไปหาหมอ ให้มันกินไรดี ๆ แล้วให้มันกลับไปทำงานเหมือนเดิม ใครที่เป็นคนบงการมันในบริษัทเรา ถ้าเห็นมัน...ก็คงปั่นป่วนน่าดู”
“เอางั้นเลยเหรอครับ”
“หึ...” พาคินณ์หัวเราะออกมาเบา ๆ ความสนุกคอยเขาอยู่แล้ว ชายหนุ่มเหยียดยิ้มมุมปากอีกครั้งก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถปล่อยให้เลโก้จัดการทุกอย่างตามที่เขาสั่ง
...พอคิดอีกทีหมากในเกมนี้ค่อย ๆ นิ่งไปอย่างผิดสังเกต ไม่มีการเดินเกมอีกเลยหลังจากที่เขาจับได้ทั้งผู้จัดการฝ่ายผลิตที่รับเงินยักยอกไป คนที่เขียนหนังสือเบิกเงินอย่างธนกิตที่นอนอยู่บนพื้นนี้ รวมถึงตัวกลางสื่อสารอย่างธันวา[2]ที่ถูกพบว่าฆ่าตัวตายที่ห้องพัก กระนั้นเขาก็คิดว่าการตายของธันวาคือการฆ่าปิดปาก ไม่มีการสาวไปถึงคนที่บงการได้จริง ๆ มีแค่พี่ชายของเขาที่รู้ว่าใครเป็นคนบงการการทุจริตเงินในครั้งนี้ จุดประสงค์ของมันคืออะไร แต่โชคร้ายก็นำพาให้พี่เขานั้นหายตัวไป
พาคินณ์ขับรถไปตามท้องถนน สายเรียกเข้าเป็นเบอร์ของอิงฟ้าดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เขาแลกเบอร์กับเธอเมื่อวันนั้น หากว่าหมากในเกมนี้นิ่งไปจะเป็นเขาเองที่จะเริ่มเดินหมากที่มีอยู่
ติ๊ด!
“ครับ”
[พี่คินณ์...วันนี้ไม่มาคลับเหรอคะ] เสียงหวานเล็ก ๆ ของอิงฟ้านั้นทำให้เขานึกถึงรสสวาทของเธออยู่เหมือนกัน
“วันนี้พี่วุ่นนิดหน่อย” เขาหมายถึงเรื่องของม่านฟ้า วันนี้ทั้งวันที่เขาต้องปวดประสาทกับสาวเจ้า ไม่รู้ว่าเมื่อไรเธอจะเลิกปั่นประสาทเขาเสียที
[เหรอคะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ พักผ่อนนะคะ...พรุ่งนี้เราก็จะได้เจอกันที่บริษัท หนูตื่นเต้นมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าไปถึงแล้วหนูไปหาพี่ก่อนเลยได้ไหมคะ] พาคินณ์ไม่ชอบเสียงแจ้ว ๆ ของเธอสักเท่าไร อิงฟ้าพูดมากเอาเรื่อง เขาเป็นคนออกคำสั่งอนุญาตให้เธอกลับมาทำงานด้วย
“อืม...รู้เหรอว่าห้องพี่อยู่ไหน”
[ก็เดี๋ยวหนูถามพ่อก็ได้ค่ะ]
“พ่อหนูไม่ค่อยมาทำงานนะช่วงนี้”
[หืม เหรอคะ หนูเห็นพ่อออกจากบ้านทุกวัน]
“หึ...” เขาเพียงแค่หัวเราะเบา ๆ โดยไม่ได้พูดอะไร อิงฟ้าใสซื่อบริสุทธิ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับพ่อของเธอและเขาก็ไม่มั่นใจด้วยว่าข้อสันนิษฐานของเขาหลังจากเห็นกล้องหน้ารถนั้นจะเป็นจริงหรือไม่
[งั้นเจอกันวันพรุ่งนี้นะคะ ฝันดีนะคะพี่คินณ์]
“ครับ” เขากดตัดสายหลังจากนั้น พาคินณ์ขับรถไปตามท้องถนนตามเดิม เรื่องวันนี้ยังวนเข้ามาในหัวไม่หยุด ทั้งภาพและเสียงของม่านฟ้านั้นไม่เคยทำให้เขาสลัดมันออกได้จริง ๆ
ปึก!
“โธ่เว้ย!!” กำปั้นหนาทุบลงที่พวงมาลัยรถยนต์คันหรู บอกกับตัวเองว่าให้พอแล้ว เขาจะลืมเธอให้ได้และไม่กลับไปยืนอยู่ในจุดนั้นอีกต่อไป...
นานแล้วที่ไม่ได้มาดื่มแอลกอฮอล์ยามค่ำคืนเช่นนี้ แต่เรื่องวันนี้ก็ทำให้เครียดจนต้องหาที่ระบาย
“ฉันไม่มั่นใจนะว่าแกโกรธที่ท่านรองฯไล่ออกหรือแกโกรธที่เขาไปนอนกับคนอื่นมา” น้ำเสียงของบัวรินนั้นเต็มไปด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าม่านฟ้าเสียใจจากเรื่องอะไรกันแน่
“อึก ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ม่านฟ้าเงยหน้าขึ้นจากแก้วเหล้า ใบหน้าเล็กแดงก่ำด้วยพิษสุรา
“แต่ฉันที่เป็นเพื่อนแกดูออก แกกำลังหึงเขา” ม่านฟ้าไม่อยากยอมรับความจริงข้อนี้เสียทีเดียว หญิงสาวยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มอีกครั้ง
“อึก เขาไม่เคยทำแบบนี้”
“_”
“เขามีผู้หญิงเข้าหาตลอด อึก บางครั้งถ้าคนเห็นเขาก็จะคิดว่าเขาเจ้าชู้ แต่ความจริงแล้วเขารำคาญผู้หญิงพวกนั้น ฮึก...แล้ว แล้วเขาก็ไม่เคยทำแบบนั้น”
“แล้วแกเป็นอะไรของแกล่ะ ฉันก็เห็นแกบ่นแกร้องไห้ตลอดตอนเขาเอาเปรียบ แต่ตอนนี้แกมาบ่นเพราะเขาไม่เอาเปรียบแกแล้วงั้นเหรอ” บัวรินไม่เข้าใจเพื่อนสาว ทั้งเรียนทั้งทำงานด้วยกันมา เธอรู้เรื่องของเพื่อนคนนี้ทุกอย่าง
“นั่นแหละ อึก ฉันไม่รู้...” ม่านฟ้าส่ายหน้าเป็นพัลวันสับสนกับตัวเองจนทำอะไรไม่ถูก “ถึงฉันจะไม่พอใจเขาแต่ฉันก็ไม่เคยนอกกายเขาเลยนะ อึก พอรู้ว่าเขาไปทำแบบนั้นฉันก็รู้สึกเหมือนแตกสลาย”
“แกหึงเขา”
“อึก ฉันไม่รู้ อึก เขาทำไม่ดีกับฉัน แล้วก็...พูดไม่ดี” ม่านฟ้าหวนนึกถึงเรื่องอดีต เธอข่มเปลือกตาปิดลงที่เหตุผลเหล่านั้นพังลง พอเขาจะไปจากเธอเหตุผลเหล่านั้นแทบไม่มีเหลืออยู่
“เอางี้นะ...แกไปบอกความรู้สึกจริง ๆ กับเขาว่าแกไม่พอใจเขาเรื่องผู้หญิง และบอกความจริงเรื่องวันนั้นไป” ม่านฟ้าสบตากับคนเป็นเพื่อน ก่อนจะส่ายหน้าเบา ๆ
“ทำไมฉันกลัวว่าเขาจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว บัว...ฉันคิดว่าถ้าฉันบอกเขาไปเขาก็คงไม่สนใจฉันแล้ว”
“แต่แกยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”
“ฉันกลัว...” ใบหน้าของม่านฟ้าเต็มไปด้วยความเสียใจ น้ำตาของคนเป็นเพื่อนไหลรินออกมาไม่หยุด “ฮึก ฉันยังจำวันที่เขาพูดได้อยู่เลย ฮึก เขาบอกว่าที่เขาตามตื๊อฉันเพราะอยากเอาชนะพี่ของเขา อึก เขาแค่อยากเอาชนะพี่พาทิศ เขาทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะพี่พาทิศ ฮึก...แม้แต่ตอนที่พ่อของเขาให้เขาเป็นรองประธาน เขาบอกกับพี่พาทิศว่า อึก...เขาจะทำให้ฉันไม่ได้แต่งงานกับพี่พาทิศ เขาไม่เคยรักฉันเลย”
“โธ่...” บัวรินรั้งร่างบางของคนเป็นเพื่อนเข้ามาสวมกอด พาคินณ์ทำงานให้กับบริษัทตั้งแต่เรียนหนังสือจบ พนักงานทุกคนคุ้นชินกับเขาเพราะเจ้าตัวทำงานให้กับบริษัทนานถึงสิบปี แต่อยู่ ๆ พ่อของเขาก็หนุนหลังพี่ชายที่เพิ่งเรียนจบเมืองนอกมาเป็นประธานบริษัทแทน พาคินณ์โกรธมากกระทั่งลาออกจากบริษัทไปเป็นปีตั้งแต่พี่ชายเข้ามาทำงาน เขาเพิ่งกลับมาทำงานที่นี่หลังจากที่ชายหายตัวไปแค่สองเดือนกว่า ๆ เพียงเท่านั้น ทุกคนต่างรู้ว่าไม่ใช่แค่เรื่องตำแหน่งที่สองพี่น้องทะเลาะกัน แต่เป็นเพราะม่านฟ้าอีกด้วย
พาทิศนั้นอยากแต่งงานกับม่านฟ้าเพราะเห็นว่าเธอสมควรได้แต่งงานกับเขา ขณะที่พาคินณ์อยากเอาชนะพี่ชายเพียงเท่านั้น
“อึก ฉันไม่อยากไปง้อเขาแต่ฉัน ฮึก...เสียใจมากเลย” ม่านฟ้ายังคงคร่ำครวญไม่หยุด สาวเจ้าเคยได้ยินเขาคุยกับเพื่อนผู้หญิงในชั้นเรียนตอนมัธยมเรื่องของเธอ พาคินณ์บอกกับผู้หญิงพวกนั้นว่าเขาไม่เคยรักเธอแต่ที่ตามตื๊อเพราะแค่อยากเอาชนะพี่ชายเพียงเท่านั้น
“ฉันเข้าใจแกนะ แต่ตอนนี้คือแกรักเขาไปแล้วไง”
“อึก...” ม่านฟ้าไม่อยากรับความจริงข้อนี้ แต่เธอก็เสียใจมากจริง ๆ เมื่อรู้ว่าเขาจะพอแล้ว ทว่า
“เอ๊ะ...เดี๋ยวนะ นั่นมันใช่เด็กฝึกงานคนนั้นไหม” บัวรินมองเห็นผู้หญิงตัวเล็กไม่ไกล ผมยาวเป็นลอนและใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารัก ด้วยความที่แสงไฟสลัวทำให้มองไม่ชัด
“ใครเหรอ”
“ที่ฉันเล่าให้ฟังไง เด็กฝึกงานที่ตบหน้าพี่นกอ่ะ” ม่านฟ้าไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่ว่ากัน แต่ก็ได้ยินมาเหมือนกัน เป็นเรื่องใหญ่มากพอตัว เพราะไม่เคยมีใครกล้าตบหน้าพี่นกที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นพี่ของพนักงานทุกคน
“ไม่เบาเลยนะแก...”