บทที่ 5 เสียใจ

2713 Words
ก่อนหน้านี้… อิงฟ้าในชุดลายดอกไม้สีเหลืองน่ารัก เธอตื่นแต่งตัวตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อจะได้มาหาเขาคนนั้น ซึ่งทันทีที่ย่างก้าวเข้ามาในบริษัทสาวเจ้าก็ตกเป็นเป้าสายตาของพนักงานออฟฟิศหลายร้อยคนทันที เธอเหยียดยิ้มอย่างคนชนะ คราวนี้แหละจะไม่มีใครกล้าหือกล้าอืออะไรกับเธออีกต่อไป “โอ๊ย! ลืมถามพ่อ” หญิงสาวนึกหงุดหงิดที่ตนลืมถามบิดาว่าห้องของท่านรองฯอยู่ไหน ทว่า “โอ๊ะ! พี่คินณ์!” เธอก็มองเห็นเขาพอดิบพอดี ชายหนุ่มเจ้าของชื่อหยุดชะงักฝ่าเท้าก่อนจะหันมามองเจ้าของเสียงคุ้นหู เขากระตุกยิ้มบาง ๆ ให้เธอ “มาทำงานเช้าจัง” ร่างเล็กเดินเข้าไปใกล้พร้อมกับเกาะแขนหนาไว้ “ปกติ” “แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาเข้างานเลยนะคะ วันนี้หนูตั้งใจมาเช้าเพื่อมาหาพี่ก่อนทำงานด้วย” “_” “คิดถึงมากเลยค่ะ” พาคินณ์ชะงักไป ไม่เคยมีใครบอกคิดถึงเขามาก่อน ชายหนุ่มยื่นแขนโอบเอวเล็กให้ออกตัวเดินเมื่อมีสายตาหลายคู่จับจ้องมองเขา “พี่คิดถึงหนูไหมคะ” “_” “หืม? …คิดถึงหนูไหมคะ” อิงฟ้าเอียงคอถามย้ำเมื่อเขาเงียบไป “นิดหน่อย” เขายิ้มให้กับใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอ อิงฟ้าเม้มริมฝีปากด้วยความเขินอาย เธอเดินเคียงข้างเขาไปขึ้นลิฟต์โดยมีสายตาของเลโก้มองตามหลังไป ชายหนุ่มไม่รู้หรอกว่าคนเป็นนายนั้นกำลังคิดจะทำอะไรกันแน่ ทว่ารอยยิ้มเมื่อครู่เจ้านายของเขาไม่เคยยิ้มให้ใครนอกจากม่านฟ้าแล้ว ...พาคินณ์มองนาฬิกาในข้อมือก่อนจะโอบเอวบางเข้าไปในห้องทำงานของเขา ชายหนุ่มไม่เคยมาทำงานสายเลยสักครั้ง เขามาเช้าอย่างเช่นทุกวันต่างจากน้องชายที่ป่านนี้ก็ยังไม่โผล่หัวมา “โหย~ ห้องพี่ใหญ่มาก โอ๊ะ...มีชั้นวางไวน์ด้วย” อิงฟ้าปล่อยมือออกจากแขนของคนตัวโต ร่างเล็กของเธอเดินไปหยุดที่หน้าชั้นวางไวน์ของเขา “หนูขอดื่มกับพี่ได้หรือเปล่า” “ก็ถ้ามีเวลา” เขาตอบออกมาเบา ๆ ระหว่างถอดเสื้อสูทแขวนไว้ที่แขวน ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน “คิก...เวลาไหนดีคะ” ร่างเล็กกึ่งเดินกึ่งวิ่งมากอดคอของเขาจากทางด้านหลัง อิงฟ้าเหมือนกับเด็ก และเขาก็เกิดอาการเอ็นดูเด็กขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “เวลาที่ไม่ใช่เวลาทำงาน” เขาตอบเสียงนิ่งเรียบพร้อมกับเอี้ยวใบหน้าไปหาเธอ “เย็นนี้ได้หรือเปล่า” หญิงสาวผละตัวออก ก่อนจะหมุนเก้าอี้คนตัวโตให้หันมามองเธอ สาวเจ้าถือวิสาสะนั่งลงบนตักของเขา ชายหนุ่มขยับเพียงเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้ผลักไสเสียทีเดียวเพียงแค่ตกใจก็เท่านั้น “เย็นนี้หนูขึ้นมาหาพี่ได้หรือเปล่า” “ไม่รู้สิ ไม่รู้ว่าวันนี้มีงานเยอะแค่ไหน อาจจะได้ออกไปข้างนอก...” “เหรอคะ งั้นหนูรอนะ...หนูโทรมาถามได้หรือเปล่า” หญิงสาวว่าอย่างออดอ้อนราวกับลูกแมวเหมียว ชายหนุ่มหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพยักหน้าให้ “หึ หนูชอบตอนพี่ยิ้มมากเลย ตอนหน้านิ่งพี่ก็เท่แบบสุด ๆ แต่พอยิ้มแล้ว...ใจหนูหายเลยค่ะ” “ใจหาย?” “มันละลายไปเลย” “หึ อะไรของเธอ” เขาหัวเราะอีกครั้ง พาคินณ์ส่ายหน้าเบา ๆ ให้กับสาวเจ้า ก่อนที่เธอจะยกแขนขึ้นคล้องคอของเขา “หนูบอกคุณพ่อให้แล้วนะคะ บอกว่าพ่อต้องมาทำงาน” “เหรอ แต่พ่อหนูไม่มาหรอก เขาน่าจะรออะไรบางอย่าง” “หืม...ไม่รู้ค่ะ แต่พ่อน่าจะมาเร็ว ๆ นี้นะคะ ถ้าพ่อไม่มา...หนูอนุญาตให้พี่ไล่พ่อออก” “หึ พ่อหนูไม่ออกหรอก” “จริงด้วย...พ่อชอบทำงานนะคะ พ่อทำงานมาตั้งแต่แม่ตายพ่อก็ทำงานมาตลอด” เขาไม่ได้ตอบอะไร เพียงแค่มองริมฝีปากเล็กที่กำลังขมุบขมิบพูด ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ต่างจากม่านฟ้ามาก หากเป็นม่านฟ้าที่นั่งอยู่บนตักเขาตอนนี้สาวเจ้าคงเอาแต่ผลักไสเขา “เที่ยงนี้หนูมากินข้าวด้วยได้หรือเปล่า...” อิงฟ้ายังคงพูดไม่หยุด ทว่ารอบนี้ไม่ได้รับคำตอบจากคนตัวโตราวกับว่าเขากำลังเหม่ออยู่ เห็นอย่างนั้นใบหน้าเล็กก็ยื่นเข้าหาก่อนจะจุ๊บเบา ๆ ที่ริมฝีปากหนาเพื่อเรียกสติ และมันก็ได้ผลเมื่อเขากลับมาสนใจเธอในที่สุด “คิดอะไรอยู่คะ” เขามองหน้าเธอ “หืม...” “ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำแบบนี้กับฉันเลย” “ทำไมคะ พี่ดีขนาดนี้ หึ...โกหกหรือเปล่าคะ ผู้หญิงต้องเข้าหาพี่เยอะแน่ ๆ” ชายหนุ่มสบตากับสาวเจ้า ไม่รู้ว่าตนหลงอยู่ที่ไหนมา จริงอย่างที่เธอว่ามีผู้หญิงเข้าหาเขาเยอะมาก มากจนน่ารำคาญ พาคินณ์ไม่ตอบเพียงแค่เลื่อนใบหน้าเข้าหาสาวเจ้าพร้อมกับประกบริมฝีปากจูบปากเล็ก ๆ ของเธอ อิงฟ้าจูบกลับทันทีเช่นเดียวกัน ความแปลกใหม่ของเธอทำให้เขารู้สึกดี ทว่า แอ๊ดด... เสียงเปิดประตูที่ดังขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยทำให้ริมฝีปากของคนทั้งคู่ผละออกจากกันอย่างอัตโนมัติ ทว่ามันก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อคนที่เข้ามาใหม่เห็นหมดทุกอย่าง “โอ๊ะ!…มีคนมา” อิงฟ้าอุทานด้วยความแปลกใจ เธอมองผู้หญิงที่เข้ามาใหม่ด้วยความรู้สึกคุ้น ๆ ก่อนที่พาคินณ์จะหมุนเก้าอี้หันไปมองเช่นกัน ม่านฟ้า ใจของเขากระตุกเพียงเล็กน้อย ชายหนุ่มกลืนน้ำลายลงคอ เขารู้สึกเหมือนกับถูกจับได้ ราวกับว่าตนนั้นกำลังทำความผิดแม้นว่ามันจะไม่ใช่ก็ตามที “ใครสั่งให้เธอเข้ามา” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และน้ำเสียงของเขาทำให้คนฟังเจ็บปวด ม่านฟ้ายืนนิ่งไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใด ๆ ออกมาได้เลย ทุกอย่างมัน...นิ่งไปหมด “ใครเหรอคะ เมื่อวานหนูเห็นเธอคนนี้ที่คลับด้วย” อิงฟ้าสงสัย หญิงสาวหันมามองคนตัวโตที่กำลังจ้องมองอีกฝ่ายอยู่ ...ใบหน้าเล็กเงยขึ้นเล็กน้อยเมื่อน้ำตาส่อเค้าจะไหลออกมา แต่มันก็ไม่ทันเสียแล้ว ม่านฟ้ารีบหมุนตัวหันหลังให้เขา เธอกำฝ่ามือเข้าหากันแน่นพร้อมกับริมฝีปากที่สั่นระริก ร่างบางค่อย ๆ ก้าวขาเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาโดยไม่ได้พูดอะไรเพราะภาพตรงหน้ามันชัดมากแล้ว “ฮึก...ฮืออ~” พอออกมาได้หญิงสาวก็ปล่อยโฮออกมาเสียงดังอย่างคนอดกลั้นไว้ไม่ไหว เธอยกกำปั้นมาทุบลงเบา ๆ ที่หน้าอกข้างซ้าย ไม่เคยรู้สึกเจ็บมากขนาดนี้มาก่อน ทว่า แอ๊ดด~ หมับ! “อ๊ะ!...” ฝ่ามือหนาคว้าหมับที่ข้อมือเล็กทำให้ร่างบางถูกกระชากให้หันไปหาเขาอย่างกะทันหันไม่ทันตั้งตัว ใบหน้าเล็กเปื้อนน้ำตานั้นเงยขึ้นมองคนตัวโตอย่างช่วยไม่ได้ “ร้องไห้ทำไม” “ฮึก ปะ...ปล่อย” ม่านฟ้าพยายามขยับข้อมือออกจากฝ่ามือของเขา เธอไม่อยากร้องไห้ให้เขาเห็นเลย แถมผู้หญิงคนนั้นก็ยังมองมาอีกด้วย “เธอไม่จำเป็นต้องร้องไห้ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน” พาคินณ์สับสน ไม่รู้ว่าม่านฟ้าต้องการอะไรกันแน่ และเมื่อไรจะเลิกปั่นประสาทเขาเสียที “นั่นสิ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ฉัน...อึก เสียใจมาก ฉันรู้สึกเหมือน ฮึก เหมือนกับว่า...” ไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรจบ อิงฟ้าที่พอเดาสถานการณ์ออกรีบเดินเข้ามาหาพร้อมกับสอดแขนคล้องแขนคนตัวโตไว้อย่างคนหวงแหน “ใครคะ...” เธอถามอย่างใสซื่อแม้นจะพอเดาทุกอย่างได้ ทว่าคำตอบของเขานั้น “คู่หมั้นพี่ชายฉันเอง” เขาตอบออกมาอย่างไร้เยื่อใย แม้ว่ามันจะเป็นความจริง ทว่าเขาไม่เคยยอมรับเรื่องนี้ แต่ตอนนี้เขาพูดมันออกมาแล้วจริง ๆ “เหรอคะ หึ...เราเข้าไปข้างในกันดีกว่านะคะ” อิงฟ้ารีบลากแขนคนตัวโตเข้าไปในห้องทำงาน สายตาสุดท้ายที่เขามอบให้ม่านฟ้านั้นว่างเปล่า “พาคินณ์...” เขาไม่หันมาแล้ว ม่านฟ้าทำอะไรไม่ถูก เธอไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์นี้มาก่อน แต่พอจะไปเปิดประตูอีกรอบบานประตูก็ถูกล็อกจากทางด้านในเสียแล้ว... “พาคินณ์!!” ประตูเปิดไม่ออกเสียแล้วและห้องเขาก็เก็บเสียงไม่ได้ยินเสียงที่เธอร้องเรียกแน่ ๆ ม่านฟ้าร้องไห้เสียใจ เธออดจินตนาการไม่ได้เลยว่าเขาเข้าไปทำอะไรกับเธอคนนั้นอีก เมื่อครู่ที่เห็นจูบกันก็เจ็บปวดมากแล้ว “ฮึก ฮืออ~” ม่านฟ้าพยายามแล้วที่จะไม่ฟูมฟายแต่มันก็อดไม่ได้จริง ๆ เธอทิ้งตัวลงนั่งหน้าประตูด้วยความเสียใจ จูบกันขนาดนั้นเรื่องที่เขาพูดว่าไปทำอะไรกับคนอื่นมาก็คงเป็นเรื่องจริง และเธอคนนั้นต้องเป็นผู้หญิงคนนี้แน่ ๆ “ม่านฟ้า...” เสียงเรียกชื่อคุ้นหูทำให้เจ้าของร่างบางเงยหน้าขึ้นมอง เธอมองเห็นพาวินท์ด้วยสายตาที่พร่าเลือน “พี่คะ...ฮึก มีผู้หญิง ฮึก มีผู้หญิงอยู่ในห้องของพาคินณ์มี อึก มีผู้หญิงอยู่ข้างใน” ม่านฟ้าพูดออกมาราวกับคนละเมอ เธอชี้นิ้วเข้าไปในบานประตูให้พาวินท์มองตาม “ผู้หญิง? อ้อ...โอเค” ชายหนุ่มเข้าใจแล้ว อาจจะเป็นเพราะว่าพาคินณ์ไม่เคยพาผู้หญิงเข้าไปทำอะไรเขาก็เลยไม่เข้าใจ แต่พอเห็นม่านฟ้าร้องไห้แบบนี้ก็พอเข้าใจ “ลุกขึ้น เธอควรไปร้องไห้ที่อื่น อยากให้ผู้หญิงข้างในรู้หรือไงว่าเธอกำลังร้องไห้” “ฮึก ช่วย...อึก ช่วยเข้าไปห้ามแทนได้ไหม อึก ฉันไม่อยากให้เขาได้กันเลย แต่...แต่ถ้าฉันห้ามคงไม่ได้ พี่ช่วยไป...” “ม่านฟ้า” ม่านฟ้าลุกขึ้นเขย่าฝ่ามือของพาวินท์ เจ้าตัวไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน “พี่ก็คงห้ามอะไรไม่ได้หรอก เธอต้องสงบสติอารมณ์ก่อนนะ” “อึก...ไม่อยาก ฉันไม่อยากให้เขาอยู่กับคนอื่น” “โอเค...พี่เชื่อว่าในนั้นไม่ได้ทำอะไรหรอก ตอนนี้ถึงเวลางานแล้ว เธอก็รู้ว่าพี่คินณ์บ้างานแค่ไหน” พอได้ยินอย่างนี้ม่านฟ้าก็สงบลงมาบ้าง เธอปล่อยมือออกจากฝ่ามือของเขา เป็นจังหวะพอดีที่ประตูห้องทำงานของพาคินณ์เปิดออกอีกครั้ง ไม่ใช่พาคินณ์ แต่เป็นผู้หญิงคนนั้น ...อิงฟ้ายิ้มอย่างเย้ยหยันเธอไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่คว่ำปากลงแค่เท่านั้น หากมีปากเสียงเขาคงไม่พอใจและผู้ชายที่หน้าตาคล้ายกับเขาคนนั้นคงไม่ยินดีด้วย “สวัสดีค่ะ ฉันอิงฟ้านะคะ เป็นพนักงานฝึกงานค่ะ” “พาวินท์ครับ...คุณเป็นนักศึกษาฝึกงานเหรอครับ” “อ้อ เปล่าค่ะ คุณพ่อให้มาฝึกงานดูก่อนน่ะค่ะ...พ่อเดชคุณ” ม่านฟ้าไม่อยากฟังอะไร เธอเดินกลับเข้าไปในห้องทำงานของตัวเองพร้อมกับกระแทกประตูปิดเสียงดังสนั่น ปัง! “หึ...” อิงฟ้าหัวเราะสะใจ ขณะที่พาวินท์ยังคงจมกับความคิดบางอย่าง เธอคนนี้เป็นลูกของลุงเดชคุณ... “ว่าแต่...เป็นพี่น้องกับพี่คินณ์เหรอคะ” “ครับ เป็นฝาแฝดกันแต่หน้าไม่ค่อยเหมือนเท่าไร เดี๋ยวผมขอตัวก่อนครับ” เขาเดินเลี่ยงสาวเจ้าผลักประตูเข้าไปในห้องทำงานของพี่ชาย กะจะถามเรื่องที่คนเป็นพี่ไล่ม่านฟ้าออกตั้งแต่เมื่อวานแต่ก็ติดต่อไม่ได้ ซึ่งเสียงเปิดประตูของเขาก็ทำให้เจ้าของห้องที่นั่งกุมขมับอยู่นั้นเงยหน้าขึ้นมอง “ผู้หญิงคนนี้เหรอที่ทำให้พี่ไล่ม่านฟ้าออก” “_” “ทำไมถึงไล่ม่านฟ้าออกแบบนี้ล่ะ ไม่เหมือนพี่เลย” พาวินท์มาถึงก็รัวคำพูดออกมาทันที ส่วนคนเป็นพี่ก็ไม่อยากพูดอะไรอีกแล้ว “กูเหนื่อย...” ชายหนุ่มว่าพลางเอนแผ่นหลังพิงพนักพิง เขาพ่นลมหายใจออกมาเบา ๆ พาคินณ์รู้สึกเหนื่อยกับม่านฟ้าแล้วจริง ๆ “ทำไมวะ...ม่านฟ้าร้องไห้หนักมากตอนที่รู้เรื่องพี่กับผู้หญิง” “_” “เธอกำลังเสียใจ” “เสียใจ? แล้วที่ผ่านมามึงไม่คิดว่ากูก็เสียใจหรือไง กูไม่เคยได้อะไรจากเธอเลยสักอย่าง มึงจะให้กูพยายามไปถึงไหนวะ!” พาคินณ์โมโห เขาลุกขึ้นค้ำฝ่ามือทั้งสองข้างกับโต๊ะทำงาน มองหน้าน้องชายที่ยังคงให้ท้ายม่านฟ้ามาตลอด “_” “กูก็เพิ่งเข้าใจว่าจริง ๆ แล้วความรักกูไม่เห็นต้องพยายามขนาดนั้นเลย” “แล้วพี่จะตัดขาดเธอไปเลยงั้นสิ อย่าลืมว่าตัวพี่เองก็ผูกติดเธอมาหลายปีเหมือนกัน พี่แสดงความเป็นเจ้าของเธอมานานแล้วเหมือนกัน” “แล้วไง สุดท้ายเธอก็เลือกไอ้พาทิศอยู่ดี มึงจะเอากลับมาพูดอะไรอีกซ้ำ ๆ วะ ออกไปทำงานของมึงได้แล้ว กูไม่คิดว่านี่จะเป็นงานของประธานบริษัทนะ” พาคินณ์พยายามใจเย็นแล้วแต่เขาก็ทำได้แค่นี้ ร่างหนานั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง เขาขยับปมเนกไทอย่างคนนึกหงุดหงิด “แล้วพี่ชอบผู้หญิงคนเมื่อกี้หรือไง พี่รักเธอเหรอ” “กูจะรักให้ได้สักวัน กูรักคนอื่นได้แน่ ๆ แค่กูยังไม่เคยลอง” “หึ เดี๋ยวพี่ก็รู้ว่าพี่รักใครไม่ได้อีก” พาวินท์ว่าพร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ เขาเดินออกจากห้องทำงานของคนเป็นพี่ในที่สุด ทว่าออกมาก็เห็นร่างบางของอิงฟ้าเอาหน้าแนบประตูอยู่ “อุ๊ย!...ขอโทษค่ะ” “ห้องทุกห้องในชั้นนี้เก็บเสียงหมด” เขาทิ้งท้ายไว้ก่อนจะเดินไปที่ห้องทำงานของเขา ปล่อยให้อิงฟ้ามองตามแผ่นหลังหนานั้นด้วยความไม่พอใจ “จิ๊!” หญิงสาวกระทืบเท้าเบา ๆ ก่อนจะเดินไปขึ้นลิฟต์เพื่อไปเข้างานของตัวเอง ...ร่างบางเดินมาถึงแผนกที่ทำงานของตัวเอง เธอฉีกยิ้มให้กับหัวหน้าแผนกการตลาด ที่กำลังยืนกอดอกรอเธออยู่ ‘ว่าไง อีแก่บ้าน้ำลาย’ อิงฟ้าไม่ได้พูดออกเสียงแต่ทำปากให้อีกฝ่ายอ่านออก ทำเอานกอุษาไม่พอใจ กระนั้นเจ้าตัวก็ไม่อยากพลาดท่าเสียทีให้กับเด็กเมื่อวานซืนคนนี้อีกครั้ง “ฉันพักงานเธอได้ ฉันเชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้าท่านรองฯเลือกระหว่างฉันกับเธอ ฉันคิดว่าเธอน่าจะได้ออก...อย่าเก่งให้มาก” “หึ ก็...ไม่รู้สิ” อิงฟ้าไหวไหล่ขึ้นอย่างไม่ยี่หระ คนที่สอนงานเธอไม่ใช่หัวหน้าแต่เป็นรุ่นพี่ “เอ่อ...หวัดดี พี่ส้มโอนะจำได้หรือเปล่า” “จำได้ค่ะ พี่ส้มโอที่ไปฟ้องหัวหน้าจนทำให้ฉันถูกพักงานไป” ส้มโอเม้มริมฝีปาก เธอไปฟ้องพี่นกเพราะอิงฟ้ามัวแต่เล่นโทรศัพท์จริง ๆ แต่พอรู้ว่าท่านรองฯให้ท้ายอิงฟ้าอยู่ ส้มโอก็ไม่กล้าพูดอะไรอีกแล้ว “...เดี๋ยวพี่สอนงานให้นะ มีอะไรสงสัยก็มาถามพี่ได้เลย ตอนนี้น้องนั่งที่หน้าคอมฯตรงนี้ก่อน ให้คุ้นชินกับระบบของบริษัทเราก่อน” อิงฟ้าไม่ได้ตอบ เธอดึงเก้าอี้ออกมาพร้อมกับนั่งลง อดใจรอจนถึงตอนเย็นไม่ไหวเพราะท่านรองฯบอกว่าคืนนี้จะดื่มไวน์ด้วยกัน
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD