บทที่ 3 ทำความคุ้นเคย 1

1621 Words
เสียงหวีดร้องของพริมาไม่ได้ทำให้หนุ่มใหญ่วัยใกล้สี่สิบปีเปลี่ยนความตั้งใจแต่อย่างใด ปุณณ์ปล่อยให้เธอทำความคุ้นเคยกับการมีเขาอยู่ในชีวิตนานสามเดือน โดยไม่หว่านเสน่ห์ให้หลงใหล ทั้งยังเปิดเผยตัวตนว่าแท้จริงแล้วเขาไม่ใช่ผู้ชายนิสัยน่ารักหรือหลงผู้หญิงง่ายเหมือนกับน้องชาย ทว่าเป็นเสือร้ายที่จ้องจะขย้ำเหยื่ออยู่ทุกวินาที เขาปล่อยตัวตามสบายเพราะอยากให้เธอรับได้ในสิ่งที่ตัวเองเป็น คนสวยของเขาดิ้นขลุกขลักอยู่ครู่เดียวก็นิ่งเฉย คงกลัวว่าฟองสบู่ที่ล้นออกจากอ่างไปจะเปิดเผยเรือนร่าง หรือไม่ก็อยากรู้ว่าเขาจะทำอะไรต่อไป ปุณณ์อยากทำเยอะแยะ แต่ยังไม่ถึงเวลา “น้องพริมไม่ดิ้นแล้วเหรอคะ” เขานั่งหมิ่นเหม่อยู่ข้างหลัง มือหนารั้งร่างบางเข้ามาใกล้ ก่อนลงมือบีบนวดบริเวณหัวไหล่และแผ่นหลังเบาๆ “คุณปุณณ์สัญญาแล้วว่าจะไม่บังคับใจพริม” “ใช่ค่ะ พี่สัญญาว่าจะไม่ปล้ำน้องพริม นี่ก็ไม่ได้ปล้ำ แค่ดูแลว่าที่ภรรยาให้หายเหนื่อยก็เท่านั้นเอง” “พริมดูแลตัวเองได้ค่ะ แล้วพริมไม่ใช่เด็ก อายุก็ตั้งยี่สิบเจ็ดปีแล้ว เลิกเรียกว่าน้องพริมเถอะนะคะ” “ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนนะคะ พี่จะไม่เรียกว่าน้องพริมก็ได้ แต่น้องพริมต้องเรียกพี่ว่าพี่ปุณณ์ บวกกับให้รางวัลพี่อีกนิดหน่อย” ปุณณ์นวดแผ่นหลังเธอเบาๆ กดทุกจุดที่ทำให้เสียงครางหวานอย่างรู้สึกดีหลุดออกมา จนอาวุธอันตรายของเขาเรียกร้องที่จะเผชิญกับศึกหนัก ยังก่อน… ยังไม่ถึงเวลา “คุณปุณณ์… พี่ปุณณ์ปล่อยพริมเถอะนะคะ” “ยอมเรียกพี่แล้ว รางวัลล่ะคะ ให้พี่ได้หรือเปล่า” เขากระตุกยิ้มเมื่อเห็นว่าใบหูของเธอแดงก่ำ อยากเห็นเหลือเกินว่าใบหน้าสวยเก๋ของพริมาจะยังสงบนิ่งดังเดิม หรือเปิดเผยอารมณ์ที่มากกว่าการปั้นหน้านิ่งไร้ความรู้สึกอย่างที่เป็นมาตลอด “เล่นบังคับกันขนาดนี้ พริมคงขัดใจพี่ไม่ได้แล้วละค่ะ อยากทำอะไรก็ตามสบายเลยนะคะ แค่อย่าผิดคำพูดที่จะไม่ปล้ำพริมก็พอ” เธอตัดพ้อเขาอย่างน่ารัก น้ำเสียงน้อยใจเหมือนตอนเด็กๆ ไม่มีผิด ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดอะไร แต่พอได้ลองชิมไปเมื่อหลายปีก่อน หัวใจกลับเรียกร้องให้กลืนกินเธอทั้งตัว เขารอให้เธอเรียนจบ คิดว่าจบปริญญาตรีก็น่าจะกลับมา ใครจะไปนึกว่าพริมาจะบ้าเรียนต่อจนจบปริญญาโท กว่าจะกลับสิงคโปร์ก็อายุได้ราวยี่สิบสี่ปีแล้ว พริมาในตอนนั้นสุกงอมและน่ากินจนน้ำลายแทบไหล แต่คุณพ่อกลับสั่งให้เธอช่วยงานน้องชายคนเล็กอย่างนายปราชญ์ และความใกล้ชิดของทั้งคู่ทำให้เขาเข้าใจไปว่าเธอชอบพอกับน้องชาย จึงไม่กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยวให้พี่น้องต้องทะเลาะกันเพราะเรื่องผู้หญิง ทว่าสองปีที่ผ่านมาพริมาแวะมาที่บ้านเขาค่อนข้างบ่อย ทั้งเรื่องงานที่ต้องคอยรับผิดชอบแทนเจ้านายอย่างปราชญ์ที่ยุ่งอยู่กับโปรเจกต์ที่กรุงเทพฯ และอีกเรื่องที่สำคัญกว่านั้นมาก คุณแม่ของเขาป่วย… ป่วยหนักมากเสียด้วย แต่กระนั้นท่านก็ยังยิ้มแย้มให้กับทุกคน เขาก็เองก็ต้องยิ้มและทำตัวเข้มแข็งให้สมกับเป็นหัวหน้าครอบครัว เนื่องจากคุณพ่อปฏิเสธไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับบริษัท ขอดูแลคู่ชีวิตอย่างใกล้ชิดจนถึงเวลาสุดท้าย ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้เขาไม่ค่อยได้กลับบ้าน งานทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป แต่กลับมาบ้านเมื่อไหร่ก็จะได้เห็นผู้หญิงตัวเล็กนั่งอยู่ข้างๆ มารดา ผู้หญิงที่ชื่อพริมา… แต่กระนั้นปุณณ์ก็ยังปล่อยเวลาให้ผ่านไปเฉยๆ ไม่ได้คิดช่วงชิงเธอจากน้องชาย จนกระทั่งได้ข่าวว่านายปราชญ์ทำผู้หญิงท้องและเข้าใจผิดคิดว่ามีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์กับพริมานั่นแหละ เขาถึงได้วางแผนสกปรกเพื่อให้เธอตัดใจจากคนที่กำลังจะมีครอบครัว ข้ออ้าง… ปุณณ์พลาดโอกาสนานหลายปี พอได้จังหวะจึงรีบจัดการรวบรัดเธอมาเป็นของตัวเองต่างหากเล่า! “พูดอย่างกับพี่เป็นผู้ร้าย พี่เสียใจนะคะเนี่ย” “สำหรับพริมยังไงพี่ปุณณ์ก็เป็นผู้ร้ายค่ะ พี่ปุณณ์บุกมาปล้ำพริม ทำให้พริมต้องหมั้นกับพี่ปุณณ์ ทั้งๆ ที่เราแทบไม่เคยคุยกัน ไม่รู้จักกันเลยก็ว่าได้…อื๊อ” พริมาเผลอครางเสียงหวานอีกแล้ว การแช่น้ำอุ่นๆ แล้วมีคนนวดนี่ดีจริงๆ “ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักกัน แต่หลังจากวันนี้เราได้สนิทกันมากๆ แน่ เพราะโปรเจกต์ที่เชียงใหม่กับภูเก็ตลงตัวแล้ว ต่อจากนี้พี่คงเดินทางน้อยลง เราสองคนจะได้ทำความรู้จักกันมากขึ้นในทุกๆ ด้าน” “ไม่ต้องเดินทางแล้วเหรอคะ” พริมาถามอย่างหวาดระแวง ก่อนหน้าเขาบินไปบินมา สัปดาห์หนึ่งอยู่กรุงเทพฯ แค่สองสามวัน แต่แค่นั้นเธอก็หวาดระแวงว่าเขาจะบุกเข้ามาในห้องนอนแทบทุกคืนแล้ว “นี่พี่ควรเสียใจไหมที่คู่หมั้นทำเสียงเหมือนไม่อยากให้อยู่ด้วย เอาเถอะ ถือว่าพี่ใช้กรรมก็แล้วกัน” “ใช้กรรมยังไงคะ” พริมาถามพลางโกยฟองสบู่ที่เหลืออยู่มาปิดบังทรวดทรงให้มากที่สุด ทราบดีว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย เธอไม่ได้เด็กจนไม่เข้าใจความต้องการของผู้ชาย โดยเฉพาะคนเจ้าชู้อย่างคุณปุณณ์ จะรอดไหมนะ… “ก็ใช้กรรมที่หักอกสาวๆ มาเกือบยี่สิบปี แต่พอเจอคนที่ชอบขึ้นมาจริงๆ เธอกลับคิดว่าพี่ล้อเล่น แต่ไม่เป็นไรหรอกนะคะ อีกไม่นานพี่จะพิสูจน์ให้เห็นเองว่าพี่จริงจังแค่ไหน แต่ตอนนี้คงหยุดพิสูจน์ก่อน เพราะน้องชายของพี่มันแข็งจนปวดไปหมดแล้ว เว้นเสียแต่ว่าพริมจะเมตตา” “พี่ปุณณ์!” พริมาโกรธจนน้ำตาคลอเลยทีเดียว “ล้อเล่นนิดเดียวเอง อย่าดุนักเลย พริมใช้ห้องน้ำต่อตามสบายเลยนะคะ พี่ไม่กวนใจละ” ปุณณ์หัวเราะเบาๆ ก่อนยกแก้วไวน์ดื่มรวดเดียวหมดเพราะร่างกายเริ่มทนกับความหวามใจไม่ไหว เขาไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทน ทั้งๆ ที่แค่ถอดกางเกงแล้วพาตัวเองลงไปอยู่ในอ่าง จัดการยกบั้นท้ายของคู่หมั้นสาวนิดหน่อย ความปวดร้าวก็จะถูกความอ่อนนุ่มบรรเทาอย่างลงตัว แต่สุดท้ายกลับยอมเดินออกจากห้องน้ำ ปล่อยให้เธอรอดไปได้อีกวัน นานเลยทีเดียวกว่าพริมาจะกลับมาหายใจได้สะดวกอีกครั้ง เธอยังงงอยู่ว่าเมื่อครู่รอดปลอดภัยมาได้อย่างไร ทั้งยังไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงยอมปล่อยให้เธอหลุดมือไปง่ายๆ ผู้ชายอย่างคุณปุณณ์ หากต้องการอะไรแล้วไม่มีทางพลาด ที่ยอมถอยชั่วคราวคงเพราะมีแผนการซ่อนอยู่ในใจแน่ๆ แต่เขาคิดจะทำอะไรนั้น เธอไม่กล้าเดาเลยจริงๆ หลังจากเขาออกจากห้องน้ำไปได้แค่ห้านาที พริมาก็ตามออกไปติดๆ ไม่ลืมด่าตัวเองด้วยว่าโง่ ที่เชื่อว่าเขาหวังดียอมให้เธอใช้อ่างอาบน้ำหรูหราในห้องนอน พร้อมกับเตือนตัวเองว่าห้ามหลงกลผู้ชายปากหวานอย่างคุณปุณณ์อีก “พริมมาพอดีเลย เย็นนี้อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ไหนๆ วันนี้ก็ไม่คิดจะออกไปไหนแล้ว” “ออกค่ะ พริมจะออกไปนวด” “แสดงว่าเมื่อกี้พี่พูดไม่ชัดมากพอ พริมครับ พี่ไม่ชอบให้ใครมาถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงของพี่ ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงพี่ก็ไม่ชอบ และถ้าพริมยังเมื่อย พี่ยินดีนวดให้จนกว่าจะพอใจ…” หากเขาใช้คำว่า ‘ครับ’ เวลาที่อยู่ด้วยกันสองต่อสอง นั่นก็หมายความว่ากำลังไม่พอใจอย่างมาก และพริมาไม่ควรเสี่ยงทำอะไรก็ตามที่ทำให้เขาไม่พอใจ “พริมไม่ไปแล้วก็ได้ คุณปุณณ์… พี่ปุณณ์อยากทานอะไรก็สั่งเถอะนะคะ พริมทานได้ทุกอย่างค่ะ” พริมาไม่อยากเถียงเพราะคนประเภทนี้เถียงไปก็ไร้ประโยชน์ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็หาเหตุผลมาเอาชนะเธอได้อยู่ดี “แต่พริมไม่ชอบทานอาหารรสเผ็ด” “พี่ปุณณ์ทราบได้ยังไงคะ” “คุณแม่เคยท้วงตอนอยู่บนโต๊ะอาหารว่าพริมไม่ชอบ…” ปุณณ์หน้าเปลี่ยนสีเพียงเสี้ยววินาทีเดียวก็กลับมายิ้มแย้มน่ามองดังเดิม มารดาของเขาเพิ่งจากไปได้ไม่นาน ความเสียใจจึงยังเกาะกินจนเก็บซ่อนอารมณ์ลำบาก แต่กระนั้นเขาก็ยังพยายามอย่างที่สุด เพื่อเป็นเสาหลักให้กับครอบครัว โชคดีที่ปราชญ์มีลูกสาว คุณพ่ออยากได้หลานสาวมาโดยตลอดจึงเปลี่ยนเรื่องคิดไปได้บ้าง และน้องชายคนรองอย่างปริญญ์ก็ยุ่งอยู่กับการดูแลงานที่สิงคโปร์และภรรยาที่เพิ่งจะมีลูกชายคนที่สาม ส่วนตัวเขานั้น… ไม่มีใคร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD