พริมาใช้เวลาไม่นานก็ทราบได้ว่าตัวเองเข้าใจผิดไปถนัด คุณปุณณ์ดื่มไปเยอะก็จริง ทว่าเขาไม่ได้เมา เรียกว่ามึนยังไม่ได้ด้วยซ้ำ ส่วนเธอกลับเดินแทบไม่ตรงทาง ต้องให้เขาช่วยโอบกอดเดินลงบันได จนกระทั่งถึงห้องแล้วมือใหญ่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ
“ปล่อยพริมนะคะ”
“พี่กอดได้ เราตกลงกันแล้ว” ปุณณ์ยังคงโอบร่างบางไว้แน่น ปล่อยให้เธอถอดรองเท้าส้นสูงและครางออกมาอย่างรู้สึกดีในยามฝ่าเท้าได้สัมผัสกับพรมในห้อง
“พริมให้กอดแค่บนเตียง… นอนกอด”
“เมาแล้วดื้อเหรอเรา”
เขาโยกศีรษะเธอเบาๆ นึกขำตัวเองที่รู้ทันสาวสวย มีอย่างที่ไหนคิดมอมเหล้าให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ แต่กลับไม่สังเกตว่าตัวเองดื่มไปกี่แก้วแล้ว
“ไม่ได้เมา พริมหิว”
“งั้นพริมไปอาบน้ำนะคะ เดี๋ยวพี่จะทำอะไรให้ทาน”
พริมาที่กำลังเมาหน่อยๆ มุ่นคิ้วอย่างน่ารัก เธอจำได้ว่าคุณปุณณ์ทำอาหารไม่เป็นและคงจะทำอะไรให้กินไม่ได้ แต่พอคิดไปคิดมาก็สรุปว่ามื้อนี้คงไม่พ้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพราะในครัวมีแค่อาหารแห้งและไข่ไก่แค่ไม่กี่ฟอง ของสดไม่ต้องพูดถึง ทั้งเขาและเธอไม่ชอบทำอาหาร ผักหรือเนื้อสัตว์จึงไม่มีอยู่ในตู้เย็น
เจ้าของร่างบางรีบอาบน้ำอย่างรวดเร็วเพราะความหิวเป็นเหตุ เธอสวมเสื้อยืดตัวหลวม ไม่ใช่ชุดนอนขายาวเพื่อปิดบังเรือนร่างของตัวเองเช่นที่ผ่านมา ก่อนเดินตามกลิ่นหอมห้องเข้าไปในครัว
“หอมจังเลยค่ะ”
“รีบทานนะ นั่งพักสักครู่แล้วค่อยเข้านอน”
“แล้วพี่ปุณณ์ล่ะคะ” พริมามองชามข้าวต้มที่มีไข่ไก่ลวกหน้าตาน่ารับประทานแล้วกลืนน้ำลาย
ไหนว่าทำกับข้าวไม่เป็น?
“เรียบร้อยแล้ว” เขาตอบก่อนขอตัวไปอาบน้ำบ้าง ปล่อยให้คู่หมั้นคนสวยจัดการข้าวต้ม ย่อยอีกหน่อยแล้วค่อยคุยกัน
กอดกัน…
ปุณณ์ใช้เวลาทำธุระส่วนตัวอย่างใจเย็น เตือนตัวเองว่าคืนนี้ยังอีกยาวไกล หากเขาทนไม่สัมผัสพริมาไปมากกว่าการกอดได้ การเอาใจชนะใจต่อจากนี้คงไม่ใช่เรื่องยาก
เขาคิดว่าคงอดทนได้เพราะตัวเองก็ไม่ใช่เด็กหนุ่มเลือดร้อน แต่พอถูกคนสวยอ่อยอย่างเป็นธรรมชาติเพื่อกระตุ้นให้หลุดจากการควบคุม เรื่องที่คิดว่าทำได้ง่ายก็เหมือนจะไม่ง่ายแล้ว
“อีกสักรอบละกัน…”
แค่คิดถึงสะโพกสวยที่อิงต้นขาเขาในยามเมาหน่อยๆ เบื้องล่างก็แข็งครัดจนน่ารำคาญ หากไม่จัดการตัวเองให้เรียบร้อยคงต้องแพ้พนันแน่ๆ
ปุณณ์หาทางออกด้วยการสัมผัสตัวเองถึงสองรอบเพราะไม่อยากพลาดพลั้งให้กับความปรารถนาดำมืด หลังจากความกระหายเบาบางลงไปบ้างแล้วจึงออกไปหาคนสวยที่เพิ่งจัดการข้าวต้มจนเกลี้ยงชาม
เธอปรือตามองอย่างเย้ายวน ชมเปาะว่าข้าวต้มอร่อยมาก ฟังจากน้ำเสียงแล้วสติคงกลับคืนมาบ้างแล้วแต่ก็ยังไม่น่าเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ ปุณณ์จึงไล่ให้อีกฝ่ายไปแปรงฟัน ส่วนตัวเองทำความสะอาดครัวจนเรียบร้อยดี
“พี่ปุณณ์จะนอนแล้วเหรอคะ…”
พริมามองเขาด้วยสายตาว้าวุ่น เริ่มคิดได้ว่าแผนที่วางไว้เสี่ยงมากเกินไป หากเขาแตะต้องเธอ เริ่มทุกอย่างตามที่เธอปรารถนาจนเกินขอบเขตของคำว่ากอด แล้วทุกอย่างจะหยุดลงได้จริงหรือ
คุณปุณณ์จะยอมถอยหลังจากทำมากกว่ากอด?
“อืม ง่วงแล้ว” ปุณณ์หรี่ตามอง ยกยิ้มมุมปากท้าทายคนที่ซ่อนสีหน้าหวาดระแวงเอาไว้ไม่ได้ “หรือว่าพริมเปลี่ยนใจ ไม่กล้านอนกับพี่แล้ว”
“ค่ะ พริมกลัวพี่ปุณณ์จะหยุดไม่ได้”
“หรือว่ากลัวแพ้? กลัวเผลอใจลวนลามพี่”
“พริมไม่มีวันทำอย่างนั้นหรอกค่ะ แล้วพริมก็ไม่ได้กลัวด้วย” เธอไม่ได้อยากลวนลามเขา แค่ต้องการอ่อยให้เขาผิดคำพูดของตัวเองก็เท่านั้น
พริมาเดินนำเข้าไปในห้องนอนของหนุ่มใหญ่ด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจ ทั้งๆ ที่หัวใจเต้นโครมคราม ฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ทำให้เธอกล้าขึ้นมาก หากยังสติครบถ้วนคงกลับห้องตัวเองไปแล้ว ไม่ใช่รู้สึกร้อนวูบวาบเหมือนต้องการให้เขาทำมากกว่ากอด
บ้าน่ะ…
“นอนฝั่งนี้เหรอคะ” เขามองร่างบางที่เอนตัวลงนอน ทำท่าราวกับไม่ได้กำลังกลัวจนตัวสั่น ถ้าไม่ได้ดื่มจนใบหน้าซับสีแดงระเรื่อ ใบหน้าสวยเก๋คงซีดไปแล้ว
“ค่ะ พี่ปุณณ์ไม่ถนัดเหรอคะ”
“ถนัดสิ พี่ชอบนอนกอดแบบ Spooning[1] อบอุ่นดี ทำอย่างอื่นก็สะดวก” ปุณณ์ไม่รอช้า รีบปิดไฟและพาร่างสูงใหญ่ของตนลงไปแนบชิดกับคนสวยที่กำลังนอนตะแคงเพื่อหลบสายตาของเขาทันที
“ฝันดีนะ น้องพริมคนสวยของพี่”
“ห้ามเรียกน้องพริม…”
“โอเค ฝันดีนะ เมียคนสวยของพี่”
พริมาอยากเถียงว่าเธอยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาถ้ายังไม่ถึงขั้นสอดใส่ความใหญ่ยักษ์นั่นเข้ามา… เธอเดาว่าเขาคงจะใหญ่ตามขนาดของร่างกาย แต่ไม่แน่หรอก เพราะจากที่เคยอ่านผู้ชายตัวใหญ่หลายคนก็เล็กจิ๋วจนน่าสงสาร
พริมาหัวเราะเสียงเบา… หากเขาไม่ใหญ่ไม่เด็ด สาวแก่แม่ม่ายจะติดใจไล่ตามไปทำไมล่ะ?
“หัวเราะอะไร หืม?” ปุณณ์ขยับเข้าใกล้ พาดแขนลงบนเอวจนไออุ่นจากร่างกายทำให้อีกฝ่ายต้องกลั้นหายใจ
“เปล่าค่ะ นึกถึงเรื่องขำๆ นิดหน่อย เรื่องที่คุณก้องภพเล่าน่ะค่ะ” พริมารีบเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังกะขนาด ‘น้องชาย’ อยู่ สมองเลยเลือกเอาเรื่องตลกที่เพิ่งได้ยินจากเพื่อนของเจ้านาย
“เรื่องอะไร”
“ก็เรื่องคุณเอื้อยังไงล่ะคะ เห็นว่าพักหลังแทบไม่ออกนอกบ้าน ติดภรรยาไม่ต่างจากคุณปราชญ์ ใครโทร.ตามนี่เตรียมถูกปฏิเสธรอได้เลย”
[1] นอนกอดจากข้างหลัง