“ดูถูกน่ะมันถูกแล้ว คนอย่างผมดูอะไรไม่เคยผิด”
“ปล่อย!”
ร่างเล็กออกแรงดิ้นสุดตัวแต่กลับถูกชายหนุ่มจับข้อมือแล้วกดไว้ข้างลำตัว หล่อนพยายามหาทางออกด้วยการกรีดร้องและสุดท้ายก็โพล่งออกไปว่า
“ปล่อยฉันนะ...คนบ้า คนโรคจิต!”
©©©©©©©©
บทที่ 3
“บอกแล้วไงอย่าด่าว่าผมโรคจิต!”
“ถ้าไม่ยอมปล่อยฉันก็จะด่ามันไปแบบนี้ล่ะ ไอ้คนโรคจิต ไอ้...”
เสียงหวานขาดหายไปในลำคอเพราะปากของหล่อนถูกปากได้รูปบนหน้าคมคร้ามประกบปิดไว้แน่น แน่นเสียจนแทบหายใจไม่ออกด้วยซ้ำ อิงธารตาเบิกโพลงเมื่อถูกคนแปลกหน้าคุกคามด้วยการจ้วงลิ้นสากหนาเข้าไปในปาก คุณพระคุณเจ้า เขาไม่ได้ขู่และทำให้หล่อนได้อายจริง ๆ ด้วย เป็นครั้งแรกที่คุณครูคนสวยผู้ไม่เจนจัดโลกถูกผู้ชายจูบ
หล่อนถูกจูบ!!
แถมจูบนั้นหนักหน่วง ร่างหนาเบียดเข้าหาร่างเล็กที่พยายามดึงดันแต่ยิ่งดิ้นหล่อนกลับยิ่งเหน็ดเหนื่อย ไม่ใช่ปากของหล่อนเท่านั้นที่เขาคุกคามแต่มือของหล่อน ตัวของหล่อนยังถุกเขาปิดกั้นด้วยร่างหนาใหญ่จนขยับตัวไปไหนไม่ได้
“อื๊อ!...อื๊อ!”
อิงธารเปล่งเสียงดังแค่ในลำคอ ปากของหล่อนถูกประกบปิดแน่นจนไม่มีช่องว่างให้อากาศไหลผ่าน วิคเตอร์ร้ายกาจอย่างที่สุด เขาเป็นใครถึงอุกอาจทำกับหล่อนอย่างนี้ได้ ชายหนุ่มบดเบียดริมฝีปากของเขากับกลีบปากของหญิงสาวจนรู้สึกได้ถึงรสชาติแสนหวานอย่างน่าประหลาดที่มันดึงดูดให้เขาแนบปากนิ่งอยู่อย่างนั้น และเป็นจูบนานพอที่จะทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความอ่อนด้อยประสบการณ์ของหญิงสาว เขาฉกลิ้นเข้าไปลึกแต่หล่อนกลับไม่รู้จักตอบสนองแถมยังตัวแข็งเหมือนเสาหลัก แต่พอเขาถอนปากออกอิงธารกลับอ่อนระทวย ปากหล่อนบวมเจ่อเพราะเขาเผลอกดปากหนักไปสักหน่อย เบ้าตาคู่สวยกลบด้วยน้ำรื้นซึ่งทำให้วิคเตอร์ถึงกับชะงักไปเสี้ยววินาที ทว่าเมื่อดึงสติกลับมาอีกครั้งเขากลับทำหน้ายักษ์ใส่โดยไม่สนใจว่าอีกฝ่ายหน้าซีดคล้ายคนจะเป็นลม
“บอกแล้วไงว่าอย่าท้าก็ไม่เชื่อ...อ๊ะ!”
เขาส่งเสียงเมื่อคว้าข้อมือของหญิงสาวที่ตั้งท่าจะทุบถองบนหน้าคมเข้มได้ทัน
“อะไรกัน เล่นทีเผลอหรือนี่...อยากจะโดนอีกสักทีใช่ไหม”
“อย่านะ!” หล่อนตวาดแหวจ้องหน้าเขาเหมือนนางแมวป่า “คุณนี่มันบ้าจริงๆ...มีสิทธิอะไรมาทำอย่างนี้กับคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วย”
เขายักไหล่และทำหน้าท้าทาย “ผมทำได้ทุกอย่าง ถ้าเค้นความจริงจากปากคุณไม่ได้ก้จะไม่ยอมกลับเด็ดขาด”
“แต่ฉันต้องกลับไปสอนเด็ก ฉันมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ”
“เรื่องนี้คุณก็ต้องรับผิดชอบ คุณต้องบอกผมให้ได้ว่าตอนนี้พี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน”
“ไม่รู้! ก็ฉันไม่รู้นี่นา”
“หรือต้องให้ผมออกแรงอีกหน”
“อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ...ออกไปจากรถคันนี้ได้เมื่อไหร่คุณโดนตำรวจซิวข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวแน่ๆ”
เขาเลิกคิ้วยิ้มเยาะ “กักขังหน่วงเหนี่ยว? จะฟ้องใคร ถ้าจะฟ้องตำรวจเขาจะมาตั้งข้อหาอะไรกับผู้ชายที่อยากจะจูบจะกอดแฟนในรถตัวเอง”
“ห๊า! ว่าอะไรนะ...แฟนเหรอ ใครเป็นแฟนใคร”
“ก็คุณไงที่เป็นแฟนผม”
“บ้าแล้ว!...อย่ามาพูดอะไรบ้าๆ”
“ผมมีให้เลือกแค่สองทาง จะยอมบอกผมดี ๆ หรือว่าจะให้ใช้วิธีการรุนแรงกว่านี้”
“อะไร...อะไรคือวิธีการรุนแรงของคุณ”
“ผมรู้มาว่าคุณกับพี่สาวของคุณเหลือแม่อยู่แค่คนเดียว”
พุดจบก็หยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาพร้อมทั้งจ้องหน้าหญิงสาวอย่างมาดหมาย
“แค่ผมโทรหาคนของผมให้ไปที่บ้านของคุณตอนนี้ แม่ของคุณอยู่คนเดียวนี่ไม่ใช่เหรอ”
“อย่านะ! อย่าๆๆ”
หล่อนร้องห้ามพร้อมน้ำตาไหลพรากทั้งที่วิคเตอร์ยังไม่ทันต่อโทรศัพท์ออกไปด้วยซ้ำ คราวนี้เขายิ้มเหยียดอย่างผู้ชนะ อิงธารอ่อยปวกเปียก มือที่กำหมัดคลายลงอย่างหมดทางสู้
“ฉันไม่รู้หรอกว่าพี่สาวของฉันอยู่ที่ไหน คุณจะให้ฉันทำอะไรก็ได้นะ แต่อย่ายุ่งกับแม่ของฉัน ท่านแก่มากแล้ว”
“ให้ทำอะไรก็ได้อย่างนั้นเหรอ?”
“ใช่...อะไรก็ได้”
เสียงสั่นเครือและหน้าซีดขาวของอิงธารทำให้วิคเตอร์รู้สึกว่าหล่อนอาจพูดความจริงเรื่องที่ไม่รู้ว่าพี่สาวไปอยู่เสียที่ไหนในตอนนี้ แต่จะให้เขาสงสารแล้วปล่อยหล่อนไปคงทำไม่ได้แน่ เพราะอิงอรทำกับเขาไว้เจ็บแสบ เชิดทั้งเงินทั้งโฉนดที่ดินแถมหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยแบบนี้ ทางที่ดีเขาควรเก็บน้องสาวของหล่อนไว้เพื่อเป็นตัวประกันให้หล่อนกลับมาเพื่อชดใช้จะดีกว่าที่เขาไม่มีอะไรไว้ต่อรองเสียเลย
“ถ้าอย่างนั้นผมก็ตัดสินใจที่จะไม่...กลับอเมริกาวันนี้ แต่จะอยู่กับคุณที่นี่จนกว่าพี่สาวของคุณจะกลับมา”
“อยู่กับฉัน...คุณจะอยู่ได้ยังไง”
“ผมจะไปอยู่ที่บ้านของคุณ คอยติดตามดูคุณทุกฝีก้าวและผมยิ่งกว่าแน่ใจว่าถึงวันนี้คุณจะไม่รู้ว่าพี่สาวของคุณอยู่ที่ไหน แต่วันหนึ่งเอ็มม่าจะต้องติดต่อกลับมาหาคุณแน่ ๆ และเมื่อถึงตอนนั้นผมจะรวบหัวรวบหางหล่อนจับเข้าซังเตให้หลาบจำ!”
“คุณไปอยู่กับฉันที่บ้าน...ไม่ได้หรอกนะ”
“ไหนว่าทำได้ทุกอย่างไง รับปากแล้วอย่าบิดพลิ้ว คุณเป็นครูไม่ใช่เหรอ ครูก็ต้องสอนเด็กไม่ให้โกหกแต่ถ้าตัวเองโกหกเสียเองแล้วจะให้เรียกว่าอะไร”