ภูดิษฐ์กลับมาที่บ้านเพราะรู้สึกเซ็งๆ ที่เห็นภาพของหมอนัยนั่งกุมมือสริสา แล้วยังได้ยินที่หมอนัยสารภาพรักกับเธออีก
"ทำไมปู่ไม่ให้ไอ้นัยแต่งงานกับเธอไปเลยนะเรื่องมันจะได้จบๆไป.."
เขาขับรถมาจอดหน้าบ้านเห็นแม่บ้านเดินถือถุงดำไปที่ประตูบ้านก็คิดอะไรขึ้นได้ เขาจึงรีบลงจากรถวิ่งขึ้นไปที่ห้องตัวเองอย่างไว
"หายไปไหนหมดวะ..อย่าบอกนะว่า.."
เขารีบวิ่งตามแม่บ้านไปที่ประตูรั้วหน้าบ้านทันที แต่รถขยะที่จอดรอนานแล้วก็วิ่งออกไปพอดี
"เห่ย.! อย่าเพิ่งไป เดี๋ยว.."
เขาวิ่งอย่างไวเพื่อให้ทันรถขยะแต่มันก็สายไปแล้ว
"คุณภูจะเอาอะไรหรือเปล่าคะ..?"
"เธอเป็นคนเข้าไปเก็บกวาดที่ห้องฉันใช่มะ.?"
"ใช่ค่ะ.."
"แล้วถุงดำที่ฉันวางไว้ตรงมุมห้องนั้นละหายไปไหน.?"
"ก็อยู่บนรถขยะนั้นไงคะ.."
"อะไรนะ..?"
"ก็เมื่อเช้านี้..คุณภูเป็นคนบอกให้กลอยเอาถุงดำนั่นไปทิ้งเองนะคะ"
เขาเครียดขึ้นมาทันทีเพราะลืมไปว่าเขาเป็นคนสั่งให้แม่บ้านเอาไปทิ้งเอง เขาจึงรีบวิ่งกลับไปที่รถอย่างไว แล้วขับรถตามรถขยะคันนั้นออกไป โดยที่ก็ไม่รู้ว่ารถขยะคันนั้นขับไปทางไหนแล้ว
...
เวลา 6 โมงเย็น
"อ้าว! ตานัยกลับมาแล้วหรอ..?"
"ผมแวะกลับมาแป๊ปเดียวครับแม่ แค่พาสากลับมาเอาเสื้อผ้าไปเฝ้าแม่ของสาทึ่โรงพยาบาลนะครับ.."
หมอนัยเดินเข้ามาในบ้านกับสริสา พวกเขาเดินผ่สนโต๊ะรับประทานอาหารที่มีทั้งพ่อแม่ของภูดิษฐ์และแม่ของตนเองนั่งทานอาหารร่วมกัน
"ดีเลย แม่ทำลูกตาลลอยแก้วเดี๋ยวเอาใส่กล่องไปฝากพ่อแกที่โรงพยาบาลด้วยนะ.."
"ได้ครับแม่.."
"นัยกับหนูสามาทานข้าวก่อนดีไหม..?"
"สาขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าก่อนดีกว่าค่ะ พี่หมอทานก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวสาเก็บเสร็จจะรีบลงมาค่ะ.."
"ได้จ่ะ.."
แม่ของภูดิษฐ์มองหน้าลูกสะใภ้อย่างนึกชัง
พ่อของภูดิษฐ์เองก็ไม่ได้พูดอะไรเอาแต่นั่งทานเงียบๆ ที่ประจำหัวโต๊ะของครอบครัว
"สาขอตัวก่อนนะคะ.."
สริสากลับมาที่บ้านเพราะตั้งใจจะกลับมาเอาเสื้อผ้าแล้วจะไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลต่อ
แต่พอเปิดประตูเข้ามาในห้องก็ต้องตกใจ เพราะข้าวของเครื่องใช้ของเธอหายไปจนหมดเกลี้ยง ทั้งเสื้อผ้าทั้งที่นอนก็หายไปด้วย
"หายไปไหนหมด ของของฉันหายไปไหนหมด.."
สริสาเดินหาไปจนทั่วก็หาไม่เจอ ไม่มีเสื้อผ้าสักชุดของเธอ หนังสือ ของใช้ รวมทั้งรูปถ่ายที่เธอถ่ายคู่กับแม่ก็หายไปด้วย
"นี่มันอะไรกัน หายไปไหน หายไปไหนหมด.."
เธอเริ่มร้องเสียงสั่นเครือแล้วน้ำตาก็เริ่มไหลออกมาช้าจนเต็มใบหน้า
"ป้าอิ่มคะ ป้าอิ่ม.."
สริสารีบวิ่งลงไปข้างล่างเพื่อหาป้าอิ่มที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านด้วยความร้อนรน
เธอร้องเรียกป้าอิ่มไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม
"สา เกิดอะไรขึ้น..?"
หมอนัยเห็นเธอวิ่งไปหาป้าอิ่มก็ตกใจมากจึงรีบลุกวิ่งตามออกไป
"คุณสา มีอะไรหรือเปล่าคะ..?"
"ของของสาที่อยู่ในห้องคุณภูหายไปหมดเลยคะ.."
"ของหรอคะ..?"
"ค่ะ เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างของสา รวมทั้งรูปที่สาถ่ายคู่กับแม่..อึกๆๆ มันหายไปหมดเลยค่ะ"
"แล้วมันจะหายไปได้ยังไง..ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งกับของที่อยู่ในห้องพี่ภูแน่ๆ .."
หมอนัยเดินตามมาถามเพราะสงสัยว่าใครจะกล้าเอาไป ในเมื่อของมันอยู่ในห้องของภูดิษฐ์
"ใช่..เธอพูดแบบนี้เหมือนกำลังจะโทษคนในบ้านนี้ว่าเอาของของเธอไปนะสริสา.."
แม่ของภูดิษฐ์เดินมาสมทบพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ
"หรือว่า นี่เธอคิดว่าคนที่บ้านนี้มีขโมยงั้นหรอ.?"
"สาเปล่านะคะ อึกๆๆ …สาไม่ได้คิดแบบนั้นค่ะ."
"ของของเธอมันจะมีค่ามากสักแค่ไหนเชียว หายไปก็คงเอาไปขายไม่ได้ราคาอะไรหรอกนะ.."
"ใช่ค่ะ..ของของสาไม่ได้มีค่ามากมายอะไร มันอาจจะไม่มีค่ากับใครแต่มันมีค่ากับสามากค่ะ อึกๆๆ .."
สริสาพูดไปก็ร้องไห้ไปจนหมอนัยต้องเดินเข้าไปปลอบ
"คุณสาคะ..คือกลอย.."
กลอยแม่บ้านอีกคนเดินเข้ามาหาสริสาด้วยใบหน้าเจื่อนๆ
"มีอะไรนังกลอย มีอะไรก็พูดมา นิ..อย่าบอกนะว่าแกเป็นคนเอาของของคุณสาไป..?"
ป้าอิ่มหันไปถามกลอยทันที กลอยจึงรีบชิงตอบ
"เปล่านะคะ กลอยไม่ได้เอาไปนะคะ เมื่อเช้านี่กลอยเข้าไปทำความสะอาดในห้องคุณภูก็ไม่เห็นมีของอะไรของคุณสาอยู่ในห้องนะคะ นอกจากถุงดำ 2-3 ใบที่วางอยู่มุมห้อง.."
"ถุงดำหรอ..?"
"ค่ะถุงดำ คุณภูเลยให้กลอยเอาถุงดำพวกนั้นไปทิ้งถังขยะนะคะ.."
"ทิ้งถังขยะงั้นหรอ..?”
"นี่เป็นฝีมือพี่ภูเองหรอเนี่ย..”
สริสาโกรธมากจนเลือดขึ้นหน้าที่รู้ว่าคนที่เอาของทั้งหมดของเธอไปทิ้งก็คือภูดิษฐ์
เธอร้องไห้หนักมากที่รู้ว่าเขาเป็นคนทำ เขาคงอยากจะทำให้เธอเจ็บ ทำให้เธอทรมานอย่างที่เขาเคยพูด เขาทำสำเร็จแล้ว เธอกำลังเจ็บปวดและเสียใจมากที่สุดกับการกระทำของเขาที่ทำกับเธอแบบนี้
"คุณภูมาแล้วค่ะ.."
สริสาสะบัดจากแขนของหมอนัยแล้วเดินตรงไปหาภูดิษฐ์ทันที
"คุณภูดิษฐ์.."
เพี๊ยะ>>> เธอยกมือขึ้นมาตบหน้าเขาอย่างแรง
ภูดิษฐ์หันหน้ามามองเธออย่างอึ้งๆ
"มันจะมากไปแล้วนะสริสา กล้าดียังไงมาตบหน้าลูกชายฉัน.."
แม่ของภูดิษฐ์เดินเข้ามาหาลูกชาย รวมทั้งทุกคนด้วยที่พากันเดินตามเธอมา ก็ตกใจกับการกระทำของเธอ
"คุณทำแบบนี้กับสาได้ยังไง..อึกๆๆ คุณใจร้ายมากนะคุณภู คุณเกลียดสามากถึงขนาดทำร้ายกันได้มากขนาดนี้เลยหรอคะ สาไม่เคยเจอใครใจร้ายมากเท่าคุณมาก่อนเลย..อึกๆๆ .."
เธอพูดไปร้องไห้สะอึกสะอื้นไป จนเขาเริ่มรู้สึกผิด
"..."
"อึกๆๆ ของพวกนั้นมันอาจจะไม่มีค่าอะไรสำหรับคุณ แต่สำหรับสามันมีค่ามาก.."
"..."
"คุณเคยพูดว่าจะทำให้สาเจ็บปวดและทรมาณเหมือนตกนรกทั้งเป็นใช่ไหมคะ..อึกๆๆ วันนี้คุณทำสำเร็จแล้ว..คุณทำสำเร็จแล้ว..อึกๆๆ"
"..."
สริสาเดินเข้าไปใกล้เขา แล้วมองเข้าไปในแววตาของเขาด้วยความเกลียดชัง
"สาจะหย่าให้ค่ะ สาจะหย่าให้.."
.......
หย่าไปให้มันจบๆ อยากหย่าดีนักได้หย่าสมใจแล้ว