“ จะเหลือแค่ร่าง….ของกะทิขอรับที่ยังใช้งานได้อยู่ขอรับ “ ยมทูตบอก พระยายมราชเจ้าของนรกกระภูมิ เมื่อท่านพระยมได้ยินแบบนั้นท่านไม่สามารถทำอะไรได้เนื่องจากกะทิและใบเฟินมีกรรมร่วมกันมา
“ ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่เจ้าคิดว่าดี ถึงยังไงผู้หญิงคนนี้ยังไม่หมดกรรม ส่วนกะทิก็หมดกรรมแล้วเจ้าต้องมาอยู่ที่นี้กับข้า “ พระยายมพูดออกมาเพื่อให้ยมทูตได้พิจารณาว่าจะต้องทำยังไงเมื่อ ยมทูตได้ยินแบบนั้นท่านก็เข้าใจได้ทันทีว่าจะต้องส่งใบเฟินไปที่ใดเมื่อคิดได้แบบนั้น ท่านก้หันมามองหน้าของใบเฟินและก็กะทิที่ได้ยินว่าตัวเธอนั้นตายแล้ว กะทิเริ่มน้ำตาไหลร้องไห้ออกมา
“ เอาละข้าจะพาเจ้ากลับไปยังโลกมนุษย์ เจ้าจะต้องไปอยู่ในร่างของกะทินัยวัย19ปี “ ยมทูตพูดแบบนั้น กะทิและเฟินก็หันมามองหน้ากันกะทิได้ยินแบบนั้นเธอก็ยิ้มยอมรับชะตากรรมไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่ได้เสียใจเลยที่ผู้หญิงคนนี้จะไปอยู่ที่ร่างของเธอ แต่ใบเฟินนี้สิกับรู้สึกแปลกๆหน่วงที่อกอย่างบอกไม่ถูก เมื่อรู้ว่าจะได้กลับไปเพียงคนเดียวและก็ต้องใช้ร่างของเด็กคนนี้
“ ด/เดี๋ยวก่อนท่านไม่ได้นะอยู่ๆจะให้ฉันเอาร่างเด็กคนนี้ท่านจะบ้ารึไง ถ้าร่างฉันพังไปแล้วก็ปล่อยให้ฉันตายสิท่านคนอย่างฉันมันไม่เหลืออะไรแล้ว ส่วนเด็กคนนี้เธอยังเด้กอนาคตยังอีกไกล ปล่อยให้เธอกลับไปเถอะนะท่าน “ ใบเฟินผู้หญิงที่ไม่เคยเห็นหัวใครมาก่อนแต่ไม่รู้ทำไมเธอถึงรู้สึกผิดกับเด็กคนนี้
“ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันในเมื่อเจ้า2คนมีกรรมร่วมกันข้าจะให้เจ้ากลับไปอยู่ที่ร่างของเด้กคนนี้ ส่วนเจ้าตายแล้วเจ้าไม่มีสิทธิ์มีร่างเป็นของตัวเอง เจ้าต้องอยู่เป็นวิญาญาณกลับไปแก้ไขสิ่งที่ตัวเองอยากทำก็แล้วกัน” เมื่อยมทูตต้องยอมสยบให้กับปากของ ใบเฟรินและสายตาของเด็กอ้วนที่ยังดูมีห่วงบางอย่างที่ยังไม่ได้ทำดังนั้นท่านเลยยอมให้ทั้งคู่ลงไปที่โลกมนุษย์ด้วยกัน
วู๊ด……..
หลังจากที่ตกลงกันได้แล้วท่านก็โยนทั้งคู่ลงมาที่โลกมนุษย์พร้อมกัน
โรงพยาบาล
“ กรี๊สสสสสสส “ เสียงกรีดร้องของใบเฟินที่อยู่ในร่างของกะทิ เธอกรีดร้องออกมาอย่างตกใจแต่ที่ต้องตกใจกว่านั้นเมื่อเธอเห็นคนไทยที่อยู่บนรถกระบะและที่หนักไปกว่านั้นคือตัวของเธอมีผ้าห่ออยู่ที่ตัว
“ เห้ย……./กรี๊สสสสส “ เสียงกรีดร้องของอาสาสมัครร้องออกมาเมื่ออยู่ร่างของคนที่พวกเขาคิดว่าตายด้วยเหตุฟ้าผ่า ทั้งหมดบนรถกรีดร้องออกมาแข่งกับเสียงของใบเฟิน
เอี๊ยด……
“ เชี้ย….นี้มันเกิดอะไรขึ้นว่ะเนี่ย” เสียงของใบเฟินสบถออกมาเบาๆเมื่ออยุ่ๆเธอก็รู้สึกว่าตัวเธออึดอัดและแขนขาของเธอก็ไม่เหมือนเดินก่อนที่เรื่องเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสักครู่จะวิ่งเข้าหัวมา
“ พี่ใบเฟิน พี่ใบ” เสียงคุ้นๆเหมือนเธอเพิ่งได้ยินมาจากที่ในฝัน ใบเฟินเลยหันไปก่อจะตกใจเมื่อเห็นเจ้าของร่างที่เธอมาอยู่
“ กรี๊สสสส “ ใบเฟินที่ไม่อยากจะเชื่อว่าชีวิตนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นจริงเธอกรีดร้องออกมาอีกครั้งเมื่อเห็นเจ้าของร่างที่เธอมาอยู่ พอเธอกรีดเสร็จเธอก็เป็นลมไปอีกครั้ง ส่วนอาสาที่ยังตกใจก็ต้องตกใจอีกครั้ใงเมื่ออยู่ๆเด็กสาวตัวอ้วนสลบไปอีกครั้ง
“ เชี้ย…..ตายไหมว่ะเนี่ย “ เสียงของอาสาคนหนึ่งที่ได้สติก่อนใครดึงผ้าออกก่อนจะเอามือมาอังที่จมูกของเด็กสาวที่นอนอยู่ในผ้าห่อศพ
“ เห้ยยังไม่ตาเว้ย “ เสียงของชายคนหนึ่งพูดกับเพื่อนจากนัน ทั้งรถและโรงพยาบาลก็เกิดเสียงพูดคุยขึ้น เพราะน้อยคนที่ฟ้าผ่าแล้วจะรอดแต่เด็กผู้หญิงคนนี้กลับรอดและที่สำคัญเธอไม่เป็นอะไรเลย เพราะหมอตรวจร่างกายเธอเสร็จเรียบร้อยแล้วจะมีก็แต่โรคประจำตัวที่เธอเป็นอยู่เท่านั้น
“ พี่ใบเฟิน พี่ใบเฟิน “ เสียงเรียกของใครบางคนที่อยู่ด้านข้างของเธอ ใบเฟินที่ได้ยินคนเรียกชื่อตัวเองแบบนั้นเธอก็ลืมตาตื่นขึ้นมาดู ก่อนจะต้องตกใจอีกครั้งแต่ครั้งนี้กรีดไม่ได้เพราะเธอเริ่มได้สติแล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป้นเรื่องจริง
“ กะ /กะทิ “ ใบเฟินเรียกชื่อเด็กสาวที่เธอมาอยู่ในร่างของเธอ กะทิเป็นวิญญาณที่อยู่ในชุดนักศึกษาก็ยิ้มหวานส่งมาให้ร่างของตัวเองที่กำลังนั่งมองเธอด้วยความงงงวย