คาร่าตัวแข็งทื่อเมื่อถูกคริสเตียนกอด ไม่เคยมีใครคอยปลอบใจเธอเมื่อยามที่เธอเศร้า
นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพยายามปลอบใจเธอ และนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกใครบางคนกอดเช่นกัน เธอวาดแขนของเธอออกไปรอบตัวเขา ในขณะที่น้ำตาของเธอก็รินไหลออกมา
คริสเตียนไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงกอดกระต่ายน้อยของเขา แต่พอเขาเห็นหน้าเธอที่ดูเศร้ามาก เขาเลยอดไม่ได้ที่จะปลอบโยนเธอ
เธอร้องไห้ และมันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเห็นมันอีก
รอยยิ้มอันสดใสของเธอเป็นสิ่งที่เขาชื่นชอบ และอยากจะเห็น เขาชอบให้เธอยิ้มและหัวเราะอยู่เสมอ ไม่ชอบใจเวลาที่เธอเศร้า หรือร้องไห้แบบนี้เลย
แต่มันรู้สึกดีที่ได้กอดลูกกระต่ายตัวน้อยตัวนี้ เมื่อเธอโอบกอดเขาและแขนของเธออยู่รอบๆ ตัวเขา เขารู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดแปลกๆ ในใจ
‘นายทำอะไรกับฉันแดน? นายเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อฉันแล้ว ยังส่งฉันให้ไปหาน้องสาวของนาย ที่ตอนนี้กำลังจะฆ่าฉันด้วยความไร้เดียงสาและความน่ารักของเธอ... ฉันจะไม่มีวันปล่อยเธอไป ไม่มีทาง!’
เขารู้ความต้องการของตัวเองแล้วตอนนี้ แน่ใจมากกว่าครั้งไหนในชีวิต จนเมื่อเขารู้สึกเปียกๆ ที่เสื้อ เขาจึงได้สติกลับมา แล้วมองดูเธอที่กำลังร้องไห้จนดวงตาเปียกชื้นไปด้วยหยาดน้ำตา
“อย่าพูดแบบนั้นอีกโอเคไหม ตอนนี้เธอมีบ้าน ‘บ้านของเรา’ ทั้งคฤหาสน์ฮิลล์ที่อิตาลี และบ้านที่เมืองไทย ตอนนี้เป็นบ้านของเธอแล้ว เธอไม่ใช่คนจรจัด เธอเป็นของฉัน... ฉันบอกเธอชัดเจนไหม?”
เขาบอกเธออย่างหนักแน่นและมั่นคง คาร่าจึงพยักหน้า ก่อนจะปาดน้ำตาด้วยหลังมือ
“กลับบ้านเรากันเถอะ”
เขาพาเธอกลับไปที่คฤหาสน์ ซึ่งระหว่างทาง เขาก็ได้ส่งข้อความหาฟรังโก้ ให้ออกไปตามหาลูกสุนัขจรจัดที่ดาวิเด้เอาไปทิ้งเพื่อนำมันกลับคืนมา
และถ้าหาไม่เจอ เขาจะยิงหัวของฟรังโก้ทิ้งซะ ฟรังโก้จึงตกใจมากเมื่อเห็นข้อความดังกล่าวจากเจ้านาย
ขณะนั้นโมนิก้าก็สังเกตเห็นสีหน้าของพี่ชาย เธอจึงเลิกคิ้วถามอย่างเจ้าเล่ห์
“เกิดอะไรขึ้นคะ” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความขี้เล่น
ฟรังโก้จ้องน้องสาวของเขา แต่เขามีเรื่องเร่งด่วนที่ต้องจัดการ เขาจึงรีบวิ่งออกไปโดยไม่ได้ตอบคำถาม แต่โมนิก้าก็รีบตามฟรังโก้ออกไปเพราะอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ฟรังโก้รีบวิ่งไปหาดาวิเด้ ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนจะผ่อนคลายมาก
“นายโยนลูกสุนัขตัวนั้นไปไว้ที่ไหน!” ฟรังโก้ถามด้วยความกังวล
ดาวิเด้ กาสปาโร และโมนิก้าก็พาหัวเราะลั่นออกมาพร้อมๆ กันทันที หลังจากได้ยินคำถาม
ทำให้ฟรังโก้ดูสับสนกับท่าทางของพวกเขา และไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงได้พากันหัวเราะอย่างสนุกสนานอยู่อีก ทั้งที่หัวของเขากำลังจะหลุดออกจากบ่าแล้วตอนนี้
“ลูกสุนัขตัวนั้นอยู่ที่ไหน!” เขาถามขึ้นมาอีกครั้งด้วยน้ำเสียงจริงจังมากกว่าครั้งแรก ดาวิเด้ก็เข้าใจว่าถ้าพวกเขาแกล้งฟรังโก้มากไปกว่านี้ ฟรังโก้อาจจะโกรธจริงๆ ก็ได้
“มันอยู่ในห้องด้านหลัง” ดาวิเด้ตอบออกมาหน้าตาเฉย
ห้องด้านหลังตั้งอยู่ข้างห้องครัว เป็นห้องที่พวกบอดี้การ์ดมักจะใช้เปลี่ยนเสื้อผ้าเวลาที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ในคฤหาสถ์
“ห้องลับ? นายไม่ได้เอามันไปทิ้งข้างนอกงั้นเหรอ?” ฟรังโก้ถามด้วยความสงสัยอีกครั้ง
“ไม่ เพราะพวกเรารู้ว่าเจ้านายจะขอให้พวกเราตามหามันอีก ถ้าได้เห็นใบหน้าที่ดูเศร้าสร้อยของคาร่า พวกเราเลยซ่อนมันไว้ในห้องด้านหลัง” โมนิก้าตอบด้วยรอยยิ้ม ฟรังโก้ก็มองน้องสาวด้วยสีหน้าตกตะลึง
“เจ้านายแปลกไปเพราะคาร่า” ฟรังโก้พึมพำคนเดียว
“พี่คนเดียวนั่นแหละที่ไม่รู้อะไรเลย!” โมนิก้าตอกย้ำ
ดาวิเด้ กาสปาโร และโมนิก้าเข้าใจดีว่าเจ้านายของพวกเขาใจอ่อนให้คาร่าเสมอ ในบ้านหลังนี้ทุกสิ่งที่คาร่าต้องการจะเกิดขึ้น แม้แต่เจ้านายของพวกเขาก็ทำอะไรไม่ถูกเวลาที่ต้องอยู่ต่อหน้าเธอ
ไม่นานคาร่าและคริสเตียนก็กลับมาถึงบ้าน เมื่อคาร่าเดินเข้าไปในบ้าน เธอก็เห็นลูกสุนัขจรจัดที่เธอเก็บมา วิ่งเข้ามาต้อนรับเธอ ตอนนี้มันอาบน้ำแล้วดูดีขึ้น สะอาดและกลิ่นหอม แถมมันกำลังมองดูเธออยู่พร้อมกับกระดิกหางไปมา
คาร่าจึงมองไปที่คริสเตียน ซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเธอสองสามก้าว พลางยืนมือล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่ คาร่ามีความสุขมาก เธอจึงวิ่งเข้าไปกอดคริสเตียน ทำให้ทุกคนประหลาดใจ
ฟรังโก้มั่นใจมากว่าเจ้านายของเขาจะผลักเธอออก แต่ก็ต้องประหลาดใจอีกครั้ง เพราะคริสเตียนไม่เพียงไม่ผลักคาร่าออก แต่เขากลับกอดเธอ พร้อมกับลูบหลังของเธอไปมา ก่อนจะเอ่ยถามเธอว่า
“มีความสุขไหม?” คริสเตียนกระซิบถามคาร่าแนบชิดใบหู ซึ่งมีเพียงเธอเท่านั้นที่ได้ยิน คาร่าจึงเงยหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้มกว้างและพยักหน้าให้เขา
คริสเตียนมองดูลักยิ้มของเธอและตัดสินใจว่ามันสวยที่สุดบนใบหน้าของเธอ เขาจึงสัมผัสลักยิ้มของเธอเบา ๆ
“ตอนนี้ฉันจะต้องไปแล้ว ฉันจะไม่อยู่สองถึงสามวัน และฉันได้เมมเบอร์โทรของฉันไว้ที่โทรศัพท์ของเธอแล้ว... โทรหาฉันถ้าเธอต้องการอะไร... โอเคนะ” เขาบอกเธอ
“โอเคค่ะ” คาร่าตอบกลับด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและมีความสุข
หลังจากนั้นคริสเตียนก็ขึ้นรถออกไปกับฟรังโก้ทันที