โจนาธาน Talk:
Rrr! Rrr!
ทันทีที่ผมนั่งลงบนเก้าอี้ โทรศัพท์ก็กรีดร้องขึ้นมา มันเป็นสายจากมิคาอิ
(“ท่านครับ เรามีปัญหาฉุกเฉิน หนึ่งในลูกค้าวีไอพีมาที่นี่เพื่อยกเลิกสัญญากับบริษัทเรา เขาให้เหตุผลว่าไม่ต้องการทำงานร่วมกับบริษัทที่กำลังมีปัญหาแบบเราครับ”)
“เชี่ย!… เอไลจาห์อยู่ไหน” ผมตะคอกถามพร้อมกับยืนขึ้น
(“ผมโทร.แจ้งท่านเอไลจาห์แล้วครับ ท่านเพิ่งคุยงานกับทีมผู้ผลิตเสร็จครับ ขณะนี้กำลังไปยังห้องประชุม”)
เราไม่สามารถสูญเสียลูกค้าไปได้อีกแล้วแม้แต่คนเดียว ที่สำคัญลูกค้าคนนี้เป็นลูกค้าวีไอพีที่ทำธุรกิจร่วมกันมานาน
“ตอนนี้ลูกค้าอยู่ที่ไหน” ผมถามพร้อมกับนวดต้นคอที่รู้สึกเจ็บนิดหน่อย
(“เขารออยู่ที่ชั้นสามสิบครับ”)
“โอเค พาลูกค้ามาที่เลานจ์!” เวลานี้เรากำลังต่อสู้กับการสูญเสียมากกว่าที่ประเมินไว้ ไม่นึกเลยว่าบริษัทเราจะล้มเหลวอย่างน่าสังเวช
ผมเดินออกไปที่เลานจ์และเห็นเมดิลีนกำลังจัดเตรียมกาแฟอยู่ มีเอกสารวางอยู่บนโต๊ะกระจกจำนวนมาก ผมจึงยืนดูวิธีการทำงานของเธออยู่ห่าง ๆ
ริมฝีปากของเธอขยับมุบมิบราวกับกำลังพูดอะไรบางอย่างพร้อมคิ้วที่ขมวดขึ้นเล็กน้อย กระทั่งเธอมองมาที่ผม จึงรีบยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มให้เล็กน้อย และเดินนำผมไปยังที่นั่งปลายสุดของโซฟาตรงข้ามกับที่เธอยืนอยู่
“กรุณานั่งรอสักครู่นะคะท่าน คุณปีเตอร์กำลังมาค่ะ” ผู้ช่วยสาวพูดพร้อมกับผายมือ
‘รออะไรล่ะ เราจะสูญเสียลูกค้าที่ชื่อปีเตอร์ไปอีกคนใช่ไหม’
“เมื่อกี้คุณพูดว่าลูกค้าชื่อปีเตอร์ใช่ไหม เขาเป็นคนที่ต้องการยกเลิกสัญญากับเราใช่หรือเปล่า” ผมถามด้วยเสียงคำรามลึก ดูเหมือนเมดิลีนจะตื่นเต้นที่ผมคุยด้วย แต่เธอก็รีบปกปิดมันอย่างรวดเร็ว
“ใช่ค่ะ มิคาอิบอกฉันแล้ว!” เธอตอบ
ทันใดนั้นประตูลิฟต์ด้านขวาก็เปิดออก ก่อนที่เอไลจาห์จะเดินนำออกมา ตามด้วยลูกค้าวีไอพีรายใหญ่สุด เอไลจาห์มองหน้าผม สัมผัสได้เลยว่าเขาดูหมดหวัง แต่ถึงแม้เปอร์เซ็นต์มันจะริบหรี่มากแค่ไหนก็ตาม ผมก็จะทำให้ดีที่สุด
ผมอยากรีบเข้าไปหาเขา จูบเขาเพื่อขจัดความทุกข์ใจออกไป แต่เวลานี้ตัวผมก็ไม่ต่างจากเขามากนัก มันค่อนข้างแย่มาก
“สวัสดีค่ะคุณปีเตอร์ เชิญนั่งค่ะ” เมดิลีนเอ่ยทักทายลูกค้า พลันปลุกผมให้ตื่นจากภวังค์
“โอ้ ดูสิ ผู้หญิงที่น่ารักคนนี้คือใครกัน” ปีเตอร์ถามด้วยเสียงที่น่าขยะแขยง พร้อมจ้องมองเมดิลีนไม่วางตา เธอจึงยื่นมือออกไปเพื่อทักทายเขาด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ฉันชื่อเมดิลีน โลเปซ เป็นผู้ช่วยส่วนตัวคนใหม่ของท่านเอไลจาห์และท่านโจนาธานค่ะ... เชิญนั่งก่อนค่ะ”
ผมมองเธออย่างสงสัยว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาข้างเอไลจาห์ ส่วนปีเตอร์นั่งที่โซฟาอีกตัวตรงข้ามเราพร้อมกับเมดิลีน
ผมกระแอมก่อนจะพูดขึ้นทำลายความเงียบ “ผมทราบมาว่าคุณต้องการยกเลิกสัญญากับทางบริษัทเราใช่ไหมครับ”
“ถูกต้องครับ ผมขอโทษที่ต้องทำแบบนี้ เพราะบริษัทของคุณไม่มีความมั่นคงอีกต่อไปแล้ว ไม่เกินหนึ่งเดือนบริษัทคุณก็คงจะประกาศล้มละลาย ผมไม่อาจแบกรับความเสี่ยงนี้ได้”
ปีเตอร์เอนหลังดื่มชาด้วยท่าทางผ่อนคลายสบาย ๆ ขณะที่ผมต้องกำหมัดแน่นหลังจากได้ยินเขาพูดอย่างนั้น
“โอ้!… อะไรที่ทำให้คุณคิดว่าเราจะประกาศล้มละลายในไม่กี่อาทิตย์นี้คะ” เมดิลีนถามขึ้นมาด้วยท่าทางสบาย ๆ เช่นกัน ดวงตากลมโตจ้องมองไปที่ใบหน้าปีเตอร์
ผมขมวดคิ้ว สงสัยว่าเธอกำลังจะทำอะไร
“เพราะบริษัทของคุณขาดสภาพคล่องยังไงล่ะ อีกเดี๋ยวเงินก็ต้องหมดในไม่ช้า ก็เหมือนคนใกล้หมดลมหายใจนั่นแหละ ไม่มีอะไรให้หวังอีกต่อไปแล้ว” ปีเตอร์ตอบพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ
“คุณปีเตอร์คะ นั่นเป็นความคิดที่ผิดถนัดเลย สิ่งที่คุณได้ยินมาไม่ถูกต้องนะคะ แต่หากคุณมั่นใจจะยกเลิกสัญญา ทางเราก็ยินดีจะลงนามในเอกสารกับคุณ ตอนนี้เราได้รับการติดต่อจากลูกค้าจากอิตาลีอีกท่านหนึ่งที่ต้องการเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของเรา แน่นอนว่าเพราะเขาได้ข่าวว่าคุณจะยกเลิกสัญญากับทางเรา!” เมดิลีนพูดจาฉาดฉานอย่างมืออาชีพ
ผมหันไปมองเอไลจาห์อย่างไม่เข้าใจ อีกฝ่ายก็เพียงยักไหล่กลับมา ต่างสงสัยว่าเมดิลีนกำลังทำอะไรอยู่…
“ลูกค้าคนอื่น? เขาคือใครกัน” ปีเตอร์วางถ้วยชาลงทันที และเอนกายไปใกล้หญิงสาวมากขึ้น สีหน้ามีร่องรอยแห่งความกังวลนิด ๆ
“ฉันไม่สามารถบอกคุณได้ค่ะคุณปีเตอร์ เพราะเป็นความลับของบริษัท แต่คุณควรรู้ว่าเวลานี้การแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณเองคงรู้ดีว่าเราเป็นบริษัทผู้ผลิตรองเท้าและกระเป๋าที่ดีที่สุดของวงการอุตสาหกรรมแฟชั่นในลอนดอน... และเราจะผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน ทว่าน่าเศร้าที่คุณกำลังจะถอนตัว”
“...”
“ฉันขอถามคุณอีกครั้งนะคะ คุณปีเตอร์ คุณได้ทบทวนเรื่องนี้ดีหรือยังคะ” เมดิลีนถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
ผมยกยิ้มก่อนจะมองไปที่ปีเตอร์ซึ่งกำลังขมวดคิ้วครุ่นคิดอะไรบางอย่างอยู่
“เอาละ พวกคุณลืมมันไปเถอะ ผมเปลี่ยนใจไม่ยกเลิกสัญญาแล้ว ฟังจากที่คุณพูดมามันก็สมเหตุสมผลจริง ๆ ผมคงกลายเป็นคนโง่ถ้าทำแบบนั้น” ปีเตอร์ตอบหลังจากใช้เวลาทบทวนสักครู่ ได้ยินอย่างนั้นผมจึงพรูลมหายใจออกมาอย่างผ่อนคลาย
“ผมรู้ว่าคุณจะพิจารณาและให้โอกาสกับบริษัทเราอีกครั้ง เราสัญญาว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวังค่ะ!”เมดิลีนตอบด้วยรอยยิ้ม
“ขอบคุณมากเมดิลีน ที่ทำให้ผมต้องทบทวนเรื่องนี้ ผมต้องขอโทษคุณโจนาธานและคุณเอไลจาห์ด้วยที่ทำให้เสียเวลา และขอโทษที่ไม่มั่นใจในบริษัทของคุณทั้งที่หลายปีที่ผ่านมาพวกคุณไม่เคยทำให้ผมผิดหวังเลย สินค้าที่พวกคุณผลิตออกมาได้รับผลตอบรับดีมากจากลูกค้าของเรา มันสมบูรณ์แบบมาก”ปีเตอร์พูดจบก็ลุกขึ้นยืน เราจึงลุกขึ้นตาม ก่อนเขาจะจับมือกับเราทุกคน
“ไม่มีปัญหาค่ะ พวกเราดีใจที่ได้เจอคุณวันนี้ค่ะ สบายใจได้ค่ะ พวกเรายินดีมากที่ได้ร่วมงานกับคุณต่อ” เมดิลีนตอบแล้วดึงมือกลับ
“ขอบคุณสำหรับเวลาของพวกคุณ งั้นวันนี้ผมขอตัวก่อนนะครับ” ปีเตอร์พูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นพวกเราก็เดินไปส่งเขาที่ลิฟต์
เมื่อกี้มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่นะ?
.........