ไม่รู้ชะตากรรม

1135 Words
“บ้านนี้ไม่มีป้าสักคน แล้วใครจะมาดูแล” “ค่ะ ได้ค่ะ งั้นป้าจะไปบ้านสักอาทิตย์หนึ่งนะคะคุณท่าน ขอตัวไปเก็บเสื้อผ้าเลยละกัน” ป้าประนอมกระดี๊กระด๊า รีบลุกขึ้นไปทำตามที่บอก เสี่ยอิทธิพลมีลูกสาวเพียงคนเดียว ภรรยาของเขาก็เสียชีวิตไปตั้งแต่ลูกเล็ก ๆ ก็ได้ประนอมนี่แหละที่เป็นคนที่เสี่ยไว้ใจมากที่สุดให้ดูแลลูกสาว “เที่ยวให้สนุกนะลูก นิ้งทำงานหนักให้พ่อมาเยอะแล้ว” เขานึกไปถึงใบหน้าที่เปี่ยมสุข และรอยยิ้มสวย ๆ ของลูกสาว   เสียงเหล็กที่กระทบกัน และร่างกายของเธอกำลังถูกขยับด้วยน้ำมือของใครบางคน กุหลาบแก้วสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยความหวาดกลัว สองมือของเธอยังคงถูกมัดไพล่หลัง แต่ตอนนี้หญิงสาวรู้สึกหนักที่ข้อเท้า แค่ขยับ มันก็รู้สึกหนักอึ้งแทบจะขยับไม่ได้ สองเท้าของเธอกำลังถูกผู้ชายคนนั้นเอาโซ่เหล็กมาตีตรวนเอาไว้ สติสัมปชัญญะกลับเข้ามา ดวงตาของเธอเบิกโพลง แต่ด้วยแสงไม่มีในห้อง มันยังคงมืดสนิท มีเพียงแสงเล็ดลอดจากภายนอกเข้ามาเพียงน้อยนิด เธอหายใจแรงด้วยความหวั่นใจ หัวใจน้อย ๆ ที่อยู่ภายในอกเต้นรัวเหมือนจะหลุดออกมาข้างนอกให้ได้ ไอ้ผู้ชายคนนี้จะทำอะไรกับเธอกันแน่ กุหลาบแก้วกะพริบตาถี่ เธออยากจะเห็นอะไรให้ชัดเจนกว่านี้ เมื่อคืนช่างเป็นคืนที่ทรมานที่สุด เธอขลาดกลัว ทั้งเสียงประหลาดในยามราตรี และพวกแมลงพวกยุงก็รุมกัดเหมือนจะทำให้เธอบ้าได้ ร่างกายที่เปียกโชกในอาภรณ์ที่ชุ่มไปด้วยน้ำทำให้เธอหนาวสั่นไปหมด นอนไม่หลับ ในหัวก็คิดไปร้อยแปด เพิ่งจะผล็อยหลับไปได้ไม่นานนี้เอง ปลายกรรไกรแหลม ๆ แทงทิ่มเข้ามาในเนื้อ เธอคิดว่าเขาจะเฉือนเนื้อเธอเสียแล้ว แต่ไม่ใช่ ผู้ชายคนนี้กำลังจะใช้มันตัดชุดที่เธอใส่ เสียงความคมฉับที่ค่อย ๆ ตัดเนื้อผ้าออกดังจนได้ยินชัดเจน หญิงสาวนัยน์ตาเบิกโตกลัวจับจิต เนื้ออวบอัดที่รัดแน่นกันอยู่ในชุดราตรีเกาะอกนั้นเริ่มปริและล้นออกมาเปลือยเปล่า เธอส่งเสียงถาม แต่มันไม่ได้มีความหมายอะไร เหมือนว่าเธอกำลังทำเสียงอึกอักปฏิเสธบอกเขาว่าอย่าทำ สุดท้ายปลายกรรไกรแหลม ๆ นั้นก็ตัดชุดนั้นจนขาดวิ่น ร่างกายของหญิงสาวเหลือเพียงกางเกงในตัวจิ๋วเพียงตัวเดียว ลมที่พัดวูบมาทำให้ร่างกายของเธอเริ่มหนาวสั่น ขนแขนที่เรียงกันขึ้นเป็นตุ่ม ร่างเล็ก ๆ ของกุหลาบแก้วถูกปลุกให้ลุกขึ้นนั่ง เขาเอากรรไกรอันเดิมตัดเชือกที่รัดตรงมือ แค่มันเป็นอิสระ เธอก็ใช้สองมือนั้นผลักไอ้หนุ่มคนนั้นอย่างแรง ผลของมันทำให้เขาก้นกระแทกพื้น อาจจะไม่ทันได้ระวังตัว   เผียะ... “อึก...” เธออุทานออกเสียง เจ็บร้าวไปทั้งใบหน้า ร่างเล็ก ๆ ร่วงลงไปกองกับพื้น ฝ่ามือหนาของมันกระทบเข้ามาที่ใบหน้าของเธอเต็มแรง เธอฟังเสียงหายใจของอีกฝ่ายแล้วมันดังฮึดฮัด ท่าทางมันกำลังโกรธมาก ๆ “ถ้าไม่อยากจะตายตอนนี้อย่าฤทธิ์เยอะ” เขาตะคอกดัง ๆ ใส่หน้า หญิงสาวนอนนิ่งน้ำตาร่วงเผาะ นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอกันนะ เขาใช้ฝ่ามือจับแขนของเธอแล้วบีบแน่น ประคองร่างที่สั่นสะท้านนั้นให้ลุกขึ้นนั่ง ลมหายใจของผู้ชายคนนั้นกระทบที่ข้างแก้ม เขาเค้นคำพูดเหมือนกระซิบที่ข้างหู “ยังไม่รู้ชะตากรรมของเธออีกหรือ” ฟังแล้วช่างเลือดเย็น หญิงสาวส่ายตัวขัดขืน เขาส่งมือจับสองไหล่ของเธอแล้วบีบแรง เธอยกมือขึ้นมาเกาะกุมหลังมือของเขาที่กำลังลงน้ำหนักขึ้นเรื่อย ๆ กุหลาบแก้วกำลังพยายามแกะมัน แต่เขากับรวบเอาสองมือของเธอขึ้นมาอีกครั้ง แล้วใช้เศษผ้าขึ้นมามัดรวมเอาไว้ด้านหน้า “เธอไม่มีโอกาสทำอะไรฉันได้เป็นครั้งที่สองหรอก” ลมที่พ่นออกมาจากลมหายใจของมันเป็นกลิ่นยาสีฟัน และเธอยังคงได้กลิ่นโคโลญที่ออกมาจากร่างกายของมันด้วย กลิ่นไหม้ ๆ กลิ่นมันแรงแตะจมูกแบบนี้ ‘Gucci intense oud’ น้ำหอมราคาแพงขนาดนี้หรือที่ไอ้โจรคนนี้ใช้ มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่เธอซื้อให้กับคุณพ่อตอนไปเที่ยวฝรั่งเศสรอบที่แล้ว ราคาของมันไม่ใช่น้อย ๆ ใคร?   ปลายนิ้วมือที่แตะโดนใบหน้าของเธอเลยไปถึงด้านหลัง เขากำลังจะแกะผ้าที่รัดปากของเธอออก กุหลาบแก้วรู้สึกดีใจ เธอจะได้เจรจากับเขา แต่... “ฉันขอเตือนเธอนะ อย่าตะโกนใส่หน้าฉัน แล้วห้ามพูดมาก ฉันมันคนบ้า และไอ้เสียงแหลม ๆ ของผู้หญิงมันมักจะทำให้ฉันคลั่ง” เขาขู่เธอ หญิงสาวกะพริบตาถี่ไล่น้ำตาที่กำลังไหลรินออกมา เธอยกสองมือยกสองแขนขึ้นมาปิดสองถันที่เปิดเผย อย่างน้อยก็ให้พ้นจากสายตาของเขา กิริยาปัดป้องทำให้เขาทำเสียงหึ ๆ ชายหนุ่มเหมือนแกล้ง เขาชนปลายจมูกพ่นลม และสูดเอาอากาศเข้าปอดข้างใบหู เธอขบเม้มกัดริมฝีปากเอาไว้แน่น เรือนกายที่สะท้อนแสงโคมไฟแสงสลัว ๆ นั้นดูเรืองรอง ลมเย็น ๆ ที่ลอดผ่านช่องฝาไม้ไผ่ที่ประสานกันไม่แน่นมีรูน้อย ๆ ทำให้ร่างกายของเธอที่เปลือยเปล่าหนาวสั่น ผสมรวมกับความคิดในหัวที่กลัวไอ้ผู้ชายคนนี้แทบบ้า กลิ่นน้ำหอมที่หญิงสาวใช้แตะต้องกายก่อนออกไปงานเมื่อคืน กรุ่นเข้ามาในจมูก เรือนร่างที่ขาวโพลนสะดุดตา เขาต้องเบือนหน้าหนีไปที่อื่น กุหลาบแก้วเป็นคนสวย ร่างกายของเธอสมส่วนและงดงาม แต่เขาไม่ได้พิศวาสเธอ ไอ้บ้านั่นหยิบเอาผ้าถุงมานุ่งให้กับเธอ มือที่พยายามขมวดปมผ้าเอาไว้ที่หน้าอก เนื้อหนังและกระดูกแข็งกระแทกเฉียดกับเนื้อนิ่มของสองเนินอก “นายจับฉันมาทำไม” เธอเอ่ยปากถามเขาเป็นคำแรก น้ำเสียงแหบแห้งและแผ่วเบา “ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ให้พูด” เขาตวาดลั่น เธอผวาสั่นเป็นเจ้าเข้า ขยับร่างกายถอยหนี ในหัวเริ่มคิด หยุดคำถามเอาไว้แค่นั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD