เป็นห่วง

1305 Words
  ที่ร้านอาหาร เรื่องที่สนทนากันระหว่างกินข้าว “แอมติดต่อพี่ต๊ะไม่ได้เลยค่ะ แอมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าตอนนี้แอมเป็นแฟนหรือเป็นคนอื่นสำหรับพี่ต๊ะกันแน่ พี่ต๊ะทำเหมือนกับแอมไม่มีตัวตน โทร. หาก็ไม่รับสาย ที่แอมเสียใจคือพี่ต๊ะไม่โทร. กลับหาแอมด้วยนะคะ” แอมสีหน้าผิดหวัง “แล้วพี่ต๊ะได้โทร. หาพี่โอมบ้างไหมคะ” สีหน้าอิสรีย์ดูเหนื่อยล้าและอ่อนใจ มิ่งขวัญทำหน้าอึกอัก เขาคุยกับกัมปนาทค่อนข้างบ่อย ส่วนใหญ่ก็จะคุยกันเรื่องงาน และบางครั้งก็มีคุยเรื่องส่วนตัวบ้าง “ก็มีคุย ๆ กันบ้างทางมือถือ แต่พักนี้พี่กับพี่ต๊ะไม่ได้คุยกันเลยนะ อีกอย่าง งานของพี่ก็ยุ่งมาก ๆ ด้วย เพิ่งปิดจ๊อบไปเมื่อวานนี้เอง โชคดีนะว่าวันนี้พี่กลับมาเยี่ยมแม่ที่บ้านเลยได้ไปที่โรงเรียน ปกติพี่ก็ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ตลอด” อิสรีย์ยิ่งดูเศร้าไปอีก กัมปนาทโทร. คุยกับคนอื่นได้ แต่กับเธอเขากลับไม่ติดต่อ เธอถอนหายใจและรวบช้อนรู้สึกไม่อยากกินขึ้นมาเสียดื้อ ๆ “ยิ่งรู้แบบนี้แล้ว มันก็ยิ่งน้อยใจนะคะ แค่กริ๊งเดียวพี่ต๊ะก็ไม่เคยโทร. หาแอม จะมาบอกว่าไม่เห็นมิสคอลไม่ได้หรอกค่ะ ทีกับพี่โอมยังรับสาย พี่ต๊ะทำแบบนี้จะให้แอมคิดยังไง” แอมแสดงอาการน้อยใจออกมาให้เห็น “พี่ต๊ะยุ่งงานที่ไร่กับที่รีสอร์ต ใช่ไหมโต รุ้ง” มิ่งขวัญรู้สึกสงสารอิสรีย์เหมือนกัน เธอน่าเห็นใจที่สุด จึงอยากจะแก้ต่างให้กัมปนาท เผื่ออีกอย่างอิสรีย์จะได้รู้สึกดีขึ้น “ผมก็ไม่รู้ครับ เพราะพี่ต๊ะไม่ได้มานอนที่บ้านเกือบสองเดือนแล้ว ตั้งแต่ผมกับแม่ย้ายมาอยู่ที่นี่ มีมาหา มาเยี่ยม มาดูแม่ตอนกลางวันบ้าง แต่เราสองคนก็คุยกันเท่าที่จำเป็น ถือว่าคุยกันน้อยมาก พี่ต๊ะก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกันว่า ตัวผมกับแม่มาเป็นภาระของพี่เขาหรือเปล่า แล้วที่พี่ต๊ะไม่ยอมกลับมานอนที่บ้านก็เป็นเพราะผมกับแม่มาอยู่ที่นี่ด้วยครับ” สีหน้ากฤตนันท์เครียดลงไปอีกคน “กำลังกินกันอร่อย ๆ ก็เปลี่ยนโหมดเป็นเรื่องเครียดกันอีกแล้ว” ทอรุ้งครวญออกมาเบา ๆ พลอยรู้สึกอิ่มไปด้วย เธอจึงรวบช้อน มองหน้าคนนั้นทีคนนี้ที “แล้วพี่ต๊ะไปอยู่ที่ไหนคะ ไม่ไปนอนทั้งที่บ้านคุณแม่ แล้วยังไม่ยอมกลับไปที่บ้านของตัวเองอีก แบบนี้แอมว่าแปลก ๆ แล้วละค่ะ ไม่ใช่ว่าพี่ต๊ะกำลังมีผู้หญิงคนอื่นอยู่นะคะ แอมไม่ใช่ไม่เชื่อใจ แต่ที่พี่ต๊ะทำมันทำให้แอมรู้สึกแบบนั้น คนเป็นแฟนกัน อีกคนก็ไม่น่าจะทำให้รู้สึกแบบนี้” อิสรีย์พูดในสิ่งที่เธอคิด มิ่งขวัญเริ่มสงสัย แต่ทอรุ้งรีบยกมือส่ายปฏิเสธแทนพี่ชายของตน “ทุกคนคะ รุ้งว่าอย่าเพิ่งคุยเรื่องซีเรียสกันดีกว่าค่ะ และรุ้งเชื่อว่าพี่ต๊ะไม่ได้ซุกผู้หญิงแน่นอน พี่ต๊ะไม่ได้เป็นคนเจ้าชู้ และรุ้งการันตีได้ว่าพี่ต๊ะไม่ได้เป็นคนแบบนั้น พี่ต๊ะก็เป็นแบบนี้แหละ แท้จริงพี่ต๊ะเป็นคนรักสันโดษ ชอบทำอะไรไม่บอกใครอยู่แล้วค่ะ ตอนนี้พี่ต๊ะอาจจะมีโปรเจกต์ใหม่ ๆ ซุ่มทำอะไร ๆ ให้พวกเราเซอร์ไพรส์กันอยู่ก็ได้นะคะ” น้องสาวแก้ต่างแทนพี่ชาย “ถ้าพี่ต๊ะจะขึ้นโครงการอะไรก็ต้องปรึกษาพี่สิ เพราะพี่เป็นสถาปนิกมือหนึ่งที่เชื่อถือได้ แต่ที่รีสอร์ตทุกอย่างก็เสร็จไปแล้วนี่นา เปิดบริการไปตั้งหลายเดือนแล้ว จะมีโครงการอะไรอีก” “แหมพี่โอมคะ พี่โอมต้องรู้เรื่องของพี่ต๊ะทุกเรื่องหรือคะ ตอนนี้พี่ต๊ะอาจจะกำลังทำการตลาดหาลูกค้ามาพักที่รีสอร์ตอยู่ก็ได้ค่ะ อะไรแบบนี้ พวกพี่ ๆ อย่าเพิ่งคิดมากกันเลยนะคะ” ทุกคนต่างมองหน้ากัน อิสรีย์ถอนหายใจ “แล้วแอมจะกลับกรุงเทพฯ คืนนี้เลยไหม ยังไงมันก็มืดแล้ว พี่ว่าแอมนอนที่นี่ดีกว่า พรุ่งนี้พี่จะช่วยตามหาพี่ต๊ะอีกแรง” “ทีแรกแอมว่าจะกลับเลยนะคะ แต่นี่...” เธอก้มหน้ามองเวลาที่หน้าจอมือถือของตัวเอง เวลามันล่วงเลย และเธอรู้สึกเหนื่อย “ไปนอนที่รีสอร์ตของพี่ต๊ะไหม เผื่อได้ถามพนักงานว่าพี่ต๊ะไปไหน” “หรือว่าพี่แอมจะไปนอนที่บ้านของคุณป้าดีคะ พี่นอนกับรุ้งก็ได้ค่ะ” ทอรุ้งเสนอ “พี่เกรงใจคุณแม่นะ พี่มาที่นี่ก็ไม่ได้บอกล่วงหน้าด้วย อีกอย่างขอไปนอนที่รีสอร์ตของพี่ต๊ะดีกว่า เผื่อจะเจอพี่ต๊ะที่นั่น” “งั้นเดี๋ยวพวกเราไปส่งโตที่บ้านก่อน แล้วค่อยกลับมาส่งรุ้ง หลังจากนั้นก็เอารถของแอมไปที่รีสอร์ตกัน” “ค่ะ” “ว่าแต่โตก็อย่าสร้างเรื่องอีกนะ เพราะตอนนี้ปัญหาต่าง ๆ ที่มีก็มากพออยู่แล้ว อะไรที่ทนได้ก็ต้องทนให้ถึงที่สุด การระงับความโกรธที่ตัวเราเองน่ะสำคัญที่สุดแล้ว การเอาชนะใคร ๆ ในโลกได้เป็นร้อย ๆ ล้าน ๆ คน ก็ไม่เหมือนกับเราเอาชนะใจตัวเองนะ ยังไงตอนนี้ โตก็คือกำลังใจที่สำคัญของคุณแม่ ทำอะไรให้คิดให้ดี” โอมสอนกฤตนันท์ เด็กหนุ่มได้แต่นั่งนิ่ง ๆ “ไม่ต้องเป็นห่วงค่ะ ต่อไปที่โรงเรียน รุ้งจะเป็นคนดูแลเจ้าหนูโตเอง” “สะเออะ” กฤตนันท์สวนคำและทำหน้ายักษ์ใส่ทอรุ้ง “แหม... ล้อเล่นน่า นายนี่ทำตัวซีเรียสอยู่ตลอดเวลาเลยนะ ระวังเหอะ ทำแต่หน้าเข้ม ๆ ปากแบน ๆ แบบนี้ หน้าจะแก่เร็ว นี่ฉันเตือนนายด้วยความหวังดีนะ” อิสรีย์และมิ่งขวัญต่างหัวเราะ แต่กฤตนันท์ไม่ขำด้วย เขาฉวยกระเป๋าแล้วลุกขึ้นนำหน้าทุกคน มิ่งขวัญรอจ่ายเงิน ออกปากไล่สองสาวให้เดินตามโตไปก่อน   วันนี้ทั้งวัน กุหลาบแก้วถูกขังเอาไว้ที่ในห้อง เขาไม่ยอมแกะเชือกที่รัดข้อมือของเธอออกเลย แล้วยังพันธนาการหญิงสาวด้วยโซ่ตรวนเอาไว้เช่นเดิม ใกล้พลบค่ำ ความมืดเริ่มเข้าครอบคลุม แต่เขายังไม่มีวี่แววว่าจะเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวใช้สองมือที่ผูกติดกันยกน้ำที่เขาวางเอาไว้ใกล้ ๆ ขึ้นมาดื่มแก้กระหาย มันช่างทุลักทุเลสิ้นดี สุดท้ายด้วยความอ่อนแรง ขวดน้ำนั้นก็หลุดมือ น้ำหกไปหมด “โธ่...” เธอสังเวชตัวเองเป็นที่สุด น้ำตาเริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง วันนี้เธอนับไม่ได้ว่าร้องไห้ไปกี่หนแล้ว เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจับตัวเธอมาทำแบบนี้ “คุณพ่อ คุณแม่ขา นิ้งเจ็บเหลือเกิน ทำยังไงก็ได้ให้นิ้งหลุดพ้นจากไอ้เลวคนนี้เร็ว ๆ สาธุค่ะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ที่นี่ ช่วยนิ้งด้วยนะคะ นิ้งกลัวค่ะ นิ้งกลัวเหลือเกิน กลัวมาก ๆ มันทรมานนะคะ ช่วยดลใจให้ผู้ชายคนนั้นฆ่านิ้งให้ตายไปก็ได้ แต่อย่าทรมานกันแบบนี้เลย” หญิงสาวร้องไห้สะอึกสะอื้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD