แค้นที่ 5
บริสุทธิ์?
"ยังซิงอยู่รึ?"
เขาเอ่ยออกมากับตัวเองเหมือนตกใจเมื่อถอนแกนกายออกพร้อมกับเลือดสีแดงจางๆ ที่ปะปนมาด้วย ทว่าไม่นานความตกใจก็แปรเปลี่ยนเป็นเย้ยหยัน
'หึ สงสัยจะเก็บไว้ให้ไอ้ผู้ชายคนนั้นที่หวงนักหนาสินะ งั้นก็เสียใจด้วยแล้วกันที่กูเป็นคนได้มันไป'
ศิลายิ้มอย่างพอใจเมื่อคิดว่าเจคอบเก็บความบริสุทธิ์ไว้ให้คนที่เขารัก แต่ตนแย่งชิงมันมาได้ทว่านี่ยังไม่สาแก่ใจของคนมีอำนาจสูงสุดสักนิด พลางสายตาก็เหลือบไปเห็นคนมาใหม่ที่เดินเข้ามาในห้อง
รูปร่างสูงโปร่งในเสื้อกาวน์จ้องมองสีหน้าของผู้มีอำนาจสูงสุดในเรือนจำด้วยแววตาหลากหลายอารมณ์
"มาทำไมไอ้หมอ"
ศิลาร้องถามขึ้นเมื่อเห็นว่าคนเป็นเพื่อนผู้พ่วงตำแหน่งหมอของเรือนจำกำลังจะเปิดประตูห้องขังที่เขาใช้เส้นสายและวิธีสกปรกขังอีกคนเอาไว้
"ฉันก็มาทำตามหน้าที่สิ แกขังนักโทษมาสองวันแล้ว ฉันต้องประเมินร่างกายว่าเขาสามารถอยู่ในนั้นได้อีกหรือเปล่า อีกอย่างฉันต้องบำบัดเรื่องเลิกสารเสพติดให้เขาด้วย ต้องตรวจร่างกายให้ละเอียด"
"เหอะ! บำบัดไปทำไมวะ จะตายห่าอยู่แล้วนี่ แต่แกไม่ต้องห่วงมันยังไม่ตายหรอก เพราะฉะนั้นปล่อยไว้อย่างนั้นแหละ"
"ไม่ได้! มันเป็นหน้าที่"
หมอหนุ่มว่าแบบนั้นแล้วเข้าไปทันทีไม่ฟังเสียงคนที่ใหญ่สุด ร่างของหนุ่มน้อยแทบไร้สิ่งหุ้มกายที่นอนนิ่งทำเอาคนเป็นหมอรุดเข้าไปทันทีอย่างไม่รอช้า
"ไอ้ศิลา! นี่แกทำอะไรวะ ฮะ! ทำไมสภาพถึงเป็นแบบนี้" บดินทร์หันไปร้องถามเสียงค่อนไปทางเขียว พลางมองไปตามเนื้อตัวขาวละออที่มันเต็มไปด้วยร่องรอยอย่างน่าสงสาร
"เสียงดังทำไมวะ ไม่มีอะไรหรอก ก็แค่สำออยเท่านั้นแหละ เด็กขี้ยามันถึกเดนตายขนาดไหน แกไม่รู้รึไง"
"สำออยบ้าอะไรล่ะ ไข้สูงจนไม่ได้สติแบบนี้! ฉันต้องพาเขาไปห้องพยาบาล"
"ไม่ต้อง! ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวก็หายเอง"
หมอหนุ่มไม่ฟังเสียงเขาเช่นเคย เสื้อกาวน์คนเป็นหมอถูกทอดออกแล้วห่มคลุมกายคนที่ไร้สติพลางช้อนตัวอุ้มนักโทษคนนั้นออกไป โดยมีคนถืออำนาจสูงสุดเดินลงน้ำหนักเท้าตามไปอย่างไม่พอใจสักนิด
ภายในห้องพยาบาลของเรือนจำ....
"แกจะมาจ้องหน้าฉันทำไมว่ะ" ศิลาทำเป็นถามพลางมองไปทางอื่นเหมือนไม่อยากเห็นสายตาของคนเป็นเพื่อนนัก ราวคนมีชะงักติดหลัง
"อย่ามาเฉไฉ รู้ดีอยู่แกใจนี่ว่าฉันมองทำไม"
"เออ! ฉันทำเองแหละ แต่ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรสักหน่อย หมอนั่นอาจจะชอบด้วยซ้ำ"
"ศิลา! อย่ามาประชด ที่ผ่านมาเรื่องแบบนี้แกเข้มงวดมาตลอด แล้วทำไมถึงมาแหกกฎซะเองแบบนี้วะ หืม!" คนถูกถามยังคงตีหน้ามึนกับความผิดของตน ทั้งยังเถียงไปข้างๆ คูๆ อีก
"ก็ถือสะว่าไอ้หมอนี่มันเป็นข้อยกเว้นแล้วกัน แกไม่ต้องใส่ใจหรอก ไปๆ ไปรักษาคนอื่นต่อเถอะ"
"อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ดูที่แกทำกับเขาสิ รอยฟันเต็มตัวขนาดนั้น เป็นหมาบ้ารึไง! เชี่ยน่าสงสารฉิบหาย ถ้าได้ตรวจภายใน ฉันไม่อยากจะคิด"
"น่าสงสารกับผีอะไร! นั่นยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความเลวที่หมอนั่นทำ!"
คำพูดที่เอาแต่เข้าข้างเจคอบราวกับว่านั้นเป็นเหมือนกรรไกรคมที่ตัดเส้นฟางแห่งโทสะของศิลาลง น้ำเสียงแข็งกร้าวเปล่งออกไปพร้อมกับตัวของเขาที่ตัวสั่นเทิ้ม ดวงตาแดงก่ำกับความรู้สึกด้านใน หากมองดีๆ น้ำตาลูกผู้ชายกำลังเอ่อคลอออกมากับเรื่องราวที่เขายังทำใจไม่ได้ ไม่สิต้องบอกว่าไม่คิดจะทำใจเลยด้วยซ้ำ
"อย่าบอกนะว่าเขาคือ..."
"..."
คนถูกถามสะบัดหน้าหนีเป็นคำตอบ นั่นทำหมอหนุ่มต้องถอนหายใจแล้วพูดเรียบ
"แต่แกก็ทำเกินไป ทำไมไม่รอให้กฎหมายตัดสิน"
"โดยการประหารชีวิตนะเหรอ ฮึ! มันง่ายไป"
"แกก็เลยจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ให้เขารู้สึกว่าตกนรกทั้งเป็น เพราะต้องโดนผู้ชายคนอื่นย่ำยี งั้นสิ!" ความเงียบเป็นคำตอบให้แก่หมอหนุ่มได้เป็นอย่างดี
"แต่แกก็น่าจะรู้นะว่ามันจะลำบากถ้าคนข้างนอกสงสัย แต่ก็เอาเถอะ ฉันห้ามแกไม่ได้อยู่แล้วนี่ เอาเป็นว่าทุกวันอาทิตย์ฉันจะเข้ามาตรวจร่างกายและตรวจสภาพจิต ไม่ให้เขาแย่ลงจนเกิดภาวะคิดสั้น อีกอย่างฉันต้องมาบำบัดอาการของเขาด้วย วันนี้จะส่งตรวจร่างกายโดยละเอียดถ้ามองไม่ผิดหมอนี่อาจจะ..."
"อาจจะอะไร!"
"เดี๋ยวผลตรวจร่างกายออกมาก็รู้เอง เพราะงั้นแกขัดฉันเรื่องนี้ไม่ได้"
"แต่"
"หรือแกอยากให้ข่าวออกไปว่านักโทษภายใต้การดูแลของเรือนจำนี้ฆ่าตัวตายโดยไร้สาเหตุ หรือลงแดงจนตายหรอกนะ ใช่มั้ย..."
"เออ โว๊ย! ปกป้องมันเข้าไป แกจำไว้ก็แล้วกันว่าอย่ามาขวางทางฉันก็พอ!"
เห็นท่าทีที่ไม่ยอมลงของเพื่อนหมอศิลาก็จำใจต้องยอมรับข้อเสนอ ทั้งที่แสนจะขัดใจก็ตาม
ผ่านไปหลายชั่วโมง ร่างกายค่อนไปทางผอมโซเพราะเสพยามานานแรมเดือนนอนหงายแสนจะบอบช้ำเริ่มรู้สึกตัว เปลือกตาหนักอึ้งค่อยๆ ปรือมองขึ้นเห็นเป็นฝ้าเพดานขาวๆ แม้ร่างกายจะไม่อำนวยนักแต่โดยสัญชาตญาณที่พึ่งผ่านเรื่องเลวร้ายแบบนั้นมา ทำเอาเจคอบลืมตัวผวารีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน พลางสาดส่ายสายตาไปมาเพื่อดูว่าตัวเองกำลังอยู่ที่ไหน
ความสว่างในระดับปกติทำให้เขารู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ในคุกมืด
แกร๊ก
ทันทีที่นักโทษหนุ่มได้ยินเสียงลูกบิดประตู กายหยาบของคนทำผิดพลันสะดุ้งตัวโยนราวกับได้ยินเสียงระเบิด ดวงตาหวาดวิตกจ้องมองร่างใหญ่ที่เดินผ่านเข้าประตูมาอย่างระแวง แม้อีกฝ่ายจะอยู่ในเสื้อกาวน์ดูแล้วเป็นคนใจดีคนหนึ่ง
ทว่านั่นไม่ได้ทำให้เจคอบเกิดไว้ใจเลยแม้แต่น้อย มือบางคว้ากล่องปฐมพยาบาลที่มีทั้งของคมและขวดยาขว้างปาใส่เขาโดยไร้ซึ่งคำถามและการพูดคุย
"ใจเย็นก่อนครับคุณเจคอบ"
หมอบดินทร์ แพทย์ประจำเรือนจำเอ่ยอย่างใจเย็นเขาเข้าใจถึงสภาวะจิตใจของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี ถึงแม้จะเป็นเพื่อนกับศิลามานานแต่เขาก็อดตำหนิการกระทำของศิลาไม่ได้
"มึง ไอ้เลว ไอ้ชั่ว มึง...ทำเรื่องแบบนั้นกับกู ฮึก...ฮึก"
เขาด่ากราดใส่คนที่เดินผ่านประตูตามหมอเข้ามา ผู้เป็นนายใหญ่แห่งเรือนจำเดินเข้ามาด้วยท่าทีเรียบเฉยดวงตาแฝงไปด้วยความสะใจจนเจคอบมองออก
แม้ข้อมือของนักโทษหนุ่มจะถูกกุญแจมือตรึงไว้กับขอบเตียง แต่อีกมือน้อยๆ ก็ไม่วายควานสะเปะสะปะหาอาวุธเพื่อที่จะขว้างปาใส่คนตรงหน้า ที่กระทำราวกับเขาเป็นสัตว์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
"ไอ้เลว ไอ้ชั่ว ไอ้นรกส่งมาเกิด"
เขาชี้หน้าด่ากราดทั้งหมอและ ผอ.เรือนจำ หากแต่นั่นเหมือนกับเรื่องขบขันจนศิลายกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ยคำพูดสุดร้ายกาจ
"หมอเห็นมั้ยครับว่าคนไข้ไม่สินักโทษคนนี้เกรี้ยวกราดขนาดไหน เขาถูกขังเดี่ยวในห้องมืดเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว เพราะถ้าปล่อยมาใช้ชีวิตกับคนอื่นอาจจะไป...ฆ่าใครตายอีกก็ได้"
เขาเน้นย้ำคำว่าฆ่าจนเจคอบเผลอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ครั้นจะอ้าปากด่ากราดอีกครั้งหมอบดินทร์ก็เอ่ยห้ามไว้ก่อน
"ผอ. ออกไปก่อนเถอะครับเดี๋ยวผมดูแลคนไข้เสร็จแล้วจะเรียกคุณมารับเขาไปเอง"
ศิลาขบกรามแน่นเมื่อรู้สึกได้ว่าชายหนุ่มหน้าหวานกำลังถูกปกป้อง ในสมองเพียงคิดว่าอีกฝ่ายไม่สมควรได้รับสิทธิ์ใดๆ ทั้งนั้น แม้กระทั่งสิทธิ์ที่จะรักษาตัวเอง ถึงร่างกายของอีกฝ่ายจะบอบช้ำจากการกระทำของเตนมาก็ตาม
แต่หมอบดินทร์ไม่ใช่ ถึงจะเข้าใจว่าเจคอบผิดและเป็นนักโทษ แต่เขาไม่สามารถเพิกเฉยกับจรรยาบรรณของการเป็นหมอได้ เขาต้องรักษานักโทษแดนห้าคนนี้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นใครมาจากไหนก็ตาม
"ออกไปก่อนครับ" บดินทร์สั่งเสียงเรียบอีกครั้ง จนคนถูกเชิญอย่างศิลาออกอาการหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
แต่ก็เดินออกไปอย่างอยากจะตัดปัญหา คุณหมอหันมายิ้มอ่อนโยนให้คนที่กำลังดิ้นคลุกคลิกจนข้อมือตัวเองแดงทั้งๆ ที่ตัวถูกล็อกไว้ด้วยกุญแจมือ แม้รู้ว่าสู้ไม่ได้แต่เจคอบก็ยังดิ้นจนข้อมือบวมแดง
"หยุดดิ้นก่อนครับ ดิ้นไปก็แค่นั้นคุณหลุดพ้นจากที่นี่ไม่ได้หรอก มีแต่จะเจ็บตัวเปล่าๆ"
น้ำเสียงราบเรียบกับมือหนาที่บรรจงทำแผลให้อย่างแผ่วเบา แม้จะตกใจอยู่บ้างแต่เจคอบก็ไม่ได้อาละวาดใส่อีกฝ่ายเหมือนตอนที่ศิลาอยู่ หมอบดินทร์พยายามชวนอีกคนคุยแต่ไร้ซึ่งคำตอบจากอีกฝ่าย
ไม่ว่าเขาจะถามสักกี่คำถาม แต่หมอก็ไม่ลดละความพยายาม เขาชวนอีกคนคุยตลอดเวลาที่อยู่ในห้องพยาบาล
หมอหนุ่มเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพราะอะไรทำให้เขารู้สึกสงสารนักโทษชายตรงหน้า ทั้งที่มองผิวเผินอีกฝ่ายก็ไม่ได้ชวนให้รู้สึกแบบนั้นสักนิด ภาพที่ถูกต้องคือก็ชายหนุ่มตรงหน้าก็แค่นักโทษติดยา ที่ฆ่าคนตายเพราะหึงหวงแฟนเท่านั้น แต่สำหรับบดินทร์มันช่างตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะแววตาคู่นั้น แววตาที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด
"เสร็จแล้วครับ เอ่อ ถึงเวลาส่งคุณกลับแล้วครับ"
คำนั้นทำเอาเจคอบสะดุ้งออกมาอย่างลืมตัว แม้ว่าจะทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายถามมาตั้งนานแต่เมื่ออ**บดินทร์ว่าจะให้เขากลับไปอยู่คุกมืด แววตาของเจคอบก็แสดงความสั่นกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด บดินทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างนึกสงสาร แต่มันเกินอำนาจรับผิดชอบของเขาจริงๆ เรื่องนี้เขาช่วยอะไรอีกฝ่ายไม่ได้เลย จำต้องปล่อยให้ศิลาทำตามใจไปเรื่อยโดยที่เขาคอยดูอยู่ใกล้ๆ เท่านั้น