โอ้ยยยย นี่มันที่ไหนอีกวะเนี่ย ผมกำลังโดนคลอเคลียร์ด้วย 3 สาว ผมพยายามทุกอย่างที่จะออกจากที่นี่ ทั้งตะโกนขอความช่วยเหลือ ผมจำอะไรไม่ได้เลย ว่ามาที่นี่ได้ยังไง รู้ตัวอีกที ยัยพวกนี้ก็เข้ามาเกาะแกะผมแล้ว ไม่ต้องมาจับจู๋ ฉันไม่ใช่พวกใจง่าย ผมพยายามที่จะหนี แต่เพราะที่แถวนี้มันแปลกพิกล วิ่งเท่าไหร่ก็กลับมาที่เดิม
“อย่าคิดว่าจะหนีไปได้เลย มึงตายเพราะพวกกู วิญญาณของมึงก็ต้องเป็นของพวกกู” เสียงของหญิงสาวที่แผดใส่ผมเสียงดัง ต่อยผู้หญิงก็ไม่ได้ด้วยดิ แม่สอนมาดี
“อยู่เป็นผัวเราที่นี่เถอะนะ เราจะมีความสุขด้วยกัน ตลอดไป” หญิงสาวเดินเข้ามาหาผมด้วยร่างที่เปือยเปล่า แต่มันทำให้ผมต้องถอยหนี แต่หนียังไง ก็เหมือนจะไม่ขยับไปไหนเลย เหมือนกับผมทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากทำในสิ่งที่เธอต้องการ ยกมือขึ้นมาสวดมนต์ พวกนั้นก็ไม่กลัว
“เฮ้ออออ ทำไมเข้าใจยากแบบนี้ มึงไม่มีทางไปจากที่นี่ได้ อยู่เป็นผัวที่ดีบำเรอสวาทเราต่อไป จนกว่าวิญญาณจะดับสลายไปเถอะ” หญิงสาวทั้งสามเข้ามารุมผม โดยที่ผมไม่มีแรงที่จะผลักเธอออก หรือต่อสู้อะไรกับพวกเธอได้เลย ผมอยู่ในจุดที่โดนข่มขืนอย่างสมบูรณ์แบบ
แต่จู่ ๆ ร่างของผมก็ดึงถอยหลังไปตามพื้น หญิงสาวอีกคนเดินเข้ามากระชากหัวหญิงสาวพวกนั้นเอาไว้ในมือ แม้พวกนั้นจะคลานหนี ก็ถูกมืออีกข้างไปรวบหยุมเข้าที่หัวแล้วลากไปตามพื้น
“เฮียไฟ ถอยออกมาหน่อยค่ะ พวกนั้นอยากได้ความเป็นมนุษย์ของคุณ ถ้าโดนพวกนั้นสูบไปหมด คุณจะตายจริง ๆ ถ้าคุณตายจริง ๆ คุณจะต้องมาอยู่ที่นี่เป็นตัวตายตัวแทน แทนพวกเธอ” เหม่ยลี่เข้ามาขวางผมเอาไว้ ให้ถอยออกมา แต่โดนผีสาวที่ชื่อเปียเข้ามาจัดการผม
“จะเอาผัวกูไปไหน…อ๊าก!!!” ร่างของผีสาวที่ชื่อเปีย ถูกถิงถิงบีบเอาที่คอจากด้านหลังแล้วยกลอยขึ้นจากพื้น
“มึงบอกเขาเป็นผัวมึง มึงถามกูหรือยังไง มึงจะเอาใครทำผัว ช่วยแหกตาดูหน่อย ว่าเขาเป็นผู้ชายของใคร ไอ้พวกสวะชั้นเลว กูจะบีบให้วิญญาณของมึงจนแหลกคามือกูก็ย่อมได้” ร่างของผีสาวถูกเหวี่ยงลงไปกับพื้น โหยยยย ถิงถิงโคตรเท่เลย!!!!
“พวกมึงมายุ่งเรื่องพวกกูทำไม ไอ้ผู้ชายที่มึงช่วยอยู่ ก็แค่ผู้ชายเลว ๆ มันได้มึงมันก็จะทิ้งอยู่ดี กูจะเอามันมาเป็นตัวตายตัวแทนที่นี่ วิญญาณผู้ชายสารเลวคนนั้นเป็นของพวกกู ต่อให้มึงฆ่าพวกกูให้ตายตอนนี้ มันก็ต้องเป็นผีเฝ้าที่นี่อยู่ดี” พวกผีสาวกลัวถิงถิงจนต้องพูดไปถอยไป ผมเลยวิ่งไปหลบหลังของถิงถิง ให้เธอรู้ว่าผมนั้นอยู่ข้างเธอ เป็นคนผมก็จะสู้ข้างเธอไม่ถอย แต่นี่เป็นผีไง
“มีข้อเสนอ ปล่อยวิญญาณเขากลับไป แล้วฉันให้คำสัตย์ จะช่วยพวกเธอ จนกว่าพวกเธอจะได้ไปเกิด”
“เราจะรู้ได้ยังไง ว่าแกพูดจริง” พวกผีสาวมีท่าทีอ่อนลง แต่ก็ยังไม่ไว้ใจเรา และไม่กล้าสบตาถิงถิงด้วย
“เพราะฉันไม่เคยโกหก ฮึก!!!” ถิงถิงจับที่หน้าอก เหมือนว่ากำลังเจ็บมาก ผมเลยประคองเธอเอาไว้ แต่เธอสลัดผมออก แล้วไปหาผีสาวพวกนั้น แต่ก็เหมือนจะเจ็บหน้าอกจนล้มลงไปกับพื้น ผมเลยต้องรีบวิ่งไปดูถิงถิงด้วยความเป็นห่วง
“แล้วถ้าแกโกหกล่ะ เราก็พลาดโอกาสได้ตัวตายตัวแทนนะ”
“คิดดูให้ดีนะ พวกเธอฆ่าคน จะได้เกิดจริงเหรอ แต่พวกเธอรู้ ว่าฉันช่วยเธอได้ ปล่อยเขาไป แล้วฉันจะ…ช่วยยยย” ร่างของถิงถิงสลายหายไปในอ้อมกอดของผมเลย มันทำเอาผมตกใจสุด ๆ นี่มันอะไรกัน ผมหันไปมองเหม่ยลี่
“ตั่วเจ้กลับร่างแล้ว เธอฉีดยาให้ตัวเองหัวใจเต้นช้าลงจนคล้ายกับคนตาย แล้วถึงพาวิญญาณมาช่วยเฮียไฟ เพราะเธอเคยให้พลังชีวิตเฮียไฟไป ชีวิตของเฮียเลยเชื่อมกับเธออยู่ มันเป็นวิธีเดียว ที่จะช่วยเฮียได้ทัน” ส่ิงที่เหม่ยลี่พูดออกมา ทำให้ผมช็อครอบสอง เฮ้ออออ ทำไมต้องทำอะไรที่มันอันตรายขนาดนี้
“ฉันนี่มันเป็นผู้ชายที่ไม่เท่เลยนะ ต้องให้ถิงถิงมาช่วยแบบนี้” ผมยิ้มออกมา เพราะไม่เคยเจอผู้หญิงแบบนี้เลย คนที่ทำเพื่อคนอื่นโดยไม่คิดถึงชีวิตของตัวเองเนี่ย
ผมเดินเข้าไปหาพวกผีสาว แล้วก้มหัวขอโทษพวกเธอจากใจจริง ๆ ที่ปากเสียท้าทายพวกเธอในวันนั้น ผมขอโทษ ขออโหสิกรรม และยินดีที่จะช่วยพวกเธอจนกว่าพวกเธอทั้งสามคนจะได้ไปเกิด ซึ่งพวกเธอก็มองหน้ากัน ก่อนจะหันมามองหน้าผม แล้วพุ่งเข้าใส่ผมทันที
ถิงถิง Say ::
ฉันไม่ได้อยู่รอจนพวกนั้นปล่อยเฮียไฟกลับมา ฉันจะกลับไป คิลกับวินก็ไม่ยอม ฉันเลยต้องมาดูเองให้เห็นกับตา โดยมีวินคอยช่วยอำนวยความสะดวก ถามหาร่างของเฮียไฟ จนได้เรื่องว่าถูกย้ายไปอยู่ที่วอร์ดผู้ป่วยวิกฤติ ฉันเลยหอบร่างที่เหมือนว่าความดันจะยังไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ วิ่งนำไปก่อน ฉันวิ่งมาที่ผู้ป่วยวิกฤต ก็เห็นร่างที่สะบักสะบอมยังนอนหลับตา ใส่เครื่องช่วยหายใจอยู่เลย
“นี่มันอะไรกันคะ!!!! อ๊ายยยย”
“ใครขวาง แม่จะเชือดให้ตาย!!!!” ฉันควักมีดขึ้นมาจ่อคอนางพยาบาล ที่จะมาห้ามฉัน ที่เกาะกระจกอยู่ จนพยาบาลไม่กล้าเข้ามายุ่ง รีบวิ่งไปเลย
ตื่นสิ ตื่นสักที ร่างกายที่เพิ่งจะผ่านความเป็นความตายมา มันแทบจะหมดแรง เลยต้องทิ้งน้ำหนักไว้ที่กระจกเพื่อพยุงร่างเอาไว้ แย่จริง ๆ กำลังจะหมดแรงแล้ว ฉันหลับตาพิงกับกระจกห้องผู้ป่วย กลับมา กลับมา เฮียไฟ กลับมาสิวะ!!!! ฉันรู้สึกพยุงร่างของตัวเองไม่ไหว ล้มลงไปกับพื้น แต่ได้แขนใหญ่ของใครคนหนึ่งมาประคองเอาไว้
“รอนานไหมอ่า เหม่ยลี่พาหลง ไหวไหม” เสียงที่คุ้นหูของคนที่ฉันรอให้กลับมา ทำให้ฉันต้องเงยหน้าขึ้นมามอง
“คะ…โคตรช้าเลย” ฉันทิ้งตัวลงในอ้อมกอดของเขา ดีใจจังเลยที่กลับมาได้ ที่เกือบตายเมื่อกี้ก็คุ้มแล้ว
“ถอดท่อเอง ถอดสายน้ำเกลือเอง แล้วรีบวิ่งออกมารับเลยนะเนี่ย อยากเท่ในสายตาเธอบ้างอะ กลับบ้านนะ ฉันอุ้มไปส่ง ที่จริงโดนกระแทกนิดเดียว ไม่เห็นจะต้องเข้าโรงพยาบาลเลย ที่บ้านฉันนี่มันโคตรเวอร์เลย”
“พูดมากจัง” ฉันบอกคนที่ใส่ชุดผู้ป่วย อุ้มฉันไป พูดไป บ่นไป พูดเยอะแบบนี้จะหลับยังไงอ่า แล้วนี่ไปทำอีท่าไหน พวกเมียผี ถึงปล่อยมาได้ล่ะเนี่ย
“ไอ้ไฟ นั่นมึงจะอุ้มถิงถิงไปไหนอ่า แล้วไม่ต้องพักฟื้นแล้วเหรอ เอ้ย แล้วจะให้กูบอกพ่อแม่มึงยังไงเนี่ย” วินวิ่งตามคนเจ็บที่อุ้มฉันออกมาจากโรงพยาบาล พวกพยาบาลก็วิ่งเข้ามาห้ามคนเจ็บ ที่จู่ ๆ ก็หายเจ็บ ไม่ให้ได้ทำตามใจ แต่มีหรือจะห้ามได้
“บอกไปว่า ไปที่ชอบ ที่ชอบก็แล้วกัน จ่ายค่ารักษาให้กูที เดี๋ยวเอาตังมาคืนให้ อ่อ ขอกุญแจรถหน่อยดิ”
“เอาไปทำอะไรอ่า” วินมีท่าทีอิดออด ไม่ยอมให้ตามที่ขอ คนเป็นพี่ชายเลยจัดการวางฉันลงกับพื้นแล้ว แล้วเดินไปล้วงกระเป๋ากางเกงของคนเป็นน้องชายหยิบกุญแจมาเลย อันนี้เข้าข่ายขโมยไหมนะ
“ที่จริงถ้าจะพาตั่วเจ้กลับบ้าน ไปกับผมก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้องใช้กุญแจรถของคนอื่น” คิลออกตัวเสนอจะขับรถให้ แต่เฮียกลับไม่ได้ฟัง แล้วอุ้มฉันขึ้นมาจากพื้นอีกครั้ง อารมณ์ไหนของเขาเนี่ย
“ถ้าผมให้คุณไปส่ง ใครจะไปส่งน้องชายผมอะ ไอ้วินกลับบ้านไม่ได้ มันจะร้องไห้เอานะ” คนที่เดินไปพูดไป อุ้มฉันมาที่รถคันสีส้มแปร๊ด แล้ววางอย่างแผ่วเบา อะไรอ่า มาทำดีทำไม มาหลอกให้รู้สึกดีอีกรึเปล่า
เฮียไฟพาฉันกลับบ้าน ไม่ใช่บ้านฉันนะ แต่เป็นบ้านของเขา การที่คนเป็นเจ้านายอุ้มฉันเข้ามาไนต์คลับในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาล ไม่ว่าใครก็ตกใจทั้งนั้น ไม่เว้นแม้แต่ลูกค้าก็ยังมอง พวกการ์ดรีบเคลียร์ทางให้คนเป็นเจ้านาย ทำไมถึงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเจ้าหญิงเลยนะ ที่ต้องมีเจ้าชายอุ้ม บ้า บ้า บ้า บ้าาาาจริงงงงง เขินจัง
“อย่ามายิ้ม เดี๋ยวเราจะต้องคุยกัน” สายตาดุมองฉัน เหมือนกับว่าฉันไปทำอะไรผิด
“เฮีย!!!! เฮีย หายแล้วเหรอ ทำไมหนีออกมาจากโรงพยาบาล” เม่นที่มาเจอเราที่หน้าลิฟต์ พอลิฟต์เปิดก็เข้ามาในลิฟต์กับเราด้วย โดยกันแขกให้ไปลิฟต์รอบหลัง ในลิฟต์มีแต่เรา
“เออ กูหายแล้ว หลังจากวันพรุ่งนี้กูจะกลับมาทำงานละ กูขับรถมาเมื่อกี้ พื้นที่แถวนี้โคตรจะเละเทะเลย เม่น ถ้าคนชื่อคิลมาตามหาถิงถิง ให้ขึ้นไปชั้นบนได้เลย ส่วนถ้าเป็นพ่อกับแม่กูมา บอกกูไม่อนุญาตให้เข้า กูจะนอน ขี้เกียจคุย แล้วก็ เอาพวกสูทเสื้อผ้าส่งไปซักรีดให้หมด ตามนี้” เฮียไฟสั่งงานด้วยสีหน้าจริงจัง โดยที่คนเป็นลูกน้องรับคำสั่งด้วยน้ำตาแห่งความปลื้มปิติ
เมื่อเข้ามาส่วนของเพ้นท์เฮ้าส์ เฮียไฟก็วางฉันลงบนพื้น แล้วเดินไปควานหาอะไรสักอย่างจากโต๊ะทำงาน หรือมีอะไรจะให้ฉันเหรอ ของขวัญเหรอ!!!! บ้าาาาา เนื่องในโอกาสอะไร เพี๊ยะ!!!!
“โอ้ยยย!!!” ฉันตวัดสายตาโกรธมามองคนที่เอาไม้เกาหลังมาตีฉัน
“อืม แสดงว่าอันนี้ได้” เขามองฉันด้วยสายตาที่ดุกว่า ฉันเนี่ยฆ่าเขาได้เลยนะ กล้าดียังไงมาตีฉัน เดี๋ยวแม่ก็เอามีดปักอกให้ซะเลย
“ฉันไม่ตลก!!!!….” ยังพูดไม่ทันจบ มือใหญ่ก็ดึงมือของฉันให้แบออก
“ต่อจากนี้ไป อย่าทำแบบนี้ อย่าเอาชีวิตไปเสี่ยง ไม่ว่ากับใคร คิดว่าชีวิตที่พ่อแม่ให้มาคืออะไรหะ!!!! ตอบ!!!!” เสียงคำรามก้องทำให้ฉันต้องหดคอ แล้วเถียงสู้กลับ
“อะไรเล่า!!!! เพี๊ยะ!!!!” อ๊ะ ตีฉันทำไม ไม้เกาหลังนี่ ยังอยากจะใช้มันอยู่ไหม!!!!
“ยังจะมาเถียง บอกว่า ห้ามเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย ไม่เข้าใจรึไง!!!! ฟังเลย ฟัง!!!! คิดได้ไงวะ ทำให้ตัวเองเกือบตายแล้วมาช่วยฉัน คิดได้ยังไง!!!!! ต่อจากนี้ไป ถ้าทำแบบนี้อีกนะ จะไม่เอาไม้เกาหลังตีแล้ว ถิงถิง ชีวิตของเธอมีชีวิตเดียวนะ” สายตาดุ ยังดุฉันไม่เลิกเลย คนอุตส่าห์ไปช่วยนะ ทำไมมาดุกันล่ะ
“ทำคุณบูชาโทษ เพี๊ยะ!!!!” หนอยยยย ฉันพยายามจะแย่งไอ้ไม้เกาหลังอันนั้น แต่เจอสายตาที่มองฉันด้วยความโกรธแต่ในแววตามันกลับสั่นไปหมด อะไรอะ ทำไมมองแบบนั้น
“ถ้าเธอตายแล้วฉันรอด ฉันจะต้องรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต หรือถ้าเธอตาย แล้วฉันเกิดรู้สึกผิดจนไม่อยากรอด เธอก็จะตายฟรี มันไม่มีอะไรดีเลย ต่อจากนี้ไป จะทำอะไร ช่วยเลือกทางที่ตัวเองจะปลอดภัยที่สุด เข้า!!! ใจ!!! ไหม!!!!” เสียงดังคำรามจนเต็มหู
“อือ”
“ก็แค่เนี้ยะ!!!” ไม่เกาหลังถูกโยนทิ้ง แล้วคนที่อุ้มมาตลอดก็เกิดอาการหมดแรง ทิ้งตัวลงกับพื้นห้องโล่ง ๆ แล้วนอนราบลงไป ฉันเลยทำตามบ้าง
“ดุจังเลย รู้ไหมถิงถิงฆ่าเฮียได้ง่าย ๆ เลยนะ ไม่กลัวเหรอ”
“รู้ ว่าฆ่าได้ แต่เธอจะไม่ทำหรอก ถ้าจะฆ่าฉัน จะไปช่วยฉันออกมาทำไม ฉันเนี่ยไม่เคยเจอใครบ้าระหำเหมือนเธอเลย แต่ก็…เอ่อออ ขะ..ขอบใจนะ ที่ไปช่วย การที่ต้องหลบหลังผู้หญิงนี่คือครั้งแรกของฉันเลย โคตรจะไม่เท่เลย สงสัยวันนี้จะต้องทบทวนตัวเองหน่อยแล้ว ว่า 5 ปีที่ทำตัวเละเทะแบบนี้ เพื่ออะไรนะ” คนที่พูดหันมามองฉันที่นอนอยู่ที่พื้นไม่ห่างจากเขามากนัก
“ไม่เป็นไรหรอก เพราะฉันพูดไปแล้ว ว่ามันจะเป็นการช่วยครั้งสุดท้าย”
“ใช่ ให้มันเป็นสุดท้ายนะ ต่อไปให้เฮียช่วยถิงถิงบ้าง” ประโยคที่ทำเอาหัวใจแทบจะหลุดออกมาจากอก ตึกๆ ตึกๆ ตึกๆ กรี๊ดดดดดดดด รู้สึกเหมือนไอร้อนจะออกหัว
“กล้าพูดมาก” ฮิๆ จะช่วยถิงถิง คิดได้ยังไง อย่างเฮียนะ จะมาช่วยอะไรถิงถิงได้ แต่ก็ดีใจนะ
“นั่นดิเนอะ ฮ่ะ ๆ นี่ถิงถิง”
“หื้อ”
“หึ ไม่มีไรอะ เธอนอนเตียงนะ เฮียจะไปนอนโซฟา เธอคงอยากจะนอนสบาย ๆ”
“แกเป็นใครเนี่ย ผีตัวไหนมาสิง ไหนดูดิ๊!!!! แกไม่ใช่คนที่ฉันเคยรู้จักแน่ ๆ” ฉันหันไปทำหน้าตกใจปนสงสัย กับท่าทีที่เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังเท้าาาาาา
“เดี๋ยวปล้ำแม่งเลย!!! ให้เกียรติ์ก็ไม่ชอบ เดี๋ยวป๊าดดดดด!!!!” หน้าดุแยกเขี้ยวใส่ฉัน ฮ่ะ ๆ คงจะฉันเองที่โรคจิต เพราะชอบแบบนี้มากกว่า ชอบแบดบอยยยยยย
ฉันหันมองคนที่ตอนนี้เหมือนใช้ความคิดอยู่กับตัวเอง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แต่ดีใจนะ ที่เฮียกลับมาเป็นคนเดิมอีกครั้ง คนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่น แค่นี้ก็คุ้มแล้ว กับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
“มองมาก ๆ เดี๋ยวใจแตกนะ เพราะเฮียหล่อมาก รู้ตัวแหละ หล่อสุดในที่นี่แล้ว”
“จ๊ะ ก็มีฉันกับเฮียสองคนอะ หรือที่จริง ฉันหล่อกว่าเฮียกันนะ บอกเลยถ้าฉันเป็นผู้ชายเฮียไม่ได้เกิดหรอก อาจจะนั่งร้องไห้อยู่ซอกตึกนี่แหละ” ฉันเท่กว่าเยอะ เฮียอ่าเด็กงอแง ฮิๆ
“ปากแซ่บเหมือนกันนะเราอ่า กวนตีนใช้ได้เลยเราอ่ะ อาบน้ำไหม ใส่เสื้อผ้าของเฮียไปก่อน แล้วพรุ่งนี้เราไปหาพวกสาว ๆ กัน ดันไปสัญญาว่าจะช่วย แล้วก็จะเลิกจิ้มหญิงมั่ว ๆ เลิกซื้อกิน เลิกคบผู้หญิงทิ้งขว้าง พวกนั้นก็เลยยอมปล่อยมา ทำไมดูเป็นคนดีโคตร ๆ เลย นี่ยังนอนคิดอยู่เลยนะ ว่าไอ้นี่มันเป็นใคร ตลกตัวเองจัง มาถึงจุดที่ทำสัญญากับผีแล้ว ฮ่ะ ๆ….อื้อ” ฉันดึงคนที่กำลังหัวเราะที่ตัวเองเป็นคนดีมานาบริมฝีปาก ไม่รู้หรอกเขาจูบกันยังไง แต่ดีใจจังที่เขาจะหยุดเรื่องพวกนี้ ฉันค่อย ๆ ปล่อยริมฝีปากของเขาออก
“ดีใจอะ ฮ่ะ ๆ” ฉันหัวเราะออกมาเบา ๆ แต่ก็ต้องมาสะดุดกับสายตาที่จริงจัง สายตาที่จ้องมองฉันเหมือนจะบอกอะไร แต่ก็ไม่มีคำพูดใด นอกจากนิ้วมือที่ดึงแก้มของฉันอย่างแรง โอ้ยยย เบาหน่อย เกรงใจคอลลาเจนหน่อย ไม่ค่อยจะมีแล้ว แล้วนี่จะมองอะไร เฮียไฟนอนตะแคงเอาหัวหนุนแขน แล้วมองฉัน มองอยู่นั่นแหละ
“แต่งหน้าแล้วก็แก่ดีเหมือนกัน คนอะไรแต่งหน้านำอายุ” พูดไปยิ้มไป แต่วิจารณ์การแต่งหน้าของฉันได้ยังไง หน้าใส ๆ ใครเขาจะมากลัวกันเล่า
“มีดมันคมนะ อยากรีบตายสินะ”
“ตีนกาก็ยังไม่มี แต่โบ๊ะแป้งจนเป็นรอยแป้งแตกแทนตีนกาเลย เก่ง ๆ” คนที่ยิ้มยังมองฉันด้วยรอยยิ้ม ทำให้ฉันเอื้อมไปหยิบมีดที่ซ่อนเอาไว้ที่ด้านหลังเข็มขัด พูดอีกคำฉันแทงทะลุอกแน่ ๆ
“ไหน…ลองพูดอีกซิ!!” แม่จะปาดคอให้เลย ฉันดึงมีดขึ้นมาง้างเอาไว้
“สวย สวยมาก สวยที่สุด สวยจังเล้ยยยย!!!!”
อีกด้าน
“จะไปเฝ้าเจ้าไฟมันที่โรงพยาบาลเหรอมายด์ แล้วแฟนหนูเขาจะไม่ทะเลาะอีกเหรอ” คนเป็นแม่ถามลูกสาว ที่กำลังเก็บของลงกระเป๋า
“แต่เฮียไฟกำลังเจ็บปางตายนะคะ หนูว่าพี่โอมเขาน่าจะเข้าใจ”
“ยังรักอยู่ใช่ไหม พี่ไฟของหนูอ่า” คำถามของคนเป็นแม่ ทำให้คนเป็นลูกสาว นิ่งและเงียบไปทันที เพราะคนที่เธอกำลังเป็นห่วง คือชายหนุ่มที่เธอเลิกลาไปแล้วถึง 5 ปี
“ไม่หรอกค่ะแม่ ก็แค่พี่ชายเหมือนเดิมนั่นแหละค่ะแม่” มายด์หันไปยิ้มให้คนเป็นแม่ ก่อนจะชูแหวนในนิ้วให้แม่ดู เพื่อบอกว่าไม่ต้องห่วง
“ถ้ายังรักอยู่ หนูก็ต้องเลือกสักทาง ถ้าจะมีสองคน ไม่เอา แม่เตือน ถ้าหนูไม่เลือกหนูจะไม่เหลือใคร”