ไฟ Say ::
ลุงทีเสียจริง ๆ คนที่เสียใจที่สุดคงไม่พ้นเพื่อนสนิทและเจ้านายที่นั่งอยู่หน้าศพไม่ลุกไปไหน แล้วก็ด่าไม่เลิก ด่าคนที่ตายอยู่แบบนั้น มันแย่กว่านั้นคือผมเห็นวิญญาณของปู่ทีนั่งร้องไห้อยู่หน้าคนเป็นเจ้านาย มันหดหู่เมื่อคนที่รักจากไป แต่มันแย่กว่าตรงเราดันไปเห็นในสิ่งที่ธรรมชาติไม่อยากให้เห็น
“เฮีย เศร้าเนอะ ดูคุณดินเธอเธอเสียใจมากเลยนะ แบบนี้ คนที่จากไปคงจะดีใจที่มีคนที่รักเขามากขนาดนี้” มายด์บีบมือของผมเอาไว้
“ไม่ใช่หรอก คนที่จากไป เสียใจยิ่งกว่า” ผมลุกขึ้นแล้วเดินไปหาลุงดินที่ร้องไห้อยู่
“อาทีเขาขอโทษที่ทำตามสัญญาที่ให้ไว้ไม่ได้หน่ะครับ ลุงดินอย่าด่าเขาอีกเลย ผมว่าเขาได้ยินนะ ไปเถอะครับ ลุงไปนั่งกับพวกพ่อเถอะ”
“แกรู้ได้ไงว่ามันเสียใจ มันอ่าตัวดีกูบอกให้เลิกบุหรี่ แม่งรู้ว่าเป็นมะเร็งก็เสือกไม่หยุดดูด ดูดมันอยู่นั่น เป็นไง สุดท้ายตายห่า ลำบากกูมานั่งร้องไห้ด่ามึงในงานศพเนี่ย ไอ้ที ไอ้เวร” ลุงของผมไม่แผ่วเลย ด่าไม่แผ่ว ด่าจนคนที่มาร่วมงานนับร้อยกลัวกันเป็นแถบ ๆ ผมควรจะบอกลุงผมไหม ว่าผมเห็นลุงทีเขาร้องไห้ขอโทษลุงอยู่เนี่ย ลุงทีมองหน้าผม เหมือนจะรู้ว่าผมเห็นเขาแล้ว
‘บอกนาย ฝากลูกชายด้วย’
“ลุงทีทำงานให้ลุงมานาน สิ่งที่เราจะทำได้ ก็คงจะดูแลไอ้ไทม์ให้ดี จริงไหมลุง” ผมรับคำจากคนที่ตายมาบอกคนที่อยู่ แต่ก็บอกอ้อม ๆ ให้คนคิดว่าผมไม่ได้บ้า
“มึงเป็นใครเนี่ย” เสียงที่ดังจากสองทางพร้อมกันซ้ายและขวาเลย พ่อของผมที่มาตามเราทั้งคู่ไปนั่งได้แล้วเพราะพระจะสวดแล้ว ดันมาได้ยินที่ผมปลอบลุง ก็เกิดทำหน้างงขึ้นมา
“มึงเป็นลูกกูจริงไหมเนี่ย 31 ปีที่ผ่านมา นี่มึงพูดดีสุดก็เมื่อกี้ ไม่ปากหมา ไม่กวนตีน และก็…ไม่เมา” พ่อเดินไปหาคนเป็นพี่ชาย แล้วมองหน้าผมอย่างไม่เชื่อสายตา ไม่ใช่แค่พ่อ ลุงผมด้วย ทำไมอ่า ผมจะต้องมีภาพลักษณ์เลวตลอดหรือไง อาจจะเพราะว่าผมเห็นภาพตรงหน้าแล้วมันสะเทือนใจมาก ๆ เพราะถ้าวันใดวันหนึ่งถ้าผมจะต้องเห็นคนที่ผมรัก มานั่งร้องไห้ต่อหน้าผม ในตอนที่ผมจับต้องเขาไม่ได้แล้ว ผมคงจะเสียใจมาก
“ลูกพ่อจะเป็นคนดีบ้างไม่ได้รึไง”
เรากลับมานั่งที่ที่ของเรา ให้ทางครอบครัวของลุงทีได้ทำบุญพระ และเชิญพระท่านสวด ท่ามกลางความเสียใจ ผมก็เห็นหญิงสาวที่ทำให้งานนี้มันเกิดขึ้น เดินมานั่งฟังเพราะสวดเช่นกัน ทำไมทั้งวันนี้เธอไม่ตอบไลน์ผมเลย
“ไอ้ไฟ เมื่อคือมึงทำอะไรถิงถิง วันนี้ยัยนั่นปฏิเสธงาน เหตุผลเพราะว่าอารมณ์ไม่ดีเนี่ย” ไอ้วินสะกิดถามผม ผมจะไปรู้ได้ยังไง เมื่อเช้าก็ยังดี ๆ อยู่เลย แต่หลังจากนั้นโทรไปก็ไม่รับ ไลน์ไปก็ตอบ หรือให้เบอร์มั่วกูมาวะ
“กูจะรู้ไหม ยัยนั่นไม่รับโทรศัพท์กูทั้งวัน”
“ไม่มีทางอะ เพราะที่ผ่านมา กูติดต่องานอะไร ต้องผ่านไอ้พ่อบ้านนั่น มือวางอันดับหนึ่งผัวของถิงถิง” ไอ้วินส่งสายตาให้ผมมองคนข้าง ๆ ที่นั่งอยู่ด้านหลังของถิงถิง
“พวกมึง เลิกคุยกันก่อนได้ไหม พระจะสวดต่อแล้ว” พ่อของผมหันมาเอ็ดพวกเราที่อยู่ด้านหลัง แต่คุยกันไม่เลิก
เราเลยรอพระท่านสวดเสร็จ แล้วก็ลากมาคุยกันข้างนอก ถึงเหตุการณ์ที่ถิงถิงปฏิเสธการรับงาน ถิงถิงไม่รับงานใหม่เลย ยาวตลอดยันสิ้นปี ซึ่งไอ้วินมันบอกว่าผิดปกติมาก ๆ แต่ผิดตรงไหนอ่า คนขี้เกียจทำงานก็มีถมไป ตื่นเต้นทำไม
“มึงคิดมากไปเปล่าไอ้หนู คนทำงาน อาจจะอยากพัก มึงเป็นหัวหน้ากลุ่มเงา ยังไงก็สั่งเธอได้ไม่ใช่หรือไง” ผมจะเดินหนีไอ้วิน แต่มันดันคว้าแขนของผมเอาไว้ ถ้าเป็นซีรี่ย์เกาหลี เพลงพระนางจะขึ้นแล้วนะเนี่ย แต่นี่ยังดี ที่ไม่ใช่ ไม่งั้นขนลุกตายห่าเลย
“ไฟ มึงต้องรู้เอาไว้ ถิงถิงอ่านะ เป็นผู้หญิงที่กูไม่อยากจะมีปัญหาด้วยที่สุดเลย เท่าที่กูรู้จักยัยนั่นมา กูพยายามมองสิ่งที่ยัยนั่นจะทำ และไม่ทำ เพื่อคิดว่าจะคอนโทรลถิงถิงได้ยังไง 1.ยัยนั่นจะไม่เอาของคนอื่น เวลาทำงานยัยนั่นจะให้เงินเพชร ทอง สมบัติอะไรก็แล้วแต่ ยัยนั่นจะไม่เอาสักอย่าง 2. ยัยนั่นจะไม่ผิดลูกผิดผัวคนอื่น ซื้อกินก็จะไม่ทำ เพราะกลัวคนที่ขาย มีครอบครัวอยู่แล้ว 3. ยัยนั่นไม่เคยพูดโกหก ถ้าเอ่ยปากตอบรับคำอะไรแล้ว จะต้องทำ 100% 4.ยัยนั่นไม่เคยแตะของมึนเมา สุรา เหล้า ยา ไม่เคยมี ถ้าไม่ทำผิด 4 อย่างนี้ ยัยนั่นรับงานหมด มี ทองยัยนั่นจะไม่ปฏิเสธงาน มึงไปทำอะไร ทำไมถิงถิง ถึงไม่รับงาน” สายตาที่คาดคั้นคำตอบ ทำให้ผมต้องแสร้งมองไปทางอื่น
“ความลับนี้มึงห้ามไปบอกใครนะ กูกลัวว่าจะมีคนเอาตรงนี้ไปเล่นงานเขาหน่ะ กูไม่รู้หรอกยัยนั่นงอนอะไร เมื่อเช้ายังมาส่งกูที่รถด้วยรอยยิ้มอยู่เลย” ตอนอยู่บนเตียง ก็ยังทำตัวน่ารักอยู่เลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ
“กูไม่เคยบอก กูบอกแต่มึงเนี่ย มึงยิ่งตัวไม่มีศีลอยู่ กูกลัวมึงไปหลอกฟันยัยนั่นมากเลย กูขอเลย มึงจะไปเล่น ๆ กับใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ถิงถิง ถ้าไม่ชอบอย่าให้ความหวัง แบบนี้ไง เมื่อวานถึงไม่อยากให้ที่อยู่ ไอ้เม่นก็เสือกบอกมึงกำลังจะตาย แดกแต่เหล้า แผลก็ไม่ยอมดูแลจนติดเชื้อ จนตอนนี้เหมือนกำลังตาย เจอมึงวันนี้เดินปร๋อเลย กูเลยรู้เลย ไอ้เม่นแม่งเล่นกูแล้ว” ไอ้วินน้องชายผมมองไอ้เม่นที่วิ่งดูแลแขกอยู่ในศาลา ทำไมมันถึงห่วงถิงถิงขนาดนี้ ห่วงกว่าเมียตัวเองอีก คือพอเข้าใจ ว่าตัวมันอ่า ไม่ค่อยมีเพื่อนคบ แต่ห่วงเพื่อนผู้หญิงแบบนี้ ออกนอกหน้ามากเลยนะ
“ชอบถิงถิงเหรอมึงอะ”
“เมื่อก่อนใช่ แต่เดี๋ยวนี้ไม่ชอบละ นับวันยิ่งน่ากลัว อย่าทำให้ถิงถิงถอดใจจากคุณพี่เด็ดขาด ไม่งั้นกูจะไม่มีอะไร!!! หลอกให้ยัยนั่นทำงานอีก เพราะฉะนั้นไปง้อซะ!!!! น่าหงุดหงิดจริง ๆ ขนาดบอกว่าช่วยฉันหน่อย จะถ่ายรูปกระบองของเฮียไปให้ ยังไม่ยอมเลย ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อน ถ่ายแค่ด้านหลังก็ยอมทำงานถวายชีวิตแล้วแท้ ๆ” คนที่เอาเรื่องสกปรกมาพูดเป็นเรื่องปกติ กล้ามาด่าผมเป็นคนไม่มีศีล มึงก็ชั่วไหมไอ้น้องชาย
บรึ่นนนน~* เสียงรถที่สตาร์ท ทำให้ผมกับไอ้วินต้องหันไปมองต้นเสียง พอเห็นถิงถิงกำลังจะก้าวขึ้นรถตู้ ทำให้ผมต้องทิ้งน้องชาย แล้ววิ่งไปหาเธอที่รถ แต่เธอเหมือนกับพยายามจะหนี พอผมจะคว้าเธอเอาไว้ คนที่ชื่อคิลใช้มือผลักเข้าที่กลางอกของผมครั้งเดียวกระเด็นเลย เจ็บหน้าอกมาก ๆ
“ตั่วเจ้ ไม่อยากพบคุณ รบกวนลบเบอร์ส่วนตัวของเธอออก เธอไม่อยากพบคุณอีกแล้ว รบกวนด้วยนะครับ อย่าบังคับให้ผมต้องเป็นคนไปทำเองเลย” ประตูรถตู้ค่อย ๆ ปิดใส่ผม แบบคนข้างในไม่สนใจจะมามองกันด้วยซ้ำ
“แม่งเก่งจริง ๆ ด้วย คนแรงเยอะอย่างมึงยังสู้ไม่ได้ กูคงไม่ต้องหวังจะเป็นศัตรู” ไอ้วินที่เดินตามมา เดินมาหาผมด้วยท่าทางน่าหมั่นไส้
“มึงหลอกให้กูไปลองส้นตีนใช่ไหม”
“ยังไม่ได้หลอกเลย แค่ไม่ช่วยก็แค่ไหน” ไอ้เวรนี่คบไม่ได้ ไอ้วินพยายามจะเข้ามาค้นตัวผม เพื่อหาอะไรสักอย่าง แล้วมันก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาเพื่อค้นดูอะไรสักอย่าง แล้วมองมาที่ผมตาขวาง เหมือนกับเด็กที่กำลังน้อยใจอะไรสักอย่างหนึ่ง
“มึงแม่งได้เบอร์ส่วนตัว แต่คนที่เป็นเพื่อนมาตั้งหลายปี ติดต่อพูดคุยผ่านพ่อบ้าน หนอยยยยย!!!” ไอ้วินหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมาให้ผมดู เบอร์ของถิงถิงที่เราเมมเอาไว้ มันไม่เหมือนกัน แค่นี้คนที่เป็นเพื่อนนับสิบปีก็มีอาการไม่พอใจ ถ้าบอกว่าได้เข้าห้องนอนของถิงถิงด้วย มึงจะตกใจกว่านี้
ผมแย่งโทรศัพท์คืนจากไอ้วิน แล้วเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าของตัวเองทันที ไอ้นี่จุ้นจ้านเกินไปแล้ว ให้มันน้อย ๆ หน่อยเถอะหน่า มาแอบดูโทรศัพท์ของคนอื่นไม่มีมารยาท
ผมเดินกลับเข้ามาในงาน ก็เจอมายด์ที่กำลังจะกลับพร้อมกับพ่อของเธอ เพราะงานได้จบลงแล้ว พ่อผมเองก็ยืนคุยกับลุงหมอกพ่อของมายด์อยู่ด้วย ทุกสายตามองมาที่ผมทันทีที่ผมเดินเข้ามา มองทำไมอะ
“ลุงคีบอกพี่ยังโดนผีหลอกอยู่อีกเหรอ ทำบุญไนต์คลับบ้างดีไหม เผื่ออะไรจะดีขึ้น” มายด์มองผมด้วยความเป็นห่วง นั่นสิ ผมควรจะทำบุญร้านบ้าง
“หาหมอดีกว่า เห็นผีอาจจะมาจากสสารในสมองทำงานผิดปกติก็ได้นะ” ลุงหมอกแตะที่ไหล่ของผม เอ้ยยยย ๆ ผมไม่ได้บ้าสักหน่อย ตอนนี้ผมยังเห็นวิญญาณลุงทีนั่งมองเมียที่ร้องไห้อยู่เลย
“นั่นสิลุง ผมอาจจะบ้าก็ได้ ส่วนเรื่องทำบุญไนต์คลับ เฮียจะเอาไปพิจารณานะ ตอนนี้คงจะขอกลับไปทำตัวเละเทะ เดี๋ยวผิดคาแรคเตอร์ เลิกกับแฟนเมื่อไหร่ บอกเฮียนะ เฮียยินดีดามใจ” พอพูดจบผมก็เดินจากมาทันที ตอนนี้ผมดันกำลังหงุดหงิดคนที่ผิดคำพูด ไหนบอกจะช่วยผม ไหงตอนนี้กลับไม่ยอมรับสายผมเล่า
ผมเดินมาที่รถ ที่ไอ้เม่นมันกำลังหลับอ้าปากหวออยู่ ผมเลยเอานิ้วป้ายปากมันซะเลย กูบอกให้รอ เสือกหลับ มันต้องโดน คนที่โดนสะดุ้งเฮือกแล้วมองหาคนทำ
“ใครวะ!!! มารบกวนเวลานอน”
“กูเอง ไอ้เวร กูให้มึงรอ เสือกมาหลับ ไป!! กลับไนต์คลับ วันนี้กูหงุดหงิดเต็มที” ผมขึ้นไปนั่งเบาะหลังของรถ แล้วให้ไอ้เม่นออกรถทันที เมื่อรถออกจากเขตวัดก็รู้สึกถึงมือของใครที่ลูบอยู่ที่หน้าขา แต่ข้าง ๆ ผม มันก็ไม่มีใคร มีเพียงแค่ความว่างเปล่า
‘ ไม่มีใครรักไฟเท่ากับเปียอีกแล้ว ไปอยู่กับเปียนะ เปียเหงา ‘ เสียงแว่วที่เย็นยะเยือกแม้ไม่เห็นใคร ก็รู้ว่าพวกเธออยู่บนรถนี้ แม่งเอ้ยจะตามไปทุกทีเลยรึไง!!!
“เหี้ย!!!! ไอ้เม่น คน!!!” ผมตะโกนบอกเม่น ถึงคนที่เดินตัดหน้ารถ
เอี๊ยดดดดด!!!!! ไอ้เม่นมันหักพวงมาลัยเข้าข้างทางจนรถสะบัด เข้าขวางกลางลำกลางถนน
“เฮียเป็นอะไรไหม”
“ไม่ เป็น มึงช่วยมองทางทีได้ไหม มึงไม่เห็นคนหรือไง!!!!” ผมเนี่ยใจวูบเลยนะ!!! ไอ้นี่!!!!
“ไม่เห็นนะสิครับ ไอ้เม่นถึงงงนี่ไง ว่าแต่เฮียไม่เจ็บตรงไหนนะ โล่งอก”
ปรี๊นนนนน ๆ โคร่มมมมม!!!! รถของผมโดนชนเข้ากลางลำอย่างแรงจากคนที่ออกมาจากวัด แรงกระแทกทำให้กระจกรถของผมแตกกระเด็นเข้ามาในรถ
ถิงถิง Say ::
“คุณวินเธอโทรมาครับ ถิงถิงจะรับไหม” คิลถามฉันที่กำลังนั่งเหม่ยลอยออกไปนอกหน้าต่าง มองโทรศัพท์ของตัวเองที่ไม่มีสายเรียกเข้าแล้ว มีความพยายามแค่นี้เองเหรอ ไม่โทรมาแล้วเหรอ
“ไม่รับอ่า ขี้เกียจทำงาน”
“งั้นผมจะบอกว่าถิงถิงไม่อยากพูดสายนะ” คิลยิ้มออกมา ฉันเลยยิ้มอย่างเซ็ง ๆ ด้วย
Rrrrrrr Rrrrrrr Rrrrrrrrr สายเรียกเข้าจากเบอร์แปลก ๆ ไม่ใช่เบอร์ของเฮียไฟสักหน่อย ฉันกดรับสาย แต่ดันเป็นสายจากคนที่มีศักดิ์เป็นหัวหน้า แค่ได้ยินเสียงก็อยากจะกดวาง
สายสนทนา
[ ถิงถิง ]
“ว่าอะไรอีกอะ ไม่มีอารมณ์ทำงาน เดี๋ยวฆ่าไม่เลือก ระงับอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ ไม่อยากทำงานตอนอารมณ์ไม่ปกติ”
[ ไอ้ไฟโดนรถชนนะ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล คนที่ชนบอกไม่เห็นรถของไอ้ไฟ ไม่เห็นรถของใคร เลยชนเข้าไปเต็มแรงเลย ฉันไม่รู้ว่ามันกำลังเจอกับอะไรอยู่ เม่นบอกว่าไอ้ไฟมันเห็นผู้หญิงตัดหน้ารถก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ เม่นเลยคิดว่าเป็นเมียผีของไอ้ไฟอ่า ]
“เจ็บหนักไหม”
[ ไม่รู้เลย หมอยังไม่ออกมาจากห้องฉุกเฉินเลย แต่น่าจะหนักเลย รถพังไปครึ่งเลย เธอจะมาดูมันไหม ] เสียงของวินเศร้าลง ฉันรู้ว่าวินมันร้าย แต่…ฉันดันเป็นห่วงขึ้นมาจริง ๆ
จบการสนทนา
ฉันกดสายทิ้งใส่วิน แล้วมองโทรศัพท์ในมืออยู่นาน จะไปหรือไม่ไปดี แต่ฉันห่วงเขาอ่า ถ้าเกิดยัยพวกนั้นจะเอาวิญญาณของเขาไปตอนนี้ มันเป็นเวลาที่เหมาะมาก ต่อให้ไม่ได้รักกัน แต่ฉันก็ไม่เคยอยากให้เขาตาย
“คิล ออกรถ ฉันจะไปโรงพยาบาล” ฉันสั่งให้คิลออกรถ คิลก็พยักหน้ารับทันที
“โรงพยาบาลไหนครับ”
“เอ่อออ คือออ….คือออออ แห่ะ ๆ ขอโทษค่ะ ถิงถิงลืมถาม” ฉันกดสายทิ้ง โดยลืมถามไปเล้ยยยยย ว่าโรงพยาบาลไหนอ่าาาาาาาา
“เฮ้ออออ ผมจัดการให้ กระผมจะโทรไปสอบถามเอง แต่ครั้งนี้อย่าให้เขาแกล้งอีกนะครับ กระผมไม่ปลื้ม” คิลยิ้มหวานให้ฉันก่อนจะชูกุญแจรถขึ้น ให้เราไปกันได้แล้ว
@โรงพยาบาล
หลังจากเรามาถึงโรงพยาบาล วิญญาณมากมายต่างหลบทางให้ฉันที่เดินมา ฉันเดินไปหาวินที่นั่งรออยู่ที่หน้าห้องฉุกเฉิน และญาติ ๆ ก็อยู่กันคบ รวมทั้งผู้หญิงที่ชื่อมายด์ด้วย กลับตอนนี้ทันไหม ไม่อยากจะช่วยแล้ว ฉันดึงสีหน้านิ่งเรียบ ไม่สนใจผู้หญิงคนนั้น แม้เธอจะยิ้มให้ฉันก็ตาม คนเราไม่ต้องมีเหตุผลที่จะเกลียดแฟนเก่าของแฟนหรอก แค่บอกว่าแฟนเก่า ก็ไม่ชอบละ ทำไมอะ ก็ฉันอยากจะไร้เหตุผลอะ
‘ เหม่ยลี่ไปดูให้เองค่ะ ชัวร์กว่ารอหมอแน่นอนค่ะ ‘ เหม่ยลี่บอกฉันฉันเลยต้องพยักหน้าอนุญาต
“ถิงถิง หมอออกมาครั้งหนึ่งแล้ว บอกว่าตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังไม่ฟื้นเลย” วินเดินมาแตะไหล่ของฉันเบา ๆ
‘ ตั่วเจ้ แย่แล้วค่ะ ร่างไม่มีวิญญาณ ‘ เหม่ยลี่ทะลุประตูมาบอกฉันด้วยสีหน้าเป็นกังวล ได้ยินแค่นี้ ฉันก็ถึงกลับต้องหลับตาลงเพื่อระงับความโกรธในใจ แล้วก้มหน้าลงเพื่อไม่ให้สีหน้าที่เจ็บเอาไว้มันแสดงออกมา ยุ่งกับใคร พวกหล่อนต้องดูก่อน!!! ว่ามีคนหวงเขาแค่ไหน
“ไม่เป็นอะไรนะคะ คุณป้า เฮียไฟเก่งจะตาย เดี๋ยวก็ฟื้นค่ะ” เสียงหวานที่บอกกับแม่ของเฮียไฟ ทำให้ฉันเกิดอาการคิ้วกระตุก การปลอบประโลมใจที่น่ารังเกียจ ขอโทษ
‘ ตั่วเจ้จะช่วยไหมคะ ‘ เหม่ยลี่ถามฉันขึ้นมา
“นี่จะเป็นการช่วยเหลือครั้งสุดท้าย จากฉัน เพราะฉันรับปากไว้แล้วว่าจะทำ” ฉันยื่นคำขาด ฉันหันไปมองหญิงสาวที่มองฉันด้วยใบหน้างง ๆ ไม่ต้องงงหรอกย่ะ เพราะฉันไม่ชอบขี้หน้าเธอไง
“โกรธอะไรเนี่ย หรือเพราะ….อ๋ออออ เข้าใจละ ผู้หญิงช่างเป็นเพศที่น่ากลัว ยิ่งผู้หญิงที่เป็นนักฆ่าแล้ว ยิ่งน่ากลัว เฮียเขาก็มีใจให้เธออยู่นะ ฉันดูออก” วินพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เอ๊ะ!!!! เอ๋!!!! จริงเหรอออ เฮียไฟบอกเหรอ เหรออออออวิน!!! ตอบ ตอบ!!!” ฉันเกาะแขนวินเพื่อถามหาคำตอบ จนลืมไปเลย ว่าตอนนี้มีหลายคนที่มองฉันอยู่
“ก็ดูจากที่พยายามโทรหาเธอทั้งวันไง เมื่อวันก่อนก็ไปหาถึงบ้านไม่ใช่เหรอ เธอก็น่าจะคิดได้นี่ ว่าเขาชอบเธอรึเปล่า” วินยิ้มหวานออกมา ทำให้ฉันต้องยิ้มด้วย อื้อออ นั่นสิเนอะ เขาอุตส่าห์มาหาฉันที่บ้าน ฮิ ๆ
“คิลลลล ออกรถ อ่ออ วิน ฉันอยากได้คนที่จะชี้จุดได้ ว่าเฮียไปเอานังพวกนั้นมาจากไหน คืองี้นะ ตอนนี้นะ ร่างเฮียไม่มีวิญญาณแล้ว ฉันจะต้องไปตามมาคืน ได้ไหม”
“อึก!!! ไม่มีวิญญาณงั้นเหรอ!!! มั่นใจแล้วเหรอ” วินทำหน้าตกใจใส่ฉัน ฉันก็เลยต้องพยักหน้า
“เม่นเองครับ เม่นบอกได้ ว่าเฮียไปเอาเมียผีมาจากไหน” คนที่เจ็บไปทั้งตัวยกมืออาสาจะไปด้วย ฉันเลยต้องขอตัวลาจากทุกคน เพื่อไปตามเฮียไฟกลับมา
แต่ระหว่างทางจะไปขึ้นรถ คิลก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ แล้วให้ฉันไปรอที่รถ พร้อมกับให้กุญแจมาด้วย รอก็ได้นี่ ทำไมถึงให้ไปเองอ่า หรือจะไปถ่ายหนักเหรอ อี๋ ไม่เอาอ่าเหม็นรอในรถก็ได้ ฉันพาเม่นที่พันผ้าพันแผลไปทั้งตัวไปที่รถ รออยู่สักพักคิลก็กลับมาที่รถ พร้อมที่จะออกรถ ว่าแต่!!!!
“คิลลลลลล”
“ครับ”
“ล้างมือรึยัง ฉี่ก็ต้องจับจู๋ อึก็ต้องเช็ดก้น อนามัย มันสำคัญนะ” ฉันชะเง้อหน้าไปมองคนที่เหลือบตามองไปทางอื่น หลบตาแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้ล้างสินะ ไอ้โสโครกกกกกกกก
อีกด้านก่อนหน้านี้
คิลแยกกับถิงถิง เพื่อเดินกลับมาหากลุ่มคนที่เอาแต่เป็นกังวล กับอาการไม่ฟื้นของคนที่เป็นลูกชาย โดยไม่สังเกตเลยสักนิดว่าตอนนี้มีคิลยืนอยู่ด้านหลัง มีเพียงธาวินที่สัมผัสได้ถึงอาการขนลุก เลยรีบหันกลับไปตามสัญชาตญาณ
“อย่าหลอกใช้ความรักของถิงถิง คุณขอให้เธอช่วย คุณขอทุกอย่าง คุณเคยให้อะไรเธอบ้าง ไม่เคย คนที่ผมเกลียดมากกว่าไอ้เวรที่นอนอยู่ในห้องฉุกเฉินคือคุณ คุณวิน”
“พ่อบ้านก็ควรจะอยู่ในจุดของตัวเอง ไม่ยุ่งเรื่องของเจ้านายสิ” ธาวินรับรู้ได้ว่าผู้ชายคนนี้น่ากลัว แต่ต้องพูดข่มเอาไว้เพื่อประเมินสถานการณ์
“เห็นแก่ตัวจังเลยนะ เพียงแค่อยากมีถิงถิงเอาไว้ใช้งาน ถึงกลับต้องใช้วิธีสกปรกต่าง ๆ นา ๆ บอกว่าไอ้เวรที่นอนอยู่ข้างในมีใจงั้นเหรอ ตลกสิ้นดี ถ้างานนี้ ถิงถิงต้องตาย หรือต้องเป็นอันตราย ก็เตรียมตัวหมดยุค 3 สิงห์ได้เลย โค่นแค่ 3 เสาอะ ไม่ยากหรอก อย่าคิดว่าคุณจะสู้ผมได้ ความเตรียมใจที่จะตายของเรามันต่างกัน ผมมีชีวิตเพื่อเธอ” คิลปัดฝุ่นบนเสื้อของวิน ก่อนจะฉาบสายตามองทุกคนที่กำลังจะส่งเจ้านายของเขาไปตาย ด้วยหน้าตาที่มีความหวังว่าไฟจะกลับมา
“แบบนี้มันไม่ดูถูกกันเกินไปหน่อยเหรอวะ มึงเป็นใครวะ” อัคคีที่ทนฟังอยู่นานแล้ว จะลุกขึ้นมาหาเรื่องคิล แต่โดนวินห้ามเอาไว้
“ลุง ปล่อยมันไป” ธาวินใช้มือปาดที่ไหล่ที่ถูกปัดฝุ่นเมื่อกี้ เลือดมากมายไหลออกมา เสื้อสีดำที่ใส่มีรอยกรีดที่เมื่อกี้ตัวเขาเองแทบไม่รู้ตัว
“ไอ้วิน มันดูถูกเรา เหมือนไม่เคยเห็นเราอยู่ในสายตา” อัคคียิ่งโมโห แต่ต้องตกใจที่เห็นเลือดในมือของหลานชาย
“มันไม่ได้ขู่ มันทำจริงแน่ เมื่อกี้ผมไม่รู้ตัวเลย” บาดแผลครั้งนี้มันแค่การเตือนจากคิลเท่านั้น
“ผู้หญิงคนนั้นน่ารักดีนะ เธอชอบเฮียเหรอ พูดจาอะไรน่าตลกจัง ร่างกายไม่มีวิญญาณ จะเป็นไปได้ยังไง เหนือธรรมชาติมากเลยนะ ชื่ออะไรนะ ถิงถิงเหรอ” มายด์เดินมาหาธาวินด้วยรอยยิ้ม แต่สายตาของเธอแอบมีความเศร้า ก่อนจะเปลี่ยนเป็นสายตาสดใส
“มายด์ ฉันถามจริงนะ รักเฮียมันปะ เธอต้องเลือกละ แต่ฉันอยู่ข้างถิงถิงนะ เพราะเธอมันเห็นแก่ตัว” ประโยคที่ทำให้หญิงสาวถึงกับสะอึก ช็อคกับสิ่งที่วินพูดออกมา
ธาวินบอกลาลุงและป้าสะใภ้ เพราะสิ่งที่เขาต้องการมันสำเร็จลงแล้ว เขารู้ความลับของทุกคน แต่เขาเองก็ไม่อาจจะพูดมันออกมาได้ แล้วสิ่งที่เขาบอกว่าไฟมีใจ เขาเองก็ไม่ได้หลอก
ถิงถิง Say ::
โหยยยยยย ที่แบบนี้กล้ามาฉี่ได้ไงวะ คือถ้าไม่กลัวผีหลอก ก็ควรจะกลัวงูฉกจู๋อ่า นี่มันที่ทิ้งศาลชัด ๆ แล้วศาลไหนที่เฮียอยู่อ่า มันจะต้องเป็นศาลที่มีพูลวิลล่า และสาว ๆ เพียบสินะ เจ้าพ่อปาร์ตี้กะต้องแบบนี้อะ
“เฮียไฟ โมะ ๆ อยู่ไหน ออกมาเร็ว ๆ”
“คุณถิงถิงเรียกเหมือนหมาเลยครับ แล้วเราจะตามเฮียจากไหนดีล่ะครับ ผมไม่เห็นมีอะไรเลย”
ไม่เห็นอะไร ผีเป็นสิบ อยู่กับเป็นอพาร์ตเม้นท์เลย ฉันมองเข้าไปในศาล เพื่อหาบรรดาพวกสาว ๆ แบบนี้คงไม่เจอแน่เลย เฮ้ออออออ นึกว่าจะเจอกันแบบง่าย ๆ คงไม่ง่ายแล้วล่ะ คงจะมีแค่วิธีนั้นวิธีเดียวแล้วสิ