ความจริงแล้วหนูคือลูกสาวประธานบริษัท

ตอนที่ 1

บทนำ

ร่างกายมันร้อนรุ่ม วูบวาบ ซาบซ่าน ตื่นเต้น เร้าใจ และกระหายอยากในสิ่งที่มากกว่าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าเขาจะแตะต้องตรงไหน เธอก็รู้สึกดีไปหมด เธอกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้และตอบสนอง

“อืม...” จารวี ครางแนบปากอุ่นร้อน ขณะที่จูบตอบเขาอย่างเงอะงะ สองแขนกอดลำคอแกร่งไว้แน่น บั้นท้ายอวบอัดบดส่ายอยู่บนตักที่เธอนั่งคร่อมทับอยู่ และคนที่เธอนั่งคร่อมทับอยู่ก็คือคนขับแท็กซี่คันที่เพิ่งจอดรับเธอมาจากหน้าร้านอาหารกึ่งผับเมื่อครู่

ใช่...เธอกำลังจะมีอะไรกับคนขับแท็กซี่ที่เพิ่งรู้จักกันในร้านอาหาร เธอรู้จักเขาเพราะเธอเดินชนเขาตอนที่เดินออกมาจากห้องน้ำในร้าน เขาเป็นฝ่ายขอโทษเธอก่อน และถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงทั้งที่เธอเป็นคนผิดเอง ซึ่งนั่นทำให้เธอรู้สึกดีกับเขา

วันนี้เธอกับเพื่อน ๆ นัดมาฉลองเรียนจบปริญญาตรีที่ร้านนี้ หลังรับประทานอาหารและดื่มไปมากพอควร อีกทั้งยังดึกมากแล้วด้วย เธอจึงขอตัวกลับ เพื่อน ๆ เป็นห่วงเธอ จึงออกมาส่งที่หน้าร้าน และเรียกแท็กซี่ให้ พอเธอขึ้นมานั่งบนเบาะหน้าข้างคนขับ แล้วเธอเห็นว่าเป็นเขา เธอก็ไม่รีรอที่จะขอสานสัมพันธ์แบบวันไนท์สแตนด์

เพราะแอลกอฮอล์ปริมาณสูงที่อยู่ในร่างกายทำให้เธอกล้าบ้าบิ่น และคิดจะทำให้สิ่งที่ไม่เคยทำ

“แกจะเก็บซิงไว้ชิงโชคเหรอ ลองซะ แล้วแกจะรู้ว่ายังมีอะไรที่แซ่บกว่าส้มตำปูปลาร้า”

และเพราะเสียงของ ดอกสร้อย เพื่อนสาวผู้มากด้วยประสบการณ์รักลอยเข้ามาในหัว มันตอกย้ำทำให้เธอตัดสินใจลอง และเธอเลือกแล้วว่าจะลองกับเขา เธออยากรู้เหมือนกันว่ามันจะแซ่บสักแค่ไหนกันเชียว

“อื๊อ !” จารวีครางขัดใจ เมื่อคนขับแท็กซี่ถอนจูบ เธอพยายามจะยื่นปากไปจูบเขาใหม่ แต่กลับถูกเขากดศีรษะด้านหลัง ทำให้เธอต้องซุกหน้ากับอกกว้าง

“ใจเย็นคนสวย” เขาเป็นคนขับแท็กซี่ที่เสียงเซ็กซี่และมีเสน่ห์ที่สุดในโลก เธอแพ้ทางเสียงของเขา พอเขาบอกให้ใจเย็น เธอก็ยอมนั่งรออย่างใจเย็น ทั้งที่ร่างกายตื่นตัว ผิวเนื้อสาวเต้นระริก และอยากให้เขาทำอะไรกับเธอมากกว่านี้

เขาขยับตัวขยุกขยิก ทำโน่นทำนี่ทั้งที่เธอยังนั่งคร่อมบนตัก ครู่หนึ่งเขาก็กลับมายุ่มย่ามกับเนื้อตัวของเธอ และเริ่มจูบเธอใหม่อีกครั้ง

จูบที่ดูดดื่มดุดันชักนำให้คนที่เพิ่งเคยเรียนรู้จูบแรกจากเขาหลงระเริง และไม่รู้ตัวเลยว่า เขาแกะกระดุมเสื้อนักศึกษาที่ชายหลุดจากขอบกระโปรงออกทั้งแถวตั้งแต่เมื่อไร กระทั่งเขาถอนจูบ แล้วก้มลงไปงับยอดอกอวบอิ่มใต้เสื้อชั้นในสีดำ จารวีจึงสะดุ้ง เธอขนลุกซู่เพราะเสียวสยิว

จารวีหลับตา แหงนเงยหน้าขึ้น และครางเบา ๆ สองมือจิกกำบ่ากว้างสองข้างไว้ พอเขาดึงเสื้อชั้นในเธอไปกองอยู่เหนืออกอวบ แล้วดูดใหม่อีกครั้ง เธอก็สั่นสะท้านไปทั้งตัว

หญิงสาวผู้ด้อยประสบการณ์รัก และไร้ประสบการณ์ร่วมรักหลงระเริงไปกับการเล้าโลมของคนช่ำชอง กระโปรงทรงสอบถูกดึงขึ้นไปคาอยู่ที่เอวคอด กางเกงชั้นในถูกฉีกกระชากออกด้วยมือแข็งแรง

คนกำลังมัวเมากับสัมผัสหวามยินยอมให้เขาทำทุกอย่างโดยไม่ขัดขืน เธออยากได้อะไรสักอย่างมาเติมเต็มในร่างกาย ร่องรักวูบวาบคัดหลั่งน้ำหวานเอ่อซึมชุ่มฉ่ำ เธอพรักพร้อม แต่เขาชักช้าขัดใจเธอนัก

จารวีไม่รู้ว่าเขามัวทำอะไรอยู่ ถึงไม่ยอมทำอะไรกับตรงนั้นของเธอเสียที พอเขาขยับยกบั้นท้าย เพื่อจัดการปลดปล่อยตัวเองออกมา แก่นกายร้อนผะผ่าวก็ถูไถกลางซอกขา ยิ่งก่อเกิดความอยากกระสันมากขึ้นไปอีก จารวีไม่อาจอดทนรอเขาได้อีกต่อไป หญิงสาวจึงจัดการเองด้วยความใจร้อน

“เดี๋ยว !” คนที่กำลังจะฉีกซองถุงยางอนามัยมาสวมครอบตัวตนร้องห้าม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เมื่อหญิงสาวผู้ริเรียนบทรัก ล้วงมือลงมาจับความกร้าวแกร่งแห่งชายไว้ แล้วยกบั้นท้ายอวบอัดขึ้น ทั้งที่เธอไม่ได้ก้มมอง แต่เธอกลับเล็งเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ เธอขย่มทิ้งตัวลงมาสุดแรง ดูดกลืนเอาความอวบยาวเข้าสู่ร่องรักชุ่มฉ่ำคับแน่น ลำกายแกร่งสอดแทรกฝ่าปราการบางเบาสลักแน่นล้ำลึกสุดทาง

“อ๊าย !” จารวีหวีดร้องเสียงหลง กายสาวสั่นสะท้าน น้ำตารินไหล เธอเจ็บและจุกอย่างที่ไม่คิดว่าจะรู้สึกได้ขนาดนี้ หญิงสาวดิ้นรนจะลุกหนี แต่คนที่สอดประสานตัวตนในกายสาวไม่ยอม เขากอดรัดเธอไว้แน่นด้วยวงแขนข้างหนึ่ง แล้วตรึงท้ายทอยเธอไว้ด้วยมืออีกข้าง บังคับให้เธอแหงนเงยหน้าขึ้นรับจูบดูดดื่มปลอบประโลม

เสียงหวีดร้องและเสียงสะอื้นไห้ถูกดูดกลืนไว้ด้วยจูบจากปากอุ่นร้อน ขณะที่สองกายสอดประสานแนบแน่น คนช่ำชองรับรู้ได้ถึงความเวอร์จิ้นของเธอ เขาจึงยังไม่ขยับ เขาปล่อยให้เธอได้เหยียดขยายและทำความคุ้นเคยกับขนาดที่ใหญ่โตกว่ามาตรฐานชายไทยของเขา

เมื่อจูบปลอบจนเธอผ่อนคลาย เขาก็ถอนจูบอย่างอ้อยอิ่ง แม้เธอจะไม่ประสา แม้จะจูบตอบเขาอย่างเงอะงะ แต่ก็หวานล้ำ จนอยากจูบซ้ำ ๆ อยู่แบบนี้ตลอดทั้งคืน

“หายเจ็บหรือยังครับ”