บทนำ

1709 Words
"เมื่อไหร่จะมีหลานให้แม่อุ้มสักทีภานุ จะรอให้แม่ตายก่อนหรือไงถึงจะมีได้" ผู้เป็นแม่ตะโกนเสียงดังลั่นบ้านอย่างโมโห ลูกชายทำได้เพียงแค่ถอนหายใจออกมาอย่างไม่รู้จะพูดจะอธิบายอะไร  "พอเถอะคุณ" สามีของคุณหญิงเพ็ญนภาร้องห้ามเพราะไม่อยากให้ภรรยากดดันลูกชายของตัวเองมากนัก เขาพอเข้าใจเหตุผลของลูกชายคนเดียวแต่เหมือนผู้เป็นแม่จะไม่เข้าใจ "พอเหรอคะ... คุณดูลูกคุณสิ รอแล้วรออีกแค่ผู้หญิงคนเดียวไม่รู้ว่าจะกลับมาตอนไหน แถมถ้าวันหนึ่งแต่งงานกันไปก็ไม่สามารถมีทายาทได้" "ผมบอกแล้วไงครับว่าถึงเวลานั้นจะรับเด็กมาเลี้ยง" "แกโง่หรือเปล่าตาภานุ รับเด็กที่ไม่ใช่สายเลือดมาเลี้ยงเนี้ยนะ! ทั้งๆที่แกก็แข็งแรงดีสามารถมีลูกได้ด้วยตัวเองแท้ๆ แต่ต้องมายอมเพราะผู้หญิงคนเดียวที่มีลูกไม่ได้ รักอะไรนักหนาทุกวันนี้ก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน กลับมาหรือเปล่ายังไม่รู้เลย แกจะรอไปจนถึงเมื่อไหร่ห๊ะ!" คุณหญิงบ่นออกมาอย่างหัวเสีย ผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถมีลูกได้หรือเรียกว่าเป็นหมันตั้งแต่เด็ก แต่ลูกชายเธอรักมากทั้งๆที่ไม่ได้ตกลงปลงใจคบหากันด้วยซ้ำแต่ก็รอเพียงแค่เธอบอกว่าจะกลับมาหา โง่! "เราคุยกันแล้วครับแม่ ยังไงพลอยบอกว่าจะกลับมาหาผม" "เรื่องกลับมาหรือไม่แม่ไม่สนใจแล้ว แม่อยากมีหลานที่มีสายเลือดของตระกูลเท่านั้น แกเอาน้ำเชื้อตัวเองไปใส่ผู้หญิงที่แม่เลือกให้สิ แล้วจากนั้นแกจะไปรักกับใครก็ไปแม่จะไม่ยุ่ง" เธอพยายามพูดกับลูกชายหลายครั้งแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเขายอมให้ผู้หญิงที่เธอเลือกมาอุ้มท้องให้ก็จบ แต่ลูกชายไม่ยอมจะรอแต่ผู้หญิงที่เขาเลือกแล้วค่อยปรึกษาว่าจะทำยังไงซึ่งเธอรอไม่ไหว "ผมต้องคุยกับพลอยก่อนนะครับแม่" "แกจะสามสิบเอ็ดปีแล้วนะภานุ จะต้องรออีกกี่ปีถึงจะมี ธุรกิจที่มีพันล้านหมื่นล้านแกจะยกให้ลูกที่ไม่ได้เกิดจากสายเลือดของตัวเองเหรอ..." ภานุถึงกับพูดไม่ออก เขาไม่อยากทำอย่างที่แม่พูดเพราะกลัวว่าพลอยจะรู้สึกแย่เพราะเธอไม่สามารถมีลูกได้ เขาอยากให้เธอเห็นว่าเขารักเธอจริงๆไม่ว่าเธอจะมีได้หรือไม่ได้เขาพร้อมจะรักเธอ "บอกเลยนะว่าทุกอย่างที่เป็นสมบัติของตระกูลอภิสิริกุลจะต้องมอบให้กับสายเลือดแท้ๆเท่านั้น ถ้าวันหนึ่งแกรับลูกบุญธรรมมา แม่กับพ่อจะยกทุกอย่างให้เป็นของสาธารณะ ไม่ต้องมีใครได้ไปแม้แต่แกที่เป็นลูก!!" คุณหญิงขี้หน้าด่าลูกชายของตัวเองก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าแล้วเดินออกไปทันที ไม่อย่างนั้นจะต้องทะเลาะกันจนแตกหักแน่ เพราะความโง่ของลูกชายเธอแท้ๆที่หลงผู้หญิงจนไม่สนใจความรู้สึกของคนในครอบครัว "คุญหญิงจะไปไหน" สามีตะโกนเรียกเธอ แต่ไม่ทันแล้วเพราะเธอขึ้นรถแล้วออกไปจากบ้านซะก่อน เขาหันไปมองหน้าลูกชายก่อนจะยื่นมือไปตบบ่าอย่างปลอบใจ "ใจเย็นๆนะลูก เดี๋ยวแม่เค้าก็เข้าใจเอง" ภานุรู้สึกผิดเป็นอย่างมากที่ไม่ได้ทำให้ผู้เป็นแม่สมหวัง เขาแค่อยากจะรออีกหน่อยเพื่อคิดอะไรอีกนิดถึงเวลานั้นเขาคงจะหาทางออกได้ แต่เหมือนว่าตอนนี้แม่จะไม่ยอมให้เลี้ยงบุตรบุญธรรม ท่านต้องการลูกที่เกิดจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเขาซึ่งถ้าเขายังเลือกที่จะแต่งงานกับพลอยก็คงไม่สามารถมีได้ "ผมไม่รู้จะทำยังไงแล้วครับพ่อ ผมตันไปหมดแล้ว" "แม่เขาก็พูดไปอย่างนั้นแหละ ยังไงทุกอย่างมันก็เป็นของลูกอยู่แล้ว แม่คงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก" ภานุถอนหายใจออกมาอย่างเครียดหนัก เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อดี แต่ตอนนี้คงต้องง้อแม่ก่อนรอให้ท่านใจเย็นกว่านี้ค่อยคุยอีกที ทางด้านของคุณหญิงเพ็ญนภา เธอให้คนขับรถพาไปส่งที่ร้านเบเกอรี่ร้านประจำของเธอเพื่อหาของอร่อยทานให้ใจเย็นลง และอยากจะไประบายกับเพื่อนสนิทด้วยเกี่ยวกับเรื่องความดื้อดึงของลูกชายคนเดียว "เชิญครับคุณหญิง" "ไปจอดรถแล้วลงมาทานขนมนะ ฉันจะนั่งเล่นอยู่ตรงนี้ก่อนยังไม่กลับง่ายๆ" "ได้ครับคุณหญิง" คนขับรถเปิดประตูให้เจ้านาย เธอเดินลงมาก่อนจะเดินเข้าไปในร้านเบเกอรี่สุดหรู ลูกปลาพนักงานในร้านเห็นคุณหญิงก็รีบไปต้อนรับทันที "สวัสดีค่ะคุณท่าน" คุณหญิงเพ็ญนภาเห็นลูกปลาก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจ วันก่อนมาที่นี่แต่ไม่เจอเธอเห็นผู้จัดการบอกว่าเธอไปสอบที่มหาวิทยาลัย  "หนูลูกปลาดีใจที่เจอ" "หนูก็ดีใจค่ะวันนี้มาไวจังเลย นั่งก่อนนะคะเดี๋ยวหนูไปเอาน้ำเย็นมาให้" เธอพาคุณหญิงไปนั่งที่โซฟาก่อนจะเดินไปหยิบน้ำเย็นมาเสิร์ฟให้ทานอย่างชื่นใจ ลูกปลาคุกเข่าลงตรงหน้าท่านก่อนจะยิ้มกว้างออกมา "ชื่นใจมั้ยคะ" "มากเลยจ๊ะ ฉันอยากเจอหนูอยู่พอดีเลย วันก่อนมาก็ไม่เจอเห็นว่าไปสอบมาใกล้จบหรือยังจ๊ะ" "สอบครั้งนี้เสร็จก็จบแล้วค่ะ จะได้วุฒิปริญญาตรีกับเขาสักที โล่งมากเลยค่ะ" ลูกปลาเอ่ยเสียงใส เธอเห็นเด็กคนนี้มาหลายปีตั้งแต่มาสมัครงานที่ร้านเพื่อนเธอใหม่ๆ เธอเป็นเด็กน่ารักมากมารยาทดีแถมยังกตัญญูอีก ทำงานที่นี่มาสี่ปีหาเงินส่งตัวเองเรียนจนจบ เป็นเด็กที่เก่งมากจริงๆ  "ดีแล้วจ๊ะ ไปทำงานที่ห้างฉันมั้ย เดี๋ยวหาตำแหน่งดีๆให้เลยหนูจะได้มีเงินเยอะไปเลี้ยงดูพ่อกับแม่" "หนูไม่อยากรบกวนเลยค่ะ ยิ่งไปโดยใช้เส้นสายแบบนั้นยิ่งไม่อยากเลย ตอนนี้ทำงานที่นี่ก็ดีอยู่แล้วค่ะเงินดีด้วยนะ อีกอย่างปลาชอบทำขนมค่ะอยากมีแบบนี้เป็นของตัวเอง ถ้าให้ไปทำงานออฟฟิศคงไม่ได้เรื่อง งั้นหนูขอไปทำงานก่อนนะคะเดี๋ยวมาใหม่" "จ๊ะ ไปเถอะ" ลูกปลายิ้มแห้งออกมา คุณหญิงลูบผมเธออย่างเอ็นดูก่อนจะปล่อยให้ลูกปลาไปทำงานต่อ เพื่อนสนิทของเธอเดินมาพอดีก็เอ่ยทักทาย "คุณหญิงเพ็ญนภา โทรมาเสียงหงุดหงิดมีอะไรอีกล่ะ" "ทะเลาะกับลูกชายตัวดีนะสิ" "เรื่องเดิมอีกแล้วสินะ แกก็ปลงๆบ้างสิเด็กมันรักกันก็ปล่อยไปเถอะ" "ฉันไม่เคยห้ามให้คบกันเลยนะ ขอแค่หลานคนเดียวมันจะดิ้นตายหรือไงกัน" คุณฟ้ามองหน้าเพื่อนก่อนจะส่ายหน้าเล็กน้อย เรื่องนี้สุดจะหาวิธีช่วยจริงๆ "เอาเถอะน่า อายุก็ยังไม่แก่เลย อนาคตอาจจะคิดได้เองแหละ" "ฉันเนี่ยสิจะแก่ลงทุกวัน เห้อ! คุยกับลูกชายแล้วหงุดหงิด ฉันคุยกับหนูลูกปลามีความสุขกว่าอีก" คุณหญิงหันไปมองหน้าลูกปลาที่ตอนนี้กำลังถือจานขนมตรงมาทางเธอ "รับเป็นลูกสาวเลยมั้ยถ้าจะหลงกันขนาดนั้น" คุณฟ้าเอ่ยเสียงประชด ก็พอเข้าใจว่าทำไมเพื่อนเธอถึงถูกชะตาเด็กคนนี้ เพราะเธอเป็นเด็กดี ทำงานเก่ง แถมยังกตัญญูต่อครอบครัว ไม่ขอเงินที่บ้านแถมเงินที่ได้ยังส่งไปให้พ่อแม่ทุกเดือนอีก ส่งเสียตัวเองจนจบปริญญา หายากมากในเด็กสมัยนี้ "ถ้าสลับตัวได้นะฉันจะไล่ตาภานุออกจากการเป็นลูกแล้วให้หนูลูกปลาไปเป็นแทน เห้อ! นี่ถ้าลูกชายฉันมันไม่โง่หลงผู้หญิงหน้ามืดตามัว ฉันจะจับหนูลูกปลาใส่พานให้เลย" คุณหญิงเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์เสีย เด็กคนนี้น่ารักน่าชังเธอถึงขั้นอยากจะรับเป็นลูกด้วยซ้ำ ถ้ามีลูกชายสองคนจะจับเด็กคนนี้ไปเป็นลูกสะใภ้แล้ว "คุณท่านคะ ลูกปลาฝึกทำขนมค่ะเชฟสอนเมนูใหม่หนูทำเองเลยนะคะ อยากให้คุณท่านชิม" คุณหญิงยิ้มกว้างออกมาก่อนจะใช้ช้อนตักชิมอย่างเต็มใจ "ไหนดูสิน่าทานจังเลย" เธอลองชิมก่อนจะร้องว้าวออกมา  "อร่อยมากเลย เก่งนะเนี้ยนุ่มพอดีเลย" "จริงเหรอคะ แบบนี้คุณฟ้าต้องเลื่อนตำแหน่งให้ลูกปลาไปเป็นเชฟได้แล้วนะเนี้ย" คุณฟ้ายิ้มออกมาอย่างเอ็นดูเด็กคนนี้ พูดจาน่ารักใครอยู่ด้วยก็สบายใจ เธอจึงให้เธออยู่ในฐานะพนักงานที่มีสิทธิพิเศษ อยากจะลาไปนั่นนี่อยากจะทำอะไรก็ทำไมว่าอะไรทั้งนั้น "ฝึกไว้ให้คล่องสิ ไว้เปิดอีกสาขาจะส่งไปเป็นเชฟเลย" "จริงนะคะ" ลูกปลายิ้มออกมาก่อนนะส่งจานขนมให้คุณหญิงทานต่อ  "จริงสิ ไปรับลูกค้าก่อนเถอะเดี๋ยวค่อยมาคุยกัน" "ค่ะ" ทั้งสองคนมองลูกปลาเดินออกไปรับแขกก็หันมายิ้มให้กัน  "น่ารักจริงๆเด็กคนนี้" "น่ารักสิ เป็นเด็กที่กตัญญูต่อพ่อแม่ ทำงานตัวคนเดียวงกๆไม่เคยบ่นแถมไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียอีก ผู้ชายคนไหนได้ไปถือว่าโชคดีที่สุดเลยแหละ" "นั้นสิ นี่ถ้าลูกชายฉันไม่ไปหลงผู้หญิงอื่น ฉันจะจับคู่ให้ล่ะ เห้อ!"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD