หลังจากขับรถมาหลายชั่วโมง ลูกปลาก็แวะข้างทางซื้อผลไม้ป้อนชายหนุ่มระหว่างที่เขาขับรถไปเรื่อยๆ จะได้แก้ง่วงด้วย
"อร่อยมั้ยคะ"
"อือ อร่อยดี"
ภานุอ้าปากงับสัปปะรดก่อนจะเคี้ยวแก้มตุ่ยโดนมีลูกปลาคอยแกะน้ำเย็นให้ดื่มเอาใจเป็นอย่างดี ทั้งสองคนได้แวะไปทำบุญกันก่อนหน้านี้แล้วจึงขับรถชิวๆได้ไม่เร่งรีบ ตอนนี้เช้าสู่ตัวเมืองของจันทบุรีแล้ว ภานุแวะไปที่ห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของสดของแห้งไปฝากที่บ้านของหญิงสาว
"แวะห้างทำไมเหรอคะ"
"ซื้อของไปฝากที่บ้านเราไง ว่าแต่งานวันเกิดก็ต้องมีฉลองใช่มะ ทำอะไรกินดีอ่ะ"
ภานุกุมมือหญิงสาวไปกินเลือกซื้อตรงโซนของสด ถ้าโดยปกติเวลามีงานวันเกิดก็จะกินหมูกระทะกันภายในบ้าน แต่ว่าแม่เธอกำลังรักษาตัวอยู่คงทานอะไรไม่ได้เยอะหรอก
"ปกติถ้ามีงานวันเกิดจะกินหมูกระทะกันค่ะ แต่คุณแม่กินไม่ได้หรอกค่ะท่านรักษาตัวเองอยู่"
"ก็ทำให้คนอื่นกินสิ เรามีพี่น้องมั้ย"
"มีน้องชายค่ะกำลังจะขึ้นมหาวิทยาลัย"
"อ่อ งั้นทำหมูกระทะสิอยากกิน"
ภานุเสนอให้หญิงสาวทำเมนูหมูกระทะเพราะเขาไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่ มากสุดก็ปิ้งย่างบนห้างแต่เอาตามจริงคือไม่มีเวลามานั่งทานอะไรแบบนี้หรอก มันก็ได้บรรยากาศดีไปอีกแบบเขาอยากจะลองใช้ชีวิตแบบคนทั่วไปดูบ้าง
"งั้นซื้อของก่อนค่ะ"
ลูกปลาพาชายหนุ่มไปเลือกน้ำจิ้ม หมูชิ้น ไข่ ปลาหมึก กุ้ง ของต่างๆที่เอาไปทำได้ ส่วนภานุเดินไปหยิบของสดอย่างอื่นมากมายเพื่อเอาไปแช่ตู้เย็นให้พ่อกับแม่ของลูกปลาทาน ยิ่งคนป่วยต้องกินแต่ของบำรุง
"เอาอะไรเยอะแยะคะ โสม.. แบรนด์ซุปไก่ แบรนด์รังนก นม ซื้อไปทำไมเยอะแยะคะ"
ลูกปลามองรถเข็นที่เต็มไปด้วยของกิน มีแต่ของบำรุงทั้งนั้นเลยและที่สำคัญของแพงๆทั้งนั้น
"เอาไปฝากแม่เราไง รักษาตัวก็ต้องทานแต่ของมีประโยชน์ เรานะควรดูแลอาหารการกินของครอบครัวบ้าง เดือนหน้าก็ซื้ออีกประมาณนี้คงพอหนึ่งเดือนใช่มั้ย"
ภานุถามหญิงสาวพร้อมกับหยิบแบรนด์มาเพิ่มอีก ลูกปลารีบขอร้องให้เขาหยุดพอเท่านี้ เพราะมันเยอะมากแล้ว
"พอแล้วค่ะ จะให้กินครึ่งปีเลยเหรอคะ"
เขาชะงักไปก่อนจะหยุดหยิบของมาเติมแล้วหันไปหาอย่างอื่นต่อ
"อะไรอีกดีน้า"
ภานุยังคงมองหาแต่ของที่มีประโยชน์ ทุกวันนี้ลูกปลาอยู่ที่บ้านของเขาทำแต่ของดีและมีประโยชน์ให้ทาน เขาจึงต้องตอบแทนด้วยการดูแลครอบครัวของเธอบ้าง
"พอแล้วค่ะ"
"พอก็ได้ ถ้าหมดค่อยมาซื้อใหม่"
ภานุโอบเอวลูกปลาให้เดินตามมาก่อนจะเข็นรถไปชำระเงิน ห้างนี้เขาไม่ใช่เจ้าของเพราะเป็นห้างขายของสดทั่วไป ส่วนห้างในเครือของเขาจะเป็นห้างสรรพสินค้าทั่วไปที่มีของครบครันมากกว่า
"คุณภานุใจดีอีกแล้วนะคะ"
"เธอดูแลคุณพ่อคุณแม่ของฉันเป็นอย่างดี ของทุกอย่างทำด้วยตัวเองมีประโยชน์ทั้งนั้น ฉันก็ต้องดูแลครอบครัวเธอบ้างใช่มั้ยล่ะ แลกกันไง"
"ขอบคุณนะคะ พ่อกับแม่คงดีใจที่ลูกปลามีเจ้านายที่น่ารักดูแลดีขนาดนี้"
ลูกปลาเอ่ยอย่างใสซื่อ เพราะถ้าเป็นครอบครัวของเธอก็จะบอกว่าคุณหญิงหรือคุณภานุเป็นเจ้านายเพราะเธอเป็นคนบอกเอง ส่วนภานุถึงกับนิ่วหน้าด้วยความไม่พอใจ เจ้านายอะไรกันนอนด้วยกันทุกคืน
"ใครบอกว่าฉันเป็นเจ้านายเธอลูกปลา"
"อ่าว ก็คุณหญิงให้ลูกปลาไปเป็นเชฟที่บ้าน พ่อกับแม่ก็เข้าใจแบบนั้นก็ถูกแล้วนะคะ"
"งั้นฉันจะไปบอกคุณพ่อกับคุณแม่ของเธอให้เข้าใจใหม่ ว่าฉันไม่ใช่เจ้านาย... ดีมั้ย"
เขาเอ่ยเพียงแค่นั้นก่อนจะลากรถเข็นลงบันไดเพื่อเอาของไปเก็บในรถ ลูกปลามองตามชายหนุ่มด้วยความงุนงง ทำไมเขาจะต้องไปบอกครอบครัวของเธอว่าไม่ใช่เจ้านายด้วยล่ะ
"ลูกปลางงว่าคุณภานุไม่พอใจอะไรคะ"
เขาไม่ตอบเธอจนมาถึงลานจอด ชายหนุ่มก็เก็บของขึ้นรถโดยไม่สนใจจะตอบคำถามของหญิงสาว ลูกปลาวิ่งมาช่วยภานุยกของขึ้นรถจนเสร็จทั้งสองคนก็ขับรถออกเดินทางตรงไปยังบ้านของเธอ
"น้ำเย็นมั้ยคะ"
ลูกปลาพยายามเอาใจชายหนุ่มแต่เหมือนว่าเขาจะงอนเธออยู่ซึ่งก็ไม่รู้ว่างอนเรื่องอะไร
"ลูกปลาเอาใจคุณภานุไม่ถูกแล้วนะ"
"บ้านเธออยู่ตรงไหน"
เขาเอ่ยถามพร้อมกับมองGPSไปด้วย ลูกปลาชี้ไปยังบ้านหลังสีขาวก่อนจะเอ่ยออกมา
"นั้นไงคะบ้านของลูกปลา"
ชายหนุ่มขับรถไปจอดตรงหน้าบ้านของเธอ บ้านสีขาวหน้าบ้านตกแต่งด้วยสวนดอกไม้ถือว่าสวยเลยนะ ก็ไม่ได้แย่นี่นาบ้านสวยออกถึงแม้ว่ามันจะเล็กมากก็เถอะ แต่อยู่แบบนี้ก็อบอุ่นดีนะ
ภานุเปิดประตูลงรถมองไปยังในตัวบ้านว่ามีใครอยู่รึเปล่า ลูกปลาลงรถมาก่อนจะเปิดประตูหน้าบ้านแล้วพาภานุเดินเข้าไปข้างใน
คุณพ่อของเธอที่กำลังกลับมาจากสวนก็ยิ้มกว้างออมาอย่างดีใจที่ลูกสาวคนเดียวกลับมาที่บ้าน
"ไอ้ลูกปลา!"
"พ่อจ๋า"
ลูกปลาวิ่งไปกระโดดกอดผู้เป็นพ่อ ภานุมองเธอก่อนจะยิ้มออกมา คุณพ่อของเธอหันมามองชายหนุ่มอย่างสงสัยว่าเขาเป็นใคร ภานุยกมือไหว้ทักทายอย่างนอบน้อม
"สวัสดีครับ"
คุณพ่อผละออกจากลูกสาวก่อนจะยกมือรับไหว้ชายหนุ่ม การแต่งตัวกับรถที่ขับไม่น่าจะเป็นคนธรรมดา ท่าทางจะรวยไม่ใช่น้อย
"นี่คุณภานุจ๊ะพ่อ"
"ไหว้พระเถอะพ่อหนุ่ม เอ็งพาใครมาเนี้ยไอ้ลูกปลา ไหนบอกว่าไม่ได้ขายตัวให้พวกเสี่ยๆไง แล้วที่มาด้วยเป็นใคร"
ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวอย่างสงสัย ทำไมถึงมากับคนรวยๆได้ ลูกปลาหันไปมองหน้าภานุก่อนจะรีบแก้ต่างให้ชายหนุ่ม
"พ่อพูดอะไรเนี้ย! เขาเป็นเจ้านายนะ"
"อ่าวเหรอ.. พ่อไม่รู้นี่นา เข้ามาก่อนสิพ่อหนุ่ม"
"ครับ"
ภานุเดินเข้ามานั่งลงตรงศาลาหน้าบ้าน คุณพ่อเดินมานั่งคุยกับภานุโดยที่ลูกปลาเดินเข้าไปหยิบน้ำในตู้เย็นมาให้ทั้งสองคน ท่านมองภานุด้วยสีหน้าที่เดาอารมณ์ไม่ถูก
"คุณเป็นเจ้านายของไอ้ลูกปลามันเหรอ"
ภานุหันไปมองหน้าคุณพ่อก่อนจะรีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที
"ไม่ใช่ครับผมไม่ใช่เจ้านายของลูกปลา ผมเป็นแฟนของเธอครับ"
เขาแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ เล่นเอาผู้เป็นพ่อถึงกับตกใจ ไม่คิดว่าลูกสาวจะมีแฟนกับเขาแล้ว ตอนแรกนึกว่าจะขึ้นคานแล้วซะอีก
"แฟนเหรอ... ไอ้ลูกปลามันมีแฟนตอนไหนกันไม่เห็นบอกใครเลย ตอนแรกพ่อว่ามันจะขึ้นคานซะอีก"
เขาหัวเราะร่าอย่างชอบใจ อย่างน้อยลูกสาวของตัวเองก็ขายออกมีคนมาชอบพออยู่บ้าง ภานุส่งนามบัตรของตัวเองให้คุณพ่อก่อนจะยิ้มออกมา
"นี่นามบัตรของผมครับ ผมชื่อภานุ ถ้าคุณพ่อมีปัญหาอะไรโทรมาได้ตลอดเลยนะครับ"
คุณพ่อรับนามบัตรของภานุมาก่อนจะเปิดดูในนั้น เขาตาโตอย่างตกใจเพราะในนามบัตรนั้นมันมีตำแหน่งของเขาอยู่ด้วย
'ประธานบริษัท'
"คุณเป็นประธานบริษัทเลยเหรอ"
"ธุรกิจที่บ้านนะครับ"
เขาเริ่มมีความเป็นห่วงลูกสาวขึ้นมาอย่างมาก นี่ลูกปลาคบอยู่กับคนรวยอย่างนั้นเหรอ.. ถ้าเป็นแบบนี้อนาคตต้องถูกทิ้งแน่นอน คนจนๆอย่างเราก็เป็นแค่ของเล่นเท่านั้นแหละ
"ผมพูดตามตรงเลยนะคุณภานุ ผมไม่สนับสนุนให้ลูกปลาคบหากับคนรวย ฐานะเรามันต่างกันมากวันหนึ่งมันจะเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ไม่มีคนรวยที่ไหนรับได้หรอก"
ผู้เป็นพ่อพูดออกมาตามตรง เขาไม่อยากให้ลูกปลาต้องถูกหลอกต้องเสียใจกับความรักที่มันเป็นไปไม่ได้ คนรวยกับคนจนมันเหมือนเส้นขนานที่ไม่สามารถมาบรรจบกันได้ ภานุมองสบตากับคุณพ่อของลูกปลาด้วยความจริงใจ เขาจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่าไม่มีอุปสรรคอะไรทั้งนั้นในครอบครัวของเขา
"ครอบครัวของผมเอ็นดูลูกปลาทุกคนครับ คุณพ่ออย่าเพิ่งตัดสินอะไรแบบนั้นเลย ผมไม่เคยคิดจะหลอกลูกปลาเลย และที่ผมมาที่นี่ก็เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจในการคบหากัน"
ผู้เป็นพ่อมองเขาอย่างไม่ละสายตา แต่ชายหนุ่มก็ไม่หลบสายตาของเขาเช่นกัน เขาไม่ใช่คนที่เอาฐานะอะไรต่างๆมาติดสินชีวิตคู่ ถ้าเขารักและพอใจจะอยู่ด้วยก็ไม่มีอะไรที่เป็นอุปสรรคอีก
"ผมเชื่อใจคุณได้ใช่มั้ย"
เขากลัวเหลือเกินว่าลูกปลาจะเสียใจในอนาคต ลูกกตัญญูแบบลูกสาวของเขาควรจะได้เจอคนที่ดีและคู่ควร
"ผมสัญญาว่าจะไม่ทำให้ลูกปลาเสียใจ และจากนี้ไปผมจะดูแลเธอเอง คุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ"
เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังมาก ผู้เป็นพ่อมองอย่างชั่งใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมแพ้
"เอาเป็นว่าพ่อให้โอกาสคุณแล้วกัน อย่าทำลูกปลาเลยนะไอ้นั้นมันเป็นเด็กกตัญญูรู้คุณ ลำบากมาตั้งแต่เด็ก พ่ออยากให้มันมีความสุขสักที"
"ผมจะไม่ทำให้ลูกปลาเสียใจครับ เอาเป็นว่าคุณพ่ออนุญาตให้ลูกปลาคบกับผมแล้วใช่มั้ย"
"มันก็เรื่องของคนสองคนนั้นแหละ ตัดสินใจกันเองแล้วกัน"
ภานุยิ้มกว้างออกมาอย่างโล่งใจ อย่างน้อยด้านครอบครัวของเธอก็ผ่านไปได้ด้วยดี ถึงแม้ว่าพ่อของเธอจะดูระแวงเขาอยู่ก็เถอะ...
"น้ำเย็นมาแล้วจ๊ะพ่อ"
ทั้งสองคนจบบทสนทนากันเพราะลูกปลาเดินมาพอดี ภานุรับแก้วน้ำมาดื่มให้ชื่นใจก่อนจะยิ้มอย่างเดียวไม่พูดอะไรปล่อยให้สองพ่อลูกบอกคิดถึงกันให้พอใจ
"คุยกับพ่อไปก่อนนะเดี๋ยวไปยกของลงให้"
"เดี๋ยวลูกปลาช่วยค่ะ พ่อจ๋าเรียกน้องให้หนูหน่อยสิ มาช่วยกันยกของหลังรถลงหน่อย"
ลูกปลากระโดดกอดแขนภานุก่อนจะเดินเคียงข้างกันออกไปหน้าบ้าน ผู้เป็นพ่อมองตามอย่างเป็นห่วง แต่ดูจากสายตาและคำพูดของผู้ชายก็ดูจริงใจดี ผู้เป็นพ่อยิ้มออกมาก่อนจะเอ่ยออกมาคนเดียว
"บางทีเอ็งอาจจะเป็นผู้หญิงหนึ่งในล้านที่โชคดีที่สุดก็ได้ พ่อขอให้พ่อหนุ่มคนนี้เขารักเอ็งด้วยใจจริงนะลูก"