ตอนที่1 ฟิโอดอร์
พรมแดนประเทศรัสเซีย-คาซัคสถาน
เวลา01.30น.
“จงใกล้ชิดกับมิตรสหาย แต่จงใกล้ชิดกับศัตรูให้มากยิ่งกว่า จำใส่ใจเอาไว้ฟิโอดอร์ แกไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังเพราะแกไม่ได้อ่อนแอไร้น้ำยาเหมือนวยาเชสลาฟ”
ชายหนุ่มใบหน้าคมสันดวงตาเป็นประกายเจิดจ้าจ้องมองเครื่องมือสื่อสาร ขณะกำลังสนทนาผ่านโปรแกรมหนึ่งกับชายสูงวัยผู้มีบุคลิกน่าเกรงขามแม้อายุจะย่างเข้าวัยชรา สำหรับฟิโอดอร์แล้วชายชราผู้นี้มีบุญคุณที่เขาไม่อาจทดแทนได้หมดและมีความแค้นใหญ่หลวงที่ยากให้อภัย นิโคไลคือเสือเฒ่าที่ยังเต็มไปด้วยเขี้ยวเล็บ เป็นที่รู้กันว่าตำแหน่งผู้นำสูงสุดของแก็งค์ลูซิเฟอร์ไม่ได้สร้างขึ้นมาเพียงแค่วันเดียว นิโคไลแลกมันมาด้วยเลือดเนื้อและช่วงเวลาเกือบค่อนชีวิตในวัยหนุ่มของเขา
“ผมจะจำเอาไว้นิโคไล ประโยคที่คุณบอกเมื่อครู่มันให้คำตอบชัดเจนว่าทำไมคุณถึงไม่ฆ่าผมในคืนนั้น” มือสีคร้ามเปิดกล่องซิก้าออกมาคาบเอาไว้ในปาก ก่อนจะจุดซิปโป้สีทองอร่ามต่อกับปลายซิก้าแล้วพ่นควันสีเทาออกมาเป็นสาย
ฟิโอดอร์ ราวานนอฟสกี้ เขาคือมือหนึ่งของนิโคไลหัวหน้าแก็งค์ลูซิเฟอร์ แก็งค์มาเฟียอันดับหนึ่งที่ทรงอิทธิพลที่สุดในรัสเซีย ไม่นับรวมแก็งค์คู่อริอย่างแก็งค์เดม่อนที่ต่อสู้ฟาดฟันกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน เพื่อหวังเป็นหนึ่งในธุรกิจสีเทาซึ่งทำเงินได้อย่างมหาศาล มีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่านิโคไล อาร์ชาวิน และโรมัน พาฟลูเชนโก้ หัวหน้าแก็งค์เดม่อนต่างเคยเป็นเพื่อนรักกันมาในอดีต กระทั่งเกิดเรื่องบาดหมางบานปลายจนกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาต
ภายนอกเต็นท์สนามโอมล้อมไปด้วยความมืด รถฮัมเมอร์สี่คันจอดเรียงรายอยู่รอบเต็นท์ ชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธประจำกายเดินไปมาขวักไขว่ทำหน้าที่เวรยามระแวดระวังภัยที่อาจมาถึงได้ตลอดเวลา พรมแดนรัสเซียเป็นเขตอันตรายสำหรับบุคคลอื่น แต่ก็เป็นสถานที่เหมาะสำหรับทำเรื่องผิดกฎหมาย นักค้ายา ผู้ลี้ภัย ผู้ค้าอาวุธมักจะใช้สถานที่แห่งนี้เป็นจุดนัดหมาย
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”
นิโคไลหัวเราะชอบใจ ชายสูงวัยนั่งอยู่บนรถเข็นขนาบข้างด้วยชายฉกรรจ์ในชุดสูทสีเข้มทั้งซ้ายและขวานับสิบคน พวกมันทุกคนใบหน้าสงบนิ่งและมีแววตาของเพชฌฆาต
“ฉันยังจำคืนนั้นเมื่อยี่สิบปีก่อนได้ไม่มีวันลืม… ฟิโอดอร์ เด็กชายอายุสิบเอ็ดปีเนื้อตัวมอมแมมเสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือดสีแดงส่งกลิ่นคาวคุ้ง ดวงตาไร้แววของความขลาดกลัวถือปืนด้วยมืออันสั่นเทา แวบแรกที่เห็นแกในคืนนั้น ฉันก็รู้ได้ทันทีว่าแกเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ของนักฆ่า”
ชายต่างวัยจ้องมองกันผ่านเครื่องมือสื่อสาร
“น่าเสียดายที่แกไม่ได้เกิดมาเป็นลูกชายของฉันฟิโอดอร์ น่าเสียดาย”
“นั่นอาจจะเป็นความโชคดีเพียงอย่างเดียวในชีวิตของผมก็ได้นิโคไล ที่ไม่ได้มีเลือดปีศาจของคุณไหลเวียนอยู่ในร่าง”
“ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ ฉันชอบแกฟิโอดอร์ แกทำให้ฉันอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป”
นิโคไลชี้นิ้วมาที่ชายหนุ่มพร้อมกับระเบิดเสียงหัวเราะ
“ทำงานให้สำเร็จและอย่าเพิ่งตายง่ายๆ ซะละ แองเจลล่าเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของมาร์คัสการที่แก็งค์ของเราช่วยพาตัวหล่อนมาส่งสู่อ้อมอกของมาร์คัส จะทำให้ฝ่ายนั้นหันมาเป็นพันธมิตรกับเราปูทางไปสู่ตลาดค้าอาวุธในประเทศที่สาม โชคดีไอ้ลูกชาย”
หน้าจอเครื่องมือสารดับลง จอสีดำสะท้อนเงาของฟิโอดอร์ริมฝีปากหยักหนากระตุกยิ้มเล็กๆ รอยยิ้มที่ไม่ใช่อารมณ์ขัน
“เกิดเรื่องใหญ่แล้วครับหัวหน้า”
ชายหนุ่มผมสีทองหน้าตาเกลี้ยงเกลาหล่อเหลาราวกับนายแบบพุ่งตัวเข้ามาในเต็นท์ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก พร้อมกับหญิงสาวหน้าสวยตาดุท่าทางคล่องแคล่วปราดเปรียว ทั้งคู่เป็นทั้งพี่น้อง-เพื่อนตายและบอดี้การ์ดที่ติดตามฟิโอดอร์มาหลายปี อีวาน มอสโตวอย และแอมเบอร์ อัลบาร์
“อีวานใจเย็นๆ มีเรื่องอะไรใหญ่ว่าที่แกโดนผู้หญิงเต้นระบำโป๊มอมเหล้า แล้วหลอกเปลื้องผ้ารูดทรัพย์ในบาร์ที่ลอนดอนอีกงั้นเหรอ”
“หัวหน้า! ไหนบอกจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับไง ตายๆ ๆ”
อีวานทำหน้าเหวอหันไปมองสบตากับแอมเบอร์บอดี้การ์ดสาวคู่หู
“ทำไมฉันถึงไม่รู้เรื่องนี้ละคะหัวหน้า ห๊ะอีวาน” บอดี้การ์ดสาวเลิกคิ้วมองชายหนุ่มทั้งสองสลับกันไปมา
“เรื่องนั้นเอาไว้ที่หลังได้มั้ยแอมเบอร์ ฉันขอร้องละ” อีวานยกมือทั้งสองขึ้นเสมออก ในขณะที่ฟิโอดอร์กระตุกยิ้มมุมปากพร้อมกับยักไหล่
“โอเค้ จบเรื่องแล้วเล่ามาให้หมดเลยนะ”
“เอ้ามีเรื่องอะไรจะบอกก็ว่ามาอีวาน” ฟิโอดอร์เขี่ยก้นซิก้าลงพื้น
“สินค้าของเราหายไปครับหัวหน้า”
บอดี้การ์ดหนุ่มหน้าเจื่อนก้มหัวลงต่ำ ด้วยเป็นความผิดของเขาโดยตรงที่ทำสินค้าสำคัญหายก่อนจะส่งมอบให้ลูกค้าในคืนนี้
“ฉันคิดว่าไอ้บ้ากามนั่นคงลักพาตัวหล่อนไปรุมโทรมอยู่ที่ไหนสักแห่งแน่ๆ เลยค่ะหัวหน้า” แอมเบอร์ทำสีหน้าขยะแขยง
“แต่เอ๊ะ! ทำไมหัวหน้าดูเหมือนไม่รู้สึกตกใจเลยละครับ หรือว่า?” อีวานหันมองหน้าแอมเบอร์ ก่อนที่บอดี้การ์ดทั้งสองจะยิ้มออกมาเมื่อเริ่มคาดเดาบางอย่างได้กระจ่างขึ้น
“สินค้าตัวจริงอยู่ที่นี้ใช่มั้ยคะหัวหน้า”
ฟิโอดอร์พยักหน้าให้กับบอดี้การ์สาว
“งั้นคนที่โดยลักพาตัวไปละครับหัวหน้า”
“สาวข้ามเพศที่พวกเราเจอในกาสิโนเมื่อสามวันก่อน หล่อนติดหนี้พนันหลายล้านและยอมเอาตัวเข้าแลกกับงานที่ฉันเสนอ ฉันให้หล่อนสวมรอยเป็นสินค้าตอนที่พวกเราพักอยู่ในเมือง เพราะคิดว่าวยาเชสลาฟต้องไม่ปล่อยให้เราทำงานนี้สำเร็จได้ง่ายๆ แน่”
“โอโห้… ป่านนี้หมอนั่นคงขุดทองเพลินเลยเชียว หยึ้ยยยย”
อีวานทำท่าขนพองสยองเกล้า ก่อนจะมีเสียงหัวเราะออกมาจากภายในเต็นท์