"แม่ พี่ฟ้า ปล่อยฟางนะ"
"ฟางไม่ไป ปล่อยฟางนะ"
ฉันพยายามดิ้น ด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ฉันมีเพราะตอนนี้พี่สาวของฉันกับแม่ของฉันกำลังพยายามจับตัวฉันพาไปที่ไหนสักที่ซึ่งฉันก็ไม่ทราบว่ามันอยู่ที่ไหนเพราะฉันไม่รู้จัก
"แกต้องไป ถ้าแกไม่ไปแล้วใครจะไป"
"ใครสร้างหนี้ คนนั้นก็ไปสิ ฟางไม่ได้สร้างหนี้ด้วยสักหน่อย"
"ถ้าฉันไปแล้วใครจะเอาเงินมาจ่ายแกเหรออย่างแกเหรอจะมาช่วยฉัน นี่ฉันรักแกมากนะฉันถึงพยายามหาทางช่วยแกอยู่ตลอด"
เดี๋ยวนะตอนนี้เหมือนกำลังมีคนเข้าใจอะไรผิดพี่ฟ้าใช้คำว่าพยายามหาทางช่วยฉันอยู่ตลอดมันใช่เหรอ ฉันว่ามันไม่ใช่นะฉันต่างหากที่พยายามหาทางช่วยทุกคนอยู่ตลอดทั้ง ๆ ที่ฉันก็เพิ่งจะเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่งเท่านั้นเอง พี่ฟ้าสิเรียนจบมาตั้งหนึ่งปีแล้วแต่ก็ยังไม่มีงานการทำเป็นหลักเป็นแหล่งในขณะที่ฉันทำงานจนตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตรับจ้างเป็นฟรีแลนซ์ทำนั่นนี่ไปเรื่อย แถมยังช่วยพ่อทำงานที่บริษัทอีกด้วย
"พี่ฟ้า พี่ฟ้าต่างหากสร้างความเดือดร้อนให้ฟางตลอดเลย แล้วทำไมพี่ฟ้าถึงทำแบบนี้กับฟางอีก ปล่อยฟางนะ ฟางไม่ไป"
ขณะที่ฉันกำลังดิ้นฉันก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของรถขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้านฉัน แม่แล้วก็พี่ฟ้าต่างก็เงยหน้าขึ้นมองว่าใครกันเป็นคนที่มาฉันขอให้คนคนนั้นเป็นพ่อถึงแม้ว่าความหวังของฉันมันจะริบหรี่เพราะน้อยครั้งที่พ่อก็จะช่วยฉันเหมือนกันอีกอย่างวันนี้โฟร์ก็ไม่อยู่ด้วย
ตึก... ตึก... ตึก...
เสียงเดินเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ไม่นานนักก็ปรากฏร่างของชายหนุ่มสองคนซึ่งสองคนนี้ฉันเคยเห็นเขาแล้วในครั้งแรกที่เขามาหาพี่ฟ้า และอีกครั้งที่ไปข่มขู่ฉันที่ป้ายรถเมล์ทั้งสองคนกดยิ้มมุมปากก่อนจะเดินเข้ามาอย่างไม่เกรงกลัวโดยที่เจ้าของบ้านยังไม่ได้อนุญาตเข้ามา
"พวกผมคิดไว้แล้วว่าคุณต้องจัดการปัญหาไม่ได้"
ฉันกำลังถูกที่ฟ้ากับแม่กดลงที่พื้นโดยแขนทั้งสองข้างของฉันถูกแม่กับพี่ฟ้าจากไพล่หลังเอาไว้ฉันพยายามดิ้นอย่างแรงแต่ก็ไม่สามารถทำได้หัวใจของฉันเต้นแรงอย่างหวาดกลัว เมื่อแม่กับพี่ฟ้าปล่อยมือออกจากฉันเพียงไม่นานหนึ่งในสองคนนั้นก็เดินเข้ามากดฉันไว้เหมือนเดิม และรุนแรงกว่าเดิม
"โอ๊ย! ฉันเจ็บนะ ปล่อยฉันนะ!"
"พยศดีนี่นายผมน่าจะชอบ"
"เอาตัวมันไปเลย เหนื่อยจะตายอยู่แล้วตัวแค่นี้แรงเยอะชะมัดเลย" หัวใจของฉันกระตุกวูบทันทีที่ได้ยินเสียงพี่ฟ้าพูดขึ้นฉันรู้ได้ในทันทีว่าคนอย่างพี่ฟ้าไม่มีทางที่จะหาเงินมาพาฉันกลับไปหรอกฉันจะต้องเอาตัวรอดให้ได้ฉันจะต้องหนีไปจากสถานการณ์ตรงนี้ให้ได้แต่ฉันจะทำยังไงในเมื่อตอนนี้ฉันถูกชายคนนี้กดเอาไว้ฉันเจ็บแล้วฉันก็กลัวมากด้วย
"ปล่อยนะ แม่อย่าทำแบบนี้กับฟางนะ ปล่อย! พี่ฟ้าอย่าทำฟางนะปล่อย"
ฉันพยายามดิ้นอย่างสุดกำลังแต่ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันจะต้องทำยังไงก่อนหน้านี้ฉันเคยมีความคิดว่าอยากจะขอความช่วยเหลือจากมินนี่แต่พอฉันคิดอีกทีนี่มันเป็นเรื่องของบ้านฉันหากฉันไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนก็อาจจะทำให้มินนี่เดือดร้อนไปด้วยก็ได้
"อึก... แม่อย่าทำแบบนี้กับฟางเลยนะแม่ปล่อยฟางไปเถอะนะฟางไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วยปล่อยฟางไป"
แม่ของฉันไม่มีแม้แต่น้ำตาที่ไหลลงมาเลยสักหยดเดียวแต่กลับมองฉันด้วยสายตาราวกับว่าเป็นสิ่งสมควรแล้วที่ฉันถูกกระทำแบบนี้จนบางทีฉันก็อยากรู้ว่าฉันไม่ใช่ลูกของแม่หรือเปล่าทำไมแม่ถึงทำกับฉันแบบนี้
"ฟาง ฟางช่วยพี่ฟ้าหน่อยนะลูกแม่กับพี่ฟ้าสัญญาจะหาเงินไปพาตัวลูกออกมาให้ได้"
"ไม่! ฟางไม่เชื่อปล่อยฟางนะ"
"ดิ้นเก่งจริงเว้ย" คนที่กดฉันไว้พูดขึ้นแต่ไม่นานนักเขาก็ใช้เชือกที่แม่กับพี่ฟ้าเตรียมเอาไว้มัดไปที่ข้อมือของฉันได้อย่างง่ายดายก่อนจะแบกฉันขึ้นบ่าแกร่ง และพาฉันเดินออกไปจากบ้านของฉันน้ำตาของฉันร่วงหล่นลงมาเป็นทางทำไม ทำไมแม่ถึงทำแบบนี้กับฉันทำไมพี่ฟ้าถึงทำแบบนี้กับฉันแล้วทำไมพ่อของฉันถึงไม่คิดจะช่วยเหลือฉันเลยแม้แต่น้อย
ขณะที่ฉันกำลังหมดหวังอยู่นั้นใบหูของฉันก็ได้ยินเสียงวิ่งมาจากที่ไกล ๆ ฉันพยายามลืมตาขึ้นดูก็เห็นว่าคนที่วิ่งมาเป็นน้องชายของฉัน
"โฟร์" ความหวังเดียวของฉันวิ่งเข้ามาอย่างหน้าตั้งดวงตาของโฟร์แดงก่ำ และเต็มไปด้วยหยาดน้ำตาร่างกายบอบบางของน้องฉันรีบวิ่งเข้ามาถอดรองเท้าแล้วปาไปที่สองคนนั้น
"ปล่อยพี่สาวฉันนะ!"
โฟร์พยายามช่วยฉันด้วยการฉุดกระชากลากถูเอาตัวฉันออกมาจากหนึ่งในสองคนนั้นให้ได้แต่ก็ถูกอีกคนหนึ่งสกัดเอาไว้โฟร์พยายามสู้ทั้งดิ้นทั้งผลักทั้งตบทั้งต่อยไปที่ชายคนนั้นกระทั่งสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อชายคนนั้นหมดความอดทนแล้วต่อยไปที่ท้องแกร่งของโฟร์เต็ม ๆ
"อุ๊ก... พ พี่ฟาง"
"โฟร์!"
ร่างของโฟร์ค่อย ๆ
ร่วงลงพื้นโดยไม่มีใครรองรับสายตาของน้องชายฉันเจ็บปวด และจ้องมองมาที่ฉันอย่างไม่วางตาฉันเองก็เช่นกันที่มองน้องชายของฉันแล้วสายตาร่วงหล่นลงมาเรื่อย ๆ ฉันถูกโยนเข้ามาในรถตู้คันหรูแล้วปิดประตูเอาไว้
ครืด~
"ออกรถเลย"
น้ำเสียงของใครบางคนดังขึ้นจากคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ฉัน ฉันค่อย ๆ หันไปมองเขาฉันก็ต้องเบิกตาขว้างขึ้นเมื่อคนที่ฉันเห็นเป็นคนที่ฉันเดินชนที่มหาวิทยาลัย ในวันนี้เขาใส่ชุดสูทสีเทาพอดีตัวผิวขาวละเอียดของเขาทำให้ฉันจ้องมองเขาได้อย่างไม่วางตาไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่ทั้งมีรูปร่างดี และหน้าตาดีขนาดนี้จะมาทำความเดือดร้อนให้ฉันได้แบบนี้
"ถูกใจกับดอกเบี้ยไหมครับนาย"
"ก็ถือว่าไม่ได้แย่" ฉันกลืนน้ำลายลงคอค่อย ๆ กระเถิบตัวเองไปติดอีกฝั่งหนึ่งแต่ชายคนนั้นก็ไม่ได้ขยับตามฉันมา เขาแค่หันมามอง และกดยิ้มมุมปากก่อนจะดันแว่นกันแดดขึ้นเอาไว้ที่เหนือศีรษะแล้วหันมามองหน้าฉันตรง ๆ ฉันได้เห็นใบหน้าของเขาอย่างเต็ม ๆ ก็คราวนี้ดวงตาของเขาที่จ้องมองฉันราวกับกำลังพึงพอใจในของเล่นชิ้นใหม่
"เธอนี่น่าสงสารนะแต่ถ้าจะให้ฉันเอาพี่สาวเธอฉันพูดตรง ๆ ว่าฉันก็เอาไม่ลง"
"ปล่อยฉันไปได้ไหม"
"เงิน สามสิบล้านนะเธอ เธอจะให้ฉันปล่อยเธอจริง ๆ เหรอพูดอะไรตลกนะ"
"แต่ฉันไม่ได้รู้เห็นด้วย คุณยืมเงินแค่สองคนทำไมฉันต้องเป็นคนรับผิดชอบ"
"พี่สาวเธอเสนอตัวรับผิดชอบแล้วแต่ฉันไม่เอา ฉันบอกว่าถ้าจะเอาตัวเองมาขัดดอกก็ต้องไปขัดดอกกับลูกน้องฉัน" เอาตัวขัดดอกไม่ได้มาเป็นคนรับใช้เหรอหมายความว่าฉันต้องเสียตัวอย่างนั้นเหรอ
"แต่คนสวยสำหรับเธอไม่ต้องห่วงเพราะฉันจะเป็นคนนั้นของเธอเอง" ไม่ว่าจะกับใครฉันก็ไม่อยากเสียตัวให้ทั้งนั้น ฉันน้ำตาไหลรินมองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริกฉันรู้ได้เลยว่าร่างกายของฉันสั่นไปทั้งตัวขณะที่รถตู้คันหรูก็ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกมาอย่างเชื่องช้าชายหนุ่มจ้องมองฉันตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าอย่างพอใจแน่นอนว่าเขาพอใจแน่นอนเพราะสายตาของเขาแสดงออกมาอย่างนั้นอย่างไม่ปิดบัง
"เอาเป็นอย่างนี้ได้ไหมฉันจะหาเงินมาใช้คืนพวกคุณเองแต่ว่าคุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะ ไม่ว่าจะเอาฉันไปเป็นคนรับใช้หรือว่าจะเอาฉันไปรับใช้บนเตียงฉันก็ไม่เต็มใจทั้งนั้น"
"ฉันไม่ได้ถามหาความเต็มใจอยู่แล้ว" เวรกรรมแท้ ๆ แล้วทำไมฉันถึงต้องมารับกรรมด้วย
"ไม่ต้องห่วงฉันมันขี้เบื่อเอาเธอไม่นานหรอกเดี๋ยวฉันก็ปล่อยเธอไป" ไม่เอานะฉันไม่อยากโดนแบบนี้
"โถ~ น่าสงสารกลัวจนตัวสั่นเชียว" มือหนาของเขาเลื่อนเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ฉันไม่รู้ว่าเขาเห็นใจจริง ๆ หรือว่าเห็นว่าอาการที่ฉันเป็นอยู่ตอนนี้เป็นเรื่องน่าสนุกกันแน่
"เธอชื่อฟางข้าวใช่ไหม" เขาถามแต่ฉันไม่ตอบ
"ฉันชื่อบรูคส่วนคนที่ขับรถอยู่ชื่อเอดคนที่นั่งข้าง ๆ เอดชื่อเดรกเป็นลูกน้องของฉัน รู้จักกันไว้ก็ดี" ไอ้คนนั้นคนที่ชื่อเดรกมันต่อยท้องน้องชายของฉัน
"สวัสดีครับคุณฟางข้าวเราเคยเจอกันแล้วผมหวังว่าคุณจะจำได้" ฉันจำได้ไม่ลืมเลยแหละคนพวกนี้มาข่มขู่ฉันที่ป้ายรถเมล์ในวันที่ฝนตกฝน ตกเหมือนอย่างวันนี้
มันโชคร้ายอะไรของฉันทำไมฉันต้องเกิดมาในครอบครัวนี้ทำไมฉันต้องมีแม่แบบนี้มีพี่สาวแบบนี้มีพ่อแบบนี้นี่มันโชคร้ายของฉันชัด ๆ สิ่งเดียวที่ฉันคิดว่าฉันโชคดีสำหรับการอยู่ในครอบครัวนี้คือการที่ฉันมีโฟร์อยู่ข้าง ๆ ขณะที่รถกำลังเคลื่อนตัวไปอย่างเงียบ ๆ ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมาแต่ยังนั่งพิงประตูรถตู้หรู ทั้งสองคนข้างหน้าก็คุยกันเล็กน้อยส่วนคนที่นั่งข้างฉันก็ไม่ได้มองมาที่ฉันแล้วในตอนนั้นเองสายตาของฉันก็ไปเห็นกับใครบางคนเข้า ใครคนนั้นกำลังเดินออกมาจากร้านอาหารร้านหนึ่ง และมีเหล่าบอดี้การ์ดยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ขาดหาย
"ลุงโคลด์"