และแล้ววันที่ผมไม่อยากให้ถึงก็มาถึง วันที่ผมต้องจากครอบครัวไปอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย ไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ยากจะคาดเดาได้ ตอนนี้รถตู้จากโรงเชือดจอดรอที่หน้าบ้านแล้ว ผมอุ้มเจ้าหมูตอนเดินลงมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก โดยมีไอ้บอลถือกระเป๋าตามหลัง ส่วนแม่ยืนรออยู่หน้าบ้านเรียบร้อยแล้ว คงจะดีใจมากสินะที่หนี้กำลังจะหมดลงแล้ว หลังจากผมได้เข้าไปอยู่ในบ้านหลังนั้น
“ไปแล้วนะแม่”
“เออ ๆ ไปดีมาดี อยู่ที่นั่นก็อย่าทำตัวมีปัญหา อย่าให้คนอื่นว่าได้ว่าฉันเลี้ยงดูแกไม่ดี อดทนให้มาก ๆ”
“ผมต้องอดทนอยู่แล้วล่ะ ถ้าไม่อดทนแม่ก็จะเดือดร้อนไปด้วย” ประโยคหลังผมประชดครับแม๊!!
“มีแกเป็นลูกมันดีอย่างนี้นี่เอง”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมไปล่ะ ดูแลหมูตอนให้มันดี ๆ ด้วยอย่าให้ได้ยินข่าวว่าแม่ปล่อยมันให้อดอยากนะ” ว่าแล้วก็ส่งเจ้าหมูตอนให้แม่อุ้มไว้ แล้วคว้ากระเป๋าสัมภาระจากบอลมาถือไว้
“เออห่วงแต่แมวนั่นล่ะ ฉันไม่ปล่อยให้มันอดอยากหรอกไม่ต้องห่วง โชคดีละกัน” ผมรู้ว่านางอยากจะกอดผมสักครั้งแต่ยังทำเป็นคนจิตใจแข็งกระด้างเช่นเคย ผมเองก็อยากจะกอดแม่เหมือนกันแต่ด้วยความที่ยังน้อยใจอยู่จึงไม่กล้าเข้าไปหา พวกเราจึงต้องจากกันทั้งอย่างนี้
“ดูแลตัวเองด้วยนะพี่”
“อืม มึงก็เหมือนกัน ตั้งใจเรียนล่ะ อย่าดื้อให้มันมากนัก”
“รู้แล้วน่า”
แน่นอนว่าเราสองพี่น้องสวมกอดกันเพื่อเป็นการร่ำลา เพราะค่อนข้างสนิทกันมาก นอนด้วยกันทุกคืน ผมพยายามกลั้นน้ำตาไว้ให้นานที่สุดก่อนถือกระเป๋าเดินขึ้นรถตู้ เมื่อหย่อนก้นลงนั่งแล้วน้ำตามันก็หยดแหมะลงมา ผมยังคงมองแม่กับน้องชายด้วยความรู้สึกใจหาย ไอ้บอลโบกมือให้พร้อมกับน้ำตา ส่วนแม่ยืนแสดงสีหน้าเรียบเฉยไม่ได้มีความอาลัยอาวรณ์เลย เพียงแต่ดวงตาแดงก่ำเท่านั้น
ในที่สุดประตูรถตู้ก็ถูกปิด บนรถมีผมเพียงคนเดียวเท่านั้น ผมถามลุงคนขับว่าจะพาไปที่ไหน เขาบอกเพียงว่าไปพบคุณนาธานที่เพนท์เฮาส์ก่อน คุณนาธานผู้นี้จะหน้าตาเป็นอย่างไร นิสัยแบบไหนกันนะ ผมเริ่มชักอยากจะรู้แล้ว ทำไมถึงคิดว่าแม่ตัวเองจะชอบสะใภ้แบบผม แล้วทำอย่างนี้ท่านจะยอมรับสะใภ้ตัวจริงได้ยังไงกัน ผมเริ่มงงกับความคิดของผู้ชายคนนี้แล้ว
ในที่สุดก็มาถึงที่หมาย ลงจากรถแล้วลุงคนขับรถก็พาขึ้นมายังชั้นบนสุดของคอนโดหรูแห่งหนึ่ง หัวใจเต้นตึกตักตั้งแต่ได้ย่ำเท้าขึ้นมาแล้ว เขาจะเป็นพวกมาเฟียโหดเหมือนในละครไหมนะ เข้าไปแล้วจะโดนทำอะไรหรือเปล่าก็ไม่รู้
“ถึงแล้วครับ” เสียงลุงคนขับรถตู้เอ่ยทำลายห้วงแห่งความคิดของผม
เราทั้งสองออกมาจากลิฟต์จากนั้นเดินตรงไปยังประตูบานหนึ่ง ลุงคนขับรถตู้ไม่ได้เคาะประตูแต่เปิดเข้าไปเลยราวกับเคยมาที่นี่ก่อนหน้าแล้ว วินาทีแรกที่เข้ามาในนี้แอร์เย็นฉ่ำมาก เย็นจนผมต้องกอดตัวเองเอาไว้ ที่นี่หรูหราใหญ่โตบ่งบอกถึงฐานะของเจ้าของ
ภายในห้องไม่มีใครอยู่ ลุงคนขับรถตู้พาผมเดินออกมายังสระว่ายน้ำข้างนอก จึงได้รู้ว่าเขาคนนั้นกำลังว่ายน้ำอยู่ในสระพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงก็สวยและเซ็กซี่ส่วนผู้ชายทั้งหล่อและหุ่นล่ำมาก คาดว่านั่นคงจะเป็น ‘คุณนาธาน’ อย่างแน่นอน
“มาแล้วครับคุณนาธาน”
“กลับได้”
“ครับ”
เมื่อลุงขับรถเดินออกไปแล้วผมก็ยืนตัวเกร็งอยู่ที่เดิม มองดูคู่รักคู่นี้พลอดรักกันครู่หนึ่ง ทำเหมือนผมเป็นธาตุอากาศเสียอย่างนั้น ไม่นานพวกเขาก็ขึ้นมาจากสระว่ายน้ำ เดินตรงมานั่งลงบนเก้าอี้อาบแดดที่อยู่ตรงหน้าผม
“นี่เหรอคะเด็กที่คุณจ้างมาเป็นลูกสะใภ้สายวายของแม่คุณ” สายตาที่ผู้หญิงคนนี้มองมาที่ผมเหมือนตัวประหลาดอะไรเทือกนั้น เห็นแล้วหมั่นไส้ชะมัด! ทนเอาไว้ก่อนไอ้บิว ผมทำได้เพียงท่องไว้ในใจตลอด
“ลูกชายของลูกหนี้ที่บ่อนน่ะ เห็นบอกว่าเป็นผู้ชายเรียบร้อย ใสซื่อไม่มีพิษภัย แถมยังเป็นแม่บ้านแม่เรือนเหมือนที่คุณแม่ต้องการ คิดว่าถึงยังไงก็ไม่มีเงินจ่ายเลยจ้างมาซะเลย ซอนย่าว่ายังไง”
“หน้าตาซื่อบื้อจริง ๆ ด้วยค่ะ แม่คุณรสนิยมแปลกประหลาด เป็นสาววายไม่พอยังอยากจะได้ลูกสะใภ้เป็นผู้ชายอีกด้วย”
“ผมก็ไม่รู้จะทำยังไงกับคุณแม่แล้ว เลยต้องยอมตามใจเพื่อให้ท่านมีความสุข อีกสักพักคงจะเลิกเองล่ะมั้ง”
ทั้งสองคนสนทนากันเหมือนผมไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ เริ่มรู้สึกรำคาญซะแล้ว จะให้ทำอะไรก็รีบบอกมาสิพูดอยู่นั่นล่ะ
“สรุปว่าจะให้ผมทำอะไรบ้างครับ ช่วยเล่ารายละเอียดงานให้ฟังหน่อยได้ไหม”
ได้ยินอย่างนั้นผู้หญิงที่ชื่อซอนย่าก็ตวัดสายตามามองผมอย่างไม่พอใจ
“ใครสั่งให้พูด!”
“ไม่มีครับ แต่ผมคิดว่าควรถามเพราะอยากจะเริ่มทำงานแล้ว” ผมตอบออกไปด้วยสีหน้าใสซื่อไร้เดียงสานั่นยิ่งทำให้เจ้าหล่อนเดือดดาลเป็นที่สุด
“อยากจะเริ่มทำงานแล้วเหรอ ได้! งั้นมาทาครีมกันแดดให้ฉันหน่อยสิ”
ผมยืนนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ทำไมจะต้องไปรับใช้ผู้หญิงคนนี้ด้วย แต่ถ้าผมไม่ทำก็เกรงว่าจะโดนรังแกหนักกว่านี้น่ะสิ เลยต้องยอม ๆ ไปก่อน เดินตรงไปรับครีมกันแดดจากนาง ขณะกำลังยืนเปิดฝาครีมกันแดดก็ถูกเท้าของนางถีบลงไปในน้ำอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว โชคดีที่ผมว่ายน้ำเป็นจึงไม่ได้รับอันตรายใด ๆ แต่เสื้อผ้าเปียกปอนไปหมด ตัวเปียกไม่เท่าไหร่แต่มันเจ็บใจนี่สิ
“ฮ่า ๆ เฉิ่มจริง ๆ แกล้งเธอก็สนุกดีนะ”
“มันจะมากไปแล้วนะคุณ ผมไปทำอะไรให้งั้นเหรอ”
“ก็แค่หมั่นไส้ จะทำไมเหรอ ไอ้ขี้ข้า” สีหน้าและแววตาของยัยซอนย่าทำให้หมัดของผมสั่นระริกเลยทีเดียว อยากจะซัดหน้าให้สักหมัดให้สาสม ผมขึ้นมาจากสระกำลังจะเดินตรงไปหาเจ้าหล่อนแต่โดนส่งเสียงห้ามเอาไว้ก่อน
“หยุดอยู่ตรงนั้น เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนั่งรอในห้องนั่งเล่น”
เสียงทุ้มของคุณนาธานสั่ง ทำให้ผมต้องยอมข่มอารมณ์เอาไว้ ถลึงตามองอย่างเอาเรื่องแล้วเดินกลับเข้าไปข้างใน เดินเข้ามาแล้วก็ค้นเอาเสื้อผ้าออกมาเพื่อจะเปลี่ยน มองซ้ายมองขวาเดินหาห้องน้ำจนเจอ เมื่อล็อกประตูแล้วก็เปิดน้ำจากฝักบัวให้ไหลกรี๊ดออกมาดัง ๆ เพื่อระบายความคับแค้นใจ หน็อย!!!! ยัยผีบ้านั่น สักวันเถอะผมจะเอาคืนให้สาสมเลยคอยดู
“ยัยบ้า! สักวันเถอะฉันจะเอาคืน”
สัญญากับตัวเองด้วยสายตามุ่งมั่นแล้วก็ทำการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาในชุดใหม่ ออกมานั่งรอบนโซฟาในห้องนั่งเล่นแล้วก็ส่องสายตามองไปยังสระว่ายน้ำ ตอนนี้ไม่มีใครอยู่สักคน สงสัยยกโขยงกันเข้าห้องนอนแล้วกระมัง ป่านนี้คงจะเล่นจ้ำจี้กัน ให้ตายสิ! ต้องมานั่งรอสองคนนั้นอาโบเดเบกันนานแค่ไหนเนี่ย
“นี่เธอ!”
เสียงทุ้มที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ผมต้องสะดุ้งโหยงด้วยความตกใจ หันไปมองก็เห็นคุณนาธานยืนอยู่ด้านหลังจริง ๆ เขาสวมใส่เพียงกางเกงขาสั้นตัวจิ๋วโชว์ซิกแพ็คและกล้ามล่ำ ๆ โดยไม่อายเลยสักนิด รีบหันกลับมาพร้อมด้วยสีหน้าที่แดงก่ำโดยอัตโนมัติ แต่เอ๊ะ! ทำไมผมต้องอายด้วยเนี่ย อยู่บ้านก็เดินแก้ผ้าต่อหน้าไอ้บอลบ่อย ๆ นี่นา
“อายอะไร เมื่อครู่ก็เห็นตอนฉันใส่กางเกงว่ายน้ำแล้ว ไอ้บื้อ”
ผมได้ยินเสียงหัวเราะเบา ๆ ก่อนเขาจะเดินข้ามฝั่งมานั่งตรงข้าม ยกขาขึ้นไขว่ห้าง ผมจึงมองหายัยตัวแสบนั่นทันที
“ไม่ต้องห่วง ซอนย่ากลับไปแล้ว ตอนนี้เหลือแค่ฉันกับเธอเท่านั้น”
“เริ่มเลยดีไหมครับ”
ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ส่งสายตามามองที่ผม เหมือนต้องการถามว่าให้เริ่มทำอะไรอย่างนั้นหรือ เมื่อรู้ตัวว่าคำถามเมื่อครู่มันสื่อถึงเรื่องอื่นได้ด้วยก็รีบแก้ตัวออกไป
“ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ หมายถึงเริ่มคุยเรื่องงานกัน”
“อ้อ อย่างนั้นเหรอ ฉันก็นึกว่าจะเริ่ม...”
“ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นนะครับ ไม่ได้คิดเลยจริง ๆ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย”
“ฉันก็ไม่ได้ชอบผู้ชาย เอาล่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันจะพูดเรื่องที่ต้องทำให้เธอฟังอย่างละเอียด ห้ามแหกกฎแม้แต่ข้อเดียว เพราะหากเธอทำผิดข้อตกลงฉันไม่รับรองความปลอดภัยของแม่กับน้องชายเธอแน่ อ้อ! และที่สำคัญแมวของเธอด้วย”
“นี่คุณรู้จักแม้กระทั่งแมวผมเหรอ”
“รู้สิ ก่อนจะรับเธอมาฉันสืบมาทุกอย่างแล้ว ไม่งั้นคงไม่เลือกเธอ”
“ถ้าอย่างนั้นก็ว่ามาเลยครับ หากมันไม่เหลือบ่ากว่าแรงผมทำได้หมด เพราะคนอย่างผมความอดทนสูงอยู่แล้ว”
ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “เฉิ่ม ๆ อย่างเธอไม่นึกว่าจะมีความมั่นใจสูงขนาดนี้ เรียบร้อยจริงหรือเปล่าเนี่ย?”
“ทำไม ถึงผมจะเฉิ่มจะเรียบร้อยแต่มีความมั่นใจในตัวเองไม่ได้เหรอ”
“ได้! ฉันชอบคนแบบนี้ล่ะ น่าจะเอาแม่ฉันอยู่”
เขายิ้มมุมปากอีกแล้ว แววตาคู่นั้นช่างน่ากลัวยิ่งนัก ถึงจะหล่อมากก็เถอะแต่ก็ไม่น่าไว้ใจอยู่ดี หลังจากตีฝีปากกันสักพักเขาก็เริ่มเล่ารายละเอียดงานที่ต้องทำให้ฟัง ผมได้แต่นั่งทำหน้าเหวอ มองตาค้าง เมื่อได้ฟังสิ่งที่ตัวเองต้องเผชิญในทุก ๆ วันในคฤหาสน์หลังใหญ่ของเขา
ฟังจบแล้วได้แต่ตะโกนร้องในใจว่า ‘กูจะทนได้นานแค่ไหนวะเนี่ยยยย!!!’