ตอนที่ 1 น้องนับดาว 1

1857 Words
มือของฉันเย็นเฉียบและชื้นเหงื่อเพราะพี่ทองไม่ยอมปล่อยมันให้เป็นอิสระ เขายืนกรานว่าจะไปส่งที่บ้าน หลังจากพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องกับคุณป้าหทัยรัตน์ โดยเฉพาะเรื่องที่ว่าฉันกับพี่ทองแอบคบหากันมาเกือบตั้งสี่ปีแล้ว ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ทองต้องโกหกว่าเราเป็นอะไรกัน ใช่ว่าฉันไม่อยากเป็น แต่ฉันแค่กลัวว่าตัวเองจะช้ำหนักต่างหาก สี่ก่อนที่ถูกพี่ทองปฏิเสธ นับดาวคนนี้ยังจำได้ไม่ลืม “พี่ทองคะ” ฉันหรี่ตามองพี่ทอง ก่อนจะพยักพเยิดเป็นเชิงว่าให้ปล่อยมือกันได้แล้ว “เดี๋ยวผมไปส่งนับดาวกลับบ้านก่อนนะครับคุณแม่ แล้วก็อย่าลืมแคนเซิลน้องลูกตาลด้วยนะครับ” ประโยคเด็ดที่พี่ทองกล่าวกับผู้ให้กำเนิด ทำให้ฉันรู้สึกคันหัวใจยุบยิบ แต่พอไม่รู้จะทำอะไรเลยก้มลงหยิบมะม่วงลูกโตแก้โมโห หิรัณย์ นันทปภากร หนุ่มหล่อรูปร่างสูงใหญ่ นิสัยดีพูดเพราะ กิริยาสุภาพ มองดูเฉย ๆ เหมือนเป็นคนนิ่ง ๆ แต่พอยิ้มก็ดูอบอุ่นน่ากอด ราวกับหม่อมเจ้าในละคร แต่ฉันกอดเขาไม่ได้ เพราะผู้ชายคนนี้ไม่เคยมีใจให้กัน เขาก็แค่ใช้ฉันเป็นไม้กันหมา! “พี่ทองไม่ต้องไปส่งดาวหรอกค่ะ เดี๋ยวดาวปีนกำแพงข้ามกลับไปเอง” กว่าจะตัดใจจากพี่ทองได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันเคยแอบรักพี่เขาจนแทบคลั่ง ตอนนั้นถ้ายังอยู่ที่กรุงเทพฯ เห็นหน้ากันเรื่อย ๆ คงลำบาก ฉันเลยตัดสินใจย้ายไปเรียนต่อต่างจังหวัดเสียให้หมดเรื่อง “เดินนิดเดียวก็ถึงแล้ว อย่าปีนเลย มันอันตราย” “อยู่ที่นี่อันตรายกว่ามากค่ะ” ฉันรีบเถียง “อย่าดื้อสิคนดี” คำว่าคนดีของพี่ทอง ทำให้ฉันเข่าแทบทรุด! ฉันไม่อยากทะเลาะกับพี่ทองเพราะรู้ดีว่าจะต้องเป็นฝ่ายแพ้ เพราะแค่พี่ทองจับมือกัน หัวใจฉันก็สั่นพลิ้ว จนแทบจะต้องซีพีอาร์ ช่วยไม่ได้ แอบรักเขาไปแล้ว ที่บอกตัวเองว่าตัดใจได้นั่นก็โกหกทั้งนั้น “หนูดาวให้พี่เขาไปส่งนะคะ เดี๋ยวเย็น ๆ แม่ของหนูกลับมาแล้วป้าจะแวะเข้าไปหา” ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคุณป้าจะไปพูดเรื่องอะไร ไม่มีทางเสียล่ะที่ฉันจะยอม “ค่ะ แต่คุณป้าอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับแม่นะคะ ดาวเพิ่งเรียนจบได้ไม่ถึงสามเดือน ยังไม่พร้อมให้ใครรู้เรื่องของดาวกับพี่ทอง คุณป้าไม่โกรธดาวนะคะ คือดาวกลัวว่าจะถูกแม่ดุน่ะค่ะ” “ไม่ดุหรอก ถ้าแม่ไปพูดเอง คุณแม่ของหนูดาวจะดุไปทำไม” สุดยอดเลยค่ะคุณแม่ของพี่ทอง เปลี่ยนสถานะตัวเองจากคุณป้าข้างบ้านกลายเป็นคุณแม่ของฉันเรียบร้อย ถ้าเรื่องที่พี่ทองชอบฉันเป็นเรื่องจริง ฉันคงมีความสุขมากที่แม่แฟนรักใคร่เอ็นดูกัน แต่นี่มันไม่ใช่ไง “คุณแม่ให้เวลาน้องหน่อยนะครับ น้องดาวเพิ่งจะเรียนจบ ยังต้องหางานทำ อย่าเพิ่งเร่งรัดบังคับน้องให้ทำในเรื่องที่ไม่อยากทำเลยนะครับ” พี่ทองรีบช่วยฉันให้พ้นจากปัญหาที่เขาก่อ ว่าแต่พี่ทองรู้ได้ยังไงว่าฉันเพิ่งจะเรียนจบและกำลังหางาน หรือว่าเขาแอบตามฉันอยู่นะ... ฉันบอกตัวเองให้หยุดมโน “แล้วจะไปหางานให้ลำบากทำไมล่ะลูก ไปทำงานกับพี่ทองสิ ไหนช่วงนี้งานหนักมาก จนคุณสุภาพ เลขาส่วนตัวแทบจะไม่ได้กินข้าว ให้น้องไปช่วยสิตาทอง” คุณป้าหทัยรัตน์ช่วยหางานให้ฉัน ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องดีหรือร้าย แต่เด็กจบใหม่ในยุคโควิดไม่ควรลีลาอะไรมาก โอกาสมาก็ควรรีบคว้าเอาไว้ให้ดี “เรื่องนี้คือผม...” “ไม่เป็นไรค่ะพี่ทอง เดี๋ยวดาวอธิบายเอง” อย่าหวัง! ฉันจะไม่ยอมให้พี่ทอง คนใจร้ายที่หักอกฉันเมื่อสี่ปีก่อนเป็นฝ่ายเดียวได้ประโยชน์จากการเป็นแฟนปลอม ๆ แค่ฝ่ายเดียวหรอก! “คุณป้าคะ คือดาวก็ว่าจะขอให้พี่ทองคุยกับคุณแม่อยู่พอดี คือพี่ทองอยากให้ดาวไปทำงานที่บริษัท แล้วก็ว่าจะขอให้พี่ทองหาคอนโดข้างนอกให้ดาวอยู่ด้วย เพราะบริษัทของพี่ทองอยู่ไกล ดาวไม่อยากเสียเวลาเดินทางน่ะค่ะ” ตัวฉันเองยังนึกไม่ถึงเลยว่าจะหลุดปากพูดออกไปแบบนั้น ฉันจำได้ว่าบริษัทพี่ทองอยู่ไกลมาก ตัวพี่ทองเองจึงไม่สะดวกขับรถไปกลับและพักอยู่ที่คอนโดใจกลางเมืองกรุงเทพฯ พี่ทองจะมาให้เห็นหน้าเฉพาะวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น “หนูดาวจะไปทำงานที่บริษัทพี่ทองเหรอลูก” คุณป้าหทัยรัตน์ดีใจจนเก็บอารมณ์ไม่อยู่อีกแล้ว “ค่ะ แต่ว่าต้องให้พี่ทองสัมภาษณ์กันให้เรียบร้อยก่อน แล้วก็เรื่องของคุณแม่...” “เด็กไม่ต้องพูดแล้ว เดี๋ยวผู้ใหญ่จัดการเอง!” คุณป้าสัญญาว่าจะเก็บเรื่องของฉันกับพี่ทองไว้ก่อน และจะช่วยอธิบายให้แม่ฟังว่าทำงานกับพี่ทองน่ะดีแล้ว การเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของท่านประธานบริษัท นันทปภากร กรุ๊ป หนึ่งในบริษัทออกแบบและตกแต่งชื่อดังของประเทศไทยจะช่วยให้ฉันมีประวัติการทำงานที่ดี หากอยากสมัครบริษัทไหนในอนาคตก็จะเป็นใบเบิกทางสำคัญ ส่วนเรื่องคอนโดนั่นต้องพยายามมากหน่อย เพราะหากเลือกได้ แม่ก็คงอยากให้ฉันทำงานแถวบ้าน แต่ฉันไม่ชอบเดินทางในเมืองหลวง ทั้งรถติด ทางเท้าไม่สมประกอบ ฉันผู้อยู่เชียงใหม่มานานกว่าสี่ปี อดทนทำใจเริ่มวันด้วยการเจอเรื่องพวกนี้ไม่ได้จริง ๆ “ดาวอยากไปทำงานกับพี่จริง ๆ เหรอ” ความอบอุ่นของคุณหิรัณย์หายไปทันทีที่ได้อยู่ตามลำพังกับฉัน เขาจ้องกันเขม็งคล้ายต้องการฟันธงให้ชัดว่าฉันคิดอะไรอยู่กันแน่ “จริง ๆ ดาวก็ไม่ได้อยากทำงานกับพี่ทองหรอกค่ะ แค่ไหลตามไปเรื่อย แต่ถ้าพี่ทองไม่อยากให้ดาวทำงานด้วย พี่ทองบอกคุณป้าก็ได้นี่คะว่าดาวไม่ผ่านสัมภาษณ์” “ไม่ได้หรอก ทำแบบนั้นคุณแม่รู้แน่ แฟนกันที่ไหนจะไม่อยากอยู่ใกล้กัน จริงสิ ฉันขอบใจเธอมากนะที่ช่วยเล่นละคร ส่วนเรื่องงาน ฉันจะดูให้แล้วกันว่ามีอะไรให้ทำได้บ้าง” พี่ทองกลับมาห่างเหิน เย็นชาเหมือนที่จำได้ ฉันไม่รู้ว่าควรจะเสียใจที่ผ่านไปนานเท่าไหร่เขาก็ยังไม่รัก หรือว่าควรดีใจที่เขาไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกรัก เช่นเดียวกับที่ทำเมื่อหลายปีก่อน พี่ทองเป็นพี่ชายข้างบ้านที่อบอุ่น จนกระทั่งฉันเป็นสาว เขาก็เริ่มรักษาระยะห่าง แทบจะไม่พูดไม่คุยอะไร นอกจากทักทายตามมารยาท แล้วฉันจะไปนึกถึงเรื่องเก่าทำไมล่ะ ระหว่างฉันกับพี่ทองมันจบไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องนึกถึงเรื่องในอดีตด้วย ‘ดาวยังเด็ก ไม่เข้าใจหรอกว่าความรักคืออะไร’ ‘ดาวเด็ก แต่ดาวไม่ได้โง่นะคะ!’ ‘พี่ไม่ชอบเด็กก้าวร้าว พี่ชอบผู้หญิงหวาน ๆ น่ารักน่าเอ็นดู ดาวต้องเข้าใจนะว่าเรื่องความชอบมันบังคับกันไม่ได้’ ‘พี่ทองชอบสาวหวานแบบแฟนเก่าของพี่ทองใช่ไหมคะ’ ‘อื้อ ดาวกลับเข้าบ้านไปเถอะ พี่ต้องไปทำงานแล้ว’ วันที่ฉันถูกปฏิเสธอย่างร้ายกาจ พี่ทองหรือคุณหิรัณย์ กำลังจะออกไปประชุมที่บริษัท เขาไม่ได้มีเวลามาคุยอะไรกับฉัน สาวน้อยที่เพิ่งจะเรียนจบมัธยมปลาย สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น เนื้อตัวเปื้อนโคลนไปทั้งตัว วันนั้นฉันกำลังปลูกต้นไม้อยู่หลังบ้าน วันนี้เองก็เช่นกัน ไม่น่าอยากกินมะม่วงน้ำปลาหวานเลย! “เรื่องคอนโด ดาวอยากอยู่คอนโดจริงๆ เหรอ เพิ่งจะย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ทำไมไม่อยู่กับแม่ให้มาก ๆ หน่อย” “แม่ไปทำงานก็ไม่ค่อยอยู่บ้านค่ะ กลับมาวันเสาร์อาทิตย์ บางอาทิตย์ก็ไม่กลับเสียได้ซ้ำ” แม่ของฉันเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คุณพ่อเสียแล้วแต่ฉันยังจำความไม่ได้ แล้วท่านก็ทำงานจนแทบไม่ได้พัก ออกต่างจังหวัดอยู่บ่อย ๆ ที่บ้านจึงมีแค่แม่บ้าน ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ที่ไว้ใจได้คอยอยู่ดูแล “ตามใจ เดี๋ยวคุณแม่ก็คงไปคุยให้เอง หวังว่าจะไม่หลุดพูดอะไรที่ไม่เข้าท่า ไม่อย่างนั้นเรื่องคงไม่ง่ายแน่ ๆ” พี่ทองหมายถึงเรื่องที่เราคบกันอยู่ คบกันแบบปลอม ๆ “นับดาว เธอสะดวกใจใช่ไหมที่เราแกล้งคบกันแบบนี้ ไม่ได้รู้สึกลำบากใจเพราะเรื่องเก่า ๆ ใช่ไหม” “โอ๊ย เรื่องเก่าแล้วค่ะ ดาวไม่รู้สึกอะไรแล้ว ขำตัวเองอีกต่างหากที่เคยบอกว่าชอบพี่ทอง ถ้าพี่ทองยอมรับรักและคบกับดาวจริงๆ ดาวก็คงไม่พ้นมีแฟนแก่คราวลุงแล้วละค่ะ” “นี่เธอ!” “ถึงหน้าบ้านแล้ว ดาวขอตัวก่อนนะคะ” ฉันไม่อยากอยู่ใกล้เขานาน ๆ เพราะกลัวว่าจะใจอ่อน “เดี๋ยวสิ อยู่นิ่ง ๆ ก่อน” เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ก่อนจะบรรจงเช็ดรอยเปื้อนบนใบหน้าของฉันเอง “โตเป็นสาวแล้ว เลิกทำตัวซุ่มซ่ามสักทีนะนับดาว” พี่ทองพูดเท่านั้นก็หันหลังกลับเข้าบ้านตัวเองไป ผู้ชายหน้านิ่งผู้ควบตำแหน่งลุงข้างบ้านที่ฉันแอบตั้งฉายาให้ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่ากำลังทำให้หัวใจของสาวน้อยที่เพิ่งจะเรียนจบเต้นแรง ฉันบอกตัวเองมาตลอดว่าตัดใจได้แล้ว แต่ไอ้การเช็ดแก้มกันเมื่อครู่นี่แหละที่ทำให้ฉันมั่นใจได้ว่า ไอ้คำว่าตัดใจได้แล้วมันไม่มีอยู่จริง ฉันชอบพี่ทอง นับดาวคนนี้ชอบพี่ทอง! ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสที่จะจีบหรืออ่อยให้เขาชอบกลับ แต่ตอนนี้ฉันกำลังจะได้ไปทำงานอยู่ใกล้ ๆ กับเขาแล้ว ยังไงก็ต้องมีใจอ่อนกันบ้างละ ฉันจำได้ว่าพี่ทองชอบสาวหวาน แฟนเก่าของพี่ทองที่เคยแวะมาบ้าน ชอบแต่งตัวด้วยชุดเดรสน่ารักคลุมเข่า พูดจาออดอ้อนคะขาเอาใจอยู่เสมอ ฉันไม่แน่ใจว่าเขาเลิกกันเพราะอะไร แต่ฉันไม่สนใจหรอก หากแกล้งทำตัวน่ารักเหมือนผู้หญิงคนนั้นได้ พี่ทองจะต้องตกหลุมรักฉันอย่างแน่นอน!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD