ทั้งสองใช้ตะเกียบฟาดฟันงัดกันด้วยความโมโห
“คิดว่าเอาเงินฟาดหัวฉันสองพันแล้วจะหนีไปได้ง่ายๆ เหรอ”
“งก! ตั้งสองพันเชียวนะ”
อันดามันมองเมิน แล้วหันมากัดคนตรงหน้าต่อ “แล้วที่บอกว่าจะไปวัด หน้าแบบนายอย่าเลย ฉันขอแนะนำว่าให้ไปป่าช้าจะดีกว่า อย่าเข้าไปในวัดให้เสื่อมศาสนาเลย”
“หน็อย... ปากแบบเธอนี่คงหาสามีไม่ได้แน่ชาตินี้ หน้าตาก็ไม่สวย หุ่นเหมือนไม้กระดาน ขึ้นคานแหงๆ”
“ไอ้ปากฟาร์มพูเดิล ไอ้ทิงเจอร์ราดแผลสด ปากแบบนายอย่าว่าแต่มีแฟนเลย ผู้หญิงก็ไม่แล”
“แล้วเธอล่ะใครจะแล ขืนใครได้ไปเป็นภรรยา คงอกแตกตาย แล้วทิงเจอร์ราดแผลสดของเธอหมายความว่ายังไง”
ชายหนุ่มอดเลิกคิ้วถามไม่ได้ อันดามันเบ้ปากใส่ อยากบอกว่าที่เรียกไอ้ทิงเจอร์เพราะอยากว่าให้เจ็บแสบ แต่คนแบบเขาหรือจะเข้าใจ ให้ตายเถอะ! พระเจ้าช่วยกล้วยทอด ซวยจริงๆ ที่มาเจออีตานี่อีก
“ไม่เข้าใจ เนื่องจากสมองของนายมันน้อย แต่เสียใจด้วย ฉันจะบอกอะไรให้ ว่าไม่กี่วันฉันจะแต่งงานกับคู่หมั้นคู่หมายที่กำลังจะมาสู่ขอ ทั้งหล่อ ทั้งรวย เป็นสุภาพบุรุษ การศึกษาดี ชาติตระกูลดีย่ะ”
เธอเชิดหน้าใส่ด้วยความสะใจที่เห็นเขาอ้าปากค้าง
“ฉันจะบอกเธอเหมือนกันว่า... ฉันจะแต่งงานกับผู้หญิงสาวสวย เพียบพร้อมเป็นกุลสตรี เป็นแม่บ้านแม่เรือน ทำอาหารเก่ง การศึกษาสูง ชาติตระกูลไม่ต้องพูดถึง... ถึงกับเป็นลูกหลานพระยาเชียวนะ”
เขาจ้องด้วยความสะใจไม่ต่างกัน
อันดามันหน้าถอดสีที่เขากำลังจะแต่งงานไม่ต่างจากเธอ แต่ต่างกันตรงที่เธอถูกบังคับ
แต่เขาสิ... เจ้าสาวเขาช่างเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมเสียจริง อิจฉาๆๆ ตาร้อนผ่าวๆ ทำไมอีตานี่โชคดีแบบนี้นี่
ส่วนก้องทวีปก็พูดไปแบบนั้นเอง ยังไม่รู้ว่าคนที่จะแต่งงานด้วยเป็นยังไง แต่ขอแค่ให้ได้ข่มอีกฝ่ายไว้ก่อนเป็นพอ
“มาแล้วค่ะ”
พนักงานรีบนำก๋วยเตี๋ยวเรือสูตรเด็ดมาเสิร์ฟ ก่อนที่ทั้งสองจะสังหารโหดกัน ต่างฝ่ายต่างรีบลากถ้วยของตัวเองมาตรงหน้า มองกันอย่างจะให้อีกฝ่ายไหม้เป็นจุณ
“ฉันหยิบก่อน”
อันดามันกำช้อนแน่น ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาหยิบด้ามเดียวกับเธอด้วย
“ฉันต่างหากหยิบก่อน” เกิดศึกการแย่งช้อนส้อมกันอีกครั้ง ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะเป็นผู้ชนะเมื่อหญิงสาวกระทืบบนหลังเท้าเขาโดยแรง จนก้องทวีปจำต้องปล่อย
“โอ๊ย! แสบนักนะ เห็นว่าเป็นผู้หญิงหรอกนะ ฉันถึงยอม”
ก้องทวีปหน้าเขียวด้วยความเจ็บ
“เชอะ เป็นผู้หญิงแล้วทำไม”
เถียงกันไม่ลดละ พลางก้มมองในถ้วยของตัวเอง
“ไม่ใช่นี่” พูดพร้อมกันแล้วชะโงกมองถ้วยของอีกฝ่าย ก่อนเลื่อนสลับกันอัตโนมัติ ก้องทวีปสั่งเส้นใหญ่ ส่วนอันดามันสั่งเส้นเล็ก
“กินเส้นใหญ่คงเบ่งกล้ามไปทั่วน่ะสิ” เปรยขึ้นอย่างหาเรื่อง
“ใครบอก หมายถึงฉันเป็นคนหนักแน่นต่างหาก แล้วเธอล่ะกินเส้นเล็ก กระจอกงอกง่อย”
“ใครบอก หมายถึงฉันเป็นคนอารมณ์ดีต่างหากย่ะ ไม่ได้ทำหน้าอมทุกข์เหมือนนาย”
“เหรอ ตลกตายแหละ ฉันนึกว่าเจอพวกซาดิสม์ซะอีก ผู้หญิงบ้าอะไรโหดชะมัด”
“พูดอะไร”
หญิงสาวถามเสียงสูง ก้องทวีปยักไหล่ก่อนตักพริกใส่ในถ้วยของตัวเอง อันดามันตาโต
“กินเผ็ดแบบนี้ระวังสมองฝ่อ”
“กินจืดๆ แบบเธอพยาธิไม่ตาย ถึงได้ผอมเหมือนไม้เสียบลูกชิ้น โดนพยาธิแย่งอาหารหมด”
“ฉันไม่กินเผ็ดเพราะดีต่อสุขภาพย่ะ ถ้านายชอบกินเผ็ด เอาพริกเผาใส่ลงไปด้วยสิ” อันดามันตักพริกเผารสจัดจ้านใส่ให้เขาอีกช้อน
“เธอล่ะ เห็นใส่แต่น้ำตาล ชอบกินหวานรึ ระวังเบาหวานถามหา แต่ฉันอยากช่วยสงเคราะห์”
ก้องทวีปใส่น้ำตาลในถ้วยหญิงสาวอีกช้อน ทั้งสองสะบัดหน้าใส่กันก่อนลงมือกินของตัวเอง
ชายหนุ่มกินอย่างเอร็ดอร่อยแม้จะเผ็ดแทบแย่ เหงื่อไหลท่วมหน้า แต่ยังฝืนยิ้มทำท่าเอร็ดอร่อยเกินเหตุ อันดามันมองด้วยความหมั่นไส้ ทำเป็นกินของตัวเองที่หวานเหมือนน้ำเชื่อมด้วยความพะอืดพะอม แต่ฝืนกัดฟันยิ้มไม่ยอมแพ้ ทำท่าให้อีกฝ่ายรู้ว่ามันอร่อยมาก
“หวานจนแทบกลืนไม่ลงแล้ว” ให้ตายเถอะ!!!
“เก็บตังค์ด้วยค่ะ/ครับ”
ทั้งสองพูดพร้อมกัน แล้วมองหน้ากันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ
“ขออย่าให้เจอกันอีกเลย”
อันดามันยกมือขึ้นท่วมหัวขณะเดินตามร่างสูงที่ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์มาดเซอร์แถมไว้ผมยาวถึงกลางแผ่นหลัง
“สาธุ ขอให้เป็นไปตามนั้น”
ทั้งสองจะเดินแยกไปยังรถที่จอดอยู่คนละฟาก แต่ชนกับหญิงแก่คนหนึ่ง
“ขอโทษครับ/ค่ะ”
“ไม่เป็นไรจ้ะ”
หญิงชราผมขาวโพลนจับมือของสองหนุ่มสาวไว้คนละข้าง
“พ่อหนุ่ม แม่หนู ทั้งสองจะได้แต่งงานเร็วๆ นี้ ขอให้มีความสุขมากๆ นะจ๊ะ”
“เฮ้ย!”
คู่กัดทั้งสองอุทานพร้อมกันอย่างตกใจ รีบปล่อยมือหญิงชรา ก่อนจับอีกครั้งเพราะนางทำท่าจะเสียหลักล้ม
“ยายเข้าใจผิดแล้วล่ะครับ เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
รีบปฏิเสธทันควัน
“ใช่แล้วค่ะ” หญิงสาวย้ำสำทับเช่นกัน
“ช่วยพยุงยายไปนั่งตรงโน้นหน่อย”
หญิงชราบอกทั้งสองให้ช่วยพยุงนางไปนั่งที่ใต้ต้นไม้เพื่อรอหลานสาว
“ยายจะไปไหนเหรอคะ เห็นเดินมาคนเดียว”
อันดามันรีบถามด้วยความเป็นห่วง
“ให้ผมไปส่งไหมครับ”
ก้องทวีปรีบถามด้วยความมีน้ำใจไม่แพ้กัน
“ไม่ต้องหรอก แหม...น่ารักจริงๆ สมกับเป็นเนื้อคู่กัน จิตใจเมตตากรุณา สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก”
นางไม่สนใจการปฏิเสธของทั้งสอง ยังพูดย้ำเหมือนเดิม
“ไม่ใช่ครับยาย ผมไม่เอายัยปากกรรไกรนี่เป็นแฟนหรอกครับ แค่คิดก็สยองแล้ว” ก้องทวีปทำท่าทางประกอบ
“โห... นึกว่าฉันอยากเอาคุณเป็นแฟนหรือไง แค่เหยียบแผ่นดินเดียวกันยังไม่อยากเลย” รีบโต้กลับอย่างไม่ยอมแพ้ง่ายๆ
“แบบนี้ลูกดกหัวปีท้ายปีถ้าแต่งงานกัน”
หญิงชราจับฝ่ามือทั้งสองดูลายมือด้วยความมั่นอกมั่นใจ หลังจากใช้สัมผัสพิเศษบางอย่างที่มีติดตัวมาตั้งแต่เกิด
“ใครจะแต่งงาน หนูไม่มีทางแต่งงานกับนายหน้าปลาดุกแผ่ขยายครีบเต็มหัวนี่หรอกค่ะ”
พูดแล้วแอบเอื้อมมือไปดึงผมยาวสลวยของเขาทางด้านหลังไม่ให้หญิงชราเห็น ชายหนุ่มร้องโอ๊ยด้วยความเจ็บ กัดฟันคาดโทษเอาไว้
“ผมก็ไม่มีทางแต่งงานกับยัยหน้าปลาช่อนครีบดกนี่หรอกครับ”
ก้องทวีปดึงหูของอีกฝ่ายแล้วหยิกแก้มโดยอ้อมไปด้านหลังเหมือนกัน อันดามันร้องโอ๊ยไม่ต่างกัน ทั้งสองฟาดฟันเหมือนเกลียดกันสักร้อยชาติแล้วสะบัดหน้าใส่กัน
“เป็นอะไรจ้ะพ่อหนุ่ม แม่หนู” หญิงชราถามด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าครับ/เปล่าค่ะ” ตอบพร้อมกันแต่แอบใช้สายตาฟาดฟันกันทางด้านหลังไม่ให้ท่านเห็น
“เกลียดอะไรมักได้อย่างนั้น แต่เชื่อยายเถอะว่าเราสองคนเป็นเนื้อคู่กัน ยายต้องไปแล้ว โน่นหลานสาวเดินมารับแล้ว”
ทำท่าจะปฏิเสธแต่เมื่อเห็นยายลุกขึ้นจึงเงียบทั้งคู่ ช่วยพยุงให้หญิงชราลุกขึ้น ยืนส่งท่านให้หลานสาวที่มารอรับอยู่อีกด้าน เสร็จเรียบร้อย ก่อนหันมาแยกเขี้ยวใส่อีกฝ่าย สะบัดหน้าใส่กันอีกครั้ง เดินไปขึ้นรถของตัวเอง ก่อนรีบขับรถออกไป...
แขกคนสำคัญของบ้าน “อ่าวสุดเขต” คือก้องภพกับก้องทวีป ทั้งสองได้เดินทางมาถึงในเวลาเที่ยงเพื่อรับประทานอาหารกลางวันตามคำเชื้อเชิญ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือการดูตัวว่าที่เจ้าสาว
“สวัสดีครับคุณก้องภพ เชิญนั่งก่อนครับ”
เอเชียรีบเชิญก้องภพและลูกชายให้นั่งในห้องรับแขกด้วยความยินดีปรีดา
“สวัสดีครับคุณลุง”
ก้องทวีปทำความเคารพเอเชียด้วยกิริยานอบน้อม ชายสูงวัยรีบสำรวจว่าที่อนาคตลูกเขยอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยิ้มรู้สึกถูกชะตากับชายหนุ่มรุ่นลูกคนนี้เหลือเกิน ท่าทางอ่อนน้อมมีสัมมาคารวะ
ส่วนองศา อ่าวสุดเขต มองว่าที่น้องเขยนิ่งเพื่อประเมิน ท่าทางอารมณ์ศิลปินใช่ย่อย