Chapter 2
ข้อเสนอ
@ Payu ClubZone
เอลิซและเคนนั่งรถแท็กซี่มายังสถานที่ที่ทำงานพร้อมกัน เคนรู้สึกประหม่าและวิตกเป็นอย่างมากเพราะไม่เคยทำงานมาก่อน แถมยังต้องเผชิญหน้ากับเจ้าของร้านที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเจ้าหนี้โหดเหี้ยมนั่นอีก
“ลิซเข้าไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันมา” เคนบอกเสียงเรียบเมื่อขายาวย่างกรายเข้ามาด้านในตัวร้าน
เอลิซตอรับก่อนเดินออกไปทำให้เคนแยกตัวแยกตัวไปอีกฝั่ง ซึ่งที่ตรงนั้นเป้นพื้นที่ส่วนตัวของเจ้าหนี้เขาที่พ่วงด้วยตำแหน่งเจ้านายกุมชีวิตและลมหายใจ
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
มือใหญ่เคาะประตำสามครั้งและรอฟังคำตอบรับจากคนด้านในด้วยท่าทางประหม่า
“เชิญ”
สิ้นเสียงแข็งกร้าวก็ทำให้เคนตัดสินใจเปิดประตูและเดินเข้าไปด้านในห้องเย็นเฉียบ
มันเป็นห้องทำงานส่วนตัวของพายุที่เต็มไปด้วยกองเอกสารมากมาย ถัดไปด้านในก็เป็นห้องพักที่มีเตียงนอนและโซฟาไว้รองรับอย่างสมบูรณ์แบบ ที่แห่งนี้ไม่ต่างจากห้องพักเลยสักนิด
“ผมมาทำงานตามที่คุณสั่ง”
“มาตรงเวลาดี...แต่กูมีเรื่องที่ต้องตกลงกับมึง ตามกูมา” พายุบอกไว้แค่นั้นก่อนจะหยัดตัวขึ้นและเดินกระแทกไหล่เคนออกไปด้านนอก
ขายาวก้าวฉับตรงไปยังห้องห้องหนึ่งซึ่งเป็นห้องโล่งกว้างไม่มีแม้แต่เฟอร์นิเจอร์ชิ้นเล็ก มันเป็นห้องอับ ๆ แทบจะไร้แสงสอดส่อง และเพียงย่างกรายเข้าไปก็ทำให้เคนนิ่วหน้ายกมือขึ้นปิดจมูกทันที เนื่องจากกลิ่นไม่พึงประสงค์พุ่งเข้ามาอย่างจัง
“มึงเห็นรอยบนพื้นนี่ไหมไอ้เคน” ร่างสูงหันมาหาคู่กรณีพลางเหยียดยิ้มร้ายอย่างคนเหนือกว่า
สายตาคมจรดมองพื้นปูนที่ตอนนี้ถูกเหยียบย่ำไปด้วยทั้งสองเท้าของเขา หากแต่รอยเหล่านั้นเป็นรอยสีเข้มที่มองแทบไม่ออกมาจากเดิมเริ่มต้นนั้นคืออะไร
“รอยเลือดไง...รอยเลือดของคนที่กูฆ่ามันตายกับมือ!”
“อึก...” เคนลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ สายตาหวาดหวั่นก้มลงมองรอยเลือดนั้นที่แห้งแข็งจนมองไม่เห็นเค้าเดิม
และเขาก็เชื่อมั่นว่าคำพูดนั้นจะเป็นเรื่องจริง
เพราะพายุขึ้นชื่อเรื่องความโหดเหี้ยม ทั้งยังมีอิทธิพลไปทั่วประเทศ เรื่องฆ่าคนด้วยมือเปล่าไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับคนอย่างเขา!
“มึงรู้ใช่ไหมว่ากูสามารถฆ่ามึงตายได้ง่าย ๆ และแน่นอนว่าศพของมึงจะหายสาบสูญโดยที่ไม่มีใครระแคะระคาย”
“อึก ผะ...ผมรู้ครับ!”
“งั้นก็มาคุยข้อตกลงของเรากันเลย!” ปืนสีดำขลับถูกหยิบออกมาก่อนที่มันจะกดจ่อกลางหน้าผากของคนตรงหน้าด้วยความหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว
“อึก...อย่าฆ่าผมเลย”
“กูจะให้มึงผ่อนหนี้กูทุกเดือน ทุกวันที่สิบห้ามึงต้องเอาเงินมาให้กู! ตลอดเวลาสองเดือนกูจะคอยดูความประพฤติของมึง และอย่าคิดหนี...ไม่งั้นมึงตายแน่!” พายุกดเสียงต่ำพร้อมกับย้ำน้ำหนักมือให้ปืนกดจ่อแนบชิดไปกับศีรษะของเคน
โดยที่เขาไม่ทันรู้ตัวเลยว่ากำลังมีสายตาคู่หนึ่งที่แอบมองสถานการณ์อยู่ด้านนอกอย่างไม่ตั้งใจ
จนกระทั่ง...
“หยุดนะ! นายจะทำอะไรเพื่อนฉัน!” เสียงเล็กเอ่ยตะอกพร้อมกับการรีบวิ่งปรี่เข้ามาอย่างรวดเร็ว
มือสองข้างหยิบไม้ใกล้มือขึ้นมาถือหวังป้องกันตัว แม้จะรู้ดีว่าไม้ในมือกับปืนเงาวาบจะเทียบชั้นกันไม่ได้ อย่างไรแล้วเธอก็ควรมีของติดไม้ติดมือไม้ต่อสู้
“ออกไป!” พายุตวาดกร้าวทั้งที่สายตายังไม่ได้หันไปมองยังเจ้าของเสียง
แรงโทสะปรากฏขึ้นยิ่งทำให้เขากดย้ำน้ำหนักปืนแน่นกว่าเก่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้หันไปมอง แต่ทว่าก็รับรู้ว่าคนคนนั้นจะต้องเป็นเพื่อนสนิทของลูกหนี้เขาอย่างแน่นอน
เพราะประวัติทั้งหมดเขาได้ให้คนไปสืบมาแล้วเรียบร้อย แต่มันก็เกิดความบังเอิญขึ้นได้อย่างน่าฉงนที่เจ้าตัวมาสมัครงานที่ผับของเขาโดยไม่ต้องออกแรงให้เหนื่อย
“เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเธอ! ออกไปซะลิซ!” เคนออกปากไล่เอลิซทันที เสียงแข็งกร้าวตวาดลั่น ทั้งกลัวว่าปืนจะลั่นไก และก็กลัวว่าเพื่อนสนิทคนนี้จะได้รับอันตรายตามไปด้วย
“แต่เขามีปืนนะ! เขาจะยิงนาย!” เอลิซส่ายหน้าเป็นการยืนกรานว่าเธอจะไม่ไปไหนจนกว่าคนป่าเถื่อนจะยอมลดปืนลง
“ถ้าไม่อยากตายก็เลิกพล่ามแล้วออกไปซะ!” พายุเอ่ยย้ำอีกครั้ง
ตั้งใจว่าจะดึงเธอเข้ามาเป็นเหยื่อล่อในเกมนี้ แต่ทว่ามันต้องไม่ใช่วันนี้ที่เธอจะแส่หาเรื่องทั้งที่ไม่ควร
พลั่ก!
“เราจะช่วยนายเอง ออกไปนะ อย่ามาทำตัวป่าเถื่อนแบบนี้!” หญิงสาววิ่งเข้ามากอดแขนเพื่อนสนิท ซ้ำยังผลักร่างกำยำของพายุออก โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวกับกระบอกปืนที่พร้อมลั่นไกได้อยู่ทุกเมื่อ
“เธอช่วยอะไรฉันไม่ได้ทั้งนั้น ออกไปเดี๋ยวนี้เอลิซ!” แม้ว่าตอนนี้จะอยู่ห่างจากระยะของปืน แต่อย่างไรแล้วเขาก็ควรไล่เอลิซให้ออกไปจากสถานการณ์ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยเร็ว
“เมื่อกี้เธอบอกว่าจะช่วยมันงั้นเหรอ?” พายุลดกระบอกปืนลงก่อนจะเค้นถามเสียเข้ม ขณะที่สายตาก็ตวัดมองคนตัวเล็กที่ตอนนี้กำลังสั่นกลัวแต่ทว่ายังคงแสดงความพยศต่อต้านเขาอย่างถึงที่สุด
“ฉันจะแจ้งตำรวจ บ้านเมืองมีขื่อมีแปร นายจะทำเรื่องเลวทรามแบบนี้ไม่ได้นะ!”
“ฉันบอกให้เธอออกไปไงวะ นี่มันไม่ใช่เรื่องเล่นนะเอลิซ!”
“ฉันไม่ไป ฉันจะ...”
“ถ้าอยากช่วยเพื่อนเธอมากก็เอาสิ ฉันมีข้อเสนอ” เสียงเข้มดังแทรกขึ้นก่อนที่เพื่อนสองคนจะทะเลาะวิวาทกันจนไม่ได้ความ
ทั้งที่ตั้งใจจะปล่อยผ่านแล้ว แต่ในเมื่อเจ้าตัวยังดื้อดึงที่จะเข้ามาในเกมเขาก็ยินดีต้อนรับเธอทุกเมื่อ
“เอลิซออกไปก่อนเถอะ เดี๋ยวฉันจะเล่าให้ฟัง”
“อะไร ข้อเสนออะไร” เธอไม่สนใจกับคำทัดทานของเพื่อนสนิท หากแต่ยังคงเค้นถามหาข้อเสนอที่เขาเอ่ยบอกเมื่อครู่นี้เพียงอย่างเดียว
“นอนกับฉัน แล้วฉันจะลดหนี้เพื่อนเธอครึ่งหนึ่ง!”
“!!!” ทว่าคำตอบที่ได้รับทำเอาเอลิซตัวชาวาบ เธอจ้องเขม็งไปยังคนตรงหน้าที่พูดจาเลว ๆ ออกมาได้อย่างน่าไม่อาย จนกระทั่งตั้งสติได้เลยเอ่ยคำตอกหน้ากลับไปอย่างไม่คิดเกรงกลัว “ไม่มีทาง!”
“ฮึ...ใจแข็งดีนี่”
“ฉันไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน!” แม้ว่าเธอจะรักเพื่อนมากแค่ไหน แต่ก็ไม่มีวันยอมลดเกียรติและศักดิ์ศรีของตัวเองเพื่อแลกหนี้ก้อนนั้นแน่นอน
“งั้นก็ทำงานหาเงินงก ๆ ไปแล้วกันนะ ฉันจะคอยดูว่าน้ำหน้าอย่างเธอจะกลืนน้ำลายตัวเองหรือเปล่า!”
พายุตอกหน้าด้วยคำพูดเจ็บแสบ หลังจากนั้นเขาก็เดินผ่านกระแทกไหล่ของหญิงสาวไปพร้อมกับเสียงแค่นหัวเราะเบา ๆ
ความคับแค้นเกิดขึ้นแต่ไม่อาจปริปากเอ่ยคำใดออกมาได้ เอลิซได้แต่กำหมัดแน่นพร้อมกับขบคิดหาทางออกอยู่เพียงลำพัง