กว่าฉันจะถึงบ้านขาก็แทบล้าต่อรถเมล์ ซื้อกับข้าวกลับมาถึงเห็นน้องชายนั่งเล่มเกมส์ เห็นพ่อดูทีวีตลกขบขัน เฮ้อ ทำไมฉันยิ่งเห็น ยิ่งเหนื่อยแบบนี้
“เนล ฉันโอนค่าเทอมให้แกแล้วนะ ไปจ่ายรึยัง” มันไม่ตอบ เล่นเกมส์ต่อไม่สนใจฉัน ฉันจึงเดินไปแกะถุงกับข้าวใส่จาน ครอบฝาชีไว้ให้ทุกคน ก่อนจะเดินขึ้นห้องไปอาบน้ำนอน
ระหว่างที่ฉัน.. กำลังจะหลับ
ก้อก ก้อก ก้อก...
“ค่ะ” ฉันลุกขึ้น เดินไปเปิดประตู ก็เห็นพ่อยืนหน้าเครียดอยู่หน้าห้อง
“ลินิน มีเงินสักห้าพันไหม พ่อไปเบิกอะไหล่มา ลูกค้าเบี้ยว เลื่อนนัดอีกแล้ว” ! ฉันถอนหายใจทันที อีกแล้วเหรอ! เงินห้าพัน มันมากนะ! ฉันทำงานเงินเดือนสองหมื่น ค่าเช่าบ้าน ค่าเดินทาง ค่ากับข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ มันแทบจะไม่เหลือแล้ว ...แถมวันนี้ฉันยังจ่ายค่าเทอมให้น้องอีก!
“ไม่มีค่ะ ..”
“พ่อโดนแน่ๆ ถ้าไม่มีเงินจ่ายเขา” ฉันถอนหายใจยาวๆ ไม่รู้จะตอบอะไร
“ลินิน พ่ออาจโดนตำรวจจับ ถ้าไม่เอาเงินไปคืนเขา พ่อยืมก่อน ลูกค้าจ่าย พ่อจะคืนให้” ฉันอดสงสารพ่อไม่ได้เหมือนเดิม ฉันรีบเดินกลับไปเปิดลิ้นชัก แกะกระปุกออมสินตัวเองออกมา
ว่างเปล่า! เงินฉันหายไปหมด ฉันพยายามเขย่ามันซ้ำแล้วซ้ำเล่า....ก็ไม่มี
“พ่อ เงินหนูหายไปไหน” พ่อขมวดคิ้ว งงๆ
“อะไร เงินอะไร ทำไม” ฉันเดินถือกระปุกออมสินส่งให้พ่อดู
“อ่าว! “ ใครเอาเงินฉันไป ในนี้มีเงินเกือบหมื่น ฉันหยอดมันแทบทุกวัน! ฉันโมโหมาก ต้องเป็นใครสักคนในบ้านนี้ !
“คงไม่ใช่พ่อใช่ไหม..” พ่อรีบโบกมือ และส่ายหน้ารัวๆ
“บ้ารึไง นี่ว่าพ่อเป็นขโมยหรอ” ไม่ใช่พ่อ งั้นคงจะเป็นไอ้น้องชายตัวแสบสินะ !
ปัง ปัง ปัง! ฉันวิ่งผ่านพ่อ ออกมาจากห้อง ไปทุบประตูห้อง ไอ้เนลรัวๆ
“อะไรวะ.” มันเปิดประตูออกมาหัวเสีย พร้อมกับผมยุ่งๆ
“เงินฉันหายไปไหน”
“ไม่รู้โว้ย จะนอน” ไม่รู้งั้นหรอ !
“นี่ค่าเช่าบ้านนะเว้ย กูชักจะหมดความอดทนแล้วนะ !” ฉันดันตัวไอ้เนลเข้าไปในห้อง รีบค้นของในห้องมันทันที ฉันรีบเปิดรีบค้นมันทุกซอกทุกมุม
จนไอ้เนลรีบดึงตัวฉันออก
“ทำไรวะ ไม่ได้เอาไป เข้าใจป่ะ อย่ามาใส่ร้ายกันดิวะ!”
ฉันไม่สนใจรีบเปิดกระเป๋าตังค์มันออกดู ไม่มีเงินสักบาท แต่มีสลิปใบเสร็จอยู่... ค่าเทอมรึป่าว ฉันจึงเปิดดู..สลับกับมองหน้ามันไปด้วย พอเห็นข้อความในใบเสร็จเท่านั้นล่ะ ฉันถึงกับเบิกตากว้าง!!
ช้อปหลุยส์วิคตอง ! 4x,xxx
ไอ้เนลรีบถอยไปติดผนัง ก่อนจะโบกมือรัวๆ ค่าเทอมที่โอนให้สามหมื่นกว่า กับ เงินฉันที่หายไปทั้งหมด มันไปอยู่ที่ช้อปกระเป๋านี้เหรอ บ้าเอ้ย!
เพียะ! ฉันเดินไปตบหน้าไอ้เนลสุดแรง
“นิน!! ทำอะไร “ แต่พ่อรีบผลักฉันออกห่างไอ้เนลทันที
“นินหาเงิน งกๆ นี่อะไรวะ! ทำไมมึงเลวจังเนล มึงซื้อกระเป๋าอะไรแพงขนาดนี้”
“แฟนกูอยากได้ “ !!!
“แต่นี่ คือเงินที่พี่มึงหามานะเนล มึงมีสมองสะบ้าง อย่าควาย”
พ่อรีบคว้าแขนฉัน แล้วบีบมันแน่น...
“แค่นี้เองนิน!! แกเก่งอยู่แล้วให้มันแล้วๆไป เนลขอโทษพี่สะ!! “ แค่นี้เหรอ! พูดง่ายไปหมด ไม่ได้หามันมาเองนี่
“พ่อ ให้ท้ายมันแบบนี้ล่ะ มันถึงคิดไม่ได้ วันๆไม่ทำบ้าอะไร เล่นเกมส์ เลี้ยงผู้หญิง มึงสงสารกูบ้าง กูหาเงินงกๆ ส่งมึงเรียน !”
“เออ เดี๋ยวกูคืนให้ ทวงนักใช่ไหมบุญคุณ!” “ไอ้เนลตะคอกใส่ฉัน ก่อนจะผลักฉันล้มลงไปนั่งกับพื้น และวิ่งออกไปจากห้องทันที...ตามด้วยพ่อที่วิ่งตามไปง้อมันติดๆ! ฉันนั่งตัวสั่น ฉันไม่ได้ร้องไห้หรอกนะ แต่ฉันโกรธ และโมโหมากกว่า ฉันอยากจะหนีไปให้พ้นๆบ้านหลังนี้ ถ้าไม่ติดว่ามีบุญคุณที่ทำให้ฉันเกิดมา ฉันจะไม่ลังเลแม่งสักนิด ..
ฉันเดินกลับมาห้องตัวเอง ทิ้งตัวนอนบนเตียง แล้วถอนหายใจออกมายาวๆ ฉันไม่อยากอยู่บ้านนี้ ฉันเบื่อ เบื่อสภาพแวดล้อมแย่ๆแบบนี้
Calling ~NamWan
(ว่าไง ห้ามลา ฉันไม่อยู่)
“ป่าว ระหว่างที่เธอไปฮ่องกง ฉันขอไปนอนเฝ้าร้านได้ไหม..”
(เฮ้ย เป็นไรลินินทำไมเสียงสั่น คุยกันได้นะ)
“มีปัญหานิดหน่อย ฉันนอนตรงไหนก็ได้ นอนได้หมด โต๊ะเก้าอี้ก็นอนได้ ฉันไม่อยากอยู่บ้าน”
(ได้สิ เธอเข้าไปนอนได้เลย อย่าคิดมากนะ หมอนผ้าห่ม หน้าห้องชั้นสี่มีนะ ไม่เธอก็ไปนอนที่หน้าห้องชั้นสี่ได้ )
“ฉันนอนข้างล่างนี่ล่ะ ขอบใจนะ”
พอวางสายน้ำหวาน ฉันก็รีบเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋า ไม่ลืมพกหมอนกับผ้าห่มบางๆไปด้วย พ่อกับไอ้เนลหายไปไหนไม่รู้ ก็ดี ฉันไม่อยากเห็นหน้าใครตอนนี้ ขอไปอยู่ข้างนอกให้สบายใจก่อนค่อยกลับมา ฉันทนไม่ไหวแล้ว
ฉันมาถึงร้านกาแฟก็เกือบจะเที่ยงคืน มันเงียบมาก ฉันแอบกลัว แต่ต้องกลั้นใจค่อยๆไขกุญแจเข้าไป รีบไปเปิดไฟหนึ่งดวงไว้ส่องทาง กับพัดลมเพดานนอนที่มุมโต๊ะ
ฉันนอนพลิกไป พลิกมาสักพัก คือฉันนอนไม่หลับจริงๆ มันกว้างไป แถมติดโรงพยาบาลอีก โอ้ย~ ชีวิต หลับสิลินิน หลับ!
นับแกะ นับแกะ นับแกะ
แกร๊ก~~ เสียงอะไรวะ ไม่นะ ฉันหลับตาปี๋ จนได้ยินเสียงเท้าคนเดินเข้ามาใกล้ๆ
ตามมาด้วยเสียงถอนหายใจดังๆ
“เธอ....” หะ! เสียงหมอเท็น ฉันรีบลืมตาดู ก็เห็นหมอเท็นยืนล้วงกระเป๋ากางเกงนอนมองฉันอยู่
เขาอยู่ในชุดนอนขายาว ผมยุ่งๆ มืออีกข้างถือไม้แขวนเสื้อที่มีชุดทำงานเขาหลายชุด
“เอ่อ หมอเท็นกินทาร์ตไข่ยังคะ บอกลินินมาสิว่าอร่อย^^” ฉันดันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้เขา
“นอนเถอะ..” เขาไม่สนใจเรื่องทาร์ตไข่ แต่เขาเอามือนุ่มๆมากดหัวฉัน ให้นอนลงแทน
“คุณหมอ...”
“นอน....” เขาเปรยสายตาเย็นชาๆมองฉัน ก่อนจะหันหลังเดินไปขึ้นลิฟต์ ฉันนอนมองปุ่มลิฟต์ที่วิ่งไปหยุดที่ชั้นสี่อยู่สักพัก แล้วค่อยๆหลับตาลง
ใจชื้น
ฉันตื่นหกโมงเช้าด้วยความเคยชิน ซึ่งปกติร้านกาแฟจะเปิดแปดโมง ฉันจึงมีเวลาว่างเช็คของ เดินเล่น ร้องเพลงบ้าๆอยู่คนเดียวนานหน่อย เค้กหมด อะไรหมดบ้างนะ!
~ติ๊ง~ เสียงลิฟต์ ตามด้วยหมอเท็นที่ใส่ชุดนอน เดินหัวยุ่งมา รู้สึกเหมือนสามีภรรยาเลยแหะ อยู่กันสองคน ชุดนอนแบบนี้ อ้าย~ เขิน~!
“หิว...” ฉันวางปากกาลงที่เคาน์เตอร์ ก่อนจะเดินตรงดิ่งไปหาเขา
“จะกินอะไรล่ะคะ คุณผู้ชาย^^” เขามองซ้ายขวา แล้วหยุดจ้องหน้าฉัน
“อะไรก็ได้..” คุณชายตอบเสียงเรียบๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะ เล่นมือถือ
แล้วฉันจะทำอะไรให้เขากินดี
“หมอเท็น กินไข่ไหมคะ มีแค่ไข่ เบคอน กินไข่บำรุงไข่ อิอิ^[]^ “ เขาเงยหน้ามองฉันตกใจ ก่อนจะรีบหันไปทางอื่น
“ตลกรึไง...” พูดเบาๆ และไม่มองหน้าฉัน
“ตลกตรงไหนคะ จะกินไหม ไข่เบคอน กาแฟ ตามนี้นะ จ่ายตังค์ด้วยนะคะ เอาเงินมาก่อนเลย ลินินจะทำให้ตามกำลังทรัพย์^^” เขาหันมามองนิ่งๆ
“ไม่จ่าย...” ฉันจึงเบะปากแข่งกับสายตาเย็นชาของเขาไป ก่อนจะเดินเข้าครัวเล็กๆ ทำอาหารเช้า กากๆให้เขากิน มันกากจริงๆ พูดแบบกากๆนี่ล่ะ เบคอนเกือบไหม้ ไข่ก็ไม่เป็นรูปเป็นร่าง เขาเห็น เขาคงเกลียดฉันไปอีก!
เมื่ออาหารเช้ากากๆเสร็จ ฉันก็ยิ้มแป้นเดินมาเสิร์ฟให้เขา หมอเท็นมองจานสลับกับหน้าฉัน ทำไมคะ มันไม่สวยเหมือนหน้าคนทำใช่ไหม
“กินได้?...” ฉันหยิบส้อมจิ้มไข่กินให้เขาดู
“อื้ม อร่อยด้วยค่ะ อิอิ มามะ ลินินป้อน^^” ฉันยิ้มกว้าง ก่อนจะจิ้มเบคอนในจาน ป้อนเขา หมอเท็นมองหน้าฉัน แล้วกินมัน เขาค่อยๆเคี้ยว และหันไปทางอื่น
“อร่อยล่ะสิ ไหม้มั้ยคะ ไม่น่าจะไหม้นะ ขอชิมหน่อยนะ^^” ฉันจิ้มเบคอนขึ้นมากินบ้าง ก่อนจะยื่นส้อมคืนเขา ไม่ไหม้แหะ ฉันก็ทำอาหารแบบนี้ได้นี่น่า ฉันยกนิ้วโป้งชมตัวเอง แล้วกลับมาเช็คของต่อ
ส่วนหมอเท็นเขาก็นั่งกินเงียบๆ มือเล่นมือถือไปด้วย
ฉันจัดของเตรียมโต๊ะได้สักพัก จนใกล้ถึงเวลางาน จึงรีบวิ่งไปอาบน้ำแต่งตัว พอกลับมาเปิดร้าน ฉันก็ไม่เห็นหมอเท็นแล้ว เขาไปไหนเนี่ย! หรือว่าไปเข้าเวรแล้ว ยังไม่ได้บอกรักก่อนไปทำงานเลย!