หญิงสาวเผลอหัวเราะออกมา เมื่อนึกย้อนถึงวัยเด็กที่ลวิตรชอบแกล้งเธอบ่อยๆ เพราะกลัวว่าแม่จะรักเธอมากกว่าลูกชายแท้ๆ แต่เธอไม่เคยนึกโกรธลวิตรเลยแม้แต่น้อยทำให้ลวิตรเลิกแกล้งเธอไปในที่สุด
ตั้งแต่ลวิตรได้ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในตำแหน่งวิศวกร ทำให้เขาไม่ค่อยได้อยู่บ้านนัก เพราะถูกส่งไปคุมงานก่อสร้างที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ ไปแต่ละครั้งก็นานเป็นครึ่งเดือนหรือเดือนหนึ่ง เธอรู้ดีว่าแม่คิดถึงพี่ชายมากแต่ไม่พูดออกไปตรงๆ เพราะกลัวเสียฟอร์มนึกแล้วก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้ เพราะแม่ลูกคู่นี้ช่างวางฟอร์มเสียเหลือเกิน
กาสะลองเผลอคิดถึงครอบครัวของตัวเองมีพ่อ,แม่และพี่สาวฝาแฝด ครอบครัวของเธออบอวลไปด้วยกลิ่นอายความรักเหมือนกัน
แต่บัดนี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
ขณะที่กำลังล้างผักอยู่นั้นก็อดยกข้อมือตัวเองขึ้นดูไม่ได้ เธอพยายามคิดว่ารอยช้ำที่รอบข้อมือที่ได้มาอย่างไร หากชนหรือกระแทกอะไรก็ไม่น่าจะเป็นรอบข้อมือได้แบบนี้ นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้แผลมาแบบไม่รู้ตัวอย่างนี้
จะว่าไป...ตลอด10ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังในครอบครัวใหม่ทำให้เธอเจอรอยแผลแปลกๆ อยู่บ่อยๆ แต่ก็เป็นไม่ได้อะไรมากมาย อาจจะมีบ้างเช้าที่ตื่นมาแล้วรู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วร่างกาย ทั้งที่เธอไม่ได้ไปออกกำลังกายหรือทำอะไรหักโหม
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาแล้วหันมาสนใจอาหารเย็นที่ต้องรับผิดชอบ
“ช่างเถอะ รีบทำอาหารดีกว่า”
.......
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาในคลับหรูแห่งหนึ่งใจกลางกรุงเทพฯ เขากวาดสายตามองไปรอบๆ ด้วยสีหน้านิ่งเรียบ และเพียงไม่กี่วินาทีที่เขาก้าวเข้ามาก็มีพนักงานต้อนรับเข้ามายกมือไหว้ทันที
“เชิญครับคุณอคิน คุณแซนดี้รออยู่ด้านในแล้วครับ” ผู้จัดการคลับเข้ามาเชื้อเชิญให้เข้าไปที่ห้อง VIP
อคิน นฤปนาถ ชายหนุ่มวัย36ปีเศษเจ้าของสถาบันการเงินนฤปนาถ หรือที่รู้จักในนามธนาคารนฤปนาถ เขาพยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงรับรู้แล้วก้าวตามผู้จัดการไปที่ห้องที่ถูกจัดเตรียมไว้พิเศษ แต่ในขณะที่กำลังเดินฝ่าแสงสลัวในคลับหรูไปนั้น เขาได้ยินเสียงหวานกังวานกำลังร้องเพลงอยู่บนเวที เท้าของเขาชะงักทันทีและเหลียวไปมองอย่างสนใจแม้เขามีท่าทีนิ่งเฉย แต่ดวงตาของเขาจับจ้องเจ้าของเสียงทรงพลังในเรือนร่างบอบบางดุจก้านดอกไม้ไหว หญิงสาวบนเวทีเหมือนจะรู้สึกถึงสายของเขา เธอช้อนตามองชายหนุ่มอย่างท้าทาย ริมฝีปากอิ่มสีแดงสดขยับร้องเพลงอย่างไม่หวั่นไหว มีเพียงแววตาที่ไหวระริก เธอสวมชุดกี่เพ้าแขนกุดสีแดงเพลิง เปิดเปลือยแค่ไหล่กลมกลึงน่าสัมผัสแต่กลับสร้างความเย้ายวนจนยากจะถอนสายตา
แต่ในวินาทีหนึ่งเขารู้สึกคุ้นเคยกับดวงตาคู่นั้นอย่างแปลกประหลาด
“คุณอคินครับ” ผู้จัดการเรียกเบาๆ อย่างเกรงใจ
อคินย้ายสายตากลับมาที่ทางเดินแล้วเดินตรงไปห้องพิเศษความจริงเขาไม่จำเป็นต้องมีคนนำทาง ก็สามารถไปที่หมายได้ไม่ยากเย็นอะไรนัก เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามาที่ คลับ Flower night เพียงแต่ครั้งนี้ห่างจากครั้งก่อนราวๆ สองเดือนเศษ และครั้งนั้นไม่มีนักร้องสาวสวยบนเวทีเมื่อครู่
“สวัสดีค่ะคุณอคิน”
‘แซนดี้’ ผู้จัดการFlower night คลับยิ้มทักทายอย่างเป็นกันเองและเชิญให้นั่งที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม หญิงสาววัยเดียวกับชายหนุ่มโบกมือไล่พนักงานคนอื่นออกไปแล้วลงมือชงเหล้าด้วยตัวเอง
“ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
“น่าจะราวๆ สองเดือนได้” อคินเอ่ยยื่นมือไปรับแก้วเหล้าที่แซนดี้ส่งให้ “คุณปรับปรุงได้น่าสนใจดี”
หญิงสาวหัวเราะระรื่นก่อนดื่มเหล้าของตัวเอง “พูดเหมือนมาตรวจงาน จะมาดูว่าเงินที่ลงทุนไว้เป็นยังไงเหรอคะ”
“ก็นั้นมันเป็นงานของผม” เขาแกว่งแก้วเหล้าในมือ
“นี่นอกเวลางานแล้วนะคะ”
“แต่คุณก็ควรรู้ด้วยว่า ถึงคุณเป็นลูกค้าของธนาคารผม แต่เงินที่คุณกู้ยืมมาปรับปรุงคลับใหม่นั้นเป็นเงินส่วนตัวของพ่อผม”
“เรื่องนั้นฉันรู้ค่ะ” แซนดี้เอื้อมมือไปแตะหลังมือของชายหนุ่ม เธอช้อนสายตามองเขา หยิบแก้วในมือของเขาเพื่อเติมเหล้าอีก “แต่ฉันมั่นใจว่าบอกคุณไปแล้วว่า คืนนี้ฉันเชิญคุณมาในฐานะของเพื่อนไม่ใช่เจ้าหนี้กับลูกหนี้”
“ก็เพราะรู้ว่านี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องงานถึงมาตอนนี้ไง” อคินหัวเราะในลำคอ แล้วมองออกไปที่ด้านหนึ่งของห้องซึ่งเป็นกระจกใสมองเห็นการแสดงบนเวทีชัดเจน ความสนใจของเขายังอยู่ที่นักร้องสาวสวยคนนั้น
“นักร้องใหม่เหรอ”
แซนดี้มองด้วยหางตาแล้วยิ้มที่มุมปาก “แหม! รู้สึกว่าผู้หญิงสวยๆ จะไม่รอดผ่านสายตาของคุณเลยนะคะ”
“เรื่องธรรมดาไม่ใช่เหรอ” เขายกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม “เสียงดีมาก ไม่น่าจะเป็นนักร้องในคลับได้เลยนะ เสียงแบบนี้เป็นนักร้องได้สบายๆ เลย”
“คุณอยากสนับสนุนเด็กคนนั้นหรือคะ” แซนดี้จับน้ำเสียงและความสนใจของชายหนุ่มได้ “อยากให้ฉันเรียกดาหลามาคุยกับคุณไหม”
“ดาหลา?”
แซนดี้พยักหน้า “นักร้องใหม่ชื่อดาหลาค่ะ”
“ชื่อแปลกดี”
“เป็นชื่อดอกไม้” แซนดี้อธิบายเพิ่ม เธอขยับตัวเปลี่ยนไปนั่งที่พักแขนบนเก้าอี้ของอคิน “ว่าแต่สนใจผู้หญิงคนอื่นต่อหน้ากันแบบนี้ ไม่คิดว่าฉันจะรู้สึกอะไรเหรอ”
อคินมองตามนิ้วมือที่พันเกี่ยวเนกไทของเขา ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆ “ผมไม่รู้สึกอะไรกับผู้หญิงของพ่อหรอกครับ”
แซนดี้รู้สึกหน้าชาเหมือนถูกตบหน้า แต่ยังปั้นหน้ายิ้มหวานแล้วหัวเราะคิกคักก่อนลุกขึ้นยืน “ฉันจะเรียกดาหลามานั่งคุยเป็นเพื่อนคุณก็แล้วกัน แต่บอกไว้ก่อนว่าเด็กคนนี้ไม่เหมือนคนอื่น”