ชื่อของเธอคือปาลิน

1204 Words
สี่เดือนก่อนหน้า หากจะถามว่าความสัมพันธ์อีรุงตุงนังของเธอและเจ้าพวกสี่คนนั้นมันขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน ปาลินคงต้องเล่าย้อนไปถึงช่วงปีหนึ่งที่เราทั้งห้าคนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยปีแรก ในช่วงนั้นสถานะของเราเป็นเพียงเพื่อนกัน โดยที่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอยู่เบื้องหลัง กลุ่มของเรามีกันอยู่ห้าคน มีผู้หญิงหนึ่งคนซึ่งก็คือเธอ และผู้ชายอีกสี่คนคือคราม ชุน ปราบ และหมิง เราเรียนคณะเดียวกันและเลือกเรียนต่อปีสองในสาขาเดียวกันมาตลอด จวบจนช่วงที่เรียนปีสองเทอมแรกความสัมพันธ์ก็ยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ทว่าทุกอย่างกลับเริ่มเปลี่ยนไปในช่วงที่เรากำลังเรียนปีสองเทอมสอง อยู่ๆเพื่อนของทุกคนของเธอพากันพร้อมใจเลิกกับแฟนและคู่นอนที่คั่วอยู่ทั้งหมด ตั้งตนเป็นโสดกันทั้งกลุ่มพร้อมกันอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พอปาลินถามก็ได้คำตอบเพียงว่าอยากกลับมาอยู่เงียบๆ ใช้ชีวิตอิสระกับเพื่อนกับฝูงบ้าง เบื่อแล้วชีวิตที่ต้องใช้ชีวิตเอาอกเอาใจสาว พาไปกินข้าวดูหนัง หรือกระทั่งทะเลาะกันเพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง แม้จะสงสัยเล็กน้อยว่าแล้วที่พวกนั้นมันดูแลเธอเปรียบประหนึ่งเจ้าหญิงตัวน้อยแบบนี้มันต่างกันอย่างไร แต่ถึงอย่างนั้นปาลินก็ยังไม่ได้เซ้าซี้ถามต่อ เพราะเอาเข้าจริงเธอก็ยอมรับว่าชอบที่มันเป็นแบบนั้นเหมือนกัน ย้อนกลับไปเมื่อช่วงปีหนึ่ง ที่เด็กสาวจากโรงเรียนอินเตอร์กระโปรงลายสก็อตอย่างเธอตั้งใจเอาตัวเองเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ เพราะมีใจให้ครามตั้งแต่วันปฐมนิเชุน พอรู้ว่าอีกฝ่ายเรียนภาคอินเตอร์เหมือนกันเธอก็รีบเข้าไปเมคเฟรนแบบเนียนๆ จนในที่สุดก็ได้ทำความรู้จักกับเพื่อนคนอื่นๆ ของครามด้วย ช่วงแรกที่เขาได้รู้จักกับพวกนี้ เธอก็ได้รู้ว่าทั้งสี่คนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยประถม เข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นและมัธยมปลายที่เดียวกันมาตลอด กระทั่งในระดับมหาวิทยาลัยก็ยังเรียนที่เดียวกัน เรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกัน ภาคอินเตอร์เหมือนกันทุกสิ่งอย่าง เรียกได้ว่าสี่คนนี้สนิทกันมากชนิดที่ว่าปาลินซึ่งเป็นทั้งผู้หญิงและเข้ามาใหม่อดหวั่นใจไม่ได้ ว่าจะสามารถเข้ากับกลุ่มเพื่อนที่ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นแบบนี้ได้หรือไม่ แต่เรื่องที่กังวลมันก็กลับไม่ได้เป็นอย่างที่คิด เพราะเรื่องจริงคือเธอเข้าได้ดีกับทุกคน และเรียกว่าดีเสียจนเธอรู้สึกได้ว่าตัวเองนั้นเป็นดั่งศูนย์กลางของกลุ่ม เพื่อนทุกคนดูแลประคบประหงมและเอ็นดูเธอประหนึ่งเจ้าหญิงตัวน้อยๆ ไม่ว่าจะอยากกินอะไรก็จะมีคนเสนอตัวเลี้ยง อยากไปไหนก็จะมีใครสักคนอาสาไปเป็นเพื่อน อยากอะไรถ้าเผลอบ่นออกมาก็จะมีคนอยากซื้อให้ เรียกได้ว่าหากมองแบบไม่คิดอะไรทุกอย่างมันก็ดีมาก ปัญหาอยู่ตรงที่ดีเกินไปนี่แหละ ทั้งสี่คนดีกับเธอจนปาลินรู้สึกว่ามันเกินเลยขอบเขตความเป็นเพื่อนที่เคยเจอมาตลอดชีวิตไปหลายขั้น ตอนนั้นเธอไม่รู้ว่าพวกมันคิดอะไรหรือไม่ แต่สิ่งที่รู้ชัดแจ้งคือตัวเธอคิด และคิดไปไกลมากเสียด้วย เพราะตัวเธอเองก็ไม่ใช่ก้อนหินไร้หัวใจที่จะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย เดิมทีปาลินรู้ใจตัวเองว่าที่เข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้ก็เพราะอยากใกล้ชิดกับครามที่เป็นผู้ชายผิวเข้มตัวสูงใหญ่ในสเปค เรื่องยากที่เธอหมายถึงคือพอมาโดนรายล้อมรุมเอาอกเอาใจแบบนี้ ความหวั่นไหวมันดันบังเกิดขึ้นในใจอย่างห้ามไม่ได้ และมันคงไม่ยากขนาดนี้หากเธอรู้สึกกับครามแค่คนเดียว ไม่ใช่เกิดขึ้นทีเดียวกับทั้งสี่คนแบบนี้ ปาลินเก็บงำความลับเรื่องนี้เอาไว้ในใจอยู่คนเดียวมานาน และพยายามทำตัวเองให้ดูปกติที่สุดในทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาปกติ หรือเวลาที่ทั้งสี่คนสลับกันไปมีแฟน เธอไม่อยากทำตัวเป็นพวกหลงตัวเองให้คนอื่นเขานินทา เพราะต่อให้ดูแลดีแค่ไหนหรือเธอจะรู้สึกดีเพียงใด แต่สุดท้ายก็ต้องยอมรับความจริง ว่าสถานะเราเป็นแค่เพื่อนที่สนิทกันเท่านั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่เธอจะต้องทำตัวน่ารังเกียจอย่างการไปตามหึงหวงหรือพยายามเป็นคนสำคัญ อยากรวบเอาทุกคนมาไว้กับตัวเองเหมือนพวกนางร้ายในละครน้ำเน่า ลำพังเป็นผู้หญิงไม่ได้มีลักษณะห้าวหาญลุยๆ แต่กลับมีเพื่อนผู้ชายหล่อๆ เต็มกลุ่ม แถมยังโดนเพื่อนทรีตเป็นเจ้าหญิงนี่ก็โดนซุบซิบนินทามากพออยู่แล้ว ถึงเธอจะเข้ามาอยู่ในกลุ่มนี้เพราะแรดจริงอย่างที่คนอื่นเขาว่า แต่ก็ไม่ได้อยากตกเป็นขี้ปากของใครในเรื่องชู้สาว เอาไว้เพื่อนของเธอเลิกกับผู้หญิงพวกนั้นแล้ว จะกลับมาดูแลเหมือนเดิมปาลินก็ยินดีอ้าแขนรับ เธอยังอยู่ตรงนี้เสมอ ไม่ได้คิดว่าอะไรเป็นหรือไม่ได้เป็นของตัวเอง และวันหนึ่งที่ตัวเธอเกิดไปชอบคนนอกกลุ่มขึ้นมาบ้าง ถึงวันนั้นเขาก็ได้แต่หวังว่าความสัมพันธ์แบบเพื่อนของเราจะยังคงเดิม เธอจะยังเป็นศูนย์กลางและกลับมาให้พวกมันโอ๋ได้เสมอ “ปาลิน ตัวนี้มึงใส่ได้แน่เหรอวะ” “หมายความว่ายังไงหมิง มึงจะบอกว่ากูอ้วนขึ้นเหรอ” เสียงหวานเอ่ยสวนขึ้นทันทีที่ฟังคำถามจบ มือขาวยกขึ้นเท้าเอวฉับขณะที่หันไปถลึงตามองเพื่อนสนิทที่เดินมาด้วยกันอย่างเอาเรื่อง กระนั้นคนถูกหันไปมองตาเขียวก็ยังไม่ได้สะทกสะท้าน กลับกัน หมิง ยังคงใบหน้าเรียบนิ่งเอาไว้อย่างเสมอต้นเสมอปลาย จนปาลินชักอยากจะกางเล็บเจลข่วนหน้าหล่อๆ ของมันขึ้นมา “ไม่ใช่ กูหมายถึงนมมึงน่ะจะใส่ได้เหรอ อลังการขนาดนั้น” ไม่พูดเปล่า แต่ดวงตาเรียวตามแบบฉบับพวกลูกคนจีน ก็ยังเลื่อนลงมาที่หน้าอกหน้าใจทรงโตของเธออย่างสำรวจ มองแล้วก็หันกลับไปยกทรงลูกไม้สามสี่ตัวที่แขนอยู่บนไมแขวนเสื้อเจ้าตัวถืออยู่ เล่นเอาคนโดนมองถึงกับผิวแก้มร้อนผ่าวขึ้นมา ปาลินก้มลงมองหน้าอกคัพดีของตัวเองพลางหมุนกายมองกระจกบานยาวไปด้วย คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน แม้จะแอบภูมิใจอยู่บ้างที่อีกฝ่ายเหมือนจะชม แต่เมื่อหมิงมันพูดออกมาหน้าตายแบบนั้น จู่ๆ ความขัดเขินก็พาลให้ใบหน้าสวยแดงซ่านยิ่งกว่าเก่า
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD