" อ๊ายยย ออกไปนะ ไอ้บ้า"
ท่าทางต่อต้านของเธอทำให้คีรากรขมวดคิ้ว
เขาเอื้อมมือไปคว้าเธอมากอดแม้หญิงสาวจะต่อต้านแต่ ด้วยแรงที่มากกว่าจึงได้ตัวเธอมาอยู่ในอ้อมแขน ยิ่งเธอไม่อยู่นิ่งเขาก็ยิ่งกอดเธอแน่นแล้วเอนตัวไปนอนบนเตียงทาบทับเธอไว้นั่นยิ่งทำให้เธอดิ้นเหมือนปลาโดนค้อนทุบหัว
"ออกไปนะไอ้บ้า" หญิงสาวก่นด่าในขณะที่พยายามดิ้นขลุกขลักแล้วเอามือดันอกเขาไม่ให้เข้ามาใกล้ตัวเอง แต่ก็แทบไม่เป็นผลเลย
"อย่าดื้อ"
"คุณไม่มีสิทธิ์ทำแบบนี้นะ ปล่อย"
"ฉันมีสิทธิ์เต็มที่" มือหนึ่งเขาล็อกแขนเธอไว้ด้านบน อีกมือหนึ่งล็อกท้ายทอยเธอเอาไว้ ใบหน้าลดลงต่ำไปใกล้ริมฝีปากอวบอิ่มสีพีช
"ถึงจะเป็นเจ้านายพี่ตามแต่คุณจะใช้อำนาจมาขืนใจฉันไม่ได้"
คำพูดของเธอทำให้เขาชะงัก
"ขืนใจ?"
"ก็ใช่น่ะสิ คุณกำลังแตะต้องตัวฉันโดยที่ฉันไม่เต็มใจ มาทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง คนเลว ปล่อยฉันแล้วถอยไปเลยนะ"
ปาลิดาก่นด่าไปเรื่อยเพราะสู้แรงเขาไม่ได้ แต่น่าแปลกใจที่เขาถอยออกไปอย่างง่ายดาย
"ก่อนที่จะมาที่นี่ พี่ชายเธอบอกอะไรบ้าง"
หญิงสาวนึกถึงเรื่องเมื่อเย็น เธอไม่แน่ใจว่ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เพราะตอนที่กำลังจะคุยกับโตมรเขาเอาเครื่องดื่มให้เธอแล้วปาลิดาก็จำอะไรไม่ได้อีกเลย
"พี่ตามไม่ได้พูดอะไร แค่เอาน้ำให้ฉันดื่มแล้วฉันก็โผล่มาที่นี่"
ดวงตาคมกริบของเขาวาววาบ
"พี่ชายเธอก่อเรื่องอีกแล้ว เพราะอย่างนี้สินะเธอถึงขี้เซามาก"
สีหน้าเย็นชาและโมโหจัดของคีรากรดูน่ากลัว แต่นาทีนี้ปาลิดายอมเสียตัวให้เขาไม่ได้จริงๆ
"พี่ตามทำอะไรคะ"
"ฉันคิดว่าเขาวางยาเธอแล้วเอามาส่งให้ฉัน ตอนที่พาเธอมาโตมรเสนอว่าเธอรู้เรื่องหนี้ที่เขาติดค้างฉันและยินดีจะขัดดอกให้ แลกกับการให้เวลาเขาไปหาเงินและคุ้มกันเธอกับเขาจากเสี่ยวัชรินทร์"
"ฉันไม่เชื่อ" ปาลิดาคิดว่าเขาโกหกพี่ชายเธอคงไม่ทำอย่างนั้นแน่
"เรื่องของเธอ"
เขาลุกพรวดขึ้นอย่างรวดเร็ว กายแกร่งเปลือยเปล่าจนเธอเบือนหน้าหนีแทบไม่ทัน พอเขาพันผ้าเช็ดตัวแล้วเดินไปหยิบโทรศัพท์แต่ไม่ละสายตาไปจากเธอ ปาลิดาก็กอดผ้าห่มแนบอกแน่นขึ้นก่อนจะรีบไปคว้าเสื้อผ้าที่กองอยู่ข้างเตียงมาไว้ในมือ
"ฉันโทรหาโตมรไม่ติด นายไปตามหามันให้มารับน้องสาว แล้วปล่อยพวกเขาไป"
เขาเงียบไปพักหนึ่งเหมือนฟังคนปลายสายว่าจะพูดอะไร
"เรื่องหนี้ถือว่าจบ ฉันจะปล่อยพวกเขาไปตามทาง"
คีรากรวางสายไป
"ฉันไม่ได้คิดจะขืนใจเธอ พี่ชายเธอยื่นข้อเสนอมาและฉันก็สนอง แต่ในเมื่อเธอบอกว่าไม่รู้เรื่อง งั้นก็ล้มดีล"
ปาลิดาเชิดหน้า ล้มดีลอะไรล่ะเธอนอนเปลือยอยู่นานแค่ไหนก็ไม่รู้ เธอหลับอยู่ยังไม่รู้เรื่องอะไรด้วยซ้ำ หญิงสาวแทบไม่อยากจะนึกถึง ว่าเธอโดนจับต้องไปแต่ไหนแล้ว ดังนั้นหนี้ที่เขายกให้พี่ชายเธอนั้นถือว่าเป็นค่าทำขวัญก็แล้วกัน
"มันก็ควรเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว คุณออกไปเลยนะ ฉันจะแต่งตัวรอพี่ตามมารับ"
หญิงสาวไล่เจ้าของห้องที่ทำหน้าไม่พอใจเท่าใดนัก แต่เขาก็ยอมเดินไปคว้าเสื้อคลุมตัวหนามาสวมแล้วเดินออกไป ปาลิดารีบแต่งตัว เธอไม่รู้ว่าพี่ชายทำอย่างที่เขาพูดจริงหรือไม่ เรื่องนี้คงต้องคุยกับโตมรอีกทีหนึ่ง
หญิงสาวหายใจหายคอโล่งขึ้นมาเมื่อคีรากรเดินพรวดออกไป เธอรีบแต่งตัวแล้วดึงเสื้อโค้ทมาสวมทับ มือเล็กล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อ แล้วพบจดหมายฉบับหนึ่งที่เป็นลายมือของโตมร
แป้ง พี่ขอโทษจริงๆ ที่ไม่ได้บอกก่อน พี่จำเป็นต้องต้องขอร้องนายให้ช่วยน้องเพราะไอ้ชั่วนั่นมันมันมีอิทธิพลมากเกินกว่าที่แป้งจะนึกถึง มีนายพี่คนเดียวที่จะสู้ไอ้เสี่ยบ้ากามนั่นได้ แป้งอยู่ที่นั่นจนกว่าพี่จะจัดการงานให้นายสำเร็จแล้วเราค่อยใช้หนี้นายพี่แล้วย้ายไปอยู่ต่างประเทศด้วยกัน นายรับปากพี่แล้วว่าจะดูแลแป้งให้ระหว่างที่พี่ไม่อยู่
โตมร…
หญิงสาวนึกถึงสิ่งที่คีรากรบอก พี่ชายเอาเธอมาขัดดอก และอยากให้เธอรอดจากเสี่ยวัชรินทร์ แต่มันไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง กฎหมายจะมีไว้ทำไมถ้าเอาผิดคนที่มาตามรังควานเธอไม่ได้จนต้องมาพึ่งอิทธิพลของอีกคน เธอไม่ได้อยู่บ้านป่าเมืองเถื่อนนะ!
ปาลิดาเดินออกมานอกห้องที่เธอสังเกตเห็นว่าน่าจะเป็นคอนโดมิเนียมสักแห่งใจกลางกรุงเพราะวิวนอกหน้าต่างมีตึกสูงคุ้นตาเปิดไฟสว่างไสว คีรากรนั่งจิบไวน์แดงอยู่ที่โซฟา มีการ์ดของเขาสองคนยืนขนาบข้าง สีหน้าเขาดูไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ตอนเห็นเธอ
"ฉันติดต่อพี่ชายเธอไม่ได้ จะให้การ์ดไปส่งเธอที่บ้านก็แล้วกัน"
หญิงสาวละล้าละลัง เมื่อกี้เธอก็พยายามติดต่อพี่ชาย แต่ไม่สำเร็จ เขาจะให้เธออยู่บ้านคนเดียวเหรอ
"ฉันขอรอที่นี่จนกว่าพี่ตามจะมา"
"ที่นี่ไม่ใช่สถานรับเลี้ยงเด็ก กลับไปนอนบ้านเธอ"
หญิงสาวเม้มปาก ไล่กันขนาดนี้ เธอกลับก็ได้ ไม่ง้อหรอก
"ก็ได้ค่ะ"
การ์ดจองเขาผายมือให้เธอ ปาลิดาเดินออกไปโดยไม่เหลียวหลัง หญิงสาวเลยไม่รู้ว่าดวงตาดุคู่นั้นวาววับขึ้นมา
คีรากรอารมณ์เสียที่เธอไปก็จริงแต่สุดท้ายก็จิบไวน์ด้วยความพอใจเมื่อรู้ว่ายังไงเธอก็ต้องกลับมาหาเขาถ้าไม่อยากเป็นเมียไอ้เสี่ยนั่น
..............