เมื่อโตมรขอติดต่อนาย การ์ดจึงติดต่อไปจนปลายสายเป็นคีรากรจึงยื่นโทรศัพท์ให้กับโตมร เขารีบคุยกับผู้เป็นนายทันที
“นาย ผมขอเอาของเข้าไปให้ตอนนี้ได้เลยไหมครับ” ตอนที่ได้รับหน้าที่ให้ไปบ่อนของเสี่ยวัชรินทร์เขาได้รับคำสั่งจากคีรากรให้ไปหาของ โตมรทำสำเร็จแต่ไม่ได้ส่งมอบให้เจ้านายเพราะเขาใช้เงินเกินงบแล้วหลบหนีอยู่แต่เพราะมีของในมือ คีรากรเลยยังไว้ชีวิตของเขาจนตอนนี้
“ถ้าไม่มีใครตามมาวุ่นวายอีก ก็มาได้”
“ผมขอโทษกับเรื่องเมื่อบ่ายด้วยครับ” เขารู้ดีว่าคีรากรรักสงบและความเป็นส่วนตัวเป็นที่หนึ่ง เรื่องเมื่อกลางวันคงทำให้เขาหงุดหงิดจนยอมปล่อยให้เขามาเคลียร์ก่อน แม้จะคุยกันเรื่องสำคัญก็ตาม
"ไม่เป็นไร"
“แต่ผมขอให้นายช่วยอะไรผมอย่างได้ไหมครับ”
“ลองว่ามาก่อน” เสียงห้วนๆ ทำให้โตมรกลืนน้ำลาย ความหวังริบหรี่มาก แต่ก็อยากจะขอ
“คือตอนนี้คนของเสี่ยวัชรินทร์มารังควานน้องสาวผม ถ้าเกิดผมไปหานายตอนนี้น้องอาจจะไม่ปลอดภัย การ์ดบอกคนพวกนั้นว่าแค่มาคุ้มกันผมไม่นับรวมน้องสาว ผมเลยอยากให้คุณคิงให้เขาเพิ่มน้องสาวผมเข้าไปในลิสต์ด้วย” โตมรรู้ว่าการ์ดรับคำสั่งโดยตรงจากเจ้านายเลยไม่สนคำขอร้องของเขา เพื่อความปลอดภัยของน้องสาวเขาจึงอยากได้คำสั่งนั้นจากปากของคีรากร
“…"
เสียงเงียบของเจ้านายทำให้โตมรหวั่นใจ คีรากรอาจจะไม่สนใจเรื่องนี้ก็ได้เพราะไม่เกี่ยวกับเขา
“คือน้องคนที่เจอที่ห้างเมื่อกี้ไงครับ น้องผมก็เป็นโจทก์กับไอ้เสี่ยนั่นเหมือนกัน เพราะว่ามันพยายามให้คนมากล่อมน้องผมไปเป็นเมียน้อยแต่น้องผมไม่ยอม นายก็รู้นิสัยมันผมเลยคลาดสายตาจากน้องไม่ได้ จนกว่าจะส่งเธอไปอยู่ที่ปลอดภัย”
“อ้อ… คนนั้นน้องสาวนายเรอะ ฉันนึกว่าเมียไม่ก็แม่ เห็นเจ้ากี้เจ้าการกับนายเหลือเกิน” ประโยคพูดยาวๆ ของเจ้านายทำให้โตมรกะพริบตาปริบๆ
“แล้ว นายให้ผมเอาน้องไปด้วยไหมครับ”
“อืม ส่งสายไปให้ฉันพูดกับหนึ่งด้วย"
เขายื่นโทรศัพท์คืนให้การ์ดและเปิดลำโพง เพราะอยากรู้คำตอบ
“ครับคุณคิง”
“พาคุณโตมรกับน้องสาวมาที่เพนธ์เฮาส์ผม ห้ามให้เกิดอันตรายอะไร ถ้าลูกน้องของไอ้เสี่ยนั่นจะตามมาแย่งคนไป ก็เป่าหัวมันให้กระจุย”
“ครับ”
แล้วสายก็ตัดไป การ์ดงุนงงเล็กน้อยว่าเจ้านายให้ความคุ้มครองขั้นสูงสุดกับคนทรยศที่เขากำลังจะเตะโด่งทิ้งจากบริษัท ซ้ำยังให้คุ้มกันคนนอกแบบยอมขัดแย้งกับเสี่ยผู้มีอำนาจได้ วันนี้เป็นวันที่คนผู้ซึ่งไม่แคร์ใครแม้จะมาตายอยู่ตรงหน้าอย่างคีรากรจะให้พรวิเศษขออะไรก็ได้หมดหรือยังไงกัน
คนที่ทำงานอยู่ข้างกายเขาคิดอย่างงุนงง ไม่เข้าใจ
ส่วนโตมรนั้นแสนดีใจ เจ้านายเมตตาเขาแล้ว ชายหนุ่มคิดวางแผนบางอย่างในใจเสร็จสรรพก่อนจะเดินไปหยิบขวดชาเขียวรสชาติที่น้องสาวเขาชอบดื่ม มาเปิดรินใส่แก้วแล้วหยดยาในหลอดแก้วสีขาวที่เขาติดตัวมาลงไปสองหยดเผื่อว่าจะต้องได้ใช้
หากสิ่งที่เขาคิดมันเป็นเรื่องจริง โตมรก็คงต้องหาทางออกให้ปาลิดาแล้วล่ะ
โตมรเดินขึ้นไปหาน้องสาว แล้ววางแก้วที่ใส่เครื่องดื่มไว้ก่อนเพื่อไม่เป็นการดูจงใจให้น้องสาวดื่มจนน่าสงสัยเกินไป
“แป้ง เจ้านายของแป้งชื่ออะไรนะ" เขาถามเพื่อความแน่ใจเพราะว่ากิจการของไอ้เสี่ยนั่นในไทยมีมากมาย
“คุณวัชรินทร์”
“…”
“พูดถึงเจ้านายก็เซ็งเลย ถ้าโดนให้ทำงานหนักจะไม่ว่าอะไรเลย แต่เจอเจ้านายไม่ดีแบบนี้ต้องรีบลาออกแล้ว พี่ตามก็เหมือนกันนะคะงานที่เสี่ยงตาย เจ้านายก็ร้ายแบบนั้น แป้งว่าลาออกเลยดีกว่า ขายบ้านขายรถใช้หนี้ก็ต้องขาย เราเริ่มต้นใหม่ได้”
“เจ้านายพี่ดีกับพี่มาก แต่พี่ไม่ดีกับเขาเอง ก่อนนี้เขาให้เงินก้อนมาสิบล้านให้ถือไปใช้ตอนทำงานได้สองล้านและต้องเหลือคืนไปให้เขาแปดล้าน แต่พี่ใช้หมดไปแล้วก็ติดหนี้เจ้าของบ่อนมาอีกสามล้าน พี่หายไปไม่ติดต่อมาสามวันเขาเลยมาตามพี่เอง”
“หา… พี่ตาม ใช้เงินหมดไปขนาดนั้นได้อย่างไง อย่าบอกนะว่าเอาเงินไปใช้กับการพนัน” คนเป็นน้องตกใจ ตาเหลือกตาลาน ถ้าเงินขนาดนั้นขายบ้านขายรถก็ไม่พอแน่
“พี่ผิดเอง ตอนแรกพี่เล่นได้เงินมาเยอะ แต่คิดว่าอยากได้เงินก้อนไว้ให้เราใช้ตอนเรียนต่อ พี่เลยไม่หยุดเล่น เงินที่ควรจะได้กลับลดลงเรื่อยๆ จนเหลือเท่าทุนพอเล่นต่อเพื่อจะถอนทุนก็ไม่ได้แถมเสียอีกต่างหาก พอเสียผีพนันก็เข้าสิง อยากเอาคืน จนหมดแถมยังเป็นหนี้”
หญิงสาวฟังแล้วไม่มีอะไรจะพูด
“พี่เพิ่งรู้ว่าเจ้าของบ่อนกับเจ้านายของแป้งเป็นคนเดียวกัน มันต้องเอาเรื่องนี้มาขู่พี่กับแป้งแน่ พี่เลยไม่อยากลาออกเพราะต้องทำงานใช้เงินคืนเจ้านายแล้วต้องขอให้เขาช่วยเราเรื่องนี้ด้วย”
“แล้วเขาจะช่วยไหม"
ปาลิดานึกถึงสีหน้าเย็นชาของเขาแล้วก็ คิดไม่ออกว่าเขาจะใจดีกับพวกเธอได้…
“พี่ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน” โตมรตอบตามความเป็นจริง “พี่จะลองขอร้องเขาก่อน ถ้าเกิดว่าไม่ เราอาจจะต้องหนี”
น้ำตาของปาลิดาไหลออกมา ทำไมเธอกับพี่ชายต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย ก่อนนี้พวกเธอก็ใช้ชีวิตสงบสุขกันมาตลอด พี่ชายทำงานได้แบบเหลือกินเหลือเก็บดูแลเธอได้สุขสบาย แต่เธอไม่โทษเขาเลยเพราะรู้ว่าพี่ชายต้องการเงินเพื่อเธอถึงได้วู่วามกับการใช้เงินจนเป็นหนี้ หญิงสาวเลือกที่จพโทษตัวเองแทน
“ใจเย็นๆ ก่อนแป้ง กินน้ำก่อน” เขาหยิบแก้วชาเขียวมายื่นให้น้องสาว ลูบหลังปลอบโยน น้องสาวดื่มไปรวดเดียวหมดแก้ว เพราะอยากได้น้ำเย็นๆ ไปดับความกลุ้มใจที่รุ่มร้อนภายในอก โตมรลูบหัวน้องสาว “ไม่ต้องกังวลนะ พี่จะหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราให้ได้”
ครึ่งชั่วโมงต่อมา โตมรก็อุ้มน้องสาวซึ่งอยู่ในสภาพหลับใหลลงมาชั้นล่าง เขาบอกกับการ์ดด้วยเสียงที่แน่วแน่แสดงออกชัดว่าเขาตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวแค่ไหน
“ผมพร้อมไปพบนายแล้วครับ”