TAKE IT BACK 02
***************************
วันต่อมา
ฉันเดินเข้ามาในคณะก็เห็นกานต์กับมะนาวเพื่อนสนิทของฉันอีกคนนั่งอยู่ที่ใต้ตึกและยังมีพี่เบย์นั่งอยู่ด้วย
พอเดินเข้าไปหาพวกมันพี่เบย์ก็มองหน้าฉันแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยที่ทำให้ฉันรู้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่
ฉันยิ้มตอบกลับไปแล้วนั่งลงข้างมะนาว รู้อะไรมั้ยว่าการคบกันระหว่างฉันกับพี่เบย์น่ะไม่มีใครระแคะระคายอะไรเลยเพราะเราไม่ได้ทำตัวหึงหวงกันออกนอกหน้า
เวลาที่อยู่ต่อหน้ากานต์พี่เบย์ก็จะสนใจแต่มันและให้ความสำคัญกับมันมาก
ถามว่าน้อยใจหรือเปล่าก็มีบ้างแหละแต่ฉันก็มีเหตุผลและมีความอดทนมากเลยนะ
แค่ได้พี่เบย์มานอนด้วยฉันก็ถือว่าตัวเองชนะมันแล้วล่ะ แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าที่ฉันทำแบบนี้เพราะอะไร และคนที่ไม่รู้ก็จะด่าว่าฉันมันเลวที่แย่งแฟนเพื่อน
“รายงานที่กูฝากมึงไปแก้อ่ะมึงทำเสร็จยัง?”
พอเห็นหน้าฉันกานต์มันก็รีบทักทันทีเลย ก็เพราะมันเป็นคนชอบข่มคนอื่นแบบนี้ไงเลยไม่มีเพื่อนคนไหนอยากคบกับมันนอกจากฉันกับมะนาว
ตอนแรกฉันก็มองว่ามันเป็นคนที่เรียนไม่เก่งเลยอยากให้พวกฉันช่วยเหลือมันเรื่องเรียน
แต่ที่ไหนได้มันชอบใช้ให้คนอื่นอยู่ต่ำกว่ามันต่างหาก นี่ถ้ามันรู้เรื่องระหว่างฉันกับพี่เบย์ไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะทำยังไงที่รู้ว่าของรักของหวงของมันถูกเพื่อนแย่งไปแล้ว
และฉันก็ไม่สนใจด้วยว่าตัวเองจะดูเลวในสายตาคนอื่นมากแค่ไหน ก่อนที่ฉันจะยอมอ้าขาและเดินเข้าไปหาพี่เบย์ฉันได้คิดดีแล้วว่าผลที่มันจะตามมาเป็นยังไง
และฉันก็พร้อมที่จะเสี่ยงกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป และถ้าถามว่าฉันได้คิดอะไรกับพี่เบย์หรือเปล่า
ฉันกล้าพูดตรงนี้เลยว่าฉันรักเขาและต้องการให้เขามาเป็นของฉัน พี่เบย์เป็นผู้ชายอบอุ่นเวลาที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และยังเป็นผู้ชายที่อ่อนโยนกับฉันมากด้วย
“ฝนตกหนักแบบนี้จะกลับยังไงคะให้พี่ไปส่งมั้ย?”
“พี่เบย์ไม่รีบไปรับกานต์เหรอคะ?”
ฉันที่ยืนต่างฝนรอรถแท็กซี่ที่ป้ายรถเมล์อยู่นั้นก็เห็นพี่เบย์มาจอดรถเรียกให้ฉันขึ้นรถไปกับเขา
ที่ฉันต้องมายืนรอแท็กซี่เพราะรถของฉันเข้าศูนย์เลยลำบากอย่างที่เห็น คนตรงหน้าทำหน้าดุเพื่อให้ฉันขึ้นรถเขาตอนนี้
ฉันก็เลยรีบวิ่งขึ้นรถ ทันทีที่เข้ามานั่งในรถพี่เบย์ก็หยิบผ้าขนหนูผืนบางมาเช็ดผมให้ฉันและนั่นก็ทำให้ฉันตกใจมาก
“พะ...พี่เบย์”
“เดี๋ยวเราก็ไม่สบายหรอก พี่เป็นห่วง”
“ขอบคุณนะคะ ใจดีจัง”
ฉันยิ้มให้คนตรงหน้าที่ดูใจดีกับฉันตลอดเวลาที่เราได้เจอกัน ไม่ว่าจะตอนที่มีกานต์อยู่ด้วยหรือตอนที่เราอยู่ด้วยกันสองคน
เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นและใส่ใจเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของคนอื่นเสมอ ฉันที่เป็นแค่เพื่อนกับแฟนเขา เขายังดูแลดีขนาดนี้เลย สำหรับกานต์เขาก็คงจะดูแลมันดีมากกว่านี้อีกมั้ง
“ทำไมมองหน้าพี่แบบนี้ล่ะคะ พี่ทำให้เรากลัวหรือเปล่าหืม?”
“เปล่าค่ะ ข้าวมองหน้าผู้ชายใจดีต่างหาก”
“หึ พี่อาจจะไม่ได้ใจดีอย่างที่ข้าวคิดก็ได้นะ”
“ไม่จริงหรอกค่ะผู้ชายแบบพี่เบย์เป็นผู้ชายที่ข้าวต้องการเลย”
ฉันพูดยิ้มๆ และไม่กล้าเงยหน้ามองคนตรงหน้า รู้นะว่าคำพูดแบบนี้มันเป็นคำพูดอ่อยแฟนเพื่อน แต่ฉันก็อดที่จะพูดไม่ได้ไงเพราะฉันอยากให้เขารับรู้ความรู้สึกของฉันด้วย
“เรานี่น่ารักดีเหมือนกันนะ”
ฉันมองกานต์กับพี่เบย์ที่นั่งคุยกันและหัวเราะด้วยกันก่อนที่มะนาวจะสะกิดไหล่ฉันเพื่อถามถึงรายงานที่เมื่อกี้กานต์เพิ่งถามฉันไป ฉันคงคิดอะไรเพลินไปหน่อย
ฉันหันไปตอบเพื่อนทันทีว่าเสร็จแล้วและเอาไปส่งได้เลย รู้มั้ยว่ารายงานที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่กานต์มันไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่สิ ต้องบอกว่ามันทำ
สิ่งที่มันทำก็คือการออกคำสั่งกับพวกฉันไง มะนาวเอาไปทำก่อนหน้านี้แล้วส่งมาให้ฉันเพื่อให้ฉันทำต่อแล้วตรวจทานดูก่อนส่ง ถ้าเป็นไปได้ฉันเองก็อยากจะเอาชื่อมันออกเหมือนกันนะ
“ข้าววันนี้มึงเอารถมาป่ะ ถ้าไม่มีรถเดี๋ยวกูไปส่งจะไปเลี้ยงข้าวมึงด้วยที่ช่วยทำรายงานจนเสร็จ”
กานต์หันหน้ามาพูดกับฉันทำให้พี่เบย์หันมามองฉันด้วย วันนี้ฉันให้พี่เบย์มาส่งแต่ที่เข้ามาหาเพื่อนช้าเพราะไม่อยากเป็นที่สงสัยของคนอื่นไง
ฉันยิ้มให้มันแล้วบอกว่าเมื่อเช้านั่งแท็กซี่มา และมันก็ให้ฉันติดรถกลับกับมันด้วยเพราะมันจะเลี้ยงข้าวฉัน
ข้อดีของกานต์ก็คือการที่มันไม่เคยหวงของอะไรกับเพื่อนเลย เวลาที่มันมีอะไรมันก็ให้เพื่อนได้เสมอ
แต่มันคงไม่รู้ว่ามันคือสิ่งที่ฉันไม่ได้อยากได้จากมันเลยไง เมื่อก่อนฉันอาจจะไม่ได้คิดอะไรนะเพราะเห็นว่าเราสามคนเป็นเพื่อนสนิทกันมานานและมันเองก็ไม่มีเพื่อนคนไหนคบมันด้วย
แต่พอได้รู้จักกันมากขึ้นมันก็ทำให้ฉันรู้ว่าเพื่อนอย่างมันอย่ามีเลยจะดีกว่า เพราะสิ่งที่มันทำกับฉันมันคือการที่มันไม่ได้จริงใจกับฉันเลยสักนิด
“งั้นมึงกลับกับกูนะ พี่เบย์จะได้ไปส่งมึงด้วย”
“เกรงใจพี่เบย์จัง”
“ไม่ต้องเกรงใจหรอก พี่เบย์เขาน่ารักกับเพื่อนกูทุกคนนั่นแหละ”
กานต์หันไปยิ้มให้แฟนตัวเองที่ตอนนี้หันมามองฉันอยู่ ฉันไม่เถียงหรอกนะที่มันบอกว่าพี่เบย์น่ารักน่ะเพราะเขาน่ารักจริงๆ และน่ารักมากๆ ด้วย ไม่งั้นฉันจะรักเขาเหรอ
หลังจากที่เรียนและกินข้าวกันเสร็จกานต์กับพี่เบย์ก็มาส่งฉันที่คอนโด พอจะลงจากรถกานต์มันก็หันมาถามฉันว่าทำไมฉันถึงไม่หาแฟนเพื่อให้ไปรับไปส่งจะได้สบายไม่ลำบากแบบนี้
คำพูดเหมือนดูเป็นห่วงแต่ฉันรู้ว่ามันคือคำพูดดูถูก มันรู้ได้ยังไงว่าตอนนี้ฉันลำบาก
มันไม่รู้อะไรเลยต่างหากล่ะว่าผัวมันน่ะไปรับไปส่งฉันประจำ ต่อให้วันนี้มันไม่อาสาที่จะมาส่งฉันยังไงแล้วพี่เบย์ก็ต้องมาส่งฉันอยู่ดีนั่นแหละ
“มึงไม่คิดจะหาแฟนเหรอข้าวเวลาไปไหนมาไหนจะได้ไม่ลำบากแบบนี้ไง”
“กูก็ไม่ได้ลำบากอะไรนะ ออกจะสบายด้วยซ้ำ”
ฉันไม่ได้มองหน้ากานต์มันหรอกเพราะตอนนี้ฉันกำลังมองหน้าพี่เบย์ที่มองฉันจากกระจกมองหลังอยู่ หรือไม่จริงล่ะ
ตอนนี้ฉันโคตรสบายเลยที่มีผัวเพื่อนคอยไปรับไปส่ง และมานอนกับฉันทุกคืน
ที่จริงก็อยากจะถามมันกลับเหมือนกันนะว่าตอนนี้มันมีความสุขดีหรือเปล่าที่ผัวตัวเองไม่ได้นอนกอดแต่ดันไปกอดคนอื่นแทน
มันไม่คิดที่จะสงสัยบ้างเหรอว่าทำไมทุกคืนพี่เบย์ไม่ตอบไลน์มัน และไม่ได้อยู่กับมันเลยหรือเป็นเพราะว่ามันเอาแต่ใจตัวเองจนไม่สนใจคนรอบข้างมันเลย
“ขอบคุณนะคะพี่เบย์ที่มาส่งข้าวแบบนี้ เกรงใจมากเลย ที่จริงไม่ต้องดูแลเพื่อนของกานต์ดีขนาดนี้ก็ได้นะคะ”
“ไม่ได้หรอกเดี๋ยวกานต์ไม่รักพี่ขึ้นมาแย่เลย”
ร่างสูงพูดยิ้มๆ แล้วหันไปมองหน้ากานต์ที่ตอนนี้ยิ้มกว้างออกมาที่พี่เบย์พูดเอาใจมัน ถามว่าโกรธหรือเปล่าก็แอบมีเคืองบ้างเหมือนกันนั่นแหละ
แต่ก็ต้องเก็บอาการเหมือนตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไรไง เพราะตัวจริงของเขาไม่ใช่ฉันแต่คือเพื่อนของฉัน
งั้นก็รักกันให้มากๆ แล้วกันนะเพราะอีกไม่นานอาจจะไม่ได้รักกันแบบนี้แล้วก็ได้
“ขับรถกลับดีๆ นะคะพี่เบย์ กูไปแล้วนะมึง”
“อืม แล้วพรุ่งนี้จะให้กูมารับป่ะ?”
“ไม่อ่ะ เดี๋ยวกูไปเองสะดวกกว่า”
ฉันยิ้มให้กานต์แล้วลงจากรถมา แต่ก่อนที่จะลงมานั้นสายตาพี่เบย์ที่มองฉันมันทำให้ฉันรู้ได้ทันทีว่าคืนนี้เราจะต้องได้เจอกันแน่
ที่จริงถ้าเขาไม่มาฉันก็ไม่โกรธเขานะเพราะฉันรู้ว่าตัวเองเป็นแค่ตัวสำรองไม่ใช่ตัวจริง
ฉันเปิดประตูเข้าห้องมาก็เห็นช่อดอกไม้วางอยู่ที่โต๊ะหน้าทีวี ก่อนที่จะออกจากห้องมันไม่มีเลยนะ
ฉันเดินไปหยิบมาดูและเห็นว่ามีการ์ดด้วย พออ่านการ์ดเท่านั้นแหละฉันก็ยิ้มออกมาทันทีเพราะคนที่เป็นเจ้าของดอกไม้ก็คือพี่เบย์ไง
“สำหรับน้องข้าวของพี่ครับ”
ไม่ยักรู้ว่าพี่เบย์ก็เขียนอะไรแบบนี้เป็นเหมือนกันด้วย ฉันถึงได้บอกไงว่าเขาเป็นผู้ชายน่ารักมาก
ไม่รู้หรอกว่าเขาไปทำแบบนี้กับผู้หญิงคนไหนบ้าง แต่การที่เขาทำแบบนี้กับฉันมันทำให้ฉันดีใจและมีความสุข
พี่เบย์เป็นผู้ชายคนแรกที่ฉันรักมากและไม่เคยรักผู้ชายคนไหนเท่าเขามาก่อนเลย ถึงแม้ว่าก่อนที่จะเจอกับเขาฉันเคยมีแฟนมาก่อนแล้วก็ตาม
ที่ฉันกล้าพูดว่าตัวเองรักเขามากเพราะอะไรรู้ป่ะ ก็เพราะฉันกล้าแย่งแฟนเพื่อนมาไง
ถ้าไม่รักก็คงไม่กล้าแย่งมานอนมีอะไรกันขนาดนี้หรอก ต่อให้รู้ว่าผิดแล้วมันยังไงในเมื่อมันถลำลึกมาขนาดนี้แล้วและฉันก็ห้ามตัวเองไม่ได้ด้วย
ไลน์
เสียงไลน์ทำให้ฉันต้องวางช่อดอกไม้ลงแล้วหยิบมือถือออกมาจากกระเป๋า ไม่ต้องเปิดดูก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ส่งมาเป็นใคร
การที่ฉันเข้าห้องมาแบบนี้พี่เบย์ก็คงจะรู้แล้วล่ะว่าฉันได้เห็นช่อดอกไม้ที่เขาเอามาเซอร์ไพรส์ฉันแล้ว
และที่เขาเข้าห้องฉันได้เพราะฉันได้ให้คีย์การ์ดกับเขาด้วยเผื่อวันไหนที่เขาอยากมาหาฉันไง
เบย์ : ชอบมั้ยคะ???
ข้าว : ชอบมากค่ะ น่ารักที่สุดเลย
ข้าว : อยากได้อะไรคืนนี้ข้าวให้หมดทั้งตัวและหัวใจเลยค่ะ
เบย์ : ต้องการกินข้าวค่ะ