เส้นเลือดสีเขียวจางๆ ปูดโปนออกมาจากท่อนแขนแกร่งเรียกให้ดวงตากลมสวยของหญิงสาวจับจ้องไม่วางตา ก่อนที่ลำคอระหงจะกระเดือกน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่เมื่อคนตรงหน้าถลกแขนเสื้อเชิ้ตมากขึ้น เผยผิวสีแทนและกล้ามเนื้อแน่นให้เห็นเต็มตามากกว่าเดิม แต่อะไรก็ไม่ชวนให้มองตามเท่ากับการที่อีกฝ่ายเอื้อมมือไปคว้าชายเนกไทแล้วค่อยๆ รูดมันออกจากคอ
เนกไทถูกวางลงบนโต๊ะ กระดุมเสื้อเชิ้ตสองสามเม็ดถูกปลดออก พลันแผงอกแกร่งก็ปรากฏให้เห็นรำไร น้ำลายเอื้อกใหญ่ถูกบังคับให้ต้องกลืนลงคออีกระลอก
เธอถึงกับต้องแอบกำชายกระโปรงของตัวเองที่ใต้โต๊ะอาหารไว้มั่น เม้มริมฝีปากแน่นเมื่อเห็นว่าริมฝีปากหยักบนใบหน้าคร้ามคมเผยอออกเล็กน้อย วูบหนึ่งที่สติสัมปชัญญะเกือบหลุด เธอก็สะดุ้งโหยงสุดตัวเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็ เปล่งเสียง
“อาแต่งหน้าเค้กให้เองแบบนี้ หนูขาชอบไหม”
เธอพยักหน้า
ชอบ...
แต่ชอบอะไรนั้น เธอไม่ได้บอก แน่นอนว่าไม่ใช่สิ่งที่เขาถาม ได้แต่จับจ้องใบหน้าสมมาตรของชายหนุ่มนิ่ง
เขาหล่อเหลาเหลือเกิน...ยิ่งไปกว่านั้น เขายังมีเสน่ห์เหลือร้ายที่เธอไม่เคยเห็นจากผู้ชายคนไหน
ยิ่งมองก็ยิ่งลุ่มหลง จมดิ่งลึกสู่ห้วงตัณหา
เธอแอบจินตนาการโดยที่เขาไม่รู้ว่าถ้าหากเธอถูกริมฝีปากสีสวยของเขานั้นรุกรานไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย มันจะเป็นเช่นไร...
แต่แล้วก็ได้สติกลับคืนมา หญิงสาวสะบัดหน้าน้อยๆ พยายามต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตัวเองเป็นอย่างมาก เพราะผู้ชายที่เธอคิดเกินเลยอยู่นั้นมีศักดิ์เป็น ‘คุณอา’
ถึงจะไม่ใช่อาแท้ๆ ก็เถอะ แต่เขาก็เป็นผู้ปกครองของเธออยู่ดี
ก็แค่ชั่วคราวล่ะนะ
ส่วนสาเหตุที่เขาได้กลายมาเป็นผู้ปกครองของเธอ หญิงสาวไม่พร้อมที่จะอธิบายในตอนนี้หรอก เพราะหลังจากนั้นดวงตาก็จ้องมองการกระทำของเขาอย่างหลงใหลต่ออย่างอดไม่ได้
มือแกร่งทั้งสองข้างบีบครีมแต่งหน้าเค้กละเลงบนตัวเค้กที่ได้รับการปาดครีมแล้ว เขาตั้งใจมากทีเดียว ขณะที่เธอเองก็ตั้งใจมองเขาเหมือนกัน
จะเป็นอย่างไรนะหากครีมนั้นถูกละเลงบนตัวเธอ?
เผลอไผลคิดน่าเกลียดอีกแล้ว แต่เธอก็ไม่คิดที่จะรั้งความรู้สึกตัวเองไว้ด้วยคิดว่าไม่มีใครล่วงรู้นอกจากตัวเอง
สายตาของเธอจับจ้องเขาเนิ่นนาน...กระทั่งเห็นว่าครีมแต่งหน้าเค้กนั้นถูกบีบมาเลอะปลายนิ้วมือของชายหนุ่ม
เขายกมือขึ้นจรดริมฝีปากและดูดครีมนั้นเข้าไปด้วยท่าทางที่...ชวนมองเกินคำบรรยาย
พลันก็ทำให้คนมองทนไม่ไหวอีกต่อไป ลุกพรวดจากเก้าอี้ตรงไปคว้ามือข้างนั้นของเขาเอาไว้ แล้วสบตาเมื่อเขาเลิกคิ้วสูงคล้ายจะถามว่ามีอะไร ทว่าเธอไม่ตอบหรอก ได้แต่อ้าปากแล้วงับปลายนิ้วของเขาที่ยังเปรอะเปื้อนครีมเค้กอยู่ แล้วละเลียดเลียไล้ ดูดดุดราวกับลูกแมวยังไม่หย่านม
ดวงตาช้อนมองใบหน้าคร้ามคมนิ่ง ส่งสัญญาณคล้ายเชิญชวนให้ทำเรื่องสนุกๆ กัน ก่อนที่เขาจะเอื้อมมือไป ปัดเค้กที่วางอยู่บนโต๊ะตกลงพื้น แล้วจับเธอขึ้นไปวางแทน
ร่างบางถูกกดให้นอนราบ ใบหน้าคร้ามโน้มลงต่ำ ซุกไซ้จมูกและริมฝีปากไปตามซอกคอหอมกรุ่นของเธอ แล้วประทับจุมพิตหนักๆ ไปทั่วทุกอณูผิวอุ่น
ความหวามไหวแผ่ซ่านกำจาย เธอยินดีให้เขาล่วงเกินตามประสาชายหญิง แต่แล้วเธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัวอีกครั้งเมื่อมีเสียงแหบห้าวดังเข้ามาในโสตประสาท
“เสร็จแล้ว เป็นไง”
เธอจับจ้องใบหน้าเขาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาหยักยิ้มพิมพ์ใจ พร้อมกับยื่นเค้กที่ตกแต่งหน้าตามาให้เธอดู
“อาหวังว่าหนูขาจะชอบนะคะ”
เค้ก...ไม่ได้ถูกปัดตก เธอก็ไม่ได้ถูกจับขึ้นวางบนโต๊ะแทนเค้ก
ในวินาทีนี้เองที่หญิงสาวตระหนักได้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นเป็นเพียงจินตนาการลามกในหัวของเธอเพียงคนเดียว ก่อนจะถอนหายใจยาวออกมาด้วยความเสียดาย แล้วตอบอย่างเนิบนาบ
“หนูชอบค่ะ”
แต่ก็เรียกรอยยิ้มกว้างให้กับคนฟังได้เป็นอย่างดี พลันเขาก็วางมือจากการแต่งหน้าเค้ก คว้าเทียนมาปักและจุดมันขึ้น พร้อมกับนั่งลงบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเธอ ก่อนจะเอ่ย
“งั้น...สุขสันต์วันเกิดครบยี่สิบนะคะ หนูขาของอา”
หนูขาของอา...ถูกเรียกอย่างนี้ เธอชอบที่สุด
มุมปากยกยิ้มขึ้นมาด้วยความพอใจ ขณะที่อีกฝ่ายว่ามาอีก
“อธิษฐานแล้วเป่าเทียนสิคะ”
ถึงจะเป็นเรื่องที่เด็กๆ ทำ แต่หญิงสาวหลับตาแล้วยกมือขึ้นพนมที่ระหว่างอก
ขอให้หนูเป็นหนูขาของคุณอาตลอดไป...
อธิษฐานเสร็จก็ลืมตาแล้วเป่าเทียนจนดับ ก่อนจะสบตาอีกฝ่ายที่ส่งยิ้มให้เธอแล้วคว้ามีดพลาสติกมาถือ
“ได้เวลาตัดเค้กแล้ว เจ้าของวันเกิดจะให้อาตัด หรือจะตัดเอง”
“ให้คุณอาตัดเลยค่ะ”
เธอบอก อีกฝ่ายจึงลงมือทำตามนั้น ไม่นาน เค้กชิ้นหนึ่งก็ถูกส่งมาตรงหน้า พร้อมกับคำคะยั้นคะยอ
“หนูขาต้องกินนะ กินเป็นพิธีก็ได้ ไม่ต้องกลัวอ้วน”
เธอเหลือบมองเค้กในจาน ชิ้นแค่นี้ไม่ทำให้เธออ้วนหรอก แต่สิ่งที่เธออยากกินน่ะมันไม่ใช่เค้ก ทว่าเป็นคนตรงหน้าที่ตัดเค้กใส่จานตัวเองแล้วลงมือกินโดยการใช้มือต่างหาก
เขาดูดครีมเค้กเข้าปากด้วยท่าทางเหมือนเด็กเล็กๆ จนเผลอทำครีมเลอะมุมปากไปนิดหน่อย คนมองอยากจะกินเค้กที่เปรอะเปื้อนอยู่บนมุมปากของเขามากกว่าเค้กในจาน ขณะที่เขาชำเลืองมองเธอแล้วหัวเราะน้อยๆ
“กินสิ อากินเปิดประเดิมให้แล้ว ถึงตาหนูขาแล้วค่ะ”
เธอจึงจำต้องคว้าเค้กเข้าปากบ้าง โดยที่ใจอยากบอกเขาเหลือเกินว่าสิ่งที่เธออยากกินในวันเกิดตัวเองหาใช่เค้กที่เขาตกแต่งหน้าตาให้แต่อย่างใด ทว่าเป็นตัวเขาต่างหาก
เธออยากกินเขา...หรือถ้าจะให้เขากินเธอ เธอก็ไม่ขัด
แต่ความลับนี้ไม่สามารถบอกออกไปได้ ทำได้เพียงกักเก็บไว้ในใจทั้งๆ ที่เพลิงปรารถนาที่จะได้สัมผัสแนบแน่นกับเขาพลุ่งพล่านไปทั่วสรรพางค์กาย
คิดไม่ดีกับคุณอา...แบบนี้จะเรียกว่าแรดร่านได้ไหมนะ
เอาเถอะ จะเรียกว่าอะไร เธอก็ไม่สนแล้ว รู้แต่เพียงว่าเค้กที่มีคุณอาร่วมกินด้วย...อร่อยกว่าเค้กวันเกิดปีอื่นเป็นไหนๆ
แต่แล้ว...
อยากกินคุณอามากกว่า...
ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามาในหัวอีกครั้ง
เค้กชักรสชาติกร่อยแล้วสิ เฮ้อ...คุณอานะคุณอา ทำไมถึงได้น่ากินกว่าเค้กขนาดนี้นะ
หนูไม่เข้าใจเลยจริงๆ