เมื่อถึงเวลาพักเที่ยงโทรเครื่องหรูบางเฉียบของธัญญ่าก็ดังขึ้น ทำให้คนที่กำลังวุ่นวายอยู่กับเอกสารกว่าโทรศัพท์ขึ้นมารับโดนไม่ได้ชื่อบนหน้าจอว่าเป็นใครโทรมา
"สวัสดีค่ะ"
"ธัญญ่า นี่แกปล่อยให้ผัวของแกออกมาเที่ยวกับชะนีสองตัวที่ไหนก็ไม่รู้ได้ยังไงห๊ะ"เสียงแหวดดังแปดหลอดของเอิงเอยเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเรียนดังขึ้นตามปลายสาย ทำเอาธัญญ่าเองถึงกับต้องยกโทรศัพท์ออกห่างจากหู
"พูดเบา ๆ หน่อยไม่ได้หรือไง ฉันตกใจหมด"
"ฉันคงเป็นคนที่ต้องตกใจมากกว่า นี่แกเป็นบ้าไปแล้วหรือยังไงถึงปล่อยให้ผัวตัวเองมากินข้าวกับนางชะนีปากแดงที่ไหนไม่รู้ถึงกับสองคน"น้ำเสียงของเอิงเอยสื่อถึงความไม่พอใจเมื่อเธอได้เห็นสามีของเพื่อนกำลังนั่งทานข้าวอยากมีความสุขกับผู้หญิงที่ไหนไม่รู้ ทั้งสามคนไม่มียางอายเลยหรืออย่างไร คนทั่วทั้งประเทศก็รู้ดีว่ากวินมีภรรยาอยู่แล้ว ทำไมเขาถึงได้ทำตัวเหลวไหลไม่เอาไหนแบบนี้ แล้วนี่ยังควงผู้หญิงทั้งสองคนมานั่งกินข้าวสวีทหวานสายตาของคนทั้งร้านอาหารที่จับจ้องมายังโต๊ะของเขา สวดผู้หญิงทั้งสองคนดีก็คืออะไรไร้ยางอายจนถึงขั้นต้องมายุ่งเกี่ยวกับสามีคนอื่นถ้าอย่างหน้าด้าน ๆ เธอรู้สึกโมโหแทนเพื่อนของตัวเองเสียจริง ๆ
"เขาจะทำอะไรมันก็เรื่องของเขา ปล่อยให้เขามีความสุขกับสิ่งที่ตัวเองเลือกเถอะ"
"แกจะบ้าหรืออย่างไร แกเป็นเมียของคุณกวินนะแกจะปล่อยให้ผัวของตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับผู้หญิงคนอื่นง่าย ๆ อย่างนี้เหรอ"เอิงเอยถึงกับสับสนและมึนงง เพื่อนของเธอไม่แสดงถึงอาการตกอกตกใจ และพูดราวกับว่าไม่สนใจที่สามีของตัวเองไปมีผู้หญิงคนอื่น
"แล้วฉันจะไปห้ามอะไรเขาได้ล่ะ ได้เมื่อนั้นมันเป็นสิ่งที่เขาต้องการ"ธัญญ่าเอ่ยออกมาอย่างปลง ๆ เธอเคยทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาหยุด มันไม่สามารถหยุดยั้งเขายังคงมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนอื่นอยู่เรื่อยไป แล้วจะให้เธอทำอย่างไรต่อไปดีล่ะ ในเมื่อเขาไม่คิดที่จะหยุดเลย ทำยังทำให้เรื่องทุกอย่างมันใหญ่โตไปมากกว่านี้อีก เธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าหากว่าเรื่องนี้ถึงหูพ่อของเธอสามีของเธอจะอยู่ในสภาพอย่างไร
"แกจะยอมปล่อยให้ผัวของตัวเองทำแบบนี้ไม่ได้นะธัญญ่า แกต้องลุกขึ้นมาทวงสิทธิของความเป็นเมียหลวงสิ"
"ถ้าฉันลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ของความเป็นเมียหลวง แล้วแกคิดว่าเขาจะยอมหยุดทุกอย่างเพื่อฉันอย่างนั้นหรอกเหรอ"เกิดความเงียบระหว่างบทสนทนาของทั้งคู่ คำพูดของธัญญ่ามันทำให้เอิงเอยนึกคิดได้
"แกก็รู้ดีนะเอิงเอย ว่าความต้องการของกวินไม่มีอะไรมาฉุดยั้งเขาได้ แม้แต่ฉันเองที่เป็นเมียหลวงและถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม"ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์ ตลอดเวลาเกือบสองปีของการแต่งงานเธอทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาหยุดอยู่ที่เธอเพียงคนเดียว แต่ผลสุดท้ายก็เป็นอย่างที่เห็น เขาไม่สามารถหยุดความต้องการที่มีในตัวของเขาเองได้ ยิ่งเธอฝืนจะรั้งเขาไว้ก็มีแต่ยิ่งเหนื่อยเปล่า คงจะมีแต่ตัวเธอเองคนเดียวที่เจ็บ
เธอเคยขู่ฟ้องหย่าเพื่อจะให้เขาหยุด แต่คนอย่างกวินก็ต่างพาหาเรื่องหยิบยกขึ้นมาอ้างต่าง ๆ นานา จนเธอรู้สึกเอือมระอาและเป็นคนเงียบไปเอง
"แล้วแกจะปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นแบบนี้ต่อไปอย่างนั้นเหรอธัญญ่า"
"แล้วแกจะให้ฉันทำอย่างไรล่ะเอิงเอย"
"ไหนแกบอกว่าแกรักคุณกวินอย่างไรล่ะ ทำไมแกถึงยอมให้เขามีผู้หญิงคนอื่นง่าย ๆ อย่างนี้"คำถามของเอิงเอยมันทำให้ธัญญ่าหลับตาลง ลมหายใจสูดดมเข้าไปในปอดอย่างลึก ๆ ก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมาใช้แรงหมุนเก้าอี้ให้หันกลับไปมองยังกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้
"บางทีฉันเองก็เริ่มไม่แน่ใจแล้วเหมือนกันว่าหัวใจของฉันยังรักกวินเขาอยู่หรือเปล่า"การกระทำของเขามันทำให้เธอชักไม่แน่ใจในความรู้สึกของตัวเอง ทุกอย่างในชีวิตของเธอหลังแต่งานกับกวินมันเริ่มเปลี่ยนไปจากตอนที่ยังเป็นแฟนกัน
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นหลังจากธัญญ่าวางสายจากเพื่อนเพียงแค่ไม่กี่นาที เมื่อเธอหมุนตัวกลับไปมองก็เจอกับแทนไทเปิดประตูเดินถือข้าวกล่องเข้ามาให้เธอ
"ผมเห็นว่าคุณธัญญ่ายังไม่ได้ออกไปทานเมื่อเที่ยง เลยออกไปซื้อข้าวมาให้ครับ"ข้าวกล่องแสนจะธรรมดากับน้ำเปล่าเย็น ๆ พร้อมกับผลไม้อีกหนึ่งถุงถูกวางลงบนโต๊ะกระจกตรงหน้าของโซฟา
เพราะมัวแต่คุยอยู่กับเพื่อนสาวถึงทำไมเธอลืมเรื่องมื้อเที่ยงไปเสียสนิท แต่ก็ต้องขอบคุณบอดี้การ์ดส่วนตัวที่คอยห่วงใยเธออยู่เสมอ ถ้าหากว่าเธอขาดบอดี้การ์ดคนนี้ไปก็คงจะแย่เหมือนกัน
แทนไทเข้ามาสมัครเป็นบอดี้การ์ดตั้งแต่ตอนที่เธออายุได้เพียงแค่สิบแปดปี ด้วยทักษะการต่อสู้และมีไหวพริบดีผู้เป็นบิดาจึงมอบหมายให้แทนไทคอยตามดูแลเธออย่างใกล้ชิด อย่าคิดว่าบอดี้การ์ดคนนี้จะมีอายุที่มาก ขอบอกว่าทุกคนคิดผิด
แทนไทชายหนุ่มผู้มีหน้าตาหล่อเหลากระชากใจหญิงสาวได้แทบจะทุกราย อายุสามสิบสองปีของเขาไม่สามารถทำร้ายใบหน้าอ่อนเยาว์ราวกับเด็กหนุ่มอายุยี่สิบสองปีได้เลย แม้ว่าบนใบหน้าของเขาจะไร้รอยยิ้มแต่ก็ยังสามารถดึงดูดสายตาของเหล่าผู้หญิงทั้งในและนอกบริษัทได้ แต่ไม่รู้ว่าทำไมบอดี้การ์ดคนนี้ของเธอถึงไม่คิดจะมองผู้หญิงคนอื่นใด
"ขอบใจนายมากนะ แทนไท คงมีแต่นายที่คอยเป็นห่วงฉัน"ธัญญ่าวางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะก่อนจะเดินมานั่งลงบนโซฟา ดวงตากลมโตของเธอมองกล่องข้าวสลับกับใบหน้าของเขาไปมา
"ว่าแต่นายทานมื้อเที่ยงแล้วหรือยังล่ะ ถ้ายังทานด้วยกันกับฉันเอาไหม"
"ไม่เป็นอะไรครับคุณธัญญ่า พอดีว่าผมซื้อของผมมาแล้วครับ เดี๋ยวก็จะออกไปทานที่ด้านนอก"
"เอามาทานด้านในกับฉันด้วยกันสิ ทานคนเดียวเหงาแย่"หญิงสาวบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้ แต่เธอหารู้ไม่ว่าคำพูดและรอยยิ้มของเธอทำเอาหัวใจของเขาเต้นแรงมากแค่ไหน
"มัวยืนนิ่งอยู่ทำไม ไปหยิบกล่องข้าวมาสิ"เสียงหวานของธัญญ่าดังขึ้นอีกครั้งทำให้แทนไทหลุดออกจากห้วงภวังค์ความคิด
"ครับ ๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้ครับ"ชายหนุ่มหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทำงาน ใบหน้าคมเข้มแต่งเติมไปด้วยรอยยิ้มเมื่อหันหลังให้กับเธอ
แทนไทยรีบเดินไปหยิบข้าวกล้องของตนเอง ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในห้องทำงาน ทั้งสองนั่งทานข้าวด้วยกันพร้อมกับพูดชวนคุยเรื่องตลกมันทำให้ธัญญ่าลืมเรื่องของสามีอย่างกวินไปได้บ้าง ส่วนแทนไทนั่นก็รู้สึกมีความสุขเมื่อได้นั่งร่วมทานข้าวกับคนที่เขาแอบรักมานานหลายปี