1

1416 Words
ปักกิ่ง เมืองหลวงของอาณาจักรต้าชิง กำลังมีงานแต่งงานใหญ่เกิดขึ้น หลังจากเกิดกบฏเสวียกุ้ยจื่อจนเกิดการปราบปรามขุนนางกังฉินไปหมด จนตอนนี้บ้านเมืองกลับมาสงบสุขอีกครั้ง ราษฎรมีที่ดินทำกินเป็นของตัวเอง ถ้าจะพูดว่าตอนนี้แผ่นดินต้าชิงในรัชสมัยของจักรพรรดิหยางจื่อเป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ที่สุดก็ว่าได้ แผ่นดินต้าชิงนอกจากมีกองทัพมหาศาลพระคลังเริ่มเนืองแน่นไปด้วยทรัพย์สินจากการค้าขาย อีกหนึ่งข่าวดีคือฮองเฮาคู่บารมีขององค์จักรพรรดิกำลังจะมีประสูติกาลในเร็ววันนี้ เพื่อเป็นการตอบแทนความจงรักภักดีแก่ขุนทหารคนสำคัญ จักรพรรดิหยางจื่อจึงจัดการมอบสมรสพระราชทานให้กับขุนทหารคู่ใจ แม่ทัพใหญ่แห่งกองแปดธงผู้หล่อเหลา เก่งกาจ สุขุม เยือกเย็น สู้ศึกมามากกว่าร้อยครั้งไม่เคยแพ้สักครั้งเรียกกว่าเกรียงไกรไร้พ่ายแต่น่าเสียดายที่ยังไม่มีฮูหยิน องค์จักรพรรดิไม่อาจทนนิ่งดูดายได้ว่าแม่ทัพผู้มากฝีมือจะไม่มีครอบครัวเสียที จึงมีพระราชโองการให้มีการแต่งงานของแม่ทัพหนุ่มเกิดขึ้น ในความใจกว้างของจักรพรรดิไม่มีใครรู้ว่าทำไมพระองค์ถึงพระทัยดีปานนั้น แต่ยิ่งได้ฟังใจความในราชโองการที่สะท้านฟ้าสะท้านดินแล้วก็ทำให้ขุนนางในราชสำนักหมดข้อสงสัยต่างมองเป็นทางเดียวว่าองค์จักรพรรดิเมตตาในขุนทหารผู้นี้ยิ่งนัก แต่งงานกับสตรีบรรณาการ ผู้อื่นจะคิดเห็นเป็นอย่างไรนั้นแม่ทัพใหญ่นามว่าลู่เคอตัวผู้ได้รับพระเมตตาสุดกว้างขวางราวกับแม่น้ำฮวงโหนั้นไม่รู้ แต่ตอนเขายื่นมือไปรับราชโองการนั้นน้ำตาทหารกล้าจะหลั่งเสียให้ได้ก็เพราะสารในราชโองการที่ถ่ายทอดลงมานั่นบอกให้รู้ว่าต่อจากนี้ไปชีวิตของเขาต้องผูกติดกับสตรีที่ไม่ได้รักไปตลอดชีวิต คิดจะขัดคำสั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่ได้เพราะความจงรักภักดีท่วมท้นตัว จึงจำต้องทำหน้าชื่นตาบานโขกศีรษะรับพระมหากรุณาธิคุณ ป่วยการจะเสียเวลาคิด ลู่เคอตัวจัดพิธีแต่งงานหลังจากได้รับพระราชโองการ และตอนนี้ขบวนเกี้ยวเจ้าสาวกำลังผ่านเข้าประตูจวนของเขาเข้ามาแล้ว แม่ทัพใหญ่แห่งกอดแปดธง นอกจากจะได้รับพระราชทานสมรส เขายังได้ตำแหน่งแม่ทัพใหญ่มาอีกตำแหน่งเนื่องจากอดีตแม่ทัพใหญ่กู้ม่านเอ่อจินต้องการปลดเกษียณตัวเองไปอยู่บ้านปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ตามที่วางแผนไว้ในบั้นปลายชีวิต ลู่เคอตัวอดีตรองแม่ทัพจึงได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ได้รับตราแม่ทัพแล้วเลื่อนขึ้นเป็นแม่ทัพใหญ่ คนแบกหามสินเจ้าสาวคนสุดท้ายก้าวเข้าไปภายในจวนแล้ว หลังทำพิธีไหว้ฟ้าดิน ทุกอย่างเสร็จสิ้น ตอนนี้ร่างแน่งน้อยของเจ้าสาวที่มีมงกุฎหงส์มีผ้าคลุมหน้าสีแดงนั่งรออยู่ภายในห้องนอนกว้างใหญ่รอให้เจ้าบ่าวมาเปิดผ้าและร่วมดื่มสุรามงคลจากนั้นก็ร่วมหอกันตามประเพณีประกาศความเป็นคู่ผัวตัวเมีย เสียงด้านนอกห้องหออึกทึกครึกโครมเพียงใดไม่เท่ากับหัวใจดวงน้อยของเต้าเฟย เพราะนางกำลังนั่งวิตกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังคืนนี้ ร่วมหอกัน นั่นคือสิ่งที่เต้าเฟยสงสัยว่าคงไม่มีอะไรยาก แค่นอนและปล่อยให้แม่ทัพลู่เคอตัวมอบทายาทให้นางเท่านั้น ได้ยินว่าเจ็บมากหน่อย แต่คงน้อยกว่าถูกลูกธนูทิ่มแทงละมั้ง แต่ลูกธนูทิ่มแทงนางเพียงครั้งเดียวแต่อาวุธของแม่ทัพนั่นเล่า... คิดพลางหน้าแดงซ่านนางไม่ได้เขินอายแค่อยากผ่านขั้นตอนนั้นไปอย่างรวดเร็ว เต้าเฟยธิดาสายรองจากเผ่าเคอเอ่อร์ซินถอนหายใจ นางสอบถามมาจากแม่นมที่เลี้ยงดูนางแล้วว่าการร่วมเตียงกับสามีต้องทำอย่างไรบ้าง ตอนนั้นแม่นมของนางมองนางด้วยดวงตาเบิกกว้างก่อนจะเป็นลมไปครั้งหนึ่งจนนางต้องเขย่าตัวขึ้นมาแล้วถามต่อ “แม่นมเซียง บอกข้าเถอะ ข้าอยากรู้จริงๆว่าทำอย่างไรถึงจะมีลูกชายได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ร่วมเตียง แม่นมช่วยบอกเคล็ดลับข้าหน่อยเถอะนะ” แม่นมเซียงซึ่งผ่านการมีบุตรมาแล้วห้าคนกลืนน้ำลายเหนียวๆลงคอ ถึงหญิงสาวตรงหน้าจะอายุถึงวัยออกเรือนแล้วแต่ก็คิดไม่ถึงว่าคุณหนูที่นางเลี้ยงมาอย่างดีจะโพล่งถามอะไรตรงๆออกมาราวกับลูกธนูพุ่งออกจากแร่ง “คุณหนูเจ้าคะ บ่าวไม่รู้จริงๆเจ้าค่ะว่าทำเช่นไร เรื่องจะกำหนดให้เด็กเป็นหญิงหรือชายก็ต้องแล้วแต่ลิขิตสวรรค์นะเจ้าคะ บ่าวตอบไม่ได้จริงๆ” คนฟังทำหน้าเบ้ทันที คล้ายว่าจะรอนานขนาดนั้นไม่ได้ “ไม่ได้ ข้ารอลิขิตสวรรค์ไม่ได้ ลิขิตสวรรค์ไม่รู้ว่าเมื่อไรถ้าถึงจะสมปรารถนา ข้าจะลิขิตเอง ครั้งเดียวต้องไม่พลาด ข้าไม่ยอมเจ็บตัวบ่อยๆ ให้แม่ทัพไร้อารมณ์นั่นมาทำข้าเจ็บซ้ำๆ หรอก” คราวนี้แม่นมเซียงเป็นลมไปอีกครั้งแล้ว ขณะที่เต้าเฟยหงุดหงิดเพราะไม่ได้คำตอบดั่งที่ใจต้องการแต่นางก็ไม่ยอมท้อถอย กลับมาสู่ปัจจุบัน สายตาของเต้าเฟยมองไปที่หน้าประตูห้องหอที่วันนี้ถูกประดับไว้ด้วยผ้าสีแดง อย่างใจจดใจจ่อ ดวงตาที่แต่งแต้มสีชาดมาอย่างสวยงามติดจะรำคาญที่ต้องเฝ้ารอคอยคนที่จะเข้ามาเปิดผ้าคลุมหน้ามานานกว่าสองชั่วยาม “ท่านมัวแต่ดื่มสุราย้อมใจแล้วคืนนี้ข้าจะได้ลูกชายไหม หรือต้องให้ข้าออกไปตาม” เต้าเฟยพลันผลุนผลันไปเปิดประตูแต่ต้องชะงักเมื่อถูกแม่นมเซียงที่เฝ้าอยู่หน้าห้องร้องห้ามนิสัยผิดหญิงสาวทั่วไปของนางแม่นมเห็นมานานแล้วแต่เวลานี้นางออกเรือนแล้วจะทำอะไรตามใจตัวเองอีกไม่ได้ “ออกมาไม่ได้นะเจ้าคะ จะเป็นการไม่ดีต่อชีวิตคู่ คุณหนูกลับไปนั่งรอท่านแม่ทัพในห้องเถอะนะเจ้าคะ” แม่นมเซียงห้ามสุดตัว เป็นตายร้ายดีอย่างไร นางก็จะไม่ยอมให้คุณหนูของนางออกมาจากห้องหอเด็ดขาด “ข้าใจร้อน รอไม่ไหว” “ร้อนยังไงก็ต้องรอเจ้าค่ะ” เสียงแม่นมเซียงดุกลับ เต้าเฟยแม้จะรู้สึกขัดใจแต่ก็ยอมเชื่อฟังกลับไปนั่งรอดีๆ ด้านในห้องหงุดหงิดเพราะอยากให้เจ้าบ่าวกลับมาเข้าหอร่วมเตียงนางอยากทำภารกิจที่ได้รับมาให้เสร็จ ส่วนที่ด้านนอกผู้เป็นเจ้าบ่าวกำลังดื่มสุรากับบรรดาขุนทหารที่ร่วมทัพจับศึกอย่างมีความสุขราวกับลืมเลือนไปว่าต้องไปเข้าหอ “ท่านแม่ทัพ ท่านดื่มมากแล้วไม่รีบเข้าหอหรือขอรับ หากท่านไม่ไปพวกเราก็ไม่กล้ากลับ” เกาลุ่ยหานทหารคนสนิทถามขึ้น สีหน้ายิ้มแย้มเมื่อครู่ของลู่เคอตัวพลันแข็งกระด้างราวกับได้ฟังคำแสลงหู แสลงใจ มือที่กำจอกเหล้าแน่น “พวกเจ้าไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น นั่งดื่มสุรากับข้าอยู่ที่นี่ ดื่มด้วยกันยันฟ้าสาง ไม่เมาไม่เลิก” “ตะ แต่ว่า” เกาลุ่ยหานจะทักท้วง แต่คนเป็นนายก็หันมามองด้วยแววตาเยียบเย็นราวกับจะทิ่มแทงหากพูดอะไรออกมาไม่ตรงใจ “ข้าแต่งงานแล้วตามพระบัญชาฝ่าบาท แต่หลังจากนี้เป็นสิทธิของข้าที่จะเข้าหอหรือไม่ก็ได้ สิทธิ์ของข้าที่จะมอบลูกให้นางหรือไม่ก็ได้” เพราะในราชโองการบอกให้เขาแต่งงานกับเต้าเฟยแห่งสกุลปัวเอ่อร์จี้จี๋ ธิดาสายรองของหัวหน้าเผ่าเคอเอ่อร์ซิน และให้กำเนิดลูกชายเพื่อให้ต้าชิงและเผ่าเคอเอ่อร์ซินผูกสัมพันธ์แน่นแฟ้นมากขึ้น ลู่เคอตัวไม่ชอบวิธีการนี้นักที่ตัวเขาต้องกลายมาเป็นสายสัมพันธ์เชื่อมสัมพันธไมตรี แต่ทำอย่างไรได้เขาไม่สามารถขัดขืนคำสั่งองค์จักรพรรดิได้ ‘ฮึ แต่งงานแล้วยังต้องทำให้นางกำเนิดลูกชายให้ได้อีกด้วย ข้าไปทำอะไรผิดร้ายแรงมาหรือไร สวรรค์ถึงต้องลงทัณฑ์ข้าเช่นนี้ ถ้าข้าไม่รักก็ไม่คิดจะมอบลูกให้’
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD