ปาลิตาหัวเราะคิกพยักหน้ารับคำแซวของเลขาฯ หนุ่ม แต่พอเปล่งเสียงออกมากลับพูดไปอีกทาง
“ลิต้าว่าคุณชนุสรยังไม่แก่สักเท่าไรหรอกค่ะ แต่คนแถวๆ บ้านของลิต้า อายุเท่าๆ คุณชนุสรได้เป็นคุณตาไปหลายรายแล้ว”
ชนุสรหัวเราะร่วน ขอยอมแพ้ให้กับคนที่ช่างพูดอย่างญาติผู้น้องของเจ้าชายตนเอง
“คุณปาลิตากลับมาจากอเมริกาเมื่อไรครับ”
“มาถึงได้สองวันแล้วค่ะ พอหายเหนื่อยจากการเดินทางก็รีบบึ่งรถมาหาพี่ริคเลย” ปาลิตาตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มหวาน อยากพบพี่ชายสุดหล่อเต็มแก่แล้ว
“คุณริคทราบไหมครับว่าคุณปาลิตากลับจากอเมริกาแล้ว”
ชนุสรชวนคุยสบายๆ พร้อมกันนั้นก็ได้ผายมือไปข้างหน้า ให้หญิงสาวเดินตรงไปยังห้องทำงานของบุรุษหนุ่มที่ได้ถามหา
ปาลิตาทำหน้าเซ็งๆ ก่อนจะเอ่ยตอบเสียงขุ่น ราวกับงอนพี่ชายสุดหล่อที่มีภารกิจรัดตัวแทบดิ้นไปไหนไม่ได้
“ฮึ! พี่ริคไม่มีทางรู้หรอกคะว่าลิต้ากลับมาเมืองไทยแล้ว ไม่รู้ว่าพี่ริคยังจำได้หรือเปล่าว่ามีน้องสาวคนนี้อยู่ในโลกด้วย”
“คุณริคไม่ลืมคุณปาลิตาหรอกครับ อันนี้ผมรู้ดี เพราะทุกเทศกาลสำคัญๆ คุณริคจะไปซื้อของขวัญให้คุณปาลิตาและเป็นคนไปส่งที่ไปรษณีย์ด้วยตนเองทุกครั้งเลยนะครับ”
ชนุสรรายงานให้สาวน้อยแสนสวยได้คลายอาการงอนพี่ชาย ซึ่งเรื่องที่เขาพูดมานั้นเป็นจริงทุกประการ หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับน้องสาวที่กำลังเดินคู่กับเขาอยู่ในขณะนี้แล้ว เฟรดร์ดิโค้จะทำทุกอย่างด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อของขวัญ รวมถึงการส่งไปให้น้องสาวที่ศึกษาอยู่ในรัฐมิชิแกน
คำพูดของชนุสรช่วยเรียกรอยยิ้มหวานได้จากเรียวปากอิ่มของปาลิตา และทำให้หญิงสาวหายงอนพี่ชายเป็นปลิดทิ้ง
“ที่พูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าคะคุณชนุสร”
“จริงแท้แน่นอน ไม่มีโป้ปดมดเท็จครับ” ชนุสรรับคำ พร้อมกับเอ่ยถามต่อ “คุณปาลิตายังไม่ได้โทรบอกคุณริคใช่ไหมครับว่าคุณปาลิตามาหาถึงที่นี่แล้ว”
ปาลิตาส่ายหน้าแรงๆ จนเส้นผมนุ่มสลวยทิ้งตัวตามแรงสะบัด “ลิต้าอยากเซอร์ไพรส์พี่ริคนะค่ะ ตอนนี้พี่ริคอยู่ในห้องใช่ไหมคะ”
“ครับ เชิญคุณปาลิตาเข้าไปได้เลยครับ หากต้องการอะไรก็เรียกผมมารับใช้ได้ทุกเมื่อนะครับ”
ชนุสรพยักหน้ารับ เมื่อเดินมาถึงห้องทำงานของเจ้านายแล้ว
“ขอบคุณมากค่ะคุณชนุสร เดี๋ยวลิต้าเข้าไปจ๊ะเอ๋พี่ริคเองค่ะ”
ปาลิตาบอกยิ้มๆ รอจนกระทั่งเลขาฯ หนุ่มโค้งศีรษะให้ แล้วเดินจากไปเพื่อทำงานตามหน้าที่ของตนเองต่อ จึงได้ยกมือเคาะประตูบานใหญ่อย่างหนักมือ
ก๊อก...ก๊อก...
หญิงสาวเคาะประตูห้องอย่างไม่เกรงใจเจ้าของห้องว่าจะมีงานยุ่งหรือมีแขกอยู่หรือเปล่า และไม่ต้องรอให้ได้ยินเสียงอนุญาต เธอก็ได้เปิดประตูห้องออกกว้าง พร้อมกับลอบอมยิ้มจนแก้มป่อง เมื่อได้ยินเสียงทักห้วนๆ อย่างเข้าใจผิดของผู้ที่เป็นพี่ชาย Waiting In The )
“ทำไมมาช้าจังรีน่า”
เฟรดร์ดิโค้ เลมาร์โค้ หรือ พี่ริคของปาลิตา บุรุษหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาเลียน เจ้าของโรงแรม เดอะ คิง ออฟ คอรันดัม ซึ่งเป็นธุรกิจหนึ่งในเครือ เดอะ คิง ออฟ คอรันดัม กรุ๊ป ได้เปล่งเสียงถามโดยไม่ได้เงยหน้าจากงานที่ทำอยู่ เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูและเสียงฝีเท้าเดินเข้ามาในห้อง
“ไม่ใช่รีน่าสุดสวย แต่เป็นปาลิตาของพี่ชายต่างหากล่ะ”
ปาลิตาเอ่ยตอบกลั้วหัวเราะ ก่อนจะเดินเป็นวิ่งเข้าไปสวมกอดร่างสูงใหญ่ของผู้ที่มีศักดิ์เป็นพี่ชายไว้แนบแน่น
เฟรดร์ดิโค้รีบลุกขึ้นรับร่างบางระหงที่วิ่งเข้ามากอดตัวเองไว้แน่น ก่อนจะดันตัวน้องสาวออกห่างเล็กน้อยแล้วใช้สายตาคมกริบพิจารณาหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“ลิต้าหรือนี่ พี่จำเกือบไม่ได้เลย”
“ลิต้าสวยผิดหูผิดตาจนพี่ริคคาดไม่ถึงเลยใช่ไหม”
ปาลิตาช้อนดวงตาดำขลับภายใต้ขนตายาวงอนมองชายหนุ่มหล่อเหลาที่เธอรักและนับถือไม่ต่างจากพี่ชายด้วยสีหน้าที่ประดับไปด้วยรอยยิ้ม
“พี่นึกไม่ถึงว่าลูกเป็ดขี้เหร่จะเติบโตเป็นนางหงส์งดงามถึงเพียงนี้”
เฟรดร์ดิโค้เอ่ยชมยิ้มๆ คาดไม่ถึงจริงๆ ว่าน้องสาวที่เขาเคยเห็นเมื่อ 7-8 ปีก่อน ซึ่งแข้งขายาวเก้งก้างกระโดกกระเดกไม่แพ้ผู้ชาย พอโตขึ้นจะงดงามบานสะพรั่งไม่ต่างจากดอกไม้แรกแย้ม
ปาลิตาหัวเราะคิกชอบใจ ก่อนจะเอ่ยแซวพี่ชายบ้าง “ถึงจะเป็นนางหงส์ยังไงก็คงสวยสู้ผู้หญิงที่ชื่อรีน่าไม่ได้”
“แก่แดดจริงนะเรา” เฟรดร์ดิโค้เคาะหัวน้องสาวเบาๆ ด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“แล้วเรารู้ได้ไงว่ารีน่าสวยกว่า”
“แหม! ระดับเฟรดร์ดิโค้ เลมาร์โค้ นักธุรกิจหนุ่มผู้เก่งกาจอย่างหาตัวจับยาก คงไม่มองผู้หญิงที่ขี้เหร่หรอกจริงไหมคะพี่ริค ว่าแต่ว่าคนนี้เป็นคู่เดตคนใหม่ของพี่ริคหรือคะ”
ปาลิตายักคิ้วใส่ขณะเอ่ยแซวไม่ได้หยุด และในตอนท้ายก็ไม่ทิ้งนิสัยเดิมของตัวเองที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องของพี่ชายสุดหล่อไปเสียทุกอย่าง
เฟรดร์ดิโค้ยิ้มกว้างให้คนขี้สงสัยช่างซักช่างถาม ก่อนจะเอ่ยตอบให้น้องสาวได้เบิกตาโตเท่าไข่ห่าน
“คนนี้ไม่ใช่คู่เดต แต่จะเป็นคู่ชีวิตของพี่”
“ฮ้า! โอ้แม่เจ้า!”
ปาลิตาอุทานเสียงหลงอย่างคาดไม่ถึง จากนั้นก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ แล้วเอ่ยถามพี่ชายซึ่งกำลังยิ้มกริ่มอย่างคนที่กำลังตกอยู่ในห้วงแห่งความรัก
“ลิต้าจะมีพี่สะใภ้แล้วใช่ไหมคะ”
“ฮื่อ...พี่กำลังเคลียร์งาน จัดตารางช่วงเดือนสองเดือนข้างหน้าให้ว่าง แล้วจะให้คุณแม่กับคุณพ่อของลิต้าไปสู่ขอรีน่าให้ถูกต้องตามประเพณี”
“อยากเห็นหน้าพี่สะใภ้จังเลย พี่ริคพาไปหาหน่อยสิคะ”
ปาลิตาอ้อนวอนเสียงกระตือรือร้น ตื่นเต้นจนแทบระงับใจไว้ไม่อยู่ เพราะอยากยลโฉมว่าที่พี่สะใภ้ว่าจะงดงามและเป็นคนเช่นไร จึงสามารถพิชิตใจของเจ้าแห่งเดอะ คิง ออฟ คอรันดัม กรุ๊ปได้
“ไม่ต้องไปหรอก เดี๋ยวรีน่าก็คงมาแล้วมั้ง พี่สั่งเลขาฯ ไปสักพักใหญ่แล้วให้รีน่ามาพบพี่ที่ห้องทำงาน”
“ถ้างั้นลิตารอที่นี่ก็ได้ เดี๋ยวระหว่างนี้จะได้สัมภาษณ์พี่ริคเรื่องที่พบรักกับพี่รีน่าด้วย”
ปาลิตายิ้มแป้น พอจะอ้าปากยิงคำถามที่ตนเองคิดไว้เป็นสิบๆ ก็ถูกเฟรดร์ดิโค้ยกมือขึ้นห้ามทัพอย่างรู้ทัน
“ไม่ต้องถามอะไรทั้งนั้นแหละลิต้า ว่าแต่ลิต้าเถอะมาถึงเมืองไทยเมื่อไร แล้วทำไมไม่โทรมาบอกพี่ให้ไปรับที่สนามบิน”
ปาลิตาแกล้งตีหน้าม่อยพร้อมกับถอนหายใจยาว
“เฮ้อ...ถ้ารอให้คุณเฟรดร์ดิโค้ เลมาร์โค้ นักธุรกิจหนุ่มที่มีงานมัดรอบตัว สงสัยลิต้าคงได้นอนรอที่สนามบินเป็นแน่”
เฟรดร์ดิโค้หัวเราะเบาๆ กับคำแซวของน้องสาว ก่อนจะเอ่ยแก้ตัวทั้งๆ ที่รู้ว่าสิ่งที่น้องสาวพูดมานั้นถูกต้องทุกอย่าง
“งานพี่ไม่ได้รัดตัวขนาดนั้นหรอก แล้วนี่ลิต้าเรียนจบแล้วใช่ไหม”
“จบแล้วค่ะ ด้านบริหารธุรกิจ ได้เกียรตินิยมด้วยนะคะ พี่ริคสนใจจะให้รางวัลน้องสาวเป็นรถยนต์หรูๆ หรือเครื่องเพชรชุดใหญ่สักชุดสองชุดไหมคะ”
ที่เอ่ยขอเพราะอยากแซวพี่ชายเล่น หาใช่อยากได้ในสิ่งที่เอ่ยไป เพราะสิ่งเหล่านี้เธอได้รับมามากพอแล้ว ทั้งจากบิดาและมารดา รวมทั้งเฟรดร์ดิโค้ที่คอยส่งของขวัญสวยๆ ราคาแพงให้เธอตามเทศกาลสำคัญๆ เสมอ
“อยากได้อะไรล่ะยายตัวแสบ รถ เครื่องเพชร หรือว่าอยากได้อย่างอื่น” เฟรดร์ดิโค้ถามยิ้มๆ รู้ว่าปาลิตาแกล้งขอ ไม่ได้อยากได้จริงๆ