บทที่ 2 คนสวยไม่เข้าใจ...

1680 Words
บทที่ 2 คนสวยไม่เข้าใจ... อริสตื่นขึ้นอีกครั้ง... พร้อมความทรงจำที่หลากหลายมากมาในหัว หวังเลี่ยงเฟิ่ง คุณหนูรองตระกูลหวังบิดาเป็นแม่ทัพใหญ่ มีมารดาเป็นฮูหยินเอกของจวนเสียไปตอนที่คุณหนูรองคลอด มีพี่สาวนามหวังอ้ายเซียงบุตรสาวอนุในจวนตระกูลหวัง บิดามีเพียงบุตรสาวสองคนเท่านั้นทั้งที่เป็นแม่ทัพใหญ่ไร้ซึ่งคนสืบทอดต่อ เมื่อร่างบางทบทวนทุกอย่างเนิ่นนาน... นี่นางมิได้ฝัน... การพบเจอชายแปลกหน้าผู้นั้นเมื่อครู่ บอกว่านางมิใช่คนในยุค 2022แต่เป็นคนในยุคนี้เช่นนั้นหรือ?? ... แล้วเหตุใดชื่อพี่สาวคนโตถึงได้เหมือนกับชื่อนางเอกซี่รี่ย์ดวงใจข้ามภพกันนะ หวังเลี่ยงเฟิ่ง...เลี่ยงเฟิ่ง...ใช่น้องสาวอัปลักษณ์ของนางเอกหรือไม่ แย่แล้ว... หวนคืนชะตาเดิมงั้นหรือ... ต้องพิสูจน์ "อิงอิง ตื่นๆ ตื่นเร็วเข้า"อริสเขย่าสาวใช้คนสนิทนามอิงอิงที่นั่งฟุบหลับอยู่ข้างเตียงนอน เพื่อเฝ้าผู้เป็นนาย "คุณหนูตื่นแล้ว เจ็บตรงไหนหรือไม่เจ้าค่ะ"สาวใช้คนสนิทเอ่ยอย่างดีใจพลางเอ่ยถามอาการบาดเจ้บขงผู้เป็นนาย "อิงอิง เจ้าตอบคำถามของข้าก่อน ตอนนี้ข้าอายุเท่าไหร่" "คุณหนูตอนนี้15หนาวพึ่งผ่านพ้นวันปักปิ่นมาแค่ สามวันเจ้าค่ะ"สาวใช้คนสนิทเอ่ยอย่างแผ่วเบาลุกลี้ลุกรนมีพิรุธไม่น้อย "เกิดเรื่องกับข้าในปักปิ่นใช่หรือไม่"อริสจำได้คร่าวๆเพราะซี่รี่ย์ดวงใจข้ามภพเองก็มีฉากนี้เช่นกัน เพียงแต่นางมิได้ข้าร่วมแสดงด้วยเพียงมองอยู่ไกลๆเท่านั้น "เจ้าค่ะ ก่อนที่คุณหนูจะเข้าพิธีปักปิ่นคุณหนูปืนต้นไม้เพื่อแอบดูรุ่ยอ๋องที่เสด็จมาในงาน คุณหนูเกิดพลัดตกลงมาไม่ได้สติมาสามวันแล้วเจ้าค่ะ"สาวใช้คนสนิทเอ่ยเล่ารายละเอียดด้วยเสียงแผ่วเบา "เช่นนั้นหรือ..."เมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมด นี่มันคือเหตุการณ์ในซี่รี่ย์ที่นางร่วมเล่นอย่างแน่นอน ฉากนี้เป็นฉากที่นางเอกกลั่นแกล้งเอาคืนน้องสาวอัปลักษณ์ที่แอบหลงรักพระรองหรือคือรุ่ยอ๋องนั่นเอง เรียกได้ว่าฉากนี้อับอายขายหน้าไปทั่วเมืองหลวงเลยทีเดียว "นำคันฉ่องมาให้ข้า...จุดเทียนเพิ่มความสว่างให้ด้วย"ร่างบางเอ่ยสั่งทันที เรื่องอับอายมิอาจแก้ไขได้โดยง่าย แต่เหนือสิ่งอื่นใดร่างนี้อัปลักษณ์จริงหรือ...เป็นคำถามน่าชวนอึดอัดไม่น้อย พลางก้มมองมือและแขนขาที่อวบอั๋นเป็นชั้นๆ ชัดเจนพลางถอนหายใจ ทั้งอ้วนทั้งลงพุงเช่นนี้ชายใดจะมองเล่า... "นี่เจ้าค่ะคุณหนู..." "What??? ...."ร่างบางอุทานเสียงดังเป็นภาษาที่เติบโตมา ใบหน้าอ้วนท้วนจนตายี๋ ผิวหน้ามันเยิ้มเต็มเต็มไปด้วยสิวทั้งใหม่และเก่าที่ต้องรักษา คางเต็มไปด้วยชั้นชัดเจน ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ร้อยไหมต้องเข้าแล้ว... เอ๋...นี่มันยุคโบราณจะมีได้อย่างไร ใบหน้าของอริสค่อยๆๆ สลดอีกครั้ง... "คุณหนูเจ้าค่ะ..."สาวใช้คนสนิทมองผู้เป็นนายนั้นมองดูตนเองในคันฉ่องบัดเดี๋ยวขมวดคิ้ว บัดเดี๋ยวสลด "นี่เวลาใดแล้ว..." "เวลาหรือเจ้าค่ะ..."สาวใช้เอ่ยทวนคำเจ้านายอีกครั้ง ทางด้านอริสเองภายในหัวรีบหาคำที่ใช้แทนเวลาอย่างรวดเร็ว "นี่ยามใดแล้ว..." "อ่อ ...ยามเหม่าแล้วเจ้าค่ะ อีกไม่นานก็เช้าแล้วคุณหนูจะนอนต่อไหมเจ้าค่ะ" "เช่นนั้นหรือ... แล้วสามวันมานี้มีใครมาเยี่ยมข้าบ้าง"อริสเริ่มเอ่ยถามความเป็นไปทั้งหมดก่อน นางต้องตั้งรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียก่อน ไหนชายแปลกหน้าผู้นั้นจะให้พร ได้แต่งงานกับคู่แท้ ตัวนางกลับมาชะตากรรมเช่นนี้ ยังคงพอมีเวลาสินะ... "นายท่านมาถามอาการทุกเช้าเย็นและคุณหนูใหญ่มาเยี่ยมในวันแรกเจ้าค่ะ"เมื่อได้ฟังรายละเอียดทั้งหมด เป็นบิดาที่ห่วงใยสินะ... "อืม...ออกไปก่อน " "เจ้าค่ะ..." เมื่อสาวใช้คนสนิทจากไปแล้ว อริสลงจากเตียงด้วยท่าทีอุ้ยอ้ายอย่างเห็นได้ชัด เพียงแค่ลงเตียงยังเหนื่อยถึงเพียงนี้... ถึงกับมีแรงปืนต้นไม้ดูผู้ชาย นี่ไม่ตกต้นไม้คอหักตายก็ดีเท่าไหร่แล้ว... คนสวยไม่เข้าใจ... _______________________________ บทที่ 4 ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง... 1..2..3...10 1..2..3...10 อลิสเริ่มนับจัดท่าทางเริ่มต้นโยคะ ยืนตรงเท้าชิด ให้ส้นและฝ่าเท้าตรงกัน เหยียดขาให้ตึงโดยลงน้ำหนักทั้งสองข้างให้เท่ากัน เกร็งกล้ามเนื้อท้อง ยืดอก หลัง คอ ให้ตรง ตามองไปด้านหน้า ผ่อนคลายไหล่ หายใจเข้าออกลึกๆ หันฝ่ามือเข้าหากันแล้วชูขึ้นด้านบน เหยียดให้สุด แล้วเริ่มนับ 1ถึง 10 อีกครั้ง วนได้อยู่สองสามท่าร่างกายที่อ้วนท้วนก็มีเหงื่อไหลโทรมกาย พลางนึกในใจคงต้องพอแค่นี้ก่อน "อิงอิงเข้ามา เตรียมน้ำอุ่นให้อาบด้วย" อริสเอ่ยเสียงดังสาวใช้ที่อยู่นอกห้องรีบตอบรับทันที "เจ้าค่ะ" ไม่ถึงครึ่งก้านธูปภายในห้องอาบน้ำที่มีอ่างขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยไม้และฉากกั้นอันวิจิตรบรรจง ควันสีขาวลอยฟุ้งไปทั่วบริเวณ น้ำอุ่นถูกเตรียมพร้อมแล้ว "เชิญคุณหนูเจ้าค่ะ"อิงอิงเอ่ยอย่างนอบน้อมมีเหล่าสาวใช้อีกสองนางช่วยกันถอดอาภรณ์ออก "คุณหนูไม่สบายหรืเปล่าเจ้าค่ะ..."สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามผู้เป็นนายด้วยเห็นเหงื่อเต็มกาย "เพียงออกกำลังกายเท่านั้น"อริสไม่ได้ตอบคำถามมากนัก ร่างอวบอ้วนก้าวเท้านั่งลงในอ่างน้ำช้าๆ น้ำในอ่างกระเพื่อมล้นอ่างกว่าครึ่ง อริสถอนหายใจอีกครั้ง น้ำหนักคงเป้นเรื่องที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพียงได้แช่น้ำอุ่นไม่นาน จิตใจที่สับสนเริ่มสงบอีกครั้ง โดยมีสาวอิงอิงและสาวใช้ทั้งสองช่วยกันขัดเนื้อตัวให้สะอาด "อิงอิงออกไปเตรียมอาภรณ์ให้ข้าก่อน.." "เจ้าค่ะ..." ไม่นานร่างอวบอ้วนก็ลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำที่ชื่นชอบ เพียงเดินเข้าห้องแต่งตัวก็พบอาภรณ์สีสันสดขัดกันจนแสบตา นี่อาภรณ์พวกนี้จะแต่งนางเป็นนกแก้วหรืออย่างไร... "เอาสีเหมือนกันมีหรือไม่"อริสเอ่ยอย่างใจ ชายเสื้อสีเขียวตัดกับชั้นในสีแดงผ้าขาดเอวสีเหลือง นี่แฟชั่นยุคนี้ขัดตายิ่ง "ทุกที คุณหนูก็แต่งเช่นนี้" "เลือกที่สีเดียวกันเอาสีชมพูเหมยกุ้ยทั้งชุด" "เจ้าค่ะ" เพียงชั่วก้านธูป อาภรณ์ปักลวดลายเล็กๆ สีชมพูเหมยกุ้ยถูกสวมทับโดยสาวใช้ทั้งสาม อริสนั่งลงบนโต๊ะเครื่องประทินโฉมพบเครื่องประดับ ปิ่นปักผมทุกสิ่งล้วนทำจากทองเหลืองอร่ามแทบทะลุม่านตา "เครื่องประดับมีเพียงเท่านี้หรือ..." "แต่ก่อนคุณหนูชื่นชอบเครื่องประดับที่ทำจากทองคำเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ มีเครื่องประดับสินเดิมของนายหญิงอยู่เจ้าค่ะ" "ของท่านแม่หรือ...นำออกมาให้ข้าดู"ร่างอวบเอ่ยสั่งทันที แม้ใบหน้ายังคงดูไม่ได้แต่การวางตัวและสวมเครื่องประดับที่เหมาะสมล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่สมควรทำ อิงอิงรีบลากหีบใต้เตียงทั้งสามหีบออกจากเตียงของผู้เป็นนายอย่างทุลักทุเล อริสมองตามสาวใช้ มีมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ... มืออวบเปิดหีบออกพบเครื่องกล่องเรื่องประดับงดงามจัดเป็นเซตสัดส่วนตามสีอัญมณีน้ำเอกล้ำค่าควรเมือง เครื่องประดับเหล่านี้ล้วนใส่ในพิธีการหรืองานเลี้ยงต่างๆคงไม่เหมาะใสอยู่ในจวน ดวงตางามมองหากล่องเล็กๆ ที่มีเพียงปิ่นปักผมและตุ้มหูเท่านั้นเรียบๆเหมาะสมใส่ในจวนเท่านั้น พอเปิดอีกหีบครานี้พบปิ่นปักผมงดงามพร้อมตุ้มหูเล็กๆตกแตงอัญมณีสีชมพูอ่อน "ปักปิ่นสองชิ้นนี้ก็พอ ทำผมให้ข้าด้วย ส่วนเครื่องประดับทองพวกนี้เอาไปขายเสีย" "เจ้าค่ะ" อริสมองมือสาวใช้ที่หวีและทำผมให้นางอย่างคล่องแคล้ว ผมยาวถูกมัดขึ้นด้วยผ้าชิ้นเล็ก ด้านหน้าถูกทักเปียตกแต่งเกล้าขึ้นยึดด้วยปิ่นด้านหลังปล่อยทิ้งสลวยตามแบบคุณหนูในห้องหอที่ยังไม่ได้แต่งงาน "คุณหนูจะแต่งหน้าเช่นทุกวันหรือไม่เจ้าค่ะ"สาวใช้คนสนิทเอ่ยถามด้วยวันนี้ ท่าทีของคุณหนูเปลี่ยนปจากแต่ก่อนมากนัก "แต่งหน้าหรือ...ไม้ต้องหรอกวันนี้ข้าคงไม่ออกไปไหน "นางอยากพักหน้าให้หายดีเสียก่อนคงต้องหาสมุนไพรมาบำรุงใบหน้าเพิ่มเติมก่อน แต่ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ค่อยทบทวนทีหลังแล้วกัน... "เฟิ่งเอ๋อร์ ดีเหลือเกินดีเหลือเกินที่เจ้าฟื้นแล้ว"เสียงบุรุษสูงวัยเดินเข้ามาในห้อง ตามความทรงจำบุรุาผู้นี้คือบิดาของนาง "เฟิ่งเอ๋อร์คาราวะท่านพ่อเจ้าค่ะ"ร่างอวบลุกขึ้นทำความเคารพผู้เป็นบิดาตามพิธีการเหมาะสม "อย่าเพิ่งลุก พ่อเพียงแวะมาเยี่ยมเท่านั้นเห็นเจ้าหายดีพ่อก็เบาใจ เช้านี้ต้องรีบไปท้องพระโรงเสียก่อน กลับมาค่อยคุยกันหากมีสิ่งใดที่เจ้าต้องการบอกสาวใช้ของเจ้าให้พ่อบ้านจัดการได้เลยนะ พ่ออนุญาติ " "เจ้าค่ะ"ไม่ทันได้พูดคุยมากนัก ผู้เป็นบิดาก็เร่งร้อนจากไป คงมีต้องมีเรื่องด่วนเป็นแน่... "คุณหนูหิวหรือยังเจ้าค่ะ ตั้งโต๊ะตอนนี้ดีไหมเจ้าค่ะ" "อืม..."อริสพยักหน้าตอบรับช่วงเช้าเล่นโยคะเบริ์นไขมันไปไม่น้อย ต้องเติมพลังงงานให้มากเสียหน่อย พลางใบหน้าตนเองในคันฉ่องสีทอง เฮ้อ...ต้องปรับปรุงเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเชียว ร่างอวบถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า... ไม่นานสาวใช้ก็เข้ามาประคองออกห้องนอน "สำรับอาหารเตรียมเรียบร้อย เชิญคุณหนูเจ้าค่ะ" เมื่อเดินออกมาห้องอาหาร ที่เต็มไปด้วยอาหารหลากหลายชนิดเรียกได้ว่ายกภัตาคารห้าดาวมาไว้บนโต๊ะๆเดียวก็ว่าได้ "What!!!..." ____________________________________
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD